รีวิวถ่านชาร์จ Eneloop

กลับมาพบกับ Thanop.com รีวิวอีกเช่นเคย หากท่านผู้อ่านสังเกตดีๆ ว่าช่วงนี้มากันถี่ยิบเลยทีเดียวที่เขียนบ่อยเพราะว่างนั่นเอง โดยสำหรับบทความรีวิวฉบับนี้ ขอมาให้ความรู้กันในด้าน ไฟฟ้าพลังงาน กันดูบ้าง ซึ่งสิ่งที่ผมหยิบยกมานำเสนอเขียนรีวิว ในฉบับนี้คือ มันเป็นสิ่งของที่เรียกได้ว่าอยู่คู่กับเรามาช้านานแล้ว ก่อนที่ แบตสำรอง (Power Bank) จะเป็นที่นิยมเสียอีกนั่นคือการรีวิว ถ่านชาร์จ (Rechargeable Battery) นั่นเอง สาเหต ที่เอาถ่านชาร์จมารีวิว ก็เพราะว่าเห็นคนเอา แบตเตอรี่สำรอง มารีวิวกันเยอะแล้ว เลยขอเอาถ่านชาร์จ ที่ยังถือเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชนิดหนึ่งที่ยังคงมีความสำคัญอยู่ ในตั้งแต่อดีต จนมาถึงปัจจุบันอยู่ โดยสินค้าที่หยิบยกมารีวิวในครั้งนี้คือ ถ่านชาร์จ Eneloop ภาษาไทยอ่านว่า “เอเนลูป”

ความนิยมของ ถ่านไฟฉาย ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

“ถ่าน” หรือที่คนไทยหลายคนเรียกติดปากว่า “ถ่านไฟฉาย” สาเหตที่เรียกว่า ถ่านไฟฉาย เพราะบางทีกลัวจะไปสับสนกับ ถ่านที่เป็นแท่งๆ เอาไว้ใช้หุงต้ม และอีกสาเหตนึงของการใช้ชื่อนี้คือ คนสมัยก่อนนั้นนิยมซื้อถ่าน มาใส่ ไฟฉาย (Flashlight) เป็นหลักนั่นเอง

เทคโนโลยีถ่านหรือ แบตเตอรี่แห้ง นั้นเป็นเทคโนโลยีนี้มีมานานมากๆ แล้ว และยังคงเป็นที่นิยมอยู่อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สาเหตที่ถ่าน ยังคงเป็นที่นิยมในปัจจุบันอยู่ก็เพราะว่ายังมีอุปกรณ์เครื่องไฟฟ้าหลายชนิด ที่ยังคงจำเป็นจะต้องใช้ถ่านอยู่ดี สังเกตง่ายๆ ได้จากรอบตัวเราอย่าง รีโมทคอนโทรล ทั้งรีโมทโทรทัศน์ รีโมทของกล่อง Set-Top Box รีโมทเครื่องเล่น DVD เครื่องเล่นบลูเรย์ รีโมทเครื่องปรับอากาศ รีโมทบังคับการทำงานของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เป็นต้น

ถ่านชาร์จ สิ่งเดียวที่คุ้มค่าที่สุด

หากพูดถึง “ถ่านชาร์จ” หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า “Rechargeable Battery” นั้นก็เป็นอุปกรณ์ที่เติบโตมาช้านาน ควบคู่ไปกับ ถ่านไฟฉาย แบบปกตินี่แหละ โดยส่วนมากก็หาซื้อได้อย่างสะดวกสบาย ตามห้างสรรพสินค้าทั่วๆ ไปแต่หลายคนไม่ซื้อด้วยเหตุผลหลักๆ ที่ว่า “แพง” แต่หารู้ไม่ว่า ถึงแม้ว่าราคาตอนแรกมันจะแพงกว่า แต่หากเทียบความคุ้มค่าจริงๆ แล้วจะทราบเลยว่ามันคุ้มค่ากว่ามากจริงๆ เพราะคุณสามารถนำถ่านชาร์จ กลับมาชาร์จไฟได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ได้เป็นพันๆ ครั้ง

ถ่านชาร์จ Eneloop ผสานพลัง ถ่านอัลคาไลน์ และ ถ่านชาร์จ ไว้ด้วยกัน

รีวิวนี้ผมได้มีโอกาสนำเอา ถ่านชาร์จ Eneloop มารีวิว ก่อนอื่นขอแนะนำประวัติของมันกันสักนิดนึงก่อน

ถ่านชาร์จ Eneloop เป็น ถ่านชาร์จคุณภาพสูง จากแดนอาทิตย์อุทัย ประเทศญี่ปุ่น ที่ถูกพัฒนาและจัดจำหน่ายมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 (ค.ศ. 2005) แล้ว เดิมทีมัน ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แบรนด์จาก บริษัทซันโย (Sanyo) (ประเทศญี่ปุ่น) แต่ในปัจจุบันนี้ ถ่านชาร์จ Eneloop ได้มาเป็นแบรนด์ของพานาโซนิค (Panasonic) ที่ซื้อธุรกิจถ่านชาร์จ Eneloop นี้มาตั้งแต่เดือน เมษายน ปี พ.ศ. 2556 (ค.ศ. 2013) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยถ่านชาร์จ Eneloop นั้นเป็นถ่านชาร์จ ที่ได้การผสมผสานเทคโนโลยี แบตเตอรี่แห้ง และ ความคุ้มค่าของแบตเตอรี่โลหะนิกเกิล ที่เรียกว่า ถ่านอัลคาไลน์ (Alkalines Battery) (คงจะเคยได้ยินชื่อนี้กันมาบ้าง) และ ถ่านชาร์จ (Rechargeable Battery) ซึ่งถ่านทั้งสองรูปแบบนี้ มีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างกันดังต่อไปนี้

ถ่านอัลคาไลน์ (Alkalines Battery)

1. สามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องชาร์จ (Use Immediately)
2. มีประสิทธิภาพสูง (High Performance)
3. มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน (Long Storage Life)

ถ่านชาร์จ (Rechargeable Battery)

1. สามารถนำกลับมาใช้ได้ (Reusable)
2. สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้เมื่อเสื่อมคุณภาพ (Recyclable)
3. มีความจุพลังงานไฟฟ้าสูง (High Capacity)

แต่ทั้งหมดทั้งมวล ถ่านชาร์จ Eneloop นั้นได้เอาข้อดี จุดเด่นของถ่านทั้ง 2 ประเภทนี้เข้าไว้ด้วยกัน

ถ่านชาร์จ Eneloop มีสินค้าแบบใดบ้าง ?

ก่อนอื่นขอเกริ่นแนะนำสักนิดนึงก่อนว่า ถ่านชาร์จ โดยทั่วๆ ไปนั้น จะมีส่วนประกอบหลักๆ ด้วยกัน 2 ส่วนหลักๆ คือ

1. อุปกรณ์ชาร์จไฟ (Charger) : เป็นอุปกรณ์ที่จะนำพาเอาพลังงานจากไฟบ้าน เข้าไปเก็บเอาไว้ในตัวถ่านชาร์จ โดยทาง Eneloop เขามีรุ่นของอุปกรณ์ชาร์จไฟ มาให้เลือกใช้งานกันทั้งหมด 3 แบบ ด้วยกันได้แก่
   1. Basic Charger (BQ-CC18)** : ที่ชาร์จรุ่นเบสิคกินเวลาชาร์จไฟลงถ่านชาร์จ นานหน่อย ประมาณ 5.0-12.0 ชั่วโมง* แต่ราคาก็ถูกสุดเช่นกัน เหมาะสำหรับผู้ที่สำรองถ่านเอาไว้ใช้ในบางโอกาส เช่น สำรองถ่านเพื่อใช้ไฟฉาย เวลาบ้านไฟดับ เป็นต้น แนะนำรุ่นนี้ เพราะประหยัด

      

   2. Advanced Charger (BQ-CC17)** : ที่ชาร์จรุ่นแอดวานซ์ กินเวลาชาร์จเร็วขึ้นกว่ารุ่นเบสิค ประมาณ 3.5 – 9.0 ชั่วโมง* ราคาก็แพงสูงขึ้นมาหน่อย  สำหรับคนที่มีความต้องการใช้ไฟจากถ่านชาร์จบ่อยๆ

      

   3. Smart & Quick Charger (BQ-CC16)** : ชาร์จไฟเร็วมากๆ เพียงแค่ 1.0-5.0 ชั่วโมง* ก็ให้ถ่านชาร์จของคุณเต็มง่ายๆ พร้อมใช้งานต่อได้ทันที แต่ละราคาก็สูงขึ้นตามลำดับไปด้วย เหมาะสำหรับใช้แบบโหดๆ ใช้หนักๆ ใช้บ่อย พวกช่างภาพ ที่จะต้องเอาถ่านชาร์จไปใส่ในไฟแฟลช แล้วถ่ายรูปในงานอีเว้นท์ ทันที

      

2. ถ่านชาร์จ (Rechargeable Battery) : ถ่านชาร์จ รูปร่างหน้าตาก็เหมือนกับถ่านไฟฉาย ทั่วๆ ไป ทั้งขนาด รูปทรง แต่ว่า ถ่านชาร์จของทาง Eneloop นั้นมีรุ่น ให้เลือกใช้งานอีก 3 รุ่นย่อยๆ ด้วยกัน ดังต่อไปนี้
   1. Eneloop (ความจุปานกลาง)*** : ตัวถ่านชาร์จสีขาว เหมาะสำหรับใช้กับพวกกล้องถ่ายรูปดิจิตอล เครื่องโกหนวด เครื่องเล่นเกมส์ ไฟฉาย เป็นต้น
   2. Eneloop Pro (ความจุสูงสุด)*** : ตัวถ่านชาร์จสีดำ เหมาะสำหรับ ใช้กับแฟลชของกล้องถ่ายรูปดิจิตอล แบบ DSLR หรือแม้แต่ รถบังคับ ถ่านของปากกาเลเซอร์ คีย์บอร์ดไร้สาย เม้าส์ไร้สาย เป็นต้น
   3. Eneloop Lite (ความจุต่ำ)*** : ตัวถ่านชาร์จสีฟ้าเข้ม เหมาะสำหรับใช้กับ ไฟฉาย ของเล่นเด็กทั่วๆ ไป

* ระยะเวลาการชาร์จไฟจาก อุปกรณ์ชาร์จไฟ ลง ถ่านชาร์จ ของอุปกรณ์ชาร์จไฟในแต่ละรุ่น ยังมีปัจจัยขึ้นอยู่กับรุ่นของถ่านชาร์จ อีกด้วยเช่นกัน

** สามารถใช้ชาร์จไฟลงถ่านชาร์จได้ ทั้งแบบ AA (เล็ก) และ AAA (เล็กสุด)

*** มีขนาดของถ่านชาร์จ ให้เลือกทั้งแบบ AA (เล็ก) และ AAA (เล็กสุด)

คุณสมบัติเด่นของ ถ่านชาร์จ Eneloop

จากที่กล่าวมาด้านบน เราจะเห็นว่า ถ่านชาร์จ Eneloop นั้นจะมีรุ่นต่างๆ โมเดลต่างๆ ให้เลือกมากมายให้เหมาะสมตามวัตถุประสงค์การใช้งาน และ งบประมาณที่คุณมี ด้วย โดยผมจะขอสรุป ความสามารถเด่นๆ ของโปรแกรมนี้ออกมาเป็นข้อๆ เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ ดังต่อไปนี้

1. ชาร์จซ้ำไปซ้ำมาได้ : แน่นอนอันนี้ต้องเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของ ถ่านชาร์จ ทั่วๆ ไปอยู่แล้ว แต่จะได้บ่อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อในส่วนของ ถ่านชาร์จ Eneloop นั้น สามารถ ชาร์จซ้ำไปซ้ำมา ได้สูงสุดมากถึง 2,100 ครั้ง สำหรับ ถ่านชาร์จ ขนาด AA และ AAA โดยอ้างอิงมาจาก AAA โดยอิงจาก IEC61951-2 (7.5.1.3) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและลักษณะการใช้งานของถ่านชาร์จด้วยเช่นกันถ้าหากเทียบกับถ่านแบบแบตเตอรี่แห้ง (ถ่านไฟฉาย) ทั่วๆ ไปแล้ว ใช้ครั้งเดียว เมื่อพลังงานแบตเตอรี่หมด ก็ต้องทิ้งลงถังขยะทันที ไม่สามารถนำกลับมาชาร์จซ้ำได้อีกเลย

   

2. อัตราคายประจุต่ำ : ในระยะยาว ถ่านชาร์จ Eneloop มีการคายประจุช้ามาก เมื่อเวลาผ่านไปหลายปีเมื่อไม่ได้ชาร์จ ประสิทธิภาพหรือไฟฟ้าคงเหลือลดลงนิดเดียว

   

   จากรูปด้านบนเป็นการทดสอบในอุณหภูมิสภาพแวดล้อมที่ 20 องศาเซลเซียส จะสังเกตเห็นว่า เมื่อเราปล่อยถ่านชาร์จ Eneloop ทิ้งเอาไว้ 5 ปี โดยไม่ได้ใช้งานหรือทำอะไรกับมันเลย จะมีอัตราการคายประจุ (Discharge) เพียงแค่ 30% เท่านั้น (เหลือพลังงานให้ใช้อีก 70%) ในขณะเดียวกัน หากเป็นแบตเตอรี่แห้ง (ถ่านไฟฉาย) ทั่วๆ ไป หากซื้อมากองไว้ ทิ้งไว้เฉยๆ เพียงแค่ 2 ปี พลังงานด้านในจะเหลือ 0% เท่ากับว่า ไม่สามารถใช้ได้แล้ว เพราะถ่านหมด นั่นเอง

3. ปล่อยพลังงานคงที่ : ขณะใช้งานมีการคายประจุออกไปยังอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง และ คงที่ ตั้งแต่ชาร์จพลังงานเต็ม ยัน หมดประจุเลย จึงช่วยยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น

   

   จากกราฟแสดงผลด้านบน จะสังเกตเห็นว่า หากเป็น แบตเตอรี่แห้ง (ถ่านไฟฉาย) ทั่วๆ ไป จะมีแรงดันไฟฟ้า (Voltage – V) ที่พุ่งสูงในระยะแรก (กราฟสีส้ม) และหลังจากนั้น แรงดันไฟฟ้า ก็ตกลงทันที แต่ในขณะที่ ถ่านชาร์จ Eneloop มีอัตราการคายประจุ ที่สม่ำเสมอคงที่ ในทุกช่วงเวลา ยาวไปจนถึงถ่านหมด ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่คงที่ มากๆ

4. ถ่ายรูปได้ยาวนานกว่า : กล้องถ่ายรูปดิจิตอลที่ใช้ ถ่านชาร์จ Eneloop จะสามารถมีอายุการใช้งานที่สูงกว่าถ่านแบบ แบตเตอรี่แห้ง (ถ่านไฟฉาย) ทั่วๆ ไปกว่า 4.4 เท่า ทำให้คุณได้กดชัตเตอร์ รัวส์ๆ บันทึกภาพเหตุการณ์สำคัญๆ วินาทีสำคัญๆ งานสำคัญๆ ที่บางทีมีโอกาสบันทึกภาพ แค่เพียงไม่กี่นาที ได้อย่างสบายใจ และไม่ต้องกลัวถ่านหมดขณะกำลังบันทึก หรือ ถ่ายภาพสำคัญ

   

เปรียบเทียบ ถ่านชาร์จ Eneloop ทั้ง 3 รุ่น

อย่างที่ได้กล่าวไปด้านบนว่า ถ่านชาร์จ Eneloop ได้ถูกผลิตขึ้นมา 3 รุ่น ได้แก่รุ่น 1. Eneloop 2. Eneloop Pro และ 3. Eneloop Lite ทั้งนี้เพื่อรองรับและตอบสนองการใช้งานที่แตกต่างกันไป เราลองมาดูตารางเปรียบเทียบกันดูด้านล่างนี้เลย

	Eneloop	Eneloop Pro	Eneloop Lite
รูปถ่ายผลิตภัณฑ์
ขนาดความจุ	2,000 mAh	2,550 mAh	1,000 mAh
จำนวนครั้ง ชาร์จใหม่	2,100 ครั้ง	500 ครั้ง	3,000 ครั้ง
ประเภท	Low Self-Discharge for Multi-Use	High Capacity for High-Drain Devices	Basic Rechargeable for Daily Use

จากที่ดูข้อมูลจากตารางเปรียบเทียบขนาด ความจุของแบตเตอรี่ (mAh) และ จำนวนครั้งที่สามารถชาร์จใหม่ จะแปรผันตรงกันข้าม โดยเราจะสามารถสังเกตเห็นง่ายๆ ว่า ถ่านชาร์จ Eneloop รุ่นที่มีความจุมากๆ อย่างรุ่น Eneloop Pro ที่มีความจุ 2,550 mAh นั้นจะชาร์จซ้ำใหม่ น้อยที่สุด ได้เพียงแค่ 500 ครั้ง เท่านั้น แต่ในขณะเดียวกัน หากเป็นรุ่น Eneloop Lite นั้น มีความจุเพียงแค่ 1,000 mAh แต่สามารถชาร์จซ้ำใหม่ไปมาได้ กว่า 3,000 ครั้งด้วยกัน เรียกได้ว่า อยากแรง ก็อายุการใช้งานก็สั้นลง

จะสังเกตเห็นได้ว่า ถ่านชาร์จ Eneloop Pro ที่มีความจุ 2,550 mAh นั้น มีความจุไฟฟ้าเทียบเท่ากับแบตเตอรี่ ของ iPhone 6 Plus ที่มีความจุ 2,915 mAh เลยทีเดียว แถมยังมากกว่า iPhone 6 ที่มีความจุแบตเตอรี่แค่ 1,910 mAh อย่างมากอีกด้วย

คราวนี้ลองมาดูตารางเปรียบเทียบระยะเวลาการใช้งานที่ ถ่านชาร์จ Eneloop แต่ละชนิดสามารถใช้งานได้ หากเป็นการใช้งานอย่างต่อเนื่อง โดยตารางนี้ ขอแถมค่าของ ถ่านอัลคาไลน์ (Alkaline Battery) หรือแบตเตอรี่แห้งทั่วๆ ไป ที่ไม่สามารถชาร์จได้ (Non-rechargeable Battery) เข้ามาไว้ด้วยที่คอลัมน์ ด้านขวาสุด เพื่อให้ผู้อ่านได้สามารถเห็นภาพโดยรวมได้อย่างชัดเจน

จากตารางที่แสดงด้านบนนั้น เรียกได้ว่าตัวรุ่นธรรมดา และ รุ่น Pro นั้น ความสามารถกินขาด ถ่านอัลคาไลน์ กันอยู่พอสมควรเลยทีเดียว แต่ในรุ่น Eneloop Lite นั้น อาจจะยังมีสูสี หรือ แพ้ทาง ถ่านอัลคาไลน์ อยู่ในบางมุม

ระยะเวลาชาร์จไฟ ของ ถ่านชาร์จ Eneloop

หากพูดถึงระยะเวลาในการชาร์จไฟ หรือการถ่ายทอดพลังงานจาก อุปกรณ์ชาร์จไฟ (Charger) ลงไปยังตัว ถ่านชาร์จ (Rechargeable Battery) นั้นมีหลายปัจจัย ดังต่อไปนี้

1. อุปกรณ์ชาร์จไฟ
2. ถ่านชาร์จ
3. ขนาดของถ่าน (AA / AAA)

มาดูตารางเปรียบเทียบจากรูปภาพด้านล่างกันเลย

จากตารางเปรียบเทียบด้านบนนั้น มีหลายปัจจัยมากๆ ที่ทำให้ระยะเวลาในการชาร์จไฟแตกต่างกันออกไป เพราะอย่างที่แจ้งไปว่าเรามีตัว Eneloop ทั้งหมด 3 รุ่น และก็ยังมี อุปกรณ์ชาร์จ (Charger) อีก 3 รุ่น (BQ-CC16 BQ-CC17 และ BQ-CC18) ซึ่งถ่านชาร์จแต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ในขณะที่ อุปกรณ์ชาร์จ ในแต่ละรุ่น ก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปอีกเช่นกัน ดังนั้นก่อนจะซื้อต้องพิจารณากันดีๆ เสียก่อน

ทดลองใช้ถ่านชาร์จ Eneloop รุ่นธรรมดา กับเครื่องโกนหนวด

ผมได้มีโอกาสทดสอบเอา ถ่านชาร์จ Eneloop มาทดลองใช้กับ เครื่องโกนหนวดไฟฟ้า (Electric Shaver) ซึ่งเครื่องโกนหนวดที่ผมใช้อยู่คือ ยี่ห้อ Panasonic โดยรุ่นที่ผมใช้อยู่จะเป็นแบบรุ่นที่ใส่แบตเตอรี่ เป็น ถ่านขนาด AA จำนวน 2 ก้อน ตามรูปที่เห็นด้านล่างนั่นเอง

ผลลัพธ์จากการใช้งานถ่านอัลคาไลน์ ธรรมดา

จากการใช้งาน โดยปกติผมจะซื้อถ่านอัลคาไลน์ ขนาด AA ยี่ห้อหนึ่ง มาใช้งานเป็นประจำ โดยในแต่ละวัน จะใช้งานอยู่ประมาณ 5-7 นาที โดยถ่านชุดนึงก็ใช้อยู่ประมาณ เกือบๆ 10 วัน ก็เริ่มอ่อนแรง และก็หมดไปในที่สุด แต่ส่วนมากผมไม่ค่อยจะรอให้แบตเตอรี่ในถ่านมันหมดเกลี้ยงแล้วค่อยเปลี่ยน พอมันเริ่มไฟอ่อนๆ แล้วก็ค่อยเปลี่ยน เพราะถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ อีก หากเครื่องโกนหนวดทำงานได้ช้า (ถ่านใกล้หมด) เวลาโกนหนวดก็จะเจ็บอีก ไม่เอาดีกว่า สรุปคือประมาณ 10-12 วัน ก็ต้องเปลี่ยนถ่านก้อนใหม่เสียแล้ว

การใช้งานจากถ่านชาร์จ Eneloop

เมื่อได้มีโอกาสมาทดลองใช้งานเครื่องโกนหนวด กับ ถ่านชาร์จ Eneloop รุ่นธรรมดา (ตัวถ่านชาร์จสีขาว) ที่มีความจุไฟของถ่านอยู่ที่ 2,000 mAh เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากที่เคยใช้อยู่ประมาณ 10-12 วัน คราวนี้สามารถใช้ได้นานขึ้น กว่าแบตเตอรี่จะอ่อนลงก็ประมาณ 3 สัปดาห์ขึ้นไปแล้ว เรียกได้ว่าสามารถใช้งานเครื่องโกนหนวดไฟฟ้า ได้อย่างต่อเนื่อง ประมาณ 21-24 วัน !! เลยทีเดียว

และจุดที่ผมชอบมากๆ เลยคือ เวลาใช้งานถ่านชาร์จ Eneloop นั้นเวลาใช้งานจะมีแรงดันไฟฟ้าที่คงที่ สมกับที่เขาโฆษณาว่า คายประจุไฟฟ้า ออกจากตัวถ่านชาร์จ อย่างสม่ำเสมอ เพราะปกติหากเป็นถ่านอัลคาไลน์ทั่วๆ ไปเมื่อเราแกะใช้วันแรกๆ จะ เครื่องจะทำงานได้แรงมาก และมันก็จะค่อยๆ อ่อนลง อ่อนลง ในวันถัดๆ ไป แต่หากเป็น ถ่านชาร์จ Eneloop ความแรงของเครื่องโกนหนวดไฟฟ้า ยังปกติคงที่หลายๆ วัน ซึ่งสมกับที่เขาโฆษณาเอาไว้จริงๆ

หาซื้อ ถ่านชาร์จ Eneloop ได้ที่ไหน ?

เขียนรีวิว อธิบายคุณสมบัติต่างๆ มาเสียยืดยาว แต่ไม่ได้บอกว่าหาซื้อได้จากที่ไหน ก็คงไม่มีประโยชน์นะ โดยทั่วๆ ไปแล้วคุณสามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปเลย ตามแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า ขายอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ เป็นต้น สำหรับใครที่ขี้เกียจไปเดินหาตามห้างฯ ก็สามารถซื้อออนไลน์ได้เลย เว็บอีคอมเมิร์ซของเมืองไทย ที่ขายก็เห็นจะมี

1. Lazada
2. StcProducts.Tarad.com
3. Eneloop Store

ลองเข้าไปในเว็บไซต์ และ หาซื้อเลือกช้อปกันดูได้เลยนะครับ

บทสรุป ถ่านชาร์จ Eneloop

หลังจากที่ใช้สินค้ามาได้สักระยะ ก็ได้สัมผัสถึงความคุ้มค่าของมันที่จากเดิม พอถ่านหมดสิ่งเดียวที่สามารถทำได้ก็คือ “นำไปทิ้งขยะ” แต่เมื่อมาใช้ถ่านชาร์จ ถ่านหมด ก็ไม่ต้องนำไปทิ้งขยะ เพียงแค่นำไปเสียบที่อุปกรณ์ชาร์จไฟ และก็รอจนมันชาร์จเสร็จ ก็เป็นอันเสร็จพิธี เรียบร้อย และก่อนจากกัน ขอสรุปข้อดีข้อเสีย ของ ถ่านชาร์จ Eneloop มาให้ดูกัน

ข้อดี 🙂

1. สามารถนำกลับมาชาร์ใหม่ได้อีก เป็นหลายๆ ร้อยครั้ง หลายๆ พันครั้ง
2. ตัว อุปกรณ์ชาร์จไฟ มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ เมื่อแบตเตอรี่ในถ่านเต็ม ไม่ต้องห่วงเรื่องไฟไหม้เลย
3. มีความอึด และ คงทนกว่าถ่านอัลคาไลน์ ทั่วๆ ไป
4. อุปกรณ์ชาร์จ (Charger) ในแต่ละรุ่น สามารถชาร์จถ่านชาร์จ ได้ทั้งขนาด AA และ AAA ในตัวเดียวกัน โดยหากคุณมีความจำเป็นจะต้องใช้ ถ่านชาร์จ Eneloop ทั้ง 2 ขนาดนี้ ก็สามารถมี อุปกรณ์ชาร์จแค่ตัวเดียวก็ได้
5. ปริมาณความจุไฟฟ้า (mAh) เทียบเท่าความจุของแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ ในหลายๆ รุ่นเลยทีเดียว

ข้อเสีย 🙁

1. ราคาแพง เมื่อ ซื้อเราซื้อถ่านชาร์จ ครั้งแรก อาจจะมีรู้สึกว่าทำไมต้องจ่ายเงินแพงๆ เพื่อได้ถ่านแค่ถ่านไฟฉายมา จริงๆ ไม่ใช่ มันสามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น ขอให้นึกเหมือนกับว่าเรา ซื้อแบตสำรอง หรือ ซื้อแบตเตอรี่มือถือ
2. หาซื้อค่อนข้างลำบาก เพราะต้องซื้อตามแผนกขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ของห้างสรรพสินค้าทั่วไป ร้านสะดวกซื้อทั่วๆ ไปอย่าง 7-Eleven นั้นมีจำหน่ายเฉพาะแค่บางสาขาเท่านั้น

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับรีวิวถ่านชาร์จชุดนี้ หวังว่าสุดท้ายนี้ คุณผู้อ่านคงจะได้ความรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติและความสามารถของ ถ่านชาร์จ (Rechargeable Battery) ไปได้ไม่มากก็น้อยละ รีวิวฉบับต่อไปจาก Thanop.com จะมีอะไรมาให้ชม โปรดติดตามนะครับ เร็วๆ นี้มีอีกแน่นอน