เครื่องฟอกอากาศ Mister Robot Air Purifier LUXURY

รีวิวนี้เป็นรีวิว เครื่องฟอกอากาศ Mister Robot Air Purifier LUXURY เครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ ที่นอกจากจะรองรับพื้นที่ขนาด 49-84 ตารางเมตร (m²) และกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้สบายๆ แล้ว ตัวเครื่องยังมีรูปทรงที่สวยงาม หรูหรา ดูพรีเมี่ยม เหมาะแก่การตั้งเอาไว้ประดับบ้าน โชว์รูม ร้านค้าต่างๆ หรือแม้แต่ โรงแรม โรงพยาบาล ก็เอาไปประดับเสริมภาพลักษณ์สถานที่ให้ดูดียิ่งขึ้นไปอีกได้ด้วย

นอกจากนี้แล้ว เครื่องฟอกอากาศเครื่องนี้มันก็ยังมาพร้อมกับ เซ็นเซอร์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สามารถสั่งงาน พร้อมดูสถิติต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สาย Wi-Fi ได้อีกด้วยเช่นกัน

เครื่องฟอกอากาศ Mister Robot Air Purifier รุ่น LUXURY ตัวนี้ เป็นเครื่องฟอกอากาศจากแบรนด์ “Mister Robot (มิสเตอร์โรบอท)” แบรนด์ที่ถือกําเนิดจากการจำหน่าย หุ่นยนต์ดูดฝุ่น มาก่อน ถ้าใครที่เดินห้างสรรพสินค้า หรืองานแฟร์เกี่ยวกับบ้านอยู่บ่อยๆ คนจะคุ้นตากันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะพี่แกไปออกบูธบ่อยมากๆ และมาช่วงหลังๆ นี้ เขาก็มีแตกไลน์การขายสินค้าออกมาอีกหลายชนิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น หุ่นยนต์เช็ดกระจก เครื่องล้างจาน และล่าสุด เครื่องฟอกอากาศ ตัวนี้นั่นเอง

• รู้จักกับผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ Mister Robot
• แกะกล่องผลิตภัณฑ์
• อุปกรณ์ภายในกล่องผลิตภัณฑ์
• ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค
• คุณสมบัติ และ ความสามารถ
• สำรวจรอบๆ ตัวเครื่อง
• เปิดเครื่องฟอกอากาศใช้งานครั้งแรก
• วิธีการติดตั้งแอปพลิเคชัน Mister Robot AIR กับ เครื่องฟอกอากาศ
• คุณสมบัติ และความสามารถของแอปพลิเคชัน Mister Robot AIR
• คำถามที่คุณต้องอยากรู้ (FAQs)
• บทสรุปการใช้งาน

ด้านล่างนี้เป็นคลิปวีดีโอรีวิวเครื่องฟอกอากาศ Mister Robot Air Purifier LUXURY แบบละเอียดยิบ ประมาณ 17 นาทีครึ่ง พร้อมการสาธิตการควบคุม สั่งงานผ่านแอปพลิเคชัน อีกด้วยเช่นกัน ถ้าหากมีเวลากดดูก่อนได้เลย

แกะกล่องผลิตภัณฑ์ เครื่องฟอกอากาศ Mister Robot Air Purifier LUXURY

ตัวกล่องมีขนาดมิติอยู่ที่ ยาว (L) 735 x กว้าง (W) 450 x สูง (H) 440 มิลลิเมตร ในขณะที่น้ำหนักสินค้ารวมกล่อง (Gross Weight) อยู่ที่ประมาณ 14.5 กิโลกรัม

กล่องผลิตภัณฑ์มาในสีขาว ที่ด้านหน้า และด้านหลัง มีรูปตัวเครื่องฟอกอากาศวางอยู่อย่างโดดเด่นที่ด้านขวามือ ในขณะที่ด้านซ้ายคือชื่อของผลิตภัณฑ์นั่นก็คือ “Mister Robot Air Purifier รุ่น LUXURY” นั่นเอง

ในส่วนของรายละเอียดข้างๆ กล่องผลิตภัณฑ์นั้น ก็จะมีรายละเอียดช่องทางการติดต่อกับผู้จัดจำหน่ายในเมืองไทยเล็กน้อยอย่างช่องทางเฟสบุ๊ค และคิวอาร์โค้ดของเว็บไซต์ และเนื่องจากตัวกล่องผลิตภัณฑ์มีขนาดค่อนข้างใหญ่ และน้ำหนักมาก ด้านข้างทั้ง 2 ฝั่งของกล่อง จึงมีช่องมือจับ (Handhold) ที่เอาไว้สอดนิ้วเข้าไปได้ เพื่อขนย้ายกล่อง หรือยกกล่อง ไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบายนั่นเอง

อุปกรณ์ภายในกล่องผลิตภัณฑ์ เครื่องฟอกอากาศ Mister Robot Air Purifier LUXURY

สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่องผลิตภัณฑ์ เครื่องฟอกอากาศเครื่องนี้ นั้นก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากมายนัก หลักๆ มีอยู่ทั้งหมด 4 ชิ้นด้วยกันได้แก่

1. Mister Robot Air Purifier LUXURY (เครื่องฟอกอากาศ x 1 เครื่อง) : ตัวเครื่องฟอกอากาศ มีขนาดมิติ 370 x 370 x 666 มิลลิเมตร (ความสูงของตัวเครื่องรวม 66.6 เซนติเมตร) น้ำหนักเครื่องเปล่ารวมแผ่นกรองอากาศอยู่ที่ 11.7 กิโลกรัม ด้านล่างมีล้อเลื่อนที่หมุนได้ 360 องศา อยู่ทั้ง 4 มุม สามารถเข็นไปไหนมาไหนได้สะดวก
2. Power Cord (สายไฟ x 1 เส้น) : สายไฟสีขาวความยาว 1.8 เมตร หัวปลั๊กเป็นแบบขากลม มีความเหนียว และหนา แข็งแรงอยู่พอสมควร
3. User Manual (คู่มือการใช้งาน x 1 แผ่น) : แผ่นพับกระดาษคู่มือการใช้งานขนาดเล็ก เนื้อหาภายในเป็นภาษาไทย พร้อมรูปประกอบอธิบายอย่างชัดเจน มีทั้งหมด 5 หน้า
4. Warranty Card (บัตรรับประกันสินค้า x 1 แผ่น) : แผ่นกระดาษแข็ง ที่จะต้องกรอกรายละเอียดตามที่กำหนด และต้องเก็บเอาไว้กับตัว และจะต้องแสดงบัตรรับประกันทุกเครื่องเมื่อนำเครื่องเข้ารับบริการ มิเช่นนั้นทางบริษัทฯ จะคิดค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการ (ระยะเวลาการรับประกันเครื่อง 1 ปี)

ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิคของ เครื่องฟอกอากาศ Mister Robot Air Purifier LUXURY

คุณสมบัติ และ ความสามารถของ เครื่องฟอกอากาศ Mister Robot Air Purifier LUXURY

เห็นเป็นเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่แบบนี้ ซึ่งมันไม่ได้แค่ใหญ่แต่ตัวอย่างเดียว แต่ความสามารถของมันก็มากด้วยเช่นกัน มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

1. Three Layers Air Filter with HEPA Filter E12  Class (แผ่นกรองอากาศ 3 ชั้น พร้อม แผ่นกรองอากาศ HEPA คลาส E12)

เครื่องฟอกอากาศเครื่องนี้ใช้แผ่นกรองอากาศแบบออลอินวัน (All-in-One) ที่มีขนาดใหญ่ เป็นแผ่นกรองอากาศแบบทรงกระบอก (Cylinder Shape Air Filter) มีความสูง 292 มิลลิเมตร (หรือ 29.2 เซนติเมตร) และมีเส้นผ่าศูนย์กลาง (Diameter) อยู่ที่ 311 มิลลิเมตร (หรือ 31.1 เซนติเมตร)

สำหรับคุณสมบัติในการกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กมากๆ อย่าง ฝุ่น PM 2.5 นอกจากนี้ยังสามารถกรองเชื้อโรค อย่างเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย รวมไปถึงกลิ่นไม่ถึงประสงค์อย่างกลิ่นควันบุหรี่ ควันไอเสียจากรถยนต์ ได้อีกด้วยเช่นกัน โดยรายละเอียด ลำดับชั้นของแผ่นกรองอากาศ ก็มีอยู่ดังต่อไปนี้

¹ข้อมูลเพิ่มเติม : แผ่นกรองอากาศทั้ง 3 ชั้น  (กรองชั้นแรก → กรองชั้นสอง → กรองชั้นสาม) นั้นจะถูกบรรจุรวมกันอยู่ใน แผ่นกรองอากาศแบบออลอินวัน (All-in-One Air Filter) ทั้งหมด (ไม่ได้แยกออกมาเป็นแผ่นๆ) ดังนั้น ถ้ามองจากภายนอก เราจะเห็นเป็นแค่ แผ่นกรองอากาศชุดเดียวเท่านั้น เวลาซื้ออะไรก็ซื้อแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น

²ข้อมูลเพิ่มเติม : แผ่นกรองอากาศ HEPA ของเครื่องนี้อยู่ในคลาส หรือระดับ E12 ที่มีการกรองฝุ่นได้มากกว่า 99.5% (ข้อมูลอ้างอิงจาก Wikipedia : https://en.wikipedia.org/wiki/HEPA)

2. Intelligent Swipe Control Panel (แผงควบคุมที่ใช้มือปัดได้)

เครื่องฟอกอากาศเครื่องนี้สามารถที่จะใช้ฝ่ามือของเราปัดไปทางซ้าย หรือขวา เหนือส่วนของ แผงควบคุมเครื่อง โดยที่ฝ่ามือของเรานั้น ไม่ต้องสัมผัสที่ตัวเครื่องเลย (สามารถเว้นระยะห่างระหว่างฝ่ามือ กับแผงควบคุมเครื่อง ได้สูงสุดระหว่าง 12-15 เซนติเมตร)

ทั้งนี้ความสามารถนี้ จะสามารถใช้เปลี่ยนการแสดงค่าต่างๆ ที่จะแสดงผลบนหน้าจอแสดงผล LED ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น

1. ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 (หน่วยเป็นไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร – µg/m³)
2. ค่าสถานะการเชื่อมต่อ Wi-Fi
3. ค่าอายุการใช้งานที่เหลือของแผ่นกรองอากาศ (เป็นเปอร์เซ็นต์)
4. ค่าระดับความแรงของพัดลมดูดอากาศ (หน่วยเป็นลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง – m³/h)

นอกจากที่จะเป็นนวัตกรรมที่แปลกใหม่สำหรับเครื่องฟอกอากาศแล้ว ยังมีความสะดวกต่อการใช้งานอีกด้วย

3. Various Modes and Functions (มีโหมด และฟังก์ชั่นการทำงานที่หลากหลาย)

เครื่องนี้ถือว่ามีโหมดการทำงานที่ค่อนข้างหลากหลาย เพื่อให้คุณได้สามารถเลือกใช้มันได้เหมาะสมกับสถานการณ์ หรือความต้องการ

1. Auto Air Mode (โหมดควบคุมความแรงของพัดลมดูดอากาศอัตโนมัติ) : ระบบจะปรับความแรงของพัดลมดูดอากาศ ให้แปรผันตามปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่เซ็นเซอร์ สามารถตรวจจับได้ ถ้าฝุ่นละอองในอากาศมีมากเกินมาตรฐาน พัดลมดูดอากาศก็จะทำงานแรงขึ้นเองโดยอัตโนมัติ เพื่อกำจัดฝุ่นละอองที่อยู่ในอากาศ ให้หมดไปโดยเร็วที่สุด
2. Manual Air Mode (โหมดควบคุมความแรงของพัดลมดูดอากาศเอง) : ผู้ใช้งานปรับระดับความแรงได้ตามใจชอบสูงสุดถึง 24 ระดับ (เยอะมากๆ) โดยสามารถหมุนวงแหวนระบบสัมผัสสำหรับปรับความแรงของพัดลมดูดอากาศได้บนแผงควบคุม หรือกดผ่านแอปพลิเคชัน Mister Robot Air ก็สามารถทำได้เช่นกัน
3. Monitor Mode (โหมดสังเกตการณ์) (สั่งผ่านแอปฯ เท่านั้น) : โหมดนี้ เราสามารถเลือกระดับปริมาณของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ว่า ถ้ามันเกินกว่าค่าที่เรากำหนดไว้ เครื่องฟอกอากาศ จะเริ่มทำงานเองโดยอัตโนมัติทันที และจะทำงานไปจนกว่าค่านั้นกลับสู่มาตรฐาน ถึงจะหยุดทำงาน

ในขณะที่ฟังก์ชั่นการทำงาน ก็ค่อนข้างเยอะไม่แพ้กัน ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถสั่งงานผ่าน แผงควบคุม (Control Panel) บนตัวเครื่อง ได้ แต่ก็สามารถสั่งผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือได้

1. Child Lock Function (ฟังก์ชั่นป้องกันเด็ก)
2. Sleep Mode Function (ฟังก์ชั่นโหมดนอนหลับ)
3. LED Screen Light Function (เปิดปิดหน้าจอแสดงผล LED บนตัวเครื่อง)
4. Device Timer (ตั้งเวลาเปิด หรือปิดเครื่องอัตโนมัติ)
5. and More (และอื่นๆ อีกมากมาย)

4. Large Supported Area (รองรับพื้นที่ห้องขนาดใหญ่)

เนื่องจากตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ แน่นอนว่ามันจึงรองรับพื้นที่ห้องขนาดใหญ่ได้อีกด้วยเช่นกัน โดยมันสามารถรองรับขนาดพื้นที่ได้สูงสุดถึง 84 ตารางเมตร (m²)*

หมายเหตุ : การรองรับขนาดพื้นที่ได้ถึง 84 ตารางเมตรนั้นจะต้องเปิดความแรงของพัดลมดูดอากาศในระดับสูงสุดด้วยเช่นกัน

5. Smartphone Control (ควบคุมการทำงานผ่านมือถือ ได้จากทุกที่ทั่วโลก)

นี่คือเครื่องฟอกอากาศเครื่องแรกที่มีความสามารถควบคุม สั่งงาน ตั้งค่าต่างๆ ได้ผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android และ iOS บนเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi ได้จากทุกที่ทั่วโลก (ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต) (ดูความสามารถของแอปพลิเคชัน Mister Robot Air ทั้งหมด)

สำรวจรอบๆ ตัวเครื่อง เครื่องฟอกอากาศ Mister Robot Air Purifier LUXURY

ถึงแม้ว่าขนาดของตัวเครื่องฟอกอากาศนั้น จะค่อนข้างใหญ่ แต่ว่ามันก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากมายเท่าไหร่นัก มาดูกันเลยดีกว่ามามีอะไรบ้าง

1. Front and Side Components (ส่วนประกอบด้านหน้า และด้านข้าง)
2. Rear Component (ส่วนประกอบด้านหลัง)
3. Control Panel Component (ส่วนประกอบของแผงควบคุมเครื่อง)

Front and Side Components (ส่วนประกอบด้านหน้า และด้านข้าง)

1. Control Panel (แผงควบคุมเครื่อง) : อยู่ด้านบนสุดของตัวเครื่อง ที่ประกอบไปด้วย ปุ่ม (Button) วงแหวนระบบสัมผัสสำหรับปรับความแรงของพัดลมดูดอากาศ (Wheel) เซ็นเซอร์การปัดมือ (Swipe Sensor) และไฟแสดงสถานะต่างๆ (Indicator) เกี่ยวกับตัวเครื่องทั้งหมด (รายละเอียดส่วนประกอบของแผงควบคุมเครื่อง)
2. Air Outlet (ช่องอากาศออก) : อยู่ด้านบน (ใต้แผงควบคุม) สามารถปล่อยอากาศออกได้ทั้ง 3 ด้านได้แก่ด้านซ้าย ด้านขวา และด้านหลัง ของตัวเครื่อง
3. Air Inlet (ช่องอากาศเข้า) : อยู่ด้านล่าง (ใต้ช่องอากาศออก) สามารถดูดรับอากาศได้จาก 3 ทิศทางเช่นกัน ได้แก่ด้านซ้าย ด้านขวา และด้านหลัง ของตัวเครื่อง
4. Swivel Caster Wheels (ล้อเลื่อนรับน้ำหนักที่หมุนได้) : ชุดล้อเลื่อนใต้เครื่อง ทั้งหมด 4 ล้อ (4 มุม) สามารถหมุนรอบตัวได้ 360 องศา เอาไว้ช่วยในการเคลื่อนย้ายให้ไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก โดยตัวล้อเป็นยางยึดเกาะพื้นได้ดี และไม่ทำให้พื้นเสียหายในขณะเคลื่อนย้าย ในขณะที่ลำตัวของมันทำมาจากสเตนเลสชั้นดี มีความคงทน และแข็งแรงสูง

Rear Component (ส่วนประกอบด้านหลัง)

ด้านหลังของตัวเครื่องมีช่องเสียบสายไฟ (AC Power Inlet) เพื่อไปเสียบกับปลั๊กไฟบ้านที่อยู่ด้านล่าง และ ฉลากกำกับผลิตภัณฑ์ (Product Label) นอกจากนี้แล้ว มันยังรวมไปถึงช่องอากาศเข้า (Air Inlet) และช่องอากาศออก (Air Outlet) ที่อยู่ถัดขึ้นมาด้านบน

ในขณะที่ส่วนของช่องอากาศเข้าที่อยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง ก็ยังเป็นฝาครอบ (Cover) ที่ให้คุณได้สามารถถอดออกมา เพื่อนำแผ่นกรองอากาศแบบออลอินวัน ออกมาเปลี่ยน หรือปัดฝุ่นได้ง่ายๆ อีกด้วยเช่นกัน

Control Panel Component (ส่วนประกอบของแผงควบคุมเครื่อง)

1. Intelligent Swipe Area (พื้นที่สำหรับปัดมือเพื่อเลื่อนหน้าจอแสดงผล LED) : สามารถใช้ฝ่ามือวางอยู่เหนือพื้นที่ตรงนี้ และปัดไปฝั่งซ้าย หรือขวา เพื่อปรับเปลี่ยนค่าการแสดงผลบนหน้าจอแสดงผล LED ได้ตามต้องการ
2. LED Display (หน้าจอแสดงผล LED) : หน้าจอขนาด 4.5 นิ้วแสดงค่าเป็นจุดๆ สีขาว ใช้แสดงสถานะและค่า ต่างๆ ของเครื่องได้แก่
   1. PM 2.5 Concentration Indicator (แสดงค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5) : แสดงค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในหน่วยไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m³)
   2. Wi-Fi Status Indicator (แสดงสถานะการเชื่อมต่อ Wi-Fi) : แสดงต่อเมื่อมีการเชื่อมต่อ Wi-Fi สมบูรณ์แล้ว
   3. Filter Remaining (แสดงอายุการใช้งานที่เหลือของแผ่นกรองอากาศ) : แสดงว่าประสิทธิภาพของแผ่นกรองอากาศ เหลืออีกกี่เปอร์เซ็นต์ (%) ที่จะต้องเปลี่ยนใหม่ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับตำแหน่งการวางเครื่องด้วยว่าวางในพื้นที่ที่มีมลพิษมากน้อยเพียงใด
   4. Current Air Volume Light Indicator (แสดงค่าระดับความแรงของพัดลมดูดอากาศ) : แสดงค่าเป็นตัวเลขในหน่วยของลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง (m³/h)
3. Air Volume Adjusting Wheel (วงแหวนระบบสัมผัสสำหรับปรับความแรงของพัดลมดูดอากาศ) : ใช้นิ้วหมุนรอบๆ เพื่อปรับความแรงของพัดลมดูดอากาศให้แรงขึ้น (หมุนตามเข็มนาฬิกา) หรือเบาลง (หมุนทวนเข็มนาฬิกา)
4. Power Button (ปุ่มเปิดปิดเครื่อง) : แม้จะได้ชื่อว่าเป็นปุ่มเปิดปิดเครื่อง แต่อันที่จริงแล้ว มันมีฟังก์ชั่นหลักๆ ที่ซ่อนอยู่อีก ตามสถานการณ์ดังต่อไปนี้
   1. When Power Off (ขณะเครื่องกำลังปิดอยู่)
      1. Short Press to Power On (กดปุ่มสั้นๆ 1 ครั้ง เพื่อเปิดเครื่อง)
      2. Long Press to Start Wi-Fi Pairing (กดปุ่มค้างเอาไว้ เพื่อเริ่มต้นการเชื่อมต่อ Wi-Fi)
   2. When Power On (ขณะเครื่องกำลังเปิดอยู่)
      1. Short Press to Start Auto Air Mode (กดปุ่มสั้นๆ 1 ครั้ง เพื่อเปลี่ยนเป็นโหมดควบคุมความแรงของพัดลมดูดอากาศอัตโนมัติ) (ไฟวงกลมสีขาวเล็กๆ สว่างอยู่)
      2. Short Press again to Start Manual Air Mode (กดปุ่มสั้นๆ อีก 1 ครั้งเพื่อเปลี่ยนเป็นโหมดควบคุมความแรงของพัดลมดูดอากาศเอง) (ไฟวงกลมสีขาวเล็กๆ จะดับไป)
      3. Long Press to Power Off (กดปุ่มค้างเอาไว้เพื่อปิดเครื่อง)
      4. Six Presses in 3 Seconds to Restore Factory Settings (กดปุ่ม 6 ครั้งภายในเวลา 3 วินาที เพื่อเรียกใช้ค่าตั้งต้นจากโรงงาน) (ใช้ในกรณีต้องตั้งค่า Wi-Fi ใหม่)

เปิดเครื่องฟอกอากาศ Mister Robot Air Purifier LUXURY ใช้งานครั้งแรก

1. วางเครื่องฟอกอากาศในตำแหน่งที่เหมาะสมโดยแนะนำให้วางห่างจากสิ่งกีดขวางรอบๆ ด้านอย่างน้อย 30 เซนติเมตร (1 ฟุต)
2. เปิดฝาครอบแผ่นกรองอากาศ ที่อยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง
3. ดันสลักปลดล็อคแผ่นกรองอากาศ ไปทางซ้าย เพื่อนำแผ่นกรองอากาศแบบออลอินวัน ที่อยู่ด้านในออกมาแกะพลาสติกออกให้เรียบร้อย ก่อนที่จะใส่กลับที่เดิม
4. เสียบปลั๊ก และกด “ปุ่มเปิดปิดเครื่อง” สั้นๆ 1 ครั้งเพื่อเปิดเครื่อง
5. หมุนวงแหวนระบบสัมผัสสำหรับปรับความแรงของพัดลมดูดอากาศตามเข็มนาฬิกา เพื่อปรับระดับความแรงได้ตามต้องการ
6. ทำการเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการควบคุมให้มากขึ้นไปอีก (รายละเอียดอยู่ด้านล่าง)

วิธีการเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน Mister Robot Air กับ เครื่องฟอกอากาศ Mister Robot Air Purifier LUXURY

เนื่องจากตัวเครื่องนี้ มีความสามารถในการควบคุมสั่งงาน ตั้งค่า และดูสถิติการใช้งานต่างๆ ได้ผ่าน แอปพลิเคชัน Mister Robot Air ซึ่งเป็นแอปฯ ของทาง บริษัท เอ็ม เอ็ม โกลบอลเทรด จำกัด (M M Global Trade Company Limited) ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายเอง โดยมีให้เลือกดาวน์โหลดไปใช้กันทั้ง อุปกรณ์พกพา ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

1. ดาวน์โหลดแอป Mister Robot Air สำหรับ iOS ผ่าน App Store
2. ดาวน์โหลดแอป Mister Robot Air สำหรับ Android ผ่าน Play Store

และเมื่อทำการติดตั้งแอป Mister Robot Air เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มทำการติดตั้ง ตามขั้นตอนที่ระบุเอาไว้ด้านล่างนี้ได้เลย

1. เปิดแอปพลิเคชันและกด “ปุ่ม Register” และอ่านโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) พร้อมกด “ปุ่ม Agree” เพื่อยอมรับ
2. เลือกประเทศ พร้อมใส่อีเมลของเราเข้าไป หลังจากนั้นกด “ปุ่ม Obtain Verification Code” เพื่อส่งรหัสยืนยัน 6 หลัก ไปทางอีเมล
3. เข้าไปเช็คอีเมลที่เราใช้ลงทะเบียนเมื่อสักครู่ เพื่อดูรหัสยืนยัน แล้วนำกลับมากรอกในแอปฯ
4. ใส่รหัสผ่าน (Set Password) ของเราที่ตั้งขึ้นมาเอง โดยจะต้องมีตัวอักษร และตัวเลขผสมกันระหว่าง 6-20 ตัว เมื่อเสร็จแล้วกด “ปุ่ม Completed” เพื่อดำเนินการไปยังขั้นตอนต่อไป
5. ระบบจะถามว่าจะให้แอปฯ สามารถเข้าถึง ระบบระบุตำแหน่งปัจจุบัน (Location) ในขณะใช้งานแอปฯ นี้หรือไม่ ? แต่แนะนำกด “ปุ่ม Allow” เพื่ออนุญาต (แต่ถ้าไม่อนุญาตก็ให้กด “ปุ่ม Don’t Allow“)
6. ระบบจะแสดงหน้าจอ “Turn on your smart life” เพื่อเพิ่มครอบครัวของเราเข้าไปในระบบ “ปุ่ม Create Family”
7. ระบบจะบังคับให้ใส่นามสกุล (Family Name) ของเราเข้าไป (แต่ตรงตำแหน่งไม่จำเป็นต้องระบุก็ได้) พร้อมกด “ปุ่ม Done“
8. ระบบจะพามาหน้ารวมอุปกรณ์ทุกอย่าง ซึ่งตอนแรกยังไม่มีอะไรเลย ให้กดที่ “ปุ่ม Add Device” เพื่อเพิ่มอุปกรณ์ เครื่องฟอกอากาศ Mister Robot Air Purifier รุ่น LUXURY ของเราเข้าไปในระบบเสียก่อน
9. ระบบจะแสดงรุ่นของเครื่องฟอกอากาศขึ้นมาในส่วนของแท็บ การเพิ่มอุปกรณ์เอง (Add Manually) ให้เลือกรุ่นของเราเข้าไปนั่นก็คือ “LUXURY“
10. ระบบจะแสดงหน้าจอแนะนำให้เตรียมพร้อมตัวเครื่องก่อนทำการเชื่อมต่อ Wi-Fi โดยให้ เสียบปลั๊กเครื่องฟอกอากาศ แล้วกด “ปุ่ม Power” ค้างเอาไว้ประมาณ 5 วินาที จนได้ยินเสียงตี๊ด ที่ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล LED เป็นสัญลักษณ์รูปคลื่นสัญญาณ Wi-Fi กระพริบ หลังจากนั้นกลับมาที่แอปฯ โดยกด “ปุ่ม Finish Network Configuration“
11. เข้ามาสู่หน้าใส่รหัสผ่านของ Wi-Fi (Enter Wi-Fi Password) โดยระบบจะเลือก SSID ของ Wi-Fi ที่เราเชื่อมต่ออยู่ (แต่สามารถเปลี่ยนได้ด้วยการกดที่ “ปุ่ม Change Network” ถ้าทุกอย่างถูกต้องก็ใส่รหัสผ่าน แล้วกด “ปุ่ม OK” เพื่อดำเนินการต่อไป
12. ระบบจะแสดงหน้าการบอกความคืบหน้าการเชื่อมต่อเป็นหน่วยเปอร์เซ็นต์ (%) ก็รอไปประมาณ 1.30 นาที ก็เสร็จสิ้นกระบวนการเชื่อมต่อ พร้อมใช้งานทันที

คุณสมบัติ และความสามารถของแอปพลิเคชัน Mister Robot AIR กับ เครื่องฟอกอากาศ Mister Robot Air Purifier รุ่น LUXURY

1. การสั่งงานเครื่อง (Execute Cleaning Command)
   1. สั่งเปิดหรือปิดเครื่อง (Power On/ Off)
   2. ปรับเปลี่ยนโหมดการทำงาน (Change Mode)
      1. โหมดควบคุมความแรงของพัดลมดูดอากาศอัตโนมัติ (Auto Air Mode)
      2. โหมดควบคุมความแรงของพัดลมดูดอากาศเอง (Manual Air Mode)
      3. โหมดสังเกตการณ์ หรือ โหมดมอนิเตอร์ (Monitor Mode)
   3. ปรับระดับความแรงของพัดลมดูดอากาศ (Change Speed) (เลือกได้มากสูงสุด 24 ระดับ)
2. การดูสถานะของตัวเครื่อง (Device Status)
   1. ดูสถานะของโหมด (Mode Status)
   2. ดูอุณหภูมิ ความชื้น และสภาพอากาศ (Outdoor Temperature/ Humidity and Weather Condition)
   3. ดูค่าดัชนีคุณภาพอากาศของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 (PM 2.5 Air Quality Index – AQI)
   4. ดูอายุการใช้งานที่เหลือของแผ่นกรองอากาศ (Filter Remains)
   5. ดูระดับความแรงของพัดลมดูดอากาศ (Wind Speed)
3. การตั้งค่าทั่วๆ ไป (General Settings)
   1. ฟังก์ชั่นป้องกันเด็ก (Child Lock Function)
   2. เปิดปิดหน้าจอแสดงผล LED (Screen Light)
   3. เปิดปิดโหมดนอนหลับ (Smart Sleep Mode)
   4. เปลี่ยนค่าที่จะแสดงผลบนหน้าจอแสดงผล LED (Screen Display)
   5. เปิดปิดเสียง (Sound Switch)
   6. เปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สูงเกินกว่าค่าที่ตั้งเอาไว้ (Monitor Auto Power On)
   7. เลือกระดับปริมาณของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่จะให้เครื่องเริ่มทำงาน (PM 2.5 Auto Power On)
   8. ตั้งเวลาเปิด หรือปิดเครื่องอัตโนมัติ (Device Timer)
4. การจัดการเครื่อง และข้อมูลทั่วไป (Device Management and General Information)
   1. เปลี่ยนชื่อเรียกอุปกรณ์ (Change Device Name)
   2. ระบบตำแหน่งที่วางเครื่องฟอกอากาศได้ (Device Location) (ห้องนั่งเล่น/ ห้องนอนหลัก/ ห้องครัว ฯลฯ)
   3. ตรวจสอบสถานะของเครือข่าย และการเชื่อมต่อ (Check Device Network and Connection Status)
   4. แชร์อุปกรณ์ให้บัญชีผู้ใช้อื่น (Share Device) (เพื่อให้ควบคุมอุปกรณ์ได้หลายคน)
   5. แสดงรายละเอียดของอุปกรณ์ (Device Information) (แสดงค่าชื่อ SSID/ หมายเลข IP ฯลฯ)
   6. ส่งผลตอบรับกลับไปยังผู้ผลิต (Feedback or Submit Fault) (แจ้งข้อผิดพลาดเพื่อนำไปปรับปรุง)
   7. ตรวจสอบการอัพเดทเฟิร์มแวร์ของตัวเครื่อง (Check for Firmware Update)
   8. ลบอุปกรณ์ออกจากการควบคุม (Remove Device)
   9. เรียกใช้ค่าตั้งต้นจากโรงงาน (Restore Factory Settings)
   10. และความสามารถอื่นๆ อีกมากมาย

คำถามที่คุณต้องอยากรู้ (FAQs) เกี่ยวกับการใช้งาน เครื่องฟอกอากาศ Mister Robot Air Purifier รุ่น LUXURY

1. เซ็นเซอร์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 นอกจากเอาไว้แสดงค่าบนหน้าจอแล้ว ยังมีประโยชน์อะไรอีกหรือไม่ ?

เพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานในโหมดควบคุมความแรงของพัดลมดูดอากาศอัตโนมัติ (Auto Air Mode) โดยมันจะไปปรับระดับความแรงของพัดลมดูดอากาศให้ทำงานสัมพันธ์กับประมาณฝุ่นละอองที่มีอยู่ในอากาศ ถ้าฝุ่นมากพัดลมดูดอากาศก็จะทำงานแรงขึ้นโดยอัตโนมัติ เพื่อกรอง หรือฟอกอากาศให้หมดไปโดยเร็วที่สุดนั่นเอง และถ้าปริมาณฝุ่นละอองในอากาศอยู่ในระดับที่ปกติ พัดลมดูดอากาศก็จะทำงานเบาลงโดยทันที

2. วิธีการดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศ เครื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?

เนื่องจากเครื่องนี้ใช้แผ่นกรองอากาศแบบออลอินวัน เราจึง “ไม่สามารถนำแผ่นกรองอากาศไปล้างด้วยน้ำได้” เนื่องจาก มีแผ่นกรองอากาศบางชั้น อย่างเช่น แผ่นกรองอากาศ HEPA ที่จะไม่สามารถโดนน้ำได้เลย เพราะถ้าล้าง มันจะเปื่อย เส้นใยหลุดลุ่ย ส่งผลทำให้อายุการใช้งานยิ่งสั้นลงไปอีก สิ่งที่เราสามารถทำได้คือ

1. ทำความสะอาดภายนอกตัวเครื่อง อย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อให้เซ็นเซอร์ต่างๆ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ตรวจสอบช่องอากาศเข้า และออก ว่ามีสิ่งแปลกปลอมใดๆ ติดค้างอยู่หรือไม่
3. ตรวจสอบสายไฟ และหัวปลั๊ก ว่าอยู่ในสภาพปกติเรียบร้อย พร้อมใช้งานหรือไม่ (สายไฟไม่ควรบิดงอ และไม่โดนอะไรวางทับ)

3. อัตราการกินไฟของเครื่องเป็นอย่างไร ค่าไฟต่อเดือนประมาณเท่าไหร่ ?

เนื่องจากเครื่องนี้มีระดับความแรงของพัดลมดูดอากาศได้ถึง 24 ระดับ (Levels) ซึ่งเป็นจำนวนที่มากเหลือเกิน จึงขอใช้ เครื่องทดสอบอัตราการกินไฟดิจิตอล (Digital Power Consumption Meter) ทดสอบการคำนวณค่าไฟเฉพาะบางระดับเท่านั้น โดยผลการทดสอบสำหรับการเปิดเครื่องนี้ เฉลี่ยวันละ 10 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งค่าไฟต่อเดือนก็อยู่ในตารางด้านล่างนี้เลย

หมายเหตุ : คุณสามารถเปลี่ยน ค่าไฟต่อยูนิต (ในตัวอย่างนี้คิด 5 บาทต่อยูนิต – ถือว่าอยู่ในอัตราที่สูง) ให้เป็นไปตามที่จ่ายจริง เพราะที่พักอาศัยในแต่ละที่อาจจะคิดไม่เท่ากัน

4. การดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศ เครื่องนี้ต้องทำอะไรบ้าง ?

เครื่องนี้มีอะไหล่สิ้นเปลือง (Consumable Part) อยู่เพียงแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ แผ่นกรองอากาศแบบออลอินวัน ที่เป็นทรงกระบอก

สำหรับการดูแลรักษามันก็เพียงแค่นำมันเอามาปัดฝุ่น หรือใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเฉพาะผิวภายนอกของแผ่นกรองอากาศฯ เท่านั้น ห้ามนำไปล้างน้ำโดยเด็ดขาด มิเช่นนั้น แผ่นกรองอากาศฯ จะเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร โดย อายุการใช้งานของมันจะอยู่ที่ประมาณ 1 ปีเท่านั้น (บวก/ลบ ประมาณ 2 เดือน)

5. ราคาอะไหล่ของเครื่องฟอกอากาศ เครื่องนี้มีอะไรบ้าง ?

6. ตัวเครื่องมีการรับประกันยาวนานแค่ไหน ?

อุปกรณ์จากค่าย Mister Robot นั้นจะมีการรับประกันในส่วนของอุปกรณ์ภายในตัวเครื่องเป็นระยะเวลา 1 ปี (เงื่อนไขการรับประกันสินค้าทั้งหมดบอกอยู่ใน บัตรรับประกันสินค้า (Warranty Card) ทั้งหมดแล้ว และต้องแสดงบัตรฯ ทุกครั้งเมื่อนำเครื่องเข้ารับบริการ) หลังจากหมดช่วงระยะประกันแล้วสามารถสั่งซื้ออุปกรณ์อะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆ ได้ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของผู้จัดจำหน่ายได้เลย

โดยลูกค้าที่สั่งซื้อไปใช้งานแล้ว ถ้าหากเครื่องมีปัญหา ก็สามารถติดต่อแผนกบริการหลังการขาย (After Service Support Team) ได้โดยตรงเลยที่

• Hotline (สายด่วน) : 06-3269-9500
• LINE ID (ไลน์ไอดี) : servicemisterrobot

หมายเหตุ : เมื่อแกะกล่องใช้งานแล้ว อย่าลืมกรอกข้อมูลส่วนตัวลงในบัตรรับประกันสินค้าเสียก่อน แล้วเก็บเอาไว้กับตัว (แนะนำให้เก็บไว้ในกล่องผลิตภัณฑ์เหมือนเดิม) เผื่อกรณีเครื่องมีปัญหา จะได้นำมาเป็นหลักฐานอ้างอิงได้

7. สั่งซื้อเครื่องฟอกอากาศ รุ่น LUXURY เครื่องนี้ได้ที่ไหน ?

• Telephone No (เบอร์โทรศัพท์) : 08-7087-5352
• Website (เว็บไซต์) : http://www.misterrobotcleaner.com
• Line ID (ไลน์ไอดี) : @mister_robot
• Facebook Page (เพจเฟสบุ๊ค) : misterrobotcleaner (มิสเตอร์โรบอทคลีนเนอร์) ตามกรอบด้านล่าง

บทสรุปการใช้งาน ข้อดี ข้อเสีย ของเครื่องฟอกอากาศ Mister Robot Air Purifier LUXURY

ช่วงสุดท้ายของการรีวิวผลิตภัณฑ์ ตามธรรมเนียมปฏิบัติ คือจะเป็นการสรุปข้อดี ข้อเสีย ของผลิตภัณฑ์ สำหรับเครื่องฟอกอากาศเครื่องนี้จะเป็นอย่างไรกันบ้าง มาดูกันเลย

ข้อดี 🙂

• แม้ตัวเครื่องจะมีขนาดใหญ่ แต่ก็ยังมีดีไซน์เรียบง่าย ดูทันสมัย
• สามารถสั่งงานผ่านแอปพลิเคชันได้
• แผงควบคุมสามารถใช้มือปัดได้ แทนการใช้ปุ่มกด ก็ดูแปลกตาดี
• มีระดับความแรงของพัดลมดูดอากาศให้เลือกมากสูงสุดถึง 24 ระดับ ปรับกันได้ชนิดที่เรียกว่า “เอาที่สบายใจ” เลย ถือว่ามากที่สุดตั้งแต่ที่เคยรีวิวมา
• มีล้อเลื่อนรับน้ำหนักครบทั้ง 4 ด้าน ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ในชั้นเดียวกันนะ (ถ้าชั้นอื่นก็ต้องออกแรงยกกันหน่อย)
• มีระบบตรวจสอบการใส่แผ่นกรองอากาศว่าใส่ไปแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่ใส่เครื่องจะไม่สามารถทำงานได้เลย ไม่ว่าจะด้วยกรณีใดๆ
• การทดสอบอัตราการกินไฟของเครื่อง ในส่วนของกำลังไฟฟ้าพบว่าค่าที่ทดสอบได้จริง “ต่ำกว่า” ตามสเปคที่ระบุเอาไว้ประมาณ 4-5 วัตต์ ถือเป็นเรื่องดี เพราะกินไฟน้อยกว่าที่คาดเอาไว้
• ขณะเสียบปลั๊กทิ้งเอาไว้ โดยไม่ได้เปิดเครื่อง ไม่มีการกินไฟเลย

ข้อเสีย 🙁

• เครื่องมีขนาดค่อนข้างใหญ่ (น้ำหนักเครื่อง 11 กิโลกรัม) ถ้าต้องยก ก็อาจจะลำบากนิดนึง น่าจะมีช่องหูหิ้วมาให้
• สายไฟที่ให้มาค่อนข้างสั้น (ความยาวเพียง 1.8 เมตร) ทำให้ต้องวางใกล้กับปลั๊กไฟเท่านั้น

จุดสังเกตในส่วนของการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน

• การใช้งานแอปพลิเคชัน กับตัวเครื่องฟอกอากาศ มีความเสถียรค่อนข้างสูงมาก กดปุ๊บตอบสนองปั๊บทันที
• การปรับระดับความแรงของพัดลมดูดอากาศบนแอปพลิเคชัน ไม่สามารถหมุนตรงวงแหวนระบบสัมผัสสำหรับปรับความแรงของพัดลมดูดอากาศได้ แต่เป็นเมนูให้กดเลือกแทน ถ้าหมุนวงแหวนฯ แบบตรงแผงควบคุมได้จะเจ๋งมากๆ