Samsung POWERbot VR7000 Review

รีวิวฉบับนี้เป็นรีวิว หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR7000 อีกหนึ่งหุ่นยนต์ดูดฝุ่นสุดฮอต จากแดนกิมจิ ที่มีคนถามไถ่กัน เข้ามาตั้งแต่ก่อนรีวิว ในหลายช่องทาง ทั้งจากทาง อีเมล ยูทูป เฟสบุ๊คแชท ฯลฯ เป็นจำนวนมาก ว่า “พี่ครับ/อาจารย์ครับ ได้ทำรีวิว Samsung POWERbot VR7000” นี้แล้วหรือยัง ? เรียกได้ว่ามากจนต้องไปหามารีวิวให้ได้ และ สุดท้ายก็ได้รีวิวจนได้ (ขอขอบคุณทาง Samsung ประเทศไทย ที่ให้โอกาสนำเครื่องมารีวิว ณ จุดนี้ด้วยครับ)

โดยหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ได้มานั้น เป็นรุ่น POWEbot VR7000 รหัสรุ่นคือ VR20M7070WS ซึ่งจัดเป็น POWERbot ตระกูลเล็ก หรือที่เรียกว่า “POWERbot Slim” นั่นเอง

ก่อนหน้านี้หากใครที่ติดตาม หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung จากเว็บไซต์ Thanop.com มาแล้วจะพบว่า ก่อนหน้านี้ ได้เคยได้รีวิวตัว POWERbot ซีรีย์ 9xxx นั่นก็คือ VR9000 และ VR9300 กันมาแล้ว ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้เป็นรุ่นใหญ่สุด ทั้งตัวเครื่องที่ใหญ่ และความสามารถก็เพียบ จนแทบจะเขียนออกมาไม่หมด

พอมา Samsung POWERbot VR7000 ด้วยคอมมอนเซนส์ ของเราๆ ก็จะต้องเข้าใจว่า มันคงเป็นรุ่นล่าง รุ่นรองแน่ๆ (เพราะเลข VR7000 มันน้อยกว่า VR9xxx) แต่พอมาได้สัมผัสจริงๆ ขอบอกว่าไม่ใช่เลย จริงๆ แล้ว VR7000 มันคือรุ่นที่ความสามารถบอกได้เลยว่า “เพียบ !” แต่ที่แตกต่างคือมันมี “ขนาดเครื่องที่เล็กกว่า” และ “ราคาที่ถูกกว่า” นั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในทางเทคนิค ทั้ง 2 ซีรีย์ ก็ยังคงมีความสามารถที่แตกต่างกันอยู่หน่อยๆ (คือ VR9xxx ดีกว่า VR7000 อยู่หน่อยๆ) อาทิ พลังการดูด ความยาวของแปรงกวาดหลัก ฯลฯ ถ้าใครรับตรงนี้ได้ เชิญอ่านต่อได้เลย

และเพื่อเป็นการประหยัดเวลาสำหรับผู้ที่ต้องการจะเรียนรู้ หาข้อมูล เฉพาะบางหัวข้อ คุณสามารถกดลิงค์ที่เมนูลัดด้านล่างนี้ เพื่อข้ามไปยังหัวข้อหลักต่างๆ ที่ต้องการจะอ่านได้เลยทันที

1. รู้จักกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung กันก่อน
2. แกะกล่องผลิตภัณฑ์ Samsung POWERbot VR7000
3. อุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่องผลิตภัณฑ์
4. ข้อมูลจำเพาะ ข้อมูลทางเทคนิค ของเครื่อง
5. คุณสมบัติ และ ความสามารถของตัวเครื่อง
6. สำรวจรอบๆ ตัวเครื่อง
7. เปิดใช้งานเครื่อง
8. คุณสมบัติ ของตัวแอพพลิเคชั่น Samsung Smart Home กับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น
9. คำถามที่คุณต้องอยากรู้ (FAQs) เกี่ยวกับการใช้งาน
10. เทียบความสามารถ ระหว่าง Samsung POWERbot VR7000 กับซีรีย์ VR9xxx
11. บทสรุปหลังการใช้งาน

ด้านล่างนี้เป็นคลิปวีดีโอรีวิว Samsung POWERbot VR7000 อย่างละเอียด ทุกส่วน หากดูแล้วต้องการข้อมูลเพิ่มเติมส่วนไหน อ่านบทความนี้ต่อได้เลย

รู้จักกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung กันก่อน

คุณสามารถทำความรู้จักกับ ที่มาที่ไปของ หุ่นยนต์ทำความสะอาด Samsung ให้มากกว่านี้ พร้อมรายละเอียดติดต่อสั่งซื้อ รวมไปถึง ศูนย์บริการ ฯลฯ ได้ที่ลิงค์เชื่อมต่อไปยังหน้ารายละเอียดด้านล่างนี้เลย

⇒ ทำความรู้จักกับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung

แกะกล่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR7000

ช่วงแกะกล่องผลิตภัณฑ์ นั้นบรรยากาศภายนอก ก็เหมือนสินค้าของ Samsung ทั่วๆ ไป คือเน้นโทนสีน้ำเงิน และ สีขาว สีประจำชาติ เอ้ย ประจำยี่ห้อของ Samsung เขานั่นเอง

ด้านนอกกล่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR7000

กล่องผลิตภัณฑ์หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR7000 ตัวนี้ ก็ยังคงรักษาความเรียบง่าย เหมือน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung รุ่นอื่นๆ ไว้เฉกเช่นเคย มาดูกันเลย

ด้านหน้ากล่อง : รูปแบบ คล้ายกับตัวเก่าๆ มาก คือมีโลโก้ Samsung รวมไปถึง รูปตัวเครื่องใหญ่ๆ ตรงกลาง พร้อมโลโก้ iOS App Store และ Google Play Store เพื่อยืนยันการสั่งงานผ่านเครือข่าย Wi-Fi จาก แอพพลิเคชั่น ได้ทั้ง 2 ค่ายยักษ์ใหญ่

ด้านหลังกล่อง : มีโลโก้ Samsung เช่นเคย อยู่ตำแหน่งเดียวกับด้านหน้า พร้อมมุมมองตัวเครื่องจากด้านบน (Top View) และ ความสามารถเด่น 5 จุด ที่ต้องการนำเสนอ (อ่าน คุณสมบัติ และ ความสามารถ Samsung POWERbot VR7000 เพิ่มเติม)

1. 40x More Suction Power & Slim Design
2. FullView Sensor™ 2.0
3. Edge Clean Master*
4. Self-Cleaning Brush*
5. CycloneForce

*หมายเหตุ : ความสามารถที่เพิ่มเติมเข้ามาจาก Samsung POWERbot ซีรีย์ 9xxx

อุปกรณ์ในกล่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR7000

เมื่อเปิดฝากล่องออกมาแล้ว ก็จะพบกับตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น พร้อมด้วยอุปกรณ์เสริม ถูกบรรจุเอาไว้อยู่ข้างใน ถุงลมกันกระแทก (Air Cushion Packaging) แทนการบรรจุผลิตภัณฑ์ในโฟม หรือ พลาสติกขึ้นรูป แบบนี้ถือว่า ป้องกันการกระแทก และ ความเสียหายขณะขนส่ง ขนย้ายเครื่อง ได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของอุปกรณ์เสริม ที่ทาง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR7000 ให้มาในกล่องนั้น ก็ถือว่ามีความสมบูรณ์ครบถ้วนดีที่ดี แต่ก็มีบางส่วนที่แตกต่างกันออกไปบ้างจากรุ่นพี่ของมันในซีรีย์ 9xxx โดยรูปด้านล่างเป็นอุปกรณ์ทั้งหมด ที่ให้มาในกล่อง มาดูกันตามหมายเลขที่กำกับไว้เลย

1. Samsung POWERbot VR7000 (เครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น x 1 เครื่อง)

ตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR7000 สีดำ ขนาดมิติ 348 x 340 x 97 มิลลิเมตร และ น้ำหนัก 4.3 กิโลกรัม ถามว่าขนาดใหญ่มั้ย ? คำตอบคือ “ก็ยังถือใหญ่อยู่” แต่ก็เล็กกว่าซีรีย์ 9xxx อยู่ โดยมีการลดขนาดแปรงกวาดหลักให้สั้นลง และ กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ให้มีขนาดเล็กลง

2. Docking Station (แท่นชาร์จ x 1 ชุด)

ยี่ห้อ Samsung นี้ เขาเรียก แท่นชาร์จ เป็นภาษาอังกฤษว่า “Docking Station” (ส่วนใหญ่ ยี่ห้ออื่นเรียกว่า “Charge Base”) เปรียบเสมือนบ้านของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่เวลามันทำงานเสร็จเมื่อไหร่ จะต้องวิ่งกลับมาอยู่ที่บ้านของมันโดยอัตโนมัติ เพื่อชาร์จไฟลงแบตเตอรี่ให้เต็มความจุ และพร้อมสำหรับการใช้งานในครั้งต่อไป

3. Charger หรือ Adapter Set (ชุดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ x 1 ชุด)

ชุดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ หรือ “Adapter Set” ลักษณะจะเหมือนกับ อะแดปเตอร์โน๊ตบุ๊ค จุดประสงค์ของมันคือ ใช้แปลงไฟจากไฟบ้านกระแสสลับ (AC Power) ให้เป็น ไฟฟ้ากระแสตรง (DC Power) เพื่อจ่ายไฟใช้ภายในเครื่องนั่นเอง

4. Power Cord (สายไฟต่อพ่วง x 1 เส้น)

สายไฟต่อพ่วง เอาไว้เชื่อมต่อกับ ชุดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ ความยาวประมาณ 160 เซนติเมตร (1.60 เมตร) โดยต่อเข้าไปยังด้านหลังของแท่นชาร์จ สามารถถอดออกจาก ชุดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ ได้อย่างอิสระ

5. User Manual & Warranty Card (คู่มือการใช้งาน x 1 เล่ม และ บัตรรับประกัน x 1 แผ่น)

หนังคู่มือการใช้งานแบบ 3 ภาษาในเล่มเดียวกัน มีทั้ง ภาษาอังกฤษ (English) ภาษาไทย (Thai) และ ภาษาเวียดนาม (Vietnamese) โดยมีภาษาละ 40 หน้า (รวมทั้งเล่ม 120 หน้า) ภายในมีการ แนะนำชิ้นส่วนต่างๆ ของอุปกรณ์ วิธีการใช้งาน ติดตั้ง เชื่อมต่อ Wi-Fi กับตัวเครื่อง และ สมาร์ทโฟน รวมไปถึงวิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นของตัวเครื่อง อย่างละเอียด นอกจากนี้ยังมี บัตรรับประกันสินค้า มาให้อีกด้วย

6. Boundary Markers (เครื่องหมายขอบเขต x 1 เส้น)

ตัว Samsung POWERbot VR7000 ตัวนี้ มีให้อุปกรณ์สร้างกำแพงจำลอง (Virtual Wall) มาด้วย แต่ให้มาในอีกรูปแบบนึง ไม่ได้ให้มาในรูปแบบของกล่องใส่ถ่านแบตเตอรี่แล้วยิงแสงอินฟราเรด แต่ให้มาในรูปแบบของ แถบเครื่องหมายขอบเขต หรือ “Boundary Markers”

โดย แถบเครื่องหมายขอบเขต ตัวนี้จะมีลักษณะเหมือนกับเทปมาแปะวางไว้บนพื้นแทน (วางไว้หน้าพื้นที่ ที่ไม่ต้องการให้เครื่องวิ่งผ่านเข้าไปดูดทำความสะอาด) มีข้อดีคือ ไม่ต้องใส่ถ่านแบตเตอรี่ (ประหยัดเงินค่าถ่าน) ขณะที่ข้อเสียคือ แถบเทปตัวนี้ต้องวางระเกะระกะบนพื้น นั่นเอง

7. Spare Filter (แผ่นกรองอากาศสำรอง x 1 แผ่น)

แผ่นกรองอากาศสำรอง* เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมขอบแดง มีหน้าที่เอาไว้ในการกรองอากาศที่ถูกดูดเข้ามาในเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมเศษฝุ่นละออง เศษผม เศษขน ต่างๆ แล้วจะถูกปล่อยพ่นกลับออกมาข้างนอกเครื่อง โดยก่อนที่อากาศจะถูกปล่อยออกมาในบรรยากาศอีกครั้งนั้น จำเป็นที่จะต้องมีการกรองอากาศให้สะอาดก่อน

*หมายเหตุ : แผ่นกรองอากาศสำรอง ให้มา 1 แผ่น ขณะที่มี แผ่นกรองอากาศตัวจริงติดตั้งมาอยู่ภายในเครื่องแล้วอีก 1 แผ่น (รวมทั้งสิ้น 2 แผ่น)

8. Remote Control and AAA Battery (รีโมทคอนโทรล x 1 ชุด และ ถ่านแบตเตอรี่ขนาด AAA x 2 ก้อน)

อุปกรณ์ควบคุมเครื่องระยะไกล หรือ รีโมทคอนโทรล ทรงเม็ดก๋วยจี๊ ตัวนี้ใช้ ถ่านแบตเตอรี่ขนาด AAA จำนวน 2 ก้อน (ให้แถมมาในกล่องผลิตภัณฑ์ด้วย) เป็นอุปกรณ์ที่ ให้คุณได้สั่งงานเครื่องให้เริ่ม หยุด หรือ หยุดชั่วคราว พร้อมตั้งค่าต่างๆ รวมไปถึงเปิดปิดเสียงแจ้งเตือนต่างๆ ของตัวเครื่องได้ตามต้องการ

ข้อมูลจำเพาะ ของ Samsung POWERbot VR7000

คุณสมบัติ และ ความสามารถ ของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR7000

มาดูรายการความสามารถ พร้อมคำอธิบาย ของเครื่องนี้กันดูบ้าง ว่ามีจุดไหนที่น่าสนใจกันบ้าง โดยรวมๆ แล้วจัดอัดแน่น จัดเต็มอยู่เหมือนเดิม

1. 28% Slimmer than VR9xxx Series

จุดเด่นจุดแรก ของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR7000 ตัวนี้คือ ขนาดของตัวเครื่องที่เล็กกว่า ซีรีย์ 9xxx อยู่กว่า 28% แต่ความสามารถหลักๆ ยังอยู่เพียบ นี่คือจุดที่ประทับใจมากๆ อีกจุดนึง

2. 40x More Powerful Suction*

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR7000 มีพลังดูดฝุ่น 20 วัตต์ ซึ่งในระดับนี้ จัดว่ามีพลังดูดสูงกว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั่วๆ ไปที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาด มากกว่า 40 เท่า (40x) จากการทดสอบในแลป ของทาง Samsung เอง

แต่ทว่า พลังดูด 20 วัตต์ นี้ก็ยังจัดว่า น้อยกว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300 รุ่นพี่จากค่ายเดียวกัน ที่มีพลังการดูดมากถึง 40 วัตต์ ก็ถือว่าน้อยกว่าอยู่ 2 เท่าเต็มๆ

3. CycloneForce Technology

เทคโนโลยี CycloneForce* เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีเฉพาะของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung ที่ผสมผสานการดูดฝุ่น ด้วยแปรงกวาดหลัก รวมไปถึง พัดลมดูดฝุ่นพลังสูง ที่จะดูดฝุ่นทั้งขนาดเล็ก และ ใหญ่ เข้ามาเก็บไว้ในกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ที่อยู่ภายในเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในลักษณะลมหมุน (แบบพายุไซโคลน) เพื่อแยกขนาดของฝุ่นเล็กใหญ่ออกจากกัน ลดโอกาสการอุดตันของระบบการดูดฝุ่นภายในเครื่อง

หมายเหตุ* : CycloneForce เป็นเทคโนโลยี ที่ถูกบรรจุเข้ามาในหลายๆ รุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซีรีย์ 9xxx โดยในรุ่น VR7000 นี้ แม้จะเป็นรุ่นที่เล็กกว่า ถูกกว่า ทาง Samsung ก็ยังพกติดม้ายติดมือมาให้ด้วยเช่นกัน

4. FullView Sensor™ 2.0 และ Visionary Mapping+™

เทคโนโลยี “FullView Sensor™ 2.0 และ Visionary Mapping+™” เป็นการผสมผสาน การทำงานรวมกับ กล้องสร้างแผนที่จำลอง ที่ถูกติดตั้งอยู่เด่นเป็นสง่าบนตัวเครื่อง พร้อมกับ เซ็นเซอร์รอบๆ ตัว ที่จะสามารถสร้างแผนที่จำลอง เพื่อทำความสะอาดภายในพื้นที่ห้องของคุณได้อย่างแม่นยำ แม้จะมีสิ่งกีดขวาง ข้าวของเครื่องใช้ภายในพื้นที่อยู่มากมายเพียงใดก็ตาม ทั้งยังช่วยจดจำพื้นที่ว่าส่วนไหนทำความสะอาดไปแล้ว ส่วนไหนยังไม่ได้ทำ เพื่อเป็นการประหยัดเวลา และ แบตเตอรี่ของตัวเครื่องไปในตัวอีกด้วยเช่นกัน

5. Wide Brush

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้มีขนาดแปรงกวาดหลัก ที่กว้างกว่า 29 เซนติเมตร (290 มิลลิเมตร) แม้จะสั้นกว่าตัวซีรีย์ 9xxx อยู่ประมาณ 2.1 เซนติเมตร แต่โดยรวมๆ แล้วก็ยังกว้างกว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่นยี่ห้ออื่นๆ กว่า 42% จึงทำให้การดูดฝุ่นต่างๆ บนพื้น ครอบคลุม และ หมดจด จริงๆ

6. EasyPass™ Wheels

ระบบล้อขับเคลื่อนหลัก แบบ “Easy Pass™” สามารถให้ตัวเครื่อง Samsung POWERbot VR7000 วิ่งทำความสะอาด ผ่านพื้นที่ต่างระดับ (Different Level Area) ธรณีประตู (Doorsill) หรือ วงกบประตู (Door Frame) ได้สูงถึง 1.5 เซนติเมตร (15 มิลลิเมตร) ด้วยโช้คอัพสปริง ในล้อขับเคลื่อนหลัก ทั้ง 2 แถมตัวล้อขับเคลื่อนหลักของมัน ยังมีขนาดใหญ่ มาพร้อมกับดอกยาง ที่สามารถทำให้ตัวเครื่องยึดเกาะพื้นผิวของห้อง ไม่ว่าจะเป็นทั้ง พื้นกระเบื้อง พื้นไม้ พื้นพรม ได้เป็นอย่างดี

7. Point Cleaning™

ฟังก์ชั่น “ชี้จุดทำความสะอาด” หรือ “Point Cleaning™” ถ้าเรียกภาษาชาวบ้านเรียกคือ “ระบบชี้นิ้วสั่ง” เป็น ระบบสิทธิบัตรเครื่องหมายการค้าเฉพาะ ของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung เท่านั้น

โดย Point Cleaning เป็นระบบที่ให้คุณได้สามารถสั่งงาน เพื่อให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่น วิ่งไปดูดฝุ่นยังพื้นที่ ที่ต้องการได้ง่ายๆ โดยการกดที่ “ปุ่ม Point Cleaning” บนรีโมทคอนโทรล เมื่อกดแล้ว มันจะมีแสงออกมาจากรีโมทฯ เป็น “วงกลมสีแดง และมีสี่เหลี่ยมตรงกลาง” เพื่อชี้จุดลงไปยังพื้นที่ ที่ต้องการให้มันไปดูดฝุ่น ทำความสะอาดนั่นเอง

8. Wi-Fi Connectivity

ความสามารถ “Wi-Fi Connectivity” เป็นความสามารถในการสั่งงาน ผ่านแอพพลิเคชั่น Samsung Smart Home หรือ SmartThings Mobile ได้ แต่มีข้อจำกัดหลักๆ นิดนึงคือ ทั้ง 2 แอพฯ นี้ จะใช้ได้กับมือถือ Android ที่เป็นของ Samsung ในซีรีย์ Galaxy S และ Galaxy Note เท่านั้น ส่วนสาวกแอปเปิล ที่ใช้ iPhone iPad ยังรองรับกับเวอร์ชั่น iOS7 หรือสูงกว่าได้เช่นกัน

Edge Clean Master

ความสามารถ “Edge Clean Master” เป็นความสามารถ การทำความสะอาดขอบกำแพงได้ดีเยี่ยม ด้วยความที่ตัวเครื่อง Samsung POWERbot VR7000 ด้านหน้าเป็น หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทรงเหลี่ยม (Squared Shape Robot Vacuum) ทำให้สามารถเข้าดูดฝุ่นตามมุมห้อง ที่เป็นมุมฉาก 90 องศา และ ขอบกำแพง หรือ เฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านของเรา ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้แล้วยังมีขอบยางที่อยู่ด้านข้าง เพื่อกวาดฝุ่นที่อยู่ข้างกำแพง ขอบมุมต่างๆ ให้เข้าไปในรัศมีของแปรงกวาดหลัก ได้อีกด้วย

Auto Shutter Tool

มีระบบชัตเตอร์อัตโนมัติ หรือ “Auto Shutter” จะเป็นแถบยางสีแดงเพื่อใช้กวาดเศษฝุ่นขนาดเล็กถึงเล็กมากๆ ถูกติดตั้งอยู่ด้านหน้าสุดของตัวเครื่อง โดยมันสามารถที่จะ โผล่ออกมา หรือ หุบกลับเข้าไป ได้เองอัตโนมัติในขณะที่เครื่องกำลังทำงาน

จากที่สังเกต ส่วนมากแล้ว แถบยางสีแดงของชัตเตอร์อัตโนมัติ ตัวนี้ จะโผล่ออกมากวาดในจุดที่เป็นขอบมุมต่างๆ ของห้อง และ หุบกลับเข้าไปเก็บเหมือนเดิม เรียกได้ว่า ทำให้ลืมแปรงกวาดข้าง (Side Brush) ที่มีอยู่ในหุ่นยนต์ดูดฝุ่นส่วนใหญ่ ไปได้เลย ถือเป็นอีกหนึ่งความสามารถที่สุดเจ๋ง ของ Samsung POWERbot VR7000 (ซีรีย์ VR9xxx ก็ไม่มี)

Self-Cleaning Brush

ความสามารถการ ทำความสะอาดแปรงกวาดหลักเอง หรือ “Self-Cleaning Brush” ที่สามารถนำเอาเส้นผม ขนสัตว์ หรือแม้แต่ เส้นด้าย หนังสติ๊ก ต่างๆ ออกจากแปรงกวาดหลักโดยอัตโนมัติ โดยไม่ไปติดพันอยู่ที่แปรง อันเป็นสาเหตุในการลดประสิทธิภาพการทำงานของตัวเครื่อง

และจากการสังเกตตรง แปรงกวาดหลักของรุ่นนี้พบว่า มันเป็นแปรงยางแบบเกลียว ที่ตรงแถบยางทั้ง 4 ครีบ จะมีรอยหยักแบบฟันปลาขนาดเล็ก ถี่ๆ อยู่บนตัวแปรงกวาดหลัก และนอกจากนี้ยังมี ใบมีดโค้งขนาดเล็ก อยู่ที่หลังฝาครอบแปรงกวาดหลัก ทั้งหมด 5 จุด ช่วยทั้ง ตัด หั่น เส้นผม ขนสัตว์ ให้มีขนาดสั้นลง

โดย 2 จุดนี้จะเป็นจุดที่ช่วยทำให้เส้นผม หรือ เส้นด้าย ต่างๆ ไม่เข้าไปติดพันกับตัวแปรงนั่นเอง (ตัว POWERbot VR9000 และ VR9300 ที่เคยรีวิวมา ไม่มีความสามารถตรงจุดนี้)

Intelligent Power Control

ระบบปรับพลังการดูดสุดฉลาด หรือ “Intelligent Power Control” เป็น ระบบตรวจสอบประเภทของพื้นผิวอัตโนมัติ (Automatic Surface Type Detection) ไม่ว่าจะเป็น พื้นไม้ พื้นกระเบื้อง หรือแม้แต่ พื้นพรม โดยจะนำข้อมูลที่ได้มาทั้งหมด ไปประมวลผล เพื่อปรับระดับความแรงของการดูดฝุ่นให้เหมาะสมกับพื้นผิวที่กำลังดูดอยู่

ยกตัวอย่างเช่นหากเป็นพื้นพรม มอเตอร์ของพัดลมดูดฝุ่นจะทำงานหนักมากขึ้น เพื่อสร้างพลังการดูดฝุ่น ในการดูดฝุ่นที่สะสมอยู่ในพื้นผิวของพรม นั่นเอง

Voice Command via Amazon Echo

เราอาจจะเห็น หุ่นยนต์ดูดฝุ่นหลายๆ ยี่ห้อ มีความสามารถในการรายงานสถานะ ต่างๆ ด้วยเสียง (Voice Report) แต่ว่า Samsung POWERbot VR7000 ตัวนี้ มีความสามารถสั่งงาน ให้เครื่อง เริ่มทำงาน (Start) หรือ หยุดทำงาน (Stop) ได้ด้วยเสียง (Voice Command) ผ่าน อุปกรณ์ควบคุมบ้านอัจฉริยะ อย่าง Amazon Echo*

หมายเหตุ* : ถ้าไม่มีอุปกรณ์ชิ้นนี้ ยังไม่สามารถสั่งงานด้วยเสียงผ่านเครื่องได้โดยตรง

สำรวจรอบๆ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR7000

มาสำรวจเครื่องกัน ในแต่ละมุมมอง ทั้งด้านบน ด้านล่าง ด้านข้าง กันดูบ้าง ว่ามีจุดไหน ที่น่าสนใจอย่างไรกันบ้าง มาเริ่มกันเลย

ด้านบนของตัวเครื่อง (Top View)

ด้านบนมีส่วนประกอบหลักๆ ที่สำคัญคือ กล้องสร้างแผนที่จำลอง ที่ถูกฝังอยู่ด้านในแผ่นกระจกใส พร้อมกับกล่องใส่ขยะฝุ่นละอองพลาสติกทรงใส ขนาด 0.3 ลิตร แถมยังสามารถมองเข้าไปเห็นช่องลมกลมๆ ของ เทคโนโลยี CycloneForce ได้อย่างชัดเจน ขณะที่ส่วนอื่นๆ ดูจากรูปประกอบด้านล่างนี้ได้เลย

(จากหมายเลขที่กำกับในรูปทั้ง 2 ด้านบน คือ ส่วนประกอบเดียวกัน เพียงแต่ให้ดูกันคนละมุมมอง – สามารถกดที่ภาพ เพื่อขยายดูได้)

1. Front Bumper & Sensor (กันชนหน้า และ เซ็นเซอร์กันชน) : กันชนหน้าเครื่องนี้ ถูกแยกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนด้านบน กับ ด้านล่าง ใช้ดูดซับแรงกระแทกระหว่างตัวเครื่องกับวัตถุ และยังมี เซ็นเซอร์ตรวจจับการปะทะกับ ขอบกำแพง ขอบเฟอร์นิเจอร์ ในระยะประชิด เพื่อให้เข้าตามขอบ ซอก มุม ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. Obstacle Sensor (เซ็นเซอร์สิ่งกีดขวาง) : ป้องกันการชนกับสิ่งกีดขวาง ที่อยู่บนพื้น ทำให้การหลบหลีก เพื่อเลี่ยงการปะทะกับวัตถุแปลกปลอมต่างๆ (ที่ไม่ใช่ขอบกำแพง) ที่อยู่บนพื้น เพื่อให้เครื่องได้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. Visionary Mapping Plus Camera (กล้องสร้างแผนที่จำลอง) : กล้องประสิทธิภาพสูง เอาไว้ ใช้สร้างแผนที่จำลอง (Simulated Map) จากเทคโนโลยี Visionary Mapping™ Plus System โดยกล้องจะถูกติดตั้งในลักษณะยิงขึ้นเพดาน เพื่อทำการถ่ายภาพบนเพดานของพื้นที่ทำความสะอาด ในแต่ละห้อง ได้อย่างละเอียด เพื่อจดจำพื้นที่ที่วิ่งเข้าไปแล้ว หรือ ยังไม่ได้เข้าไป ให้การทำงานเป็นไปด้วยความแม่นยำ มากที่สุด
4. Dustbin (กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง) : พื้นที่เก็บ กล่องใส่ขยะฝุ่นละอองทรงเหลี่ยม ขนาดความจุ 0.3 ลิตร ถอดไปล้างทำความสะอาดได้ง่าย
5. Dustbin Button (ปุ่มนำกล่องใส่ขยะฝุ่นละอองออกจากเครื่อง) : หากต้องการนำเอา กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ออกจากตัวเครื่องเพื่อไปทำความสะอาด สามารถกดที่ “ปุ่ม PUSH” ได้เลย เมื่อกดแล้ว กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ก็จะกระเด้งขึ้นมา
6. Display & Control Panel (แผงจอแสดงผล และ แผงควบคุมการทำงาน) : แผงแสดงผลสถานะ ค่าต่างๆ ของตัวเครื่อง Samsung POWERbot VR7000 ตัวนี้ โดยด้านล่าง ก็จะเป็นแผงควบคุมการทำงานของเครื่อง ที่มีปุ่มอยู่เพียงแค่ 3 ปุ่มด้วยกัน (เรียงจากซ้ายไปขวา) ได้แก่
   1. Spot Cleaning Button : ปุ่มเปิดโหมดการทำความสะอาดเฉพาะจุด ในรัศมี 1.5 เมตร
   2. Start and Stop Button / Turbo Mode : ปุ่มสั่งให้เครื่องเริ่มทำงาน หรือ หยุดทำงาน / และ ปุ่มเปิดโหมดการดูดแบบเทอร์โบ – ต้องกดปุ่มนี้ค้างเอาไว้ 3 วินาที
   3. Recharging Button : ปุ่มสั่งให้เครื่องวิ่งกลับไปยังแท่นชาร์จ
7. Remote Control Signal Receiver (จุดรับสัญญาณรีโมทคอนโทรล) : ใช้สื่อสารกันระหว่าง อุปกรณ์ควบคุมเครื่องระยะไกล หรือ รีโมทคอนโทรล กับ ตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ซึ่งมันมีข้อดีอีกจุดนึงคือ เวลาใช้งาน ไม่ต้องชี้รีโมทคอนโทรล ตรงมายังตัวเครื่องก็ได้

รูปภาพส่วนประกอบด้านบน (Top Components)

ด้านล่างของตัวเครื่อง (Bottom or Underside View)

แว๊บแรก ที่มองผ่านๆ ส่วนประกอบด้านล่างของตัวเครื่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR7000 ตัวนี้ก็ดูปกติ เหมือนๆ กับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวอื่นๆ ที่เคยรีวิวมาเป็นสิบๆ ตัว แต่ถ้าตั้งใจดูดีๆ แล้ว มีอยู่จุดนึงที่ไม่เหมือนใครเลยคือ จุดสัมผัสแท่นชาร์จ ลองสังเกตจากรูปด้านล่างดูจะเห็นว่า จุดสัมผัสแท่นชาร์จจะเขยิบถอยเข้าไปหลังชุดแปรงกวาดหลัก โดยมีสาเหตุคือ เพื่อให้แปรงกวาดหลัก เป็นจุดแรกที่สัมผัสกับฝุ่น และให้ระบบชัตเตอร์อัตโนมัติทำงานร่วมกับแปรงกวาดหลัก ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

1. Auto Shutter Tool (ชัตเตอร์อัตโนมัติ) : แถบยางสีแดง เรียกว่า ชัตเตอร์อัตโนมัติ ถูกติดตั้งอยู่ด้านหน้าสุดของตัวเครื่อง สามารถโผล่เข้าโผล่ออกได้เองอัตโนมัติ เมื่อเครื่องต้องการดูดฝุ่นให้ละเอียดมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามขอบกำแพง เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ
2. Main Brush (แปรงกวาดหลัก)* : แปรงขนาด ความยาว 29 เซนติเมตร (290 มิลลิเมตร) มีหน้าที่ตีฝุ่นขนาดเล็ก-ใหญ่ ที่อยู่บนพื้น เข้าไปเก็บไว้ใน กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ที่ในตัวเครื่อง
3. Main Brush Cover Button (ปุ่มเปิดฝาครอบแปรงกวาดหลัก) : ลักษณะจะเป็นสลัก 2 ตัวซ้ายขวา กดเลื่อนพร้อมกันเพื่อเปิดฝาครอบแปรงกวาดออกมา เพื่อ นำแปรงกวาดหลัก ออกมาทำความสะอาด
4. Charge Pins (จุดสัมผัสแท่นชาร์จ) : แผ่นโลหะสี่เหลี่ยมใช้ ถ่ายทอดพลังงานจากตัว แท่นชาร์จ ลงไปเก็บในแบตเตอรี่ที่อยู่ในตัวเครื่อง วางอยู่หลัง แปรงกวาดหลัก
5. Roller หรือ Caster Wheel (ล้อเลื่อนรับน้ำหนัก) : เป็นล้อขนาดเล็กมีหน้าที่ใช้เฉพาะรับน้ำหนักตัวเครื่อง ไม่ได้มีส่วนในการขับเคลื่อนแต่อย่างใด รุ่นนี้ยังคงให้ ล้อเลื่อนรับน้ำหนัก มาทั้งหมด 4 ล้อ (เหมือนตัวซีรีย์ 9xxx) รายละเอียด ตามด้านล่างนี้เลย
   1. ล้อที่หมุนรอบตัวได้ 360 องศา x 2 ล้อ : ตรงกลางเครื่อง และ ข้างหลังเครื่อง
   2. ล้อที่หมุนรอบตัวไม่ได้อีก x 2 ล้อ : อยู่ข้างหน้าเครื่อง 2 ล้อ ซ้าย-ขวา
6. Cliff Sensor (เซ็นเซอร์ป้องกันการตกบันได) : หรือ เซ็นเซอร์ป้องกันพื้นที่ต่างระดับ มีหน้าที่ป้องกันเครื่องวิ่งตกจากที่สูง หรือตกบันได มีทั้งหมด 3 ตำแหน่ง ข้างใต้ตัวเครื่องได้แก่
   1. ด้านหน้าสุดของตัวเครื่อง x 1 ชุด
   2. ด้านซ้าย และ ด้านขวา ของ หน้าล้อขับเคลื่อนหลัก ฝั่งละ 1 ชุด (ซ้าย-ขวา) x 2
7. Drive Wheel (ล้อขับเคลื่อนหลัก) : ล้อขับเคลื่อนหลัก มีอยู่ทั้งหมด 2 ล้อหลักๆ (ล้อซ้าย และ ล้อขวา) การทำงานของมันคือ หากต้องการเดินหน้าหรือถอยหลัง 2 ล้อนี้จะหมุนเดินหน้า ถอยหลัง ไปพร้อมๆ กัน แต่ถ้าหากต้องการจะเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ก็จะมีล้อใดล้อหนึ่งที่หยุดอยู่กับที่ และอีกล้อหมุน เพื่อปรับเปลี่ยนทิศทางการวิ่งนั่นเอง โดยขนาดหน้ากว้างของล้อขับเคลื่อนหลัก นี้จะมีหน้าสัมผ้สพื้นที่ไม่มาก เพื่อลดแรงเสียดทานระหว่างตัวเครื่องกับพื้นห้อง (ช่วยประหยัดแบตเตอรี่) และทำมาจากวัสดุยาง ซึ่งมีความเหนียว ยึดเกาะกับพื้นห้อง ทุกประเภท ได้เป็นอย่างดีเยี่ยม
8. Battery Cover (ฝาครอบแบตเตอรี่) : ฝาครอบพลาสติก ที่สามารถใช้ไขควงไขน๊อตเปิดออกมาได้เลย โดยข้างในเป็นแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน ความจุ 3,600 มิลลิแอมป์ (mAh.)
9. On/Off Switch (สวิตซ์เปิด/ปิด) : สวิตซ์ที่เอาไว้เชื่อมวงจร หรือ ตัดวงจรไฟฟ้า ระหว่างตัวเครื่อง กับ แบตเตอรี่ แหล่งเก็บไฟ ซึ่งหากคุณจะต้องไม่ใช่บริการ ใช้งานหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้เป็นระยะเวลานานๆ ก็ควรจะ ปิดสวิตซ์ ตรงจุดนี้ไว้ด้วย เพื่อเป็นการยืดอายุและถนอมแบตเตอรี่ ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น

*หมายเหตุ : ในหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300 เรียงแปรงกวาดหลักว่า “Pet Brush” แต่จริงแล้ว หน้าที่เหมือนกันคือ ตีฝุ่นจากบนพื้น เข้าไปเก็บไว้ในตัวเครื่อง

รูปภาพส่วนประกอบด้านล่าง (Underside Components)

รีโมทคอนโทรล (Remote Control)

รีโมทคอนโทรลทรงเหลี่ยม สำหรับรหัสรุ่น VR20M7070WS นั้น ในคู่มือการใช้งานจะเป็น แบบประเภท D (D Type) (ซีรีย์ VR7xxxx จะมีทั้งหมด 4 แบบ A B C D) โดยแบบ D นั้น จะเป็นแบบของรีโมทคอนโทรล ที่มีความสามารถมากที่สุด ในบรรดารีโมทคอนโทรลทั้ง 4 รูปแบบ

ในส่วนของการใช้งานก็ง่ายๆ เพียงแค่ใส่ถ่านแบตเตอรี่ขนาด AAA จำนวน 2 ก้อน (มีให้มาในกล่องผลิตภัณฑ์) ไปก็พร้อมใช้งานได้เลยทันที มาดูปุ่มกันเลย

1. Main Control Button (ปุ่มควบคุมเครื่องหลัก)
   1. Power Button (ปุ่มเปิดปิดเครื่องหลัก)
   2. Recharging Button (ปุ่มสั่งเครื่องให้กลับเข้าแท่นชาร์จ – ปุ่มรูปบ้าน)
   3. Start / Stop Button (ปุ่มสั่งเครื่องเริ่มดูดฝุ่น และ หยุดดูดฝุ่น)
2. Cleaning Modes (โหมดการทำความสะอาด)
   1. Auto Clean (โหมดทำความสะอาดอัตโนมัติ) (กด “ปุ่ม Play” ที่อยู่กลางรีโมทคอนโทรล)
   2. Spot Clean (โหมดทำความสะอาดเฉพาะจุด)
   3. Repeat Clean (โหมดทำความสะอาดซ้ำ)
3. Suction Power Button (ปุ่มปรับระดับความแรงการดูดฝุ่น 3 ระดับ)
   1. MAX Mode (โหมดดูดแรง : เสียงดัง) (ปุ่มขวาสุด)
   2. NORMAL Mode (โหมดดูดปกติ) (ปุ่มกลาง)
   3. QUIET Mode (โหมดดูดเบา : เสียงเงียบ) (ปุ่มซ้ายสุด)
4. Additional Function (ความสามารถเสริม)
   1. Sound (ปุ่มเปิดปิดเสียงแจ้งเตือนต่างๆ)
   2. Remote (ปุ่มเปิดปิดฟังก์ชั่นการใช้งาน Wi-Fi)
5. Manual Clean & Direction Control (ปุ่มสั่งงานดูดฝุ่น โหมดทำความสะอาดด้วยตนเอง)
   1. Move Forward (เดินหน้า)
   2. Turn Left (เลี้ยวซ้าย)
   3. Turn Right (เลี้ยวขวา)

   *หากต้องการให้เลี้ยวกลับ ให้ใช้การกดปุ่มเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เอง เพื่อหมุนเครื่องไปในทิศทางที่ต้องการ

แท่นชาร์จ (Docking Station หรือ Charge Base)

อุปกรณ์อีกชิ้นที่สำคัญไม่แพ้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น คือ “แท่นชาร์จ (Docking Station)” โดยสำหรับรุ่นนี้ มันมีความพิเศษกว่าชาวบ้านเล็กน้อยคือ ถ้าสังเกตดูดีๆ จะพบว่า ตรงฐานของแท่นชาร์จ มีขนาดค่อนข้างใหญ่ และ จุดสัมผัสแท่นชาร์จ ที่เป็นขั้วโลหะสีเงินๆ ทั้ง 2 ขั้น จะอยู่ลึกมาก ตอนแรกเห็นก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็พบว่า ที่เป็นแบบนี้เพราะว่า จุดสัมผัสแท่นชาร์จ ที่อยู่บนตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูกถอยร่นเข้าไปลึก เพราะพื้นที่ด้านหน้าเปิดทางให้กับ แปรงกวาดหลัก ให้ได้อยู่หน้าสุดของตัวเครื่องนั่นเอง

กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (Dustbin)

อุปกรณ์เก็บกักฝุ่นที่ถูกดูดเข้ามาจากบนพื้น หรือ “กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (Dustbin)” มีขนาดความจุของมันอยู่ที่ 0.3 ลิตร ถือว่าไม่ใหญ่มาก ภายในมีอุปกรณ์หลักๆ คือ ส่วนเก็บฝุ่น (Dustbin Case) ส่วนไซโคลน (Cyclone Unit) (ที่เป็นกลมๆ มีหัวครอบสีแดง) และ แผ่นกรองอากาศ (Filter)  สามารถถอดไปทำความสะอาดได้ง่ายมาก หรือจะ ใช้น้ำล้างก็ได้ (ยกเว้นแผ่นกรองอากาศ ที่ห้ามโดนน้ำ)

เปิดใช้งานจริง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR7000

เมื่อเปิดใช้งานจริง สิ่งที่จะต้องเตรียมเป็นอันดับแรกเลยก็คือ การเตรียมแท่นชาร์จ ชาร์จไฟลงเครื่อง และ การติดตั้งเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น กับตัวเครื่อง

1. ติดตั้งแท่นชาร์จ เตรียมพื้นที่รอบๆ ให้เรียบร้อย และ ชาร์จไฟให้เต็ม

เฉกเช่นเคย อันดับแรกให้ เสียบปลั๊กกับสายไฟต่อพ่วง เข้ากับ ชุดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ และ เข้าแท่นชาร์จ ให้เสร็จสรรพเรียบร้อย หลังจากนั้นหาตำแหน่งวางแท่นชาร์จ โดยมีรัศมีด้านหน้าต้องมีพื้นที่อย่างน้อย 1.0 เมตร ส่วนด้านล่างซ้าย-ขวา ฝั่งละ 0.5 เมตร

หลังจากนั้นกด “On/Off Switch (สวิตซ์เปิด/ปิด)” ใต้ตัวเครื่อง เพื่อให้เครื่องมีแบตเตอรี่เต็มพร้อมทำงาน โดยระยะเวลาการชาร์จไฟให้เต็ม อยู่ที่ประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที (160 นาที) และเมื่อเต็มแล้ว ก็ไม่ต้องปิดสวิตซ์ รอใช้งานได้เลย

2. การติดตั้ง เชื่อมต่อเครื่องกับ แอพพลิเคชั่น Samsung Smart Home

การเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นนี้ เป็นออปชั่นเสริม จะเลือกใช้ก็ได้หรือไม่ใช้ก็ได้ (แต่ถ้าใครที่มีสมาร์ทโฟนอยู่ ก็แนะนำให้ใช้ เพราะคุ้มค่าจริงๆ คุ้มกับเงินที่เสียไป) เพราะตัวเครื่องนั้นยังผลิตมาให้รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi โดยสั่งงานผ่าน แอพพลิเคชั่น โดยแรกเริ่มจะต้องไป ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า “Samsung Smart Home” เสียก่อนที่

1. ดาวน์โหลดแอพ Samsung Smart Home สำหรับ iOS ผ่าน App Store
2. ดาวน์โหลดแอพ Samsung Smart Home สำหรับ Android ผ่าน Play Store

แต่ก่อนที่จะไป ในส่วนของ วิธีการเชื่อมต่อ ต้องขอบอกข้อจำกัดการใช้งาน แอพพลิเคชั่น ตัวนี้กันดูก่อน ว่ามีอะไรบ้าง

⇒ ข้อจำกัดการใช้งาน แอพพลิเคชั่น Samsung Smart Home

⇒ การเชื่อมต่อ แอพ Samsung Smart Home กับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR7000

คุณสมบัติ และ ความสามารถ ของแอพพลิเคชั่น Samsung Smart Home กับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR7000

จริงอยู่ว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung ในหลายๆ รุ่น สามารถสั่งงานผ่าน แอพพลิเคชั่น Samsung Smart Home ได้ แต่ก็ใช่ว่าความสามารถ ที่ใช้ได้จะเหมือนกันในทุกรุ่น เพราะซีรีย์ ต่างกัน (พูดง่ายคือ ราคาต่างกันนะแหละ) ดังนั้นความสามารถบางอย่าง อาจจะใช้ได้กับรุ่นนี้ แต่ไม่ใช่ไม่ได้กับอีกรุ่นนึง หรือกลับกัน เป็นต้น เอาเป็นว่า มาดูกันเลยดีกว่า

1. สามารถสั่งเปิดปิดเครื่อง (Power On/Off) ได้ผ่านแอพฯ ได้เลย
2. สามารถควบคุมเครื่องได้ผ่านเมนูตัวควบคุม (CONTROLLER) ให้กระทำการได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
   1. สั่งเครื่องเริ่มต้นทำงาน (Start) หยุด (Stop) และ ทำงานต่อ (Resume) ในโหมดอัตโนมัติได้
   2. สั่งควบคุมทิศทางเครื่องได้เอง ใน โหมดทำความสะอาดด้วยตนเอง (Manual Mode)
      1. เดินหน้า (Forward)
      2. เลี้ยวซ้าย (Left Turn)
      3. เลี้ยวขวา (Right Turn)
   3. สั่งให้เครื่องทำงานในโหมดทำความสะอาดเฉพาะจุด ดูดในรัศมี 1.5 เมตรได้ (SPOT Cleaning)
   4. สามารถสั่งให้เครื่องวิ่งกลับแท่นชาร์จได้ทันที (Recharging)
3. สามารถดูสถานะของตัวเครื่อง (Current Status) ได้ว่าทำอะไรอยู่ เช่น
   1. กำลังทำความสะอาดในโหมดอัตโนมัติ (Auto Cleaning)
   2. กำลังทำความสะอาดในโหมดทำความสะอาดด้วยตนเอง (Manual Cleaning)
   3. กำลังชาร์จไฟ (Charging)
   4. กำลังกลับเข้าสู่แท่นชาร์จ (Returning for Charging)
   5. กำลังคอยการตอบสนองจากหุ่นยนต์ดูดฝุ่น (Waiting)
   6. และสถานะอื่นๆ อีกมากมาย
4. สามารถดูสถานะแบตเตอรี่ (Battery Status) (แถบขีดพลังงานไฟ 3 ระดับ)
5. สามารถปรับพลังการดูด (Suction Power) ได้ 3 ระดับ (MAX / NORMAL / QUIET)
6. สามารถตั้งเวลาทำความสะอาดล่วงหน้า (Cleaning Schedule) ได้ 2 รูปแบบ คือ
   1. ทำความสะอาดล่วงหน้าแบบครั้งเดียว (Cleaning Once)
   2. ทำความสะอาดล่วงหน้าแบบรายวัน (ซ้ำเวลาเดิมทุกวัน) (Cleaning Daily)
7. สามารถดูประวัติการทำความสะอาด (Cleaning History) ได้อย่างละเอียด ทั้งเวลาเริ่มต้น เวลาสิ้นสุด รวมถึงประเภท และ โหมดของการทำงาน
8. สามารถปรับเสียงแจ้งเตือน (Voice Guide) ในรูปแบบต่างๆ ได้ 2 รูปแบบ
   1. เสียงเอฟเฟคแจ้งเตือน (Sound Effect)
   2. Mute (ปิดเสียง)
9. ดูเวอร์ชั่นของซอฟต์แวร์บนเครื่องได้
10. มีระบบแจ้งเตือนแบบ “Push Notification” แจ้งเตือนบนหน้าจอ ขณะที่คุณกำลังใช้แอพฯ อื่น หรือ ปิดหน้าจอมือถืออยู่
11. มี “ฟังก์ชั่น Chat Control” พูดคุยแชทกับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ได้ สั่งงานเหมือน แชท LINE กับเพื่อนเลย (ดูรายละเอียด Chat Control)

รูปประกอบความสามารถของ การใช้ Samsung POWERbot VR7000 ผ่านแอพ Samsung Smart Home

ข้อเสียของการใช้แอพพลิเคชั่น Samsung Smart Home 🙁

1. การใช้ โหมดทำความสะอาดด้วยตนเอง (Manual Mode) เช่น การสั่งให้เครื่องเดินหน้า เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ผ่านแอพพลิเคชั่น ต้องกดต่อเนื่องถึงจะตอบสนองเร็วทันที แต่ถ้ากดแล้วปล่อยเครื่องจะตอบสนองช้า กว่าการสั่งผ่านรีโมทคอนโทรล

คำถามที่คุณต้องอยากรู้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR7000

ผมได้รวบรวม 10 คำถาม ที่เชื่อว่าหลายคนต้องอยากรู้ มาฝากกัน เริ่มกันเลย

1. ข้อแตกต่างระหว่าง Samsung POWERbot VR7000 และ ซีรีย์ VR9xxx มีอะไรบ้าง ?

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั้ง Samsung POWERbot VR7000 และ Samsung POWERbot VR9300 เป็น หุ่นยนต์ดูดฝุ่น 2 รุ่น จากค่ายเดียวกัน ที่จัดจำหน่ายในเมืองไทยในเวลาเดียวกัน หลายคนจึงมีคำถามแน่นอนว่า “2 รุ่นนี้ มีความแตกต่างกันอย่างไร ?” ผมได้ทำตารางเปรียบเทียบความสามารถ เอาไว้ให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ กดจากลิงค์เชื่อมต่อด้านล่างนี้ได้เลย

⇒ ตารางเปรียบเทียบ ความสามารถ ของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung

2. ที่บอกว่าเทคโนโลยี CycloneForce สามารถแยกฝุ่นขนาดเล็ก กับ ขนาดใหญ่พวกเส้นผม ออกจากกัน มันเป็นยังไง ?

เทคโนโลยี CycloneForce เป็นเทคโนโลยีที่จำลองการใช้พลังลมที่ถูกดูดเข้ามาในเครื่อง โดยให้หมุนแบบพายุไซโคลน ซึ่งประโยชน์ของมันคือ มันจะช่วยแยกฝุ่นขนาดเล็ก เป็นผงๆ ออกมาอยู่ภายในกล่อง ในขณะที่ฝุ่นขนาดใหญ่ อย่างเส้นผม เส้นด้าย ต่างๆ ก็จะถูกเกาะอยู่ตรงขั้วกลมๆ สีแดง (ดูรูปประกอบด้านล่าง)

3. ระบบชัตเตอร์อัตโนมัติ (Auto Shutter) ทำงานอย่างไร ?

เห็นจั่วหัวรีวิวฉบับนี้ว่า “มีระบบ Auto Shutter” หรือ “ชัตเตอร์อัตโนมัติ (Auto Shutter Tool)” นั้น แท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่ ? คำตอบคือ มันเป็น แถบยางสีแดง ความยาวเท่ากับความกว้างของตัวเครื่อง โดยปกติมันจะถูกหุบเก็บไว้อยู่ข้างใน

แต่เมื่อใดที่ตัวเครื่อวิ่งเข้าชิดขอบกำแพง หรือ ขอบเฟอร์นิเจอร์ แถบยางสีแดง จะโผล่ออกมา เพื่อกวาดเศษฝุ่น ที่อาจตกค้างอยู่ตามขอบ ให้เข้าไปในรัศมีการดูดของ แปรงกวาดหลักทันที

(จากคลิปวีดีโอประกอบด้านล่าง ทดสอบด้วยการใช้มือบังหน้าเครื่อง สมมุติว่าเป็นกำแพง เพื่อให้ แถบยางสีแดง ของ ระบบชัตเตอร์อัตโนมัติ โผล่ออกมาทำงานให้เห็น)

4. สามารถวิ่งได้ทั่วบริเวณห้อง และ กลับมายังแท่นชาร์จได้เองทุกครั้ง หรือไม่ ?

วิ่งได้ทั่วห้อง และ กลับมาแท่นชาร์จเอง อย่างไม่มีปัญหา เพราะตัวนี้ใช้ ระบบนำทางด้วยกล้องสร้างแผนที่จำลอง แบบ Visionary Mapping+™ มันสามารถทำงาน ได้อย่างแม่นยำ มีประสิทธิภาพ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการจัดวางของในห้องด้วย ว่าเอื้ออำนวยต่อการทำงานของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น มากน้อยเพียงใด

5. ระดับเสียงขณะทำงานเป็นอย่างไร ?

เนื่องจาก หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR7000 นี้ มีโหมดการทำงานหลักๆ อยู่ 3 โหมด คือ

1. โหมดดูดแรง (MAX Mode)
2. โหมดดูดปกติ (NORMAL Mode)
3. โหมดดูดเบา (QUIET Mode)

ดังนั้นระดับเสียงที่ได้ ก็จะแตกต่างกันออกไป เพราะความแรงของการดูดต่างกัน มอเตอร์ของพัดลมดูดฝุ่น จึงรับภาระต่างกันในแต่ละโหมด นั่นเอง มาดูผลลัพธ์กันจากรูปด้านล่างกันเลย (ทดสอบระดับเสียงด้วย แอพ LINE Tools ฟังก์ชั่น “Sound Level Meter”)

6. การวิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับ สามารถทำได้ดีแค่ไหน ?

การวิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับ อย่าง ธรณีประตู สามารถวิ่งผ่านได้สบายๆ ในระดับความสูงที่ไม่เกิน 1.5 เซนติเมตร โดยไม่ติดขัดใดๆ ถ้าหากมีระดับสูงเกินกว่านั้น เครื่องจะไม่ฝืนข้ามไปแล้วไปติดแหง็ก (เหมือนบางรุ่น บางยี่ห้อ)

นอกจากนี้แล้ว ด้านหลังของตัวเครื่องยังมีล้อเลื่อนรับน้ำหนักด้านหลัง (Rear Caster Wheel) ที่หมุนรอบตัวได้ 360 องศา พร้อมโช๊คอัพสปริงขนาดเล็ก ที่จะช่วยป้องกันการตัวเครื่องครูดกับพื้น ป้องกันการเกิดรอย และ ลดความเสียดทานอีกด้วย

7. ฟังก์ชั่น “Chat Control” ในแอพ Samsung Smart Home คืออะไร ?

ฟังก์ชั่น “Chat Control” เป็นฟังก์ชั่นที่ให้คุณได้พูดคุย กับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ของ Samsung เพื่อสั่งงาน หรือ ดูสถานะการใช้งานปัจจุบัน สามารถกดที่ลิงค์เชื่อมต่อด้านล่างได้เลย

⇒ รายละเอียดฟังก์ชั่น Chat Control ในแอพ Samsung Smart Home

8. มีระยะเวลาการรับประกันกี่ปี ?

ในส่วนของ การรับประกัน ตัวมอเตอร์พัดลมดูดฝุ่น รับประกัน ยาวนาน 10 ปี และในส่วนของการ รับประกันตัวเครื่อง 2 ปี

9. อะไรไหล่ราคาแพงหรือไม่ ?

แต่ละชิ้นส่วนมีราคาต่างกันออกไป ลูกค้าสามารถโทรศัพท์ติดต่อศูนย์บริการ (Call Center) 02-689-3232 เพื่อขอทราบราคาประเมิณการซ่อมคร่าวๆ ได้ก่อน แต่อย่างไรก็ตามตัวเครื่องเองมีการรับประกัน 2 ปี สามารถส่งซ่อมได้ที่ทุกศูนย์บริการของ Samsung ได้ทั่วประเทศไทย

10. สั่งซื้อ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300 ได้ที่ไหน ?

คุณสามารถซื้อ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR93000 นี้ได้ผ่านหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น ห้างโฮมโปร ห้างเดอะมอลล์ ห้างเซ็นทรัล หรือ เว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ ชั้นนำของประเทศไทย อย่างไรก็ตาม คุณติดต่อสอบถามก่อนได้ทางรายละเอียดติดต่อด้านล่างนี้เลย

• Telephone No (เบอร์โทรศัพท์) : 0-2689-3232
• Website (เว็บไซต์) : http://www.samsung.com/th/
• Facebook Page (เพจเฟสบุ๊ค) : samsungthailand (ซัมซุงไทยแลนด์) ตามกรอบด้านล่าง

บทสรุปการใช้งาน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR7000

แบ่งปันประสบการณ์ หลังผ่านการใช้งาน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR7000 ที่คอนโดมิเนียม มาต่อเนื่องกัน 1 เดือนเศษๆ

ข้อดี 🙂

• ความสามารถหลัก หรือ ลูกเล่น ที่มีอยู่ในหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหญ่กว่า อย่าง POWERbot VR9300 ส่วนมากยังอยู่ครบ พร้อมหน้าพร้อมตา
• ระบบ “Edge Clean Master” สามารถช่วยทำความสะอาดฝุ่นที่อยู่ตามขอบ ได้อย่างหมดจดจริงๆ (ดูรูปประกอบด้านล่างสุดของบทความ)
• แปรงกวาดหลัก ถูกติดตั้งอยู่ ด้านหน้าสุดของตัวเครื่องจริงๆ (อยู่ก่อนจุดสัมผัสแท่นชาร์จเสียอีก) ทำให้ดูดฝุ่นสะอาดและหมดจดจริงๆ ปราศจาก ฝุ่นตกค้างด้านหน้าตัวเครื่อง
• มีระบบชัตเตอร์อัตโนมัติ เป็น แถบยางสีแดง ที่อยู่ด้านหน้าตัวเครื่อง เพื่อใช้เก็บตกกวาดเศษฝุ่น ที่อยู่ตามขอบกำแพง
• มีความสามารถทำความสะอาดแปรงกวาดหลักเอง ช่วยให้ไม่มีเส้นผม เส้นด้าย และ เศษฝุ่นขนาดใหญ่ชนิดอื่นๆ มาพันกับแปรงกวาดหลัก อันเป็นการลดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง
• สามารถวิ่งกลับแท่นชาร์จเองได้อย่างแม่นยำรวดเร็ว และ ถึงแม้จะไม่ได้เริ่มต้นทำงานจากแท่นชาร์จก็ยังกลับแท่นชาร์จได้ (แต่อาจจะเสียเวลานิดหน่อย)
• มีรีโมทคอนโทรลพร้อมถ่านแบตเตอรี่ เพื่อใช้สั่งงานระยะไกล มาให้ด้วย ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วก็สามารถสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่น บน สมารโทโฟน ได้ด้วยเช่นกัน (เผื่อในกรณี สำหรับคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน)
• การใช้งานผ่าน แอพพลิเคชั่น Samsung Smart Home ถือว่าสั่งงานได้ง่าย
• แม้จะไม่มีทั้งสมาร์ทโฟน หรือ รีโมทคอนโทรล ก็ยังสามารถสั่งงานผ่านปุ่มกดบนตัวเครื่องได้อยู่ดี

ข้อเสีย 🙁

• ไม่มีฟังก์ชั่นในการถูพื้นด้วยผ้าม็อบ หรือ ถังน้ำ ใดๆ มาให้
• ตัวเครื่องดูเป็นรอยขูดขีดง่ายไปนิด หลังการใช้งานผ่านไปเพียงไม่กี่ครั้ง (แต่ก็อย่างว่า เครื่องซื้อเอามาใช้งาน)
• ขณะเครื่องวิ่งเข้าแท่นชาร์จ มีเสียงดังกุกกัก ไปนิดนึง สาเหตุเพราะต้องเกยเข้าไปลึกนิดนึง เพื่อให้จุดสัมผัสแท่นชาร์จ ของตัวแท่นชาร์จ และ ของตัวเครื่อง สัมผัสกันอย่างละมุนละไม