หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Rorobock S7 MaxV Ultra
สวัสดีครับ บทความรีวิวฉบับนี้ ผมจะมารีวิวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น จาก แบรนด์ Roborock กันอีกครั้ง โดยตัวนี้คือ Roborock S7 MaxV Ultra มันคือ “หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น ที่มีแท่นเก็บฝุ่นอัตโนมัติ และยังสามารถ ซักผ้าม็อบถูพื้นฯ กับ เติมน้ำใส่เครื่องอัตโนมัติได้” จัดว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้ มีคุณสมบัติที่เป็นที่สุดของที่สุด ที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นบนโลกนี้มีอยู่ตอนนี้แล้วละครับ ด้วยเหตุนี้เองจึงไม่แปลกใจเลยที่ทำไมเขาถึงใช้ชื่อรุ่นว่า “อัลตร้า (Ultra)” ที่แปลว่า “ที่สุด” นั่นเอง
โดย หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Roborock S7 MaxV Ultra ตัวนี้ มาพร้อมกับระบบการนำทาง ที่พกเอาเทคโนโลยีมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบเลเซอร์ PreciSense™ LiDAR ที่เอาไว้สร้างแผนที่จำลอง และ กล้องหน้าแบบคู่ (Dual Camera) ที่เอาไว้ดูสิ่งกีดขวางที่อยู่ด้านหน้าของตัวเครื่อง พร้อมการประมวลผลด้วยระบบ ReactiveAI™ 2.0 (ต่อยอดมาจากรุ่นก่อน) พร้อมการประมวลผลได้ดี นอกจากนี้เรายังใช้ประโยชน์จากกล้อง ในการดูสิ่งแวดล้อมภายในบ้านได้แบบสดๆ เหมือนเป็นกล้องวงจรปิด เคลื่อนที่ได้ พร้อมโต้ตอบกับคน หรือสัตว์เลี้ยง ในห้องได้เช่นกัน
ในขณะที่สเปกอื่นๆ ของตัวเครื่อง ก็มีแรงดูดที่สูงสุดถึง 5,100 มิลลิแอมป์ (mAh) แรงเกินเบอร์ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั่วๆ ไป ไปเยอะมากๆ พร้อมระบบตรวจจับพื้นผิว ที่ถ้าหากตรวจจับพื้นว่าเป็นพรม มันจะยกชุดผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ ขึ้นเองโดยอัตโนมัติ เพื่อไม่ให้พื้นแฉะ หรือเปียกชื้น และที่สำคัญ มันซักผ้าม็อบถูพื้นฯ และเติมน้ำลงไปในถังน้ำที่อยู่ภายในตัวเครื่องได้เองอัตโนมัติ เมื่อวิ่งกลับเข้าแท่นชาร์จ ได้อีกด้วยเช่นกัน เอาเป็นว่า ลองมาดูรายละเอียดด้านล่างกันเลยดีกว่าครับ
- รู้จักผลิตภัณฑ์ Roborock
- แกะกล่องผลิตภัณฑ์
- อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องผลิตภัณฑ์
- ข้อมูลจำเพาะ ข้อมูลทางเทคนิค ของเครื่อง
- คุณสมบัติ และ ความสามารถของตัวเครื่อง
- สำรวจรอบๆ ตัวเครื่อง
- เตรียมเครื่อง และเปิดใช้งานจริง
- คุณสมบัติ และ ความสามารถของตัวแอปพลิเคชัน Roborock
- สภาพหลังการใช้งาน
- ราคาอะไหล่ที่สามารถเปลี่ยนได้
- การติดต่อสั่งซื้อ และ การรับประกัน
- บทสรุปหลังการใช้งาน ข้อดี ข้อเสีย (ใครที่ไม่อยากอ่านรีวิวยาวๆ ข้ามมาอ่านที่นี่ได้เลย)
แกะกล่องผลิตภัณฑ์ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Roborock S7 MaxV Ultra
กล่องผลิตภัณฑ์ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Roborock S7 MaxV Ultra ตัวนี้ มีขนาดมิติอยู่ที่ ยาว (L) 500 x กว้าง (W) 500 x สูง (H) 430 มิลลิเมตร (ขนาดพื้นที่กล่อง 0.25 ตารางเมตร) ในขณะที่น้ำหนักสินค้ารวมกล่อง (Gross Weight) อยู่ที่ประมาณ 16.10 กิโลกรัม ซึ่งนอกจากขนาดกล่องจะมีขนาดที่ใหญ่แล้ว ยังมีน้ำหนักที่มากอีกด้วย
โดยที่ตัวกล่องมาในธีมสีดำเป็นหลัก เนื่องจากเป็นตระกูล “MaxV” ที่มีความสามารถสูง (กว่ารุ่นธรรมดา ที่ “ไม่มี MaxV”) ผสมผสานกับสีขาวในบางด้าน และสีแดง ตามสไตล์ของแบรนด์ Roborock นั่นเอง เราลองมาดูรายละเอียดในแต่ละด้านของกล่องผลิตภัณฑ์กันเลย
ด้านหน้ากล่อง : ตรงกลางเป็นตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่จอดอยู่ที่ แท่นเก็บฝุ่น ซักผ้าม็อบถูพื้นฯ และเติมน้ำอัตโนมัติ (ชื่อยาวนิดนึงนะ) อย่างเด่นเป็นสง่า ในขณะที่ มุมขวาบนเป็นโลโก้ผลิตภัณฑ์ Roborock พร้อมด้วยรุ่นของมันนั่นก็คือ “S7 MaxV Ultra” และมุมซ้ายบนจะมีบอกหัวข้อ คุณสมบัติ และความสามารถ ของตัวเครื่อง สั้นๆ พร้อมรูปไอคอนประกอบด้านหน้า
ด้านหลังกล่อง : มีคำอธิบายสั้นๆ พร้อมรูปกราฟิกประกอบ คุณสมบัติ และความสามารถ ของตัวเครื่อง ที่ละเอียดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบการนำทาง การแยกแยะสิ่งกีดขวาง หรืออุปสรรค ที่อยู่ด้านหน้าของตัวเครื่อง รวมไปถึง การสร้างแผนที่ การถูพื้น การทำความสะอาดถังเก็บฝุ่น การซักผ้าม็อบถูพื้นฯ และการเติมน้ำอัตโนมัติ เป็นต้น
ด้านซ้ายกล่อง : มีส่วนของคำแนะนำ ในการขนย้ายกล่อง เช่นเอาด้านนี้ขึ้น (This side up), ระวังแตก (Fragile), ระวังเปียก (Keep Dry), ห้ามเหยียบ และอื่นๆ และก็ยังมี คุณสมบัติ และความสามารถ ของตัวเครื่อง อีกเล็กน้อยเช่นเคย
ด้านขวากล่อง : บอกข้อมูล อุปกรณ์ทั้งหมดที่ให้มาภายในกล่องผลิตภัณฑ์ จำนวนทั้งหมด 8 ชิ้น ที่นำเสนอในรูปแบบของภาพเวกเตอร์ พร้อมภาษาอังกฤษกำกับอย่างชัดเจน ในขณะที่ด้านล่างสุดคือโลโก้ของแบรนด์ Roborock นั่นเอง
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องผลิตภัณฑ์ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Roborock S7 MaxV Ultra
สำหรับตัวนี้มี อุปกรณ์ที่มีให้มาในกล่องผลิตภัณฑ์มีอยู่ทั้งหมด 8 ชิ้นหลักๆ ด้วยกัน ซึ่งในนี้ก็ได้รวมเอา แท่นเก็บฝุ่น ซักผ้าม็อบถูพื้นฯ และเติมน้ำอัตโนมัติ (หรือที่ข้างกล่องเขาเขียนว่า “Dock”) เอาไว้แล้วเช่นกัน
1. Roborock S7 MaxV (หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น x 1 เครื่อง)
ตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Roborock S7 MaxV เป็น (Round Shape Robot Vacuum Cleaner) ที่มีขนาดมิติอยู่ที่ กว้าง 353 มิลลิเมตร (35.3 เซนติเมตร) x ยาว 350 มิลลิเมตร (35 เซนติเมตร) และมีความสูงอยู่ที่ 96.5 มิลลิเมตร (หรือ 9.65 เซนติเมตร) และมีน้ำหนักเครื่องเปล่า (ไม่รวมน้ำที่อยู่ในถังน้ำ) อยู่ที่ 4.7 กิโลกรัม (ข้อมูลทั้งหมดนำมาจากสเปกเครื่อง ของผู้ผลิต)
โดยน้ำหนักตัว และขนาดมิติของ Roborock S7 MaxV เครื่องนี้ เท่ากับตัว Roborock S7 เลยคือ 4.7 กิโลกรัม แถมตัวสเปกของแบตเตอรี่ก็เท่ากันอีกคือ 5,200 มิลลิแอมป์ แต่ถ้ามองจากภายนอก จุดที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยคือ ด้านหน้าของตัวเครื่องจะมีกล้องหน้าแบบคู่ และเซนเซอร์ต่างๆ ฝังอยู่ที่ด้านหลังของกันชนหน้ามากมาย เรียกได้ว่าพกเทคโนโลยีมากันเป็นโขยง เลยทีเดียว (รายละเอียด ส่วนประกอบด้านบน และด้านข้างของตัวเครื่อง)
2. Dock or Auto-Empty Wash Fill Dock (แท่นเก็บฝุ่น ซักผ้าม็อบถูพื้นฯ และเติมน้ำอัตโนมัติ x 1 ชุด)
สำหรับแท่นชาร์จของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Roborock S7 MaxV Ultra ตัวนี้ มีความสามารถที่ทำอะไรต่อมิอะไรได้มากกว่าแค่การชาร์จไฟธรรมดา ด้วยเหตุนี้เองมันจึงถูกเรียกว่า “แท่นเก็บฝุ่น ซักผ้าม็อบถูพื้นฯ และเติมน้ำอัตโนมัติ” (ชื่อยาวเฟื้อย) เรียกได้ว่ามันมีฟังก์ชันแบบ 4-in-1 กันเลยทีเดียว
และด้วยเหตุนี้มันจึงมีขนาดใหญ่มาก ถึงมากที่สุด (มากที่สุดตั้งแต่ผมเคยรีวิวมาแล้ว) โดยมันมีขนาดมิติอยู่ที่ กว้าง (W) 42.20 x ยาว (L) 50.90 x สูง (H) 41.60 เซนติเมตร (ข้อมูลจากสเปกเครื่อง) (รายละเอียด แท่นเก็บฝุ่น ซักผ้าม็อบถูพื้นฯ และเติมน้ำอัตโนมัติ)
3. Dock Base (ฐานของแท่นเก็บฝุ่น ซักผ้าม็อบถูพื้นฯ และเติมน้ำอัตโนมัติ x 1 ชุด)
ส่วนนี้เป็นส่วนของฐานของแท่นเก็บฝุ่น ซักผ้าม็อบถูพื้นฯ และเติมน้ำอัตโนมัติ ลักษณะเป็นแผ่นพลาสติกสีดำ ถูกขึ้นรูปให้มีลักษณะเป็นทางเอียงชันเล็กน้อย โดยมีลูกกลิ้งตรงกลาง เพื่อป้องกันการครูดระหว่างตัวฐาน, แท่น และตัวเครื่อง นอกจากนี้ก็ยังมีที่กันลื่น มีลักษณะเป็นซี่ๆ ตลอดแนวการเคลื่อนที่ผ่านของล้อเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ให้สามารถวิ่งเข้า-ออก ไปปฏิบัติภารกิจอย่างชาร์จไฟ, เก็บฝุ่น, ซักผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ และเติมน้ำ ได้อย่างสมบูรณ์ ไร้การติดขัดใดๆ
โดยเราจะต้องนำเอาฐานนี้ ไปติดตั้งให้เชื่อมกันกับตัวแท่นฯ ให้เรียบร้อย (ติดตั้งไม่ยาก) มิเช่นนั้นตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น จะไม่สามารถเข้า-ออกตัวแท่นฯ ได้เลย
4. Disposable Dust Bag (ถุงเก็บฝุ่นแบบใช้แล้วทิ้ง x 1 ถุง)
ในส่วนฟังก์ชันการเก็บฝุ่นอัตโนมัติ ของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Roborock S7 MaxV Ultra นี้จะมีออปชัน การเก็บฝุ่นในรูปแบบของ ถุงเก็บฝุ่นแบบใช้แล้วทิ้ง (Disposable Dust Bag) อย่างเดียวเท่านั้น โดยมันเป็นถุงที่จะปิดปากถุง (หรือช่องเข้า-ออก ของฝุ่น) โดยอัตโนมัติทันทีที่ดึงมันออกมาจากตัวแท่นฯ เพื่อป้องกันฝุ่นที่อยู่ในถุงออกมาฟุ้งกระจายอยู่ภายในห้องของเรานั่นเอง
โดยถุงเก็บฝุ่นแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งนี้ เขาได้ติดมาให้สำรองกับกล่องผลิตภัณฑ์ เพียงแค่ถุงเดียวเท่านั้น (แต่มีติดตั้งอยู่ที่ตัวแท่นฯ แล้วอีก 1 – สรุปแล้วมีมาให้ 2 ถุง) ซึ่งถ้าหากใช้แล้ว และมีความประสงค์ต้องการซื้อเพิ่ม สามารถ ติดต่อทางตัวแทนจำหน่าย Roborock ประเทศไทย ได้เลยทันที
5. Power Cable (สายไฟ x 1 เส้น)
สายไฟสีเทา ขนาดความยาวประมาณ 1.8 เมตร (6 ฟุต) ที่ให้มานี้ ไม่ใช่สายไฟขนาดเล็กเหมือนกับสายไฟของ ชุดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ ทั่วๆ ไป เพราะนี่คือสายไฟที่ต้องนำส่งกำลังไฟฟ้าขนาด 1,000 วัตต์ (Watts) เข้าไปยัง ชุดแท่นเก็บฝุ่นอัตโนมัติ เพื่อขับเอามอเตอร์ดูดฝุ่นพลังสูงให้ดูดเอาฝุ่น หรือเศษสิ่งสกปรกต่างๆ ออกมา จากตัวเครื่อง
โดยสายไฟที่ให้มานี้เขียนว่าเป็นยี่ห้อ Linoya (ลิโนยา) รุ่น XYP-02L ชนิดยืดหยุ่นแบบ H05VV-F ขนาด 360.75 ตารางมิลลิเมตร (mm2) หัวปลั๊กไฟเป็นขากลมชนิด E (Type E Plug) ครับ ซึ่งทาง Linoya เอง ก็เป็นแบรนด์ผู้ผลิตสายไฟ สายเคเบิล ชื่อดังของประเทศจีน ภายใต้ชื่อบริษัท ลิโนยา อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยี จำกัด (Linoya Electronic Techonlogy Co. Ltd.) ที่ได้รับใบรองการผลิต และมาตรฐานอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย
6. VibraRise Mop Cloth Mount (แผ่นติดผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ VibraRise x 1 แผ่น)
โดยปกติแล้ว แผ่นติดผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ (Microfiber Cloth Pad หรือ Mop Cloth Mount) จะไม่ค่อยเป็นพระเอกของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ไม่ว่าจะยี่ห้อๆ หรือรุ่นใดๆ เท่าไหร่นัก เพราะมันก็เป็นแค่ตัวกลาง ที่เอาไว้เชื่อมกันระหว่าง ผ้าม็อบถูพื้นฯ เท่านั้นเอง (ซึ่งตัวนี้ก็ทำหน้าที่นั้นเช่นเดียวกัน)
แต่ว่าสำหรับแผ่นติดผ้าม็อบถูพื้นฯ ของรุ่นนี้ จะมีความพิเศษอย่างนึงตรงที่ ที่ตำแหน่งตรงกลางของมัน จะสังเกตเห็นแผ่นพลาสติกผืนผ้า ที่ถูกแยกเป็นอิสระจากแผ่นผืนใหญ่ (ที่อยู่รอบๆ) แถมแผ่นนี้ มันยังสามารถขยับไปมาได้ในแนวนอนอีกด้วย
7. VibraRise Mop Cloth (ผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ VibraRise x 1 ผืน)
ผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ VibraRise ทรงครึ่งวงรี (Half Oval Shape) ที่เป็นทรงนี้ก็เพื่อให้มีส่วนโค้งรับกับท้ายเครื่อง โดยมันมีขนาดความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร (1 ฟุต) ถ้าดูผิวเผินก็เหมือนกับผ้าม็อบถูพื้นฯ ทั่วๆ ไป แต่ถ้าสังเกตดีๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพลิกผ้าม็อบถูพื้นฯ ไปได้ด้านจะเห็นชัดว่า ที่ตรงกลางของแผ่น จะถูกเย็บให้เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า (กว้าง 3.8 x ยาว 17.5 เซนติเมตร) แยกเป็นอิสระจาก จากส่วนอื่นๆ อย่างชัดเจน สำหรับสาเหตุก็คือ มันจะไปรับกับตัวแผ่นติดผ้าม็อบถูพื้นฯ ที่ติดอยู่ด้านบน ให้สามารถสั่นได้นั่นเอง
8. Machine Documents (เอกสารประกอบเครื่อง x 1 ชุด)
เอกสารประกอบเครื่อง ถือเป็นอีกจุดที่น่าชื่นชมกับทาง Roborock เพราะว่าเขามาให้แบบเคลียร์ชัดเจนมากๆ มาเป็นเล่มหนาเตอะ ชนิดที่เรียกว่า ทุกอย่างครบจบในเล่มนี้เล่มเดียว โดยไม่ต้องไปอ่านออนไลน์ (แต่บนออนไลน์เขาก็มีให้ดาวน์โหลดนะ) เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่ถนัดอยากจะอ่านออนไลน์
- User Manual (หนังสือคู่มือการใช้งาน x 1 เล่ม) (มี 8 ภาษา – แต่ไม่มีภาษาไทย)
- Safety Guidelines & Certification (แนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยและการรับรอง x 1 เล่ม)
- App Connect to Network Guide (แนวทางการเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน กับเครือข่าย x 1 ซอง)
- Quick Start Guide (คู่มือเริ่มต้นใช้งานฉบับย่อ x 1 แผ่น) (กระดาษแผ่นใหญ่ สรุปวิธีการติดตั้งเอาไว้)
ข้อมูลจำเพาะ ข้อมูลทางเทคนิค ของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Roborock S7 MaxV Ultra
รายละเอียด (Specification) |
|
ขนาดมิติ (Dimension) |
353 x 350x 96.5 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก (Weight) |
4.7 กิโลกรัม (ข้อมูลจากสเปก และชั่งเอง เท่ากัน) |
ไฟเข้า (Input) |
AC 100-240V 50/60 Hz |
ไฟออก (Input) |
DC 20V 50/60 Hz (1.2A) |
ประเภทของแบตเตอรี่ (Battery Type) |
Li-Ion |
ปริมาณความจุแบตเตอรี่ (Battery Capacity) |
5,200 mAh |
ระดับเสียง (Noise Level) |
ประมาณ 67 dB. (เดซิเบล) (ข้อมูลจากสเปกของผลิตภัณฑ์) |
ขนาดความจุกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (ลิตร) (Dustbin Capacity – Litre) |
|
ขนาดความจุของถังน้ำ (ลิตร) (Water Tank Capacity – Litre) |
|
คุณสมบัติ และ ความสามารถของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Roborock S7 MaxV Ultra
1. LiDAR Navigation System with Dual Camera (ระบบการนำทางด้วยเลเซอร์แบบ LiDAR พร้อมกล้องหน้าคู่)
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Roborock S7 MaxV Ultra ได้รวมเอาสุดยอดเทคโนโลยีการนำทางทั้ง 2 ชนิด ที่มีอยู่ในโลก นั่นก็คือ การนำทางด้วยเลเซอร์ (LiDAR) และ กล้องสร้างแผนที่จำลอง เข้าไว้ด้วยกันภายในเครื่องเดียว (เหมือนกับตัว Roborock S6 MaxV ที่เคยรีวิวไปแล้ว) เป็นการฉีกกฏที่ว่า “เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้” ไปได้อย่างสิ้นเชิง
หากพูดถึงการนำทางด้วยระบบเลเซอร์นั้น เครื่องนี้ใช้เทคโนโลยีการนำทางที่เรียกว่า LiDAR (ย่อมาจากคำว่า “Light Detection and Ranging”) ที่จะยิงแสงเลเซอร์ออกมาจากโดมกลมๆ ที่อยู่ด้านบนสุดของตัวเครื่อง โดยด้านในถูกติดตั้งอุปกรณ์ยิงแสงเลเซอร์ ที่จะหมุนรอบตัว 360 องศา ตลอดเวลาที่เครื่องกำลังทำงาน เพื่อสแกนหาระยะห่าง และวัตถุที่อยู่รอบๆ ตัวมันสร้างแผนที่ออกมา
และนอกจากนี้แล้ว เครื่องนี้ยังมีการติดตั้งกล้องหน้าแบบคู่ (Dual Camera) ที่ประมวลผลออกมาเป็นภาพแบบ RGB และแสงที่มีโครงสร้างแบบ 3 มิติ เพื่อเอาไว้จำแนกแยกแยะสิ่งกีดขวางต่างๆ ที่อยู่ด้านหน้าของตัวเครื่อง เพื่อที่จะนำไปประมวลผล จะปรับรูปแบบการทำความสะอาดอย่างไร ให้เหมาะสมกับพื้นที่ห้องนั้นๆ ให้ได้มากที่สุด
โดยระบบการนำทางทั้งหมดทั้งมวลนี้ ถูกส่งไปประมวลผลร่วมกับ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ทางแบรนด์เรียกว่า “ReactiveAI™” นั่นเอง
2. ReactiveAI™ 2.0 Obstacle Avoidance with Never-Ending Learning (เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์แบบรีแอคทีฟ 2.0 และการเรียนรู้แบบไม่มีวันสิ้นสุด)
ในความจริงแล้ว ทางแบรนด์ Roborock ได้นำเอา เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI Technology) แบบ ReactiveAI™ มาใช้กับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ในรุ่นก่อนๆ แล้ว โดยตัวนี้ได้ถูกปรับปรุงออกมาใหม่ เป็น “ReactiveAI™ 2.0” ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ใหม่กว่า และแน่นอนว่าฉลาดกว่าอย่างแน่นอน แถมมันยังทำงานร่วมกับ ชิปประมวลผลแบบ NPU (Neural Processing Unit) ที่ถูกพัฒนามาเพื่อใช้งานร่วมกับ AI โดยเฉพาะอีกด้วย
โดยมันจะทำงานร่วมกับ กล้องหน้าแบบคู่ (Dual Camera) เพื่อใช้ในการสแกน และมอนิเตอร์ดูวัตถุต่างๆ ที่อยู่ด้านหน้าของตัวเครื่อง พร้อมเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลส่วนกลาง ของ Roborock ที่อัปเดตอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้มันสามารถระบุออกมาได้ว่า วัตถุชิ้นต่างๆ ที่มันมองเห็นอยู่ในขณะนั้นมันคืออะไร ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ อย่าง โต๊ะกินข้าว, โซฟา, เตียงนอน, เก้าอี้สำนักงาน, ตู้เก็บของ ฯลฯ รวมไปถึงวัตถุอื่นๆ ที่อาจวางอยู่บนพื้นได้อย่างเช่น รางปลั๊กไฟ, รองเท้า, เครื่องชั่งน้ำหนัก, ฐานพัดลม, อุจจาระของสัตว์เลี้ยง (น้องหมา น้องแมว) เป็นต้น
3. Video Calling and Remote Viewing (การพูดคุยผ่านวิดีโอคอล ผ่านหุ่นยนต์ดูดฝุ่น)
ส่วนนี้เป็นความสามารถเกิดจากการนำเอา กล้องหน้าแบบคู่ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ที่นอกเหนือจากการใช้ในการนำทาง โดยทางผู้ผลิตเขาได้ทำให้มันเกิดการสื่อสารแบบ 2 ทาง (Two-Way Communication) ที่ผู้ใช้งานสามารถเข้ามาดูสภาพแวดล้อมปัจจุบัน พร้อมทำวิดีโอคอล กับคน หรือสัตว์เลี้ยงที่อยู่ภายในบ้านได้อีกด้วย เพราะที่ตัวเครื่องเอง ได้ฝังเอาไมโครโฟน เอาไว้ เพื่อที่จะให้คนที่สั่งงานได้ยินเสียง พร้อมเห็นภาพแบบสดๆ ไปพร้อมกันอีกด้วย
ประโยชน์ของความสามารถนี้คือ คุณจะสามารถเข้าไปดูได้ว่าเด็กๆ ที่บ้าน อยู่กันอย่างไร ? ทำอะไรหกพื้น หรือเลอะเทอะหรือไม่ ? หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงอย่างน้องหมา น้องแมว มีสภาพความเป็นอยู่อย่างไร ? คุณก็สามารถส่งเสียงผ่านแอปพลิเคชัน Roborock Home กลับไปยังเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Roborock S7 MaxV ได้อีกด้วยเช่นกัน
4. HyperForce™ Stormer Suction with High Capacity Battery (พลังดูดฝุ่น และแบตเตอรี่ความจุสูง)
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Roborock S7 MaxV Ultra มีแรงดูดที่เรียกว่า “HyperForce™ Stormer Suction” โดยให้มาติดตัวมากสูงสุดถึง 5,100 ปาสคาล (Pa) (เมื่อเปิดโหมดความแรงแบบ Max+)* หรือ 0.051 บาร์ (Bar) ทำงานด้วยมอเตอร์พัดลมดูดฝุ่น (Vacuum Fan) ที่หมุนเร็วกว่า 1,350 รอบ/นาที (rpm) เพียงพอที่จะให้มันสามารถดูดฝุ่นขนาดเล็กที่อาจมองไม่เห็น รวมไปถึงเส้นผม หรือขนสัตว์เลี้ยงต่างๆ เข้าไปเก็บไว้ภายใน กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง กันได้อย่างหมดจด
และเครื่องนี้จ่ายพลังงานด้วย แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน (Li-Ion) ที่มีคุณสมบัติการจ่ายไฟที่แรง นิ่ง และคงที่ แม้ในเวลาที่แบตเตอรี่ใกล้จะหมด ก็ยังจ่ายไฟแรงอยู่ โดยเขาให้ความจุมากมากถึง 5,200 มิลลิแอมป์ (mAh) ทำให้เครื่องสามารถทำงานได้ยาวนานสูงสุดถึง 180 นาที ที่โหมดดูดเบาที่สุด หรือ โหมดเงียบ (Quite Mode) ครอบคลุมพื้นที่ได้สูงสุดกว่า 300 ตารางเมตร (Sq.m.) กันไปเลยทีเดียว
หมายเหตุ : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั่วๆ ไปในท้องตลาด จะมีแรงดูดเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2-3 พันปาสคาล เท่านั้น และมากกว่ารุ่น S6 MaxV ถึง 2 เท่า
5. 3D Mapping (การสร้างแผนที่แบบ 3 มิติ)
โดยปกติแล้ว หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่นำทางด้วยเลเซอร์ หรือแม้แต่ ด้วยกล้องสร้างแผนที่จำลอง จะมีความสามารถในการสร้างแผนที่จำลอง (Visual Mapping) ได้ด้วย แต่จะเป็นการสร้างแผนที่จำลองแบบ 2 มิติ (2D) เท่านั้น ดังนั้นเราจะไม่สามารถเห็นภาพในแนวลึกได้
แต่ด้วยความสามารถของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Roborock S7 MaxV ที่พัฒนามาไกลมากๆ มันจึงสามารถสร้างแผนที่จำลองในรูปแบบ 3 มิติ (3D Mapping) ได้ด้วย ซึ่งนอกจากที่จะเพิ่มความสวยงาม และทำความเข้าใจง่ายแล้ว มันยังสามารถระบุวัตถุแต่ละชิ้น เพื่อให้ตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเข้าไปทำความสะอาดเฉพาะพื้นที่ ได้ง่ายขึ้นอีกด้วยเช่นกัน (สามารถดูได้ผ่านแอปพลิเคชัน)
6. Auto-Empty Wash Fill Dock System (ระบบทำความสะอาดถังเก็บฝุ่น ซักผ้าม็อบถูพื้น และ เติมน้ำด้วยตัวเอง)
ด้วยความที่ ผมได้เอา หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Roborock S7 MaxV รุ่น “Ultra” ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นที่สูงสุดใน “ตระกูล S7 MaxV” มารีวิวนั้น มันจึงมีความสามารถที่เหนือฟ้าดินกว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่นยี่ห้ออื่นๆ (หรือแม้แต่รุ่นอื่นๆ ของ Roborock เอง) อย่างแน่นอน เพราะว่ามันมีตัว แท่นชาร์จ (Charge Base) ที่มีความสามารถทั้งหมด 4 อย่างด้วยกัน อันได้แก่
- Automatic Battery Charging (การชาร์จไฟลงแบตเตอรี่ในเครื่องอัตโนมัติ) (ความสามารถพื้นฐานทั่วไป)
- Automatic Dust Emptying (การดูดเก็บฝุ่นอัตโนมัติ)
- Automatic Mop Washing (การซักทำความสะอาดผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์อัตโนมัติ)
- Automatic Tank Filling (การเติมน้ำลงถังน้ำที่อยู่ในตัวเครื่องอัตโนมัติ)
ซึ่งความสามารถทั้งหมดนี้ ขอสารภาพตามตรงว่า นี่ถือว่าเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ตัวแรก ที่ผมเคยรีวิวมาเลยก็ว่าได้ครับ เพราะก่อนหน้านี้เคยเจอหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่สามารถ ดูดเก็บฝุ่นอัตโนมัติอย่างเดียว หรือ ทำความสะอาดผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์อัตโนมัติอย่างเดียว เท่านั้น แต่ไม่เคยเจอครบทั้งหมดแบบนี้
7. Other Interesting Features (คุณสมบัติอื่นๆ ที่น่าสนใจ)
- Fast Charging (มีระบบการชาร์จที่รวดเร็ว ช่วยลดเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ลงมากถึง 30%)
- Sonic Mopping (เทคโนโลยีการถูพื้นแบบสั่นสะเทือน 3,000 ครั้ง/นาที ขจัดคราบฝังลึกบนพื้นได้มากขึ้น)
- Ultrasonic Carpet Recognition (สามารถรับรู้พื้นพรม เพื่อป้องกันการถูพื้น หรือกำหนดห้ามขึ้นบนพรมเลย)
- Auto-Lifting Convenience (ระบบยกฟังก์ชันการถูพื้นขึ้นอัตโนมัติ เมื่อตรวจจับว่าเป็นพื้นพรม)
- Washable E11 Rated Air Filter (แผ่นกรองอากาศที่สามารถนำไปล้างน้ำได้)
- All-New All-Rubber Brush (แปรงกวาดหลักปรับปรุงใหม่ ให้เป็นแปรงยางล้วนๆ ป้องกันเส้นผมไปติดพัน)
- Adaptive Route Algorithms (อัลกอริทึมที่สามารถปรับเปลี่ยนเส้นทางได้อยู่ตลอด ตามความเหมาะสม)
- Auto Top-Up (การชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มอัตโนมัติ และกลับออกไปทำความสะอาดต่อ ในพื้นที่ที่เหลือ)
- Child Lock (มีโหมดล็อกป้องกันเด็ก หรือสัตว์เลี้ยง มากดปุ่มเล่น บนตัวเครื่อง)
- Status Indicator Lights (ไฟแสดงสถานะของตัวเครื่อง ที่สวยงาม แต่ก็สามารถสั่งปิดได้ผ่านแอปพลิเคชัน)