LG DUALCOOL with Air Purifying System
บทความนี้เป็นมินิรีวิวสั้นๆ ของแอร์ LG DUALCOOL with Air Purifying System ที่จะนำเสนอเทคโนโลยีที่มากับเครื่องปรับอากาศ หรือเครื่องแอร์ ของ LG จากแดนกิมจิ ประเทศเกาหลีใต้ เครื่องนี้ เพราะในปัจจุบัน มีแอร์หลายรุ่น หลายยี่ห้อ ที่ไม่ได้มีความสามารถแค่การทำความเย็นอย่างเดียว แต่ยังมีการพ่วงเอาเทคโนโลยีอื่นๆ เข้ามาด้วย เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และความสะดวกสบายของผู้ใช้งานนั่นเอง
โดยแอร์ LG DUALCOOL with Air Purifying System เป็นชื่อของแอร์ LG ในตระกูลที่มีความสามารถ ของระบบการฟอกอากาศ (Air Purifying System) แบบเต็มรูปแบบ นอกจากนี้แล้วยังมีความสามารถในการทำความเย็นที่เร็วกว่าแอร์อินเวอร์เตอร์ ทั่วๆ ไปอีกกว่า 40%
แถมมันยังสามารถสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่น แอพลิเคชั่น LG Smart ThinQ™ ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่น ที่เอาไว้ใช้ควบคุม สั่งงานแอร์ และ เครื่องใช้ไฟฟ้า ต่างๆ ของ LG ได้ในหลายๆ ชนิด หลายๆ รุ่น ผ่านสมาร์ทโฟน (โทรศัพท์มือถือ) จากนอกบ้านได้ง่ายๆ อีกด้วย
โดยแอร์ LG DUALCOOL with Air Purifying System ที่ทำรีวิวเครื่องนี้ เป็นแอร์รุ่น IL13R มีการทำความเย็น 12,000 BTU/ ชั่วโมง สำหรับรายละเอียดอื่นๆ สามารถกดดูได้จากเมนูลัดด้านล่างนี้ได้เลย
- ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค ของตัวเครื่อง
- คุณสมบัติ และความสามารถของผลิตภัณฑ์
- ลำดับขั้นตอนการฟอกอากาศ
- โหมด และฟังก์ชั่นเสริมพิเศษ ที่ให้มาในเครื่อง
- ส่วนประกอบของเครื่องภายในอาคาร
- บทสรุปการใช้งาน ข้อดี ข้อเสีย
ด้านล่างนี้ก็เป็นคลิปวีดีโอรีวิวสั้นๆ หรือมินิรีวิว ของแอร์ LG DUALCOOL with Air Purifying System ระยะเวลาประมาณ 5 นาทีเท่านั้น
ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค ของ แอร์ LG DUALCOOL with Air Purifying System รุ่น IL13R (12,000 BTU)
รายละเอียด (Specification) |
|
ขนาดมิติ (Dimension) |
|
น้ำหนักเครื่อง (Net Weight) |
|
ไฟเข้า (Input) |
AC 220-230V 50/60 Hz (1 เฟส – Phase) |
อัตราการกินไฟ (Power Consumption) |
950 วัตต์ (Watts) |
กระแสไฟฟ้า (Electric Current) |
4.50 แอมป์ (Amps) |
การทำความเย็น (Rated BTU) |
12,000 BTU/ชั่วโมง (2,150 -14,000) |
พื้นที่รองรับ (Area Coverage) |
ประมาณ 20-30 ตารางเมตร (m2) (ขึ้นอยู่กับห้องที่ติดตั้ง) |
ค่าไฟฟ้า (Electricity Cost) |
7,134.11 บาท/ปี |
หน่วยบริโภคต่อปี (Unit Used / Year) |
1,801.54 หน่วย/ปี |
ชนิดน้ำยาทำความเย็น (Refrigerant Type) |
R32 |
ปริมาณน้ำยาทำความเย็น (Refrigerant Volume) |
N/A |
ระดับเสียงขณะนำงาน (Noise Level) |
|
ข้อมูลจากเว็บไซต์ : https://www.lg.com/
คุณสมบัติ และความสามารถของ แอร์ LG DUALCOOL with Air Purifying System
มาดูคุณสมบัติ และความสามารถ หลักๆ ของแอร์ LG ตระกูล DUALCOOL with Air Purifying System ว่ามีจุดไหนที่น่าสนใจ และแตกต่างจากเครื่องแอร์ทั่วๆ ไปอย่างไร มาดูกันเลย
1. Full-Featured Air Purifying System (ระบบฟอกอากาศเต็มรูปแบบ)
เราอาจจะเห็นแอร์หลายๆ รุ่น หลายๆ ยี่ห้อ ที่โฆษณาว่า มันมีความสามารถในการฟอกอากาศได้ด้วย ซึ่งคำว่า “ฟอกอากาศ” ได้นั้น ค่อนข้างที่จะกว้างอยู่พอสมควร บางทีการนำเอาแผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพดีๆ สักตัวมาใส่กับเครื่องแอร์ เราก็สามารถบอกได้ว่า แอร์เครื่องนี้มีความสามารถในการฟอกอากาศได้เช่นกัน
แต่สำหรับแอร์ LG DUALCOOL with Air Purifying System นั้นเป็นการฟอกอากาศแบบเต็มรูปแบบ มันมีอุปกรณ์ที่ เครื่องฟอกอากาศจริงๆ นั้นมีอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น เซ็นเซอร์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก รวมไปถึง ตัวปล่อยอนุภาคไอออน และ ตัวกรองฝุ่นไมโคร (แผ่นกรองอากาศ) ที่มาร่วมกันช่วยปฏิบัติการกรองอากาศภายในห้องของคุณให้สะอาดบริสุทธิ์ เหมาะสำหรับห้องที่มีผู้ป่วย เด็กเล็ก หรือคนเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ อย่างโรคภูมิแพ้ เป็นต้น (รายละเอียดขั้นตอน และกระบวนการฟอกอากาศ)
2. Dual Inverter Compressor (คอมเพรสเซอร์อินเวอร์เตอร์แบบคู่)
เครื่องนี้เป็นแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์แบบคู่ (Dual Inverter) (ทาง LG มีอีกชื่อ ที่เรียกว่า “DUALCOOL“) โดยเขาใช้คอมเพรสเซอร์แบบโรตารี่คู่ (Twin Rotary Compressor) ซึ่งจะส่งผลให้เครื่องทำความเย็นได้เร็วขึ้นกว่า 40% เทียบจากคอมเพรสเซอร์ของ แอร์แบบอินเวอร์เตอร์ทั่วไป ที่อาจจะมีระดับความเร็วในการหมุนของโรตารี่ไม่มากพอ ทำให้การทำความเย็นไม่เร็วเท่าที่ควร นอกจากนี้แล้วยัง ประหยัดพลังงานมากถึง 70% อีกด้วย
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าแอร์แบบอินเวอร์เตอร์ทั่วๆ ไปจะมีดีตรงที่การประหยัดไฟ มันจะกินไฟน้อยกว่าแอร์ปกติทั่วๆ ไปอยู่พอสมควร แต่มันก็แอบมีข้อเสียเล็กๆ อยู่หน่อยนึง คือในเรื่องของการทำความเย็น ที่อาจจะเย็นช้า ไม่ได้ดั่งใจเท่าไหร่ เพราะตัวคอมเพรสเซอร์แอร์จะรักษารอบให้ค่อนข้างนิ่ง (ค่อยๆ แรง ค่อยๆ ผ่อน) เพื่อให้เกิดการกระชากของไฟในระบบให้น้อยที่สุด ต่างจากแอร์แบบธรรมดา
3. Mobile Application Control via Wi-Fi (ควบคุมเครื่องด้วยแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ผ่านเครือข่าย Wi-Fi)
แอร์ LG DUALCOOL with Air Purifying System อยู่ในตระกูลที่สามารถสั่งงาน ได้ด้วยแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สาย Wi-Fi ได้ โดยคุณจะต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า LG Smart ThinQ™ ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่น ที่เอาไว้ควบคุม สั่งงาน เครื่องใช้ไฟฟ้าของ LG ในหลายๆ ตัว อาทิ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า เครื่องฟอกอากาศ ตู้เย็น และอุปกรณ์อื่นๆ ของ LG ที่รองรับ
ด้วยความสามารถของ แอพพลิเคชั่น แอพลิเคชั่น LG Smart ThinQ™ คุณสามารถสั่งเปิดปิดเครื่อง ปรับเปลี่ยนอุณหภูมิในการทำความเย็น ปรับเปลี่ยนความเร็วพัดลม (ต่ำ/ กลาง/ สูง/ อัตโนมัติ) ปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานต่างๆ รวมไปถึงดูสถานะปัจจุบันของตัวเครื่อง ทั้งอุณหภูมิปัจจุบัน โหมดปัจจุบัน หรือแม้แต่ ระดับคุณภาพอากาศภายในห้องปัจจุบัน เป็นต้น
4. Gold Fin™ Technology (คอนเดนเซอร์ป้องกันการสึกกร่อน)
เทคโนโลยี Gold Fin™ เป็นเครื่องหมายการค้า (Trademark) เฉพาะของของ เครื่องแอร์ LG ที่อยู่ในหลายๆ รุ่น มันคือการเคลือบทองแดงที่ แผงคอนเดนเซอร์* เพื่อป้องกันการสึกกร่อน และสนิม ที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากความชื้น เพราะคอนเดนเซอร์ จะติดตั้งอยู่ภายนอกอาคาร ต้องเจอทั้งแดด (อุณหภูมิสูง) ทั้งฝน (ความชื้น)
ข้อมูลเพิ่มเติม* : คอนเดนเซอร์ (Condenser) หรือ คอยล์ร้อน เป็นแผงโลหะอยู่ที่ส่วนของเครื่องภายนอกอาคาร (Outdoor Unit) ทำหน้าที่ระบายความร้อนจากสารทำความเย็น (น้ำยาแอร์) ก่อนจะเปลี่ยนสถานะจากไอ เป็นของเหลว และถูกส่งกลับเข้าไปทำความเย็นในระบบอีกครั้ง
5. Smart Display (หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะบนตัวเครื่อง)
สมาร์ทดิสเพลย์ (Smart Display) หรือหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ ที่อยู่บนตัวเครื่องภายในอาคาร ที่จะคอยแสดงระดับคุณภาพอากาศภายในห้อง ทั้งสี และตัวเลข เพื่อให้ผู้ใช้งาน (หรือผู้พักอาศัย) ได้รู้ว่าขณะนี้ ระดับคุณภาพอากาศภายในห้องที่อาศัยอยู่นั้นเป็นอย่างไร โดยค่าที่ได้นำมาจาก เซ็นเซอร์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 1.0 ที่ถูกติดตั้งอยู่ด้านข้างของตัวเครื่อง เพื่อระดับความหนาแน่นของฝุ่นละออง ที่อยู่รอบๆ ตัวเครื่องนั่นเอง
โดยหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ จะแสดงค่าความหนาแน่นของฝุ่นได้แบบสดๆ (Real-time) ได้ทั้งฝุ่นละอองทั้งขนาดเล็ก (PM 1.0) ขนาดปานกลาง (PM 2.5) หรือแม้แต่ฝุ่นขนาดใหญ่ (PM 10) (เปลี่ยนการแสดงผลได้ที่รีโมทคอนโทรล) มันสามารถแสดงค่าออกมา ได้ทั้งตัวเลข (หน่วยวัดคือ ไมโครเมตร – µg/m3) และสี โดยมีสีหลักๆ อยู่ทั้งหมด 6 สีด้วยกันคือ
(อากาศสะอาดบริสุทธิ์) สีเขียว (Green) → สีเหลือง (Yellow) → สีส้ม (Orange) → สีแดง (Red) → สีชมพู (Pink) → สีม่วง (Purple) (อากาศมีมลพิษ)
6. Various Modes and Functions (มีโหมด และฟังก์ชั่นการทำงานที่หลากหลาย)
เครื่องนี้ยังมีโหมด และฟังก์ชั่นการทำงานเสริมพิเศษต่างๆ ให้ผู้ใช้ได้เลือกใช้อีกมากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละวัตถุประสงค์ และสถานการณ์ อาทิ โหมดขจัดความชื้น โหมดอัตโนมัติ ฟังก์ชั่นฟอกอากาศ ฟังก์ชั่นไล่ยุง ฟังก์ชั่นประหยัดพลังงาน เป็นต้น (อ่าน รายละเอียดโหมด และฟังก์ชั่นเสริมพิเศษ เพิ่มเติม)
ขั้นตอนฟอกอากาศของ แอร์ LG DUALCOOL with Air Purifying System
ด้านความสามารถของการฟอกอากาศของแอร์ LG DUALCOOL with Air Purifying System นั้น เขาได้ใช้เทคโนโลยีที่ชื่อว่า “Plasmaster Ionizer Plus (พลาสมาสเตอร์ ไอออไนส์เซอร์ พลัส)”
การฟอกอากาศของแอร์เครื่องนี้ ไม่ได้มีแค่เฉพาะแผ่นกรองอากาศอย่างเดียว แต่มันยังมีตัวช่วยต่างๆ เข้ามาเสริมทัพอีกอย่างเช่น เซ็นเซอร์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 1.0 หรือแม้แต่ ตัวปล่อยอนุภาคไอออน เพื่อให้การฟอกอากาศมีประสิทธิภาพมากที่สุด พูดง่ายๆ คือ เหมือนคุณมีเครื่องปรับอากาศ (Air Conditioner) และ เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) อยู่ในเครื่องเดียวกันนั่นเอง โดยเทคโนโลยีการฟอกอากาศในเครื่องนี้ มี 3 ขั้นตอนหลักๆ ด้วยกันคือ
1. Auto Sensing (ขั้นแรก – ตรวจฝุ่น)
แอร์เครื่องนี้ ใช้เซ็นเซอร์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 1.0 ที่ถูกติดตั้งอยู่ด้านขวาของตัวเครื่องภายในอาคาร (ถ้าหันหน้าเข้าเครื่อง) ในการตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในห้อง ก่อนจะนำผลลัพธ์มาแสดงที่หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ (Smart Display) บนตัวเครื่อง หรือบนแอพลิเคชั่น LG Smart ThinQ™ ขณะที่ข้อมูลที่ได้จากเซ็นเซอร์ฯ ก็จะถูกส่งไปประมวลผลที่หน่วยประมวลผล (Processor) ของเครื่องแอร์ในลำดับต่อไป
2. Ion Diffuser (ขั้นที่สอง – จับฝุ่น)
ใช้ตัวปล่อยอนุภาคไอออน (Ionizer) ที่ถูกติดตั้งอยู่ด้านบนของตัวเครื่องภายในอาคาร เพื่อปล่อยอนุภาคไอออนที่เป็น ประจบวก (+) ประจุลบ (-) จำนวน 5 ล้านตัว/ ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)* ออกมาในอากาศ เพื่อช่วยดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก ฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย ที่ลอยอยู่ในอากาศ ได้สูงสุด 99.9% รวมไปถึงลดความแรงของกลิ่นต่างๆ ได้อีกด้วย และนี่คือส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี Plasmaster Ionizer Plus เทคโนโลยีเฉพาะจาก LG เท่านั้น
3. Filtration System (ขั้นที่สาม – กรองฝุ่น)
ใช้ตัวกรองฝุ่นไมโคร (Micro Dust Filter) หรือแผ่นกรองอากาศจาก 3M ขนาดใหญ่ ครอบคลุมทั้งแผงหน้ากากด้านบนของตัวเครื่องภายในอาคารด้านบน โดยมันมีความละเอียดในการกรองอากาศสูงมาก สามารถดักจับฝุ่นที่มีอนุภาคขนาดเล็ก ทั้งเชื้อโรค แบคทีเรีย ควันรถยนต์ ควันบุหรี่ และอื่นๆ ได้ในระดับ 0.3 ไมโครเมตร (µm) ถือว่าเล็กมากๆ
โหมด และฟังก์ชั่นเสริมพิเศษ ที่ให้มาในแอร์ LG DUAL COOL with Air Purifying System
ข้อมูลจากตารางด้านล่างนี้นำมาจากคู่มือการใช้งานของเครื่อง โดยจะคัดมาเฉพาะโหมด หรือฟังก์ชั่นที่น่าสนใจเท่านั้น (จริงๆ มีมากกว่านี้อีก)
Special Mode – โหมดพิเศษ | |
ชื่อโหมด |
คุณสมบัติ |
JET COOL MODE (โหมดเปลี่ยนอุณหภูมิห้องอย่างรวดเร็ว) |
ใช้สำหรับการเปลี่ยนอุณหภูมิห้องอย่างรวดเร็ว เช่นต้องการทำให้ห้องเย็นเร็วขึ้น ภายในเวลาอันรวดเร็ว เป็นต้น |
AUTO OPERATION (AI) MODE (โหมดอัตโนมัติ) |
ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) มาช่วยในการควบคุมอุณหภูมิภายในห้อง โดยผู้ใช้งานจะเป็นผู้เลือกระดับของความรู้สึกได้ อาทิ เย็น/ เย็นนิดหน่อย/ รักษาอุณหภูมิให้คงที่ เป็นต้น ซึ่งความเร็วของพัดลม และอุณหภูมิจะถูกปรับโดยอัตโนมัติ โดยผู้ใช้งานจะไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ |
DRY MODE (โหมดขจัดความชื้น) |
เครื่องจะช่วยไล่ความชื้น (Humidity) หรือน้ำที่อยู่ในอากาศให้ออกไปจากห้องเร็วขึ้น ความชื้นจะมีมากในช่วงระหว่างหรือหลังฝนตก และการมีความชื้นเป็นจำนวนมากนั้น จะส่งผลเสียในแง่ของการก่อตัวของเชื้อรา ซึ่งเป็นอันตรายกับตัวเราเอง หรือแม้แต่กับเฟอร์นิเจอร์ และข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน |
Special Function – ฟังก์ชั่นพิเศษ | |
ชื่อฟังก์ชั่น | คุณสมบัติ |
AIR PURIFY FUNCTION (ฟังก์ชั่นฟอกอากาศ) |
เปิดระบบฟอกอากาศแบบเต็มรูปแบบ คือ เซ็นเซอร์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 1.0 และตัวปล่อยอนุภาคไอออน ทำงานร่วมกันทั้งหมดกับ ตัวกรองฝุ่นไมโคร สามารถทำได้ 2 วิธีคือ
|
MOSQUITO AWAY FUNCTION (ฟังก์ชั่นไล่ยุง) |
เครื่องจะปล่อยคลื่นอัลตร้าโซนิค ซึ่งเป็นคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasonic Wave) ในระดับ 30 กิโลเฮิรตซ์ (kHz) ซึ่งเป็นคลื่นที่มนุษย์ไม่ได้ยิน และไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อมนุษย์ แต่ยุงได้ยินแล้วรู้สึกรำคาญ จนต้องบินหนีออกไป สามารถใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้โดยไม่ต้องเปิดระบบทำความเย็น |
ENERGY SAVING FUNCTION (ฟังก์ชั่นประหยัดพลังงาน) |
ฟังก์ชันนี้จะลดการใช้พลังงาน ในระหว่างการทำความเย็น และเพิ่มอุณหภูมิที่ตั้งไว้ให้สูงขึ้นไปสู่ระดับที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้สภาพแวดล้อมที่สบายมากขึ้น |
ACTIVE ENERGY CONTROL FUNCTION (ฟังก์ชั่นควบคุมพลังงาน) |
ฟังก์ชั่นควบคุมการใช้พลังงานของเครื่องแอร์ ให้เป็นไปตามที่กำหนด ประหยัดทั้งพลังงาน และประหยัดทั้งเงินในกระเป๋าสตางค์ (ค่าไฟ) โดยระบบจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 ขั้น (Steps) ด้วยกันคือ
|
SILENT FUNCTION (ฟังก์ชั่นเงียบ) |
ช่วยลดเสียงจากการทำงานของเครื่องภายนอกอาคาร (Outdoor Unit) ป้องกันการร้องเรียนในประเด็นเรื่องของมลภาวะทางเสียง จากเพื่อนบ้าน หรือห้องข้างๆ (ในกรณีพักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม) |
COMFORT SLEEP FUNCTION (ฟังก์ชั่นนอนหลับสบาย) |
ฟังก์ชั่นที่จะช่วย ปรับสภาพแวดล้อมของการนอนหลับพักผ่อน ให้สบายมากยิ่งขึ้น โดยหลังจากเปิดการทำงานของฟังก์ชั่น แอร์จะเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้น จากเดิมที่ตั้งค่าเอาไว้ 2 องศาเซลเซียส ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง และจะอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีการปรับอุณหภูมิเองอีกครั้ง |
อ้างอิงจาก : นำมาจาก คู่มือการใช้งานของผลิตภัณฑ์ (Use Manual)
ส่วนประกอบของเครื่องภายในอาคาร ของแอร์ LG DUALCOOL with Air Purifying System รุ่น IL13R
- Micro Dust Filter (ตัวกรองฝุ่นไมโคร) : ตัวแผ่นกรองฝุ่น จะวางอยู่ตลอดแนวด้านบนของตัวเครื่องภายในอาคาร (ต้องปีนขึ้นไปดูด้านบนถึงจะเห็น) ที่เป็นช่องอากาศเข้า
- Ionizer (ตัวปล่อยอนุภาคไอออน) : อุปกรณ์ที่อยู่ด้านบนสุดของตัวเครื่องภายในอาคาร อาจจะดูไม่คุ้นตาสักเท่าไหร่ ทำหน้าที่ปล่อยไฟฟ้าประจบวก (+) และประจุลบ (-) ออกมาสู่อากาศภายในห้อง (อาจมีไฟฟ้าสถิตจากไอออน กรุณาอย่านำมือไปสัมผัส)
- Air Inlet (ช่องอากาศเข้า) : อยู่ข้างใต้แผ่นกรองฝุ่นไมโคร ที่วางอยู่ตลอดแนวด้านบนของตัวเครื่องภายในอาคารเช่นกัน ดังนั้นอากาศสามารถถูกดูดเข้าไปภายในตัวเครื่องได้อย่างเต็มที่ ไม่มีคอขวด
- Front Cover (แผงหน้ากากด้านหน้า) : แผงพลาสติกสีขาว ที่ด้านขวามือของแผง (ถ้าหันหน้าเข้าเครื่อง) จะมีหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ (Smart Display) ที่จะคอยรายงาน ระดับคุณภาพอากาศภายในห้อง อยู่ตลอดเวลา แต่สามารถปิดการแสดงผลบนหน้าจอได้ ถ้ามันรบกวนการนอนหลับพักผ่อนของคุณ
- PM 1.0 Sensor (เซ็นเซอร์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 1.0) : เซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ หรือฝุ่นละอองขนาดเล็ก ได้ถึงระดับ 0.3 ไมโครเมตร โดยจะดูจากปริมาณความหนาแน่นของฝุ่นเป็นหลัก โดยฝาครอบตัวเซ็นเซอร์ฯ สามารถถอดออกมาได้ เพื่อทำความสะอาดเลนส์ที่อยู่ภายในด้วยสำลีได้ (ควรทำความสะอาดทุกๆ 6 เดือน)
- Power ON/OFF Switch (ปุ่มเปิดปิดเครื่อง) : ถูกซ่อนอยู่ข้างหลังตัวสะท้อนอากาศแนวตั้ง ใช้เปิดปิดเครื่องในกรณีที่ไม่มีรีโมทคอนโทรล ก็สามารถกดที่ปุ่มนี้เพื่อเปิดเครื่องได้เลย (ถ้ากดซ้ำอีกครั้งคือปิดเครื่อง)
- Air Deflector – Vertical Louver (แผ่นปรับทิศทางลมแอร์แนวตั้ง) : ตัวสะท้อนอากาศ ที่เป็นช่องระบายแนวตั้ง ใช้ควบคุมทิศทางลมในแนวตั้ง (ขึ้น ↑ หรือ ลง ↓) สามารถปรับได้ผ่านรีโมทคอนโทรล
- Air Deflector – Horizontal Vane (แผ่นปรับทิศทางลมแอร์แนวนอน) : ตัวสะท้อนอากาศ ที่เป็นช่องระบายแนวนอน ที่ให้คุณได้สามารถปรับทิศทางลมในแนวนอน (ไปทางซ้าย ← หรือทางขวา →) ได้อัตโนมัติผ่านรีโมทคอนโทรลเช่นกัน
- Air Outlet (ช่องอากาศออก) : หลังจากที่อากาศได้ถูกกรองด้วยตัวกรองฝุ่นไมโคร และทำความเย็น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะถูกเป่าออกมาทางเครื่องนี้
บทสรุปการใช้งาน ข้อดี ข้อเสีย แอร์ LG DUALCOOL with Air Purifying System
ข้อดี 🙂
- มีความสามารถในการฟอกอากาศอย่างเต็มรูปแบบ เรียกได้ว่าซื้อแอร์มาแล้ว เหมือนได้เครื่องฟอกอากาศพ่วงติดมาด้วยอีกเครื่อง
- มีลูกเล่นค่อนข้างเยอะมากๆ ให้เลือกใช้ตามสถานการณ์ และความจำเป็นของผู้ใช้งานได้เลย
- หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ (Smart Display) ถูกฝังอยู่ที่แผงหน้ากากด้านหน้า ได้อย่างสวยงาม และลงตัว เวลาปิดเครื่องจะมองไม่เห็นหน้าจอเลย แถมยังแสดงผลแบบสดๆ เรียลไทม์กันอีกด้วย
- การเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น Smart ThinQ™ สามารถทำได้ง่ายๆ ตามหนังสือคู่มือการใช้งานไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอะไรเลย
- การตอบสนองการสั่งงานเครื่องผ่านแอพพลิเคชั่น ค่อนข้างไว ไม่หน่วง ไม่ดีเลย์เลย
ข้อเสีย 🙁
- ด้วยความที่มันมีลูกเล่น รวมไปถึงฟังก์ชั่น ต่างๆ ที่ค่อนข้างเยอะมาก จึงทำให้ต้องใช้เวลาศึกษา ทำความเข้าใจพอสมควร
- สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน หรือใช้ไม่เป็น จะทำให้ไม่สามารถใช้งานเครื่องได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ