เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree Lotus
รีวิวฉบับนี้เป็นการรีวิว เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree Lotus จากประเทศโปรตุเกส (Portugal) มันมีความสามารถในการฆ่าเชื้อโรคที่ลอยอยู่ในอากาศ ไม่ว่าจะเป็น เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และ สารก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ ได้สูงสุดถึง 99.99% ด้วย เทคโนโลยี TSS เป็นการ ใช้ความร้อนสูงถึง 200 องศาเซลเซียส (°C) หรือ ประมาณ 400 องศาฟาเรนไฮต์ (°F) กันเลยทีเดียว
โดยอุณหภูมิในระดับนี้ ถือเป็นระดับอุณหภูมิที่เพียงพอต่อการฆ่าเชื้อโรค อย่าง ไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา ให้ตายลงได้ เรียกได้ว่าใครที่มีอาการเป็นภูมิแพ้ เป็นหวัด คัดจมูก กันบ่อยๆ เครื่องนี้สามารถช่วยได้อย่างแน่นอน
ก่อนที่จะไปเริ่มทำความรู้จักเครื่องนี้ เช่นเคย ในส่วนของด้านล่างจะเป็นเมนูลัด (Shortcut) ให้คุณได้สามารถเข้าถึงเนื้อหาของรีวิวฉบับนี้ได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
- Airfree เป็นใครมาจากไหน ?
- เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ ต่างกับ เครื่องฟอกอากาศ อย่างไร ?
- เทคโนโลยี TSS คืออะไร ? และ ประโยชน์ของมันคืออะไร ?
- แกะกล่องผลิตภัณฑ์ Airfree Lotus
- อุปกรณ์ภายในกล่องผลิตภัณฑ์
- ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค ของตัวเครื่อง
- คุณสมบัติ และ ความสามารถของ เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree Lotus
- สำรวจส่วนประกอบต่างๆ ของตัวเครื่อง
- การติดตั้งและเริ่มต้นใช้งาน และ ความรู้สึกหลังการใช้งาน
- คำถามที่อยากรู้เกี่ยวกับตัวเครื่อง (FAQs)
- บทสรุปข้อดีข้อเสีย ของ เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree Lotus
- ดูการรับรองจากสถาบันวิจัย และ การทดสอบจากอุตสาหกรรมจริง
เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree เป็นใครมาจากไหน ?
“Airfree” เป็นแบรนด์สินค้า จากประเทศโปรตุเกส ถูกก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) โดยเน้นผลิตสินค้าด้านสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเกี่ยวกับ “อากาศ – Air” เป็นหลัก โดยมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ หรือแม้แต่ เครื่องฟอกอากาศ นอกจากนี้แล้วยังเป็นผู้คิดค้นและผู้นำด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี ต่างๆ มากมาย รวมถึงเจ้าของเทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรเฉพาะอีกด้วย
โดยในปัจจุบันสินค้าแบรนด์ Airfree มีวางจำหน่ายอยู่กว่า 60 ประเทศทั่วโลก จาก 6 ทวีป รวมถึงประเทศไทย ของเราด้วยเช่นกัน
สำหรับในประเทศไทย แรกเริ่มเดิมที สินค้าจาก Airfree ถูกนำเข้า และ จัดจำหน่ายโดย บริษัท ไทยอินเตอร์คอนติเนนตัล เทรดดิ้ง จำกัด มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) แต่ภายหลัง บริษัท ไทยอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุ๊ป จำกัด จำกัด ได้นำมาจำหน่ายต่อในเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561)
เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree ต่างกับ เครื่องฟอกอากาศ ทั่วไปอย่างไร ?
เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะตั้งคำถามว่า เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ (Air Sterilizing Purifier) มันแตกต่างยังไงกับ เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) ทั่วไป ที่พวกเรารู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว และเชื่อว่า หลายๆ ท่านที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ขณะนี้ ก็มีเครื่องฟอกอากาศ ครอบครองเอาไว้อยู่ด้วยเช่นกัน (รวมถึงผมด้วย อย่างที่รีวิวกันมาหลายๆ ตัว)
จุดนี้ขอไขข้อข้องใจ ข้อสงสัย กันสักเล็กน้อย เพราะโดยปกติแล้ว เครื่องฟอกอากาศส่วนใหญ่ หลักการการทำงานของมันคือ การดูดอากาศจากภายนอกเข้ามาในตัวเครื่อง ด้วยพัดลมดูดอากาศ เพื่อให้อากาศที่ถูกดูดเข้ามานั้น ผ่านแผ่นกรองในชั้นต่างๆ อาทิ แผ่นกรอง HEPA แผ่นกรองกรองคาร์บอน (กรองกลิ่น) การมีเข็มช่วยปล่อยประจุไฟฟ้า อย่าง ประจุไอออนบวก-ลบ ต่างๆ ออกมามากมาย ก่อนที่อากาศทั้งหมดจะปล่อยกลับออกไปสู่บรรยากาศภายนอกอีกครั้ง
ขณะที่ เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree ได้ใช้ความร้อนในการฆ่าเชื้อโรค ด้วยการใช้อุณหภูมิสูง (ร้อนมากๆ) นอกจากนี้แล้ว โดยไม่ต้องเสียค่าบำรุงรักษา เหมือน เครื่องฟอกอากาศทั่วๆ ไปที่จำหน่ายในท้องตลาดทั่วไป ที่ต้องหมั่นทำความสะอาด หรือ เปลี่ยน แผ่นกรองอากาศ กันอยู่บ่อยครั้ง
เทคโนโลยี TSS คืออะไร ? และ ประโยชน์ของมันคืออะไร ?
– TSS เทคโนโลยีสิทธิบัตรเฉพาะ จาก Airfree
สำหรับ เทคโนโลยี TSS ย่อมาจากชื่อเต็มว่า “Thermodynamic Sterilizing System” แปลเป็นไทยคือ “ระบบฆ่าเชื้อโรคด้วยความร้อน” เป็นเทคโนโลยีสิทธิบัตร (Patent) เฉพาะของยี่ห้อ Airfree เท่านั้น เรียกได้ว่า ห้ามใครลอกเลียนแบบเทคโนโลยีนี้ มิเช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีทางกฏหมายอย่างแน่นอน
และจากที่กล่าวมาด้านบน เทคโนโลยี TSS จะเป็นการใช้ ความร้อนในการฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ที่อยู่ในอากาศเกือบทั้งหมด อาทิ แบคทีเรียในอากาศ เชื้อราในอากาศ ไวรัส ไรฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้ กลิ่นไม่พึงประสงค์ ขนรังแคจากสัตว์เลี้ยง และอื่นๆ โดยไม่ใช้พัดลมดูดอากาศ (Vacuum Fan) เลยแม้แต่น้อย
ด้านล่างนี้เป็นตารางเปรียบเทียบ ความสามารถของเทคโนโลยี TSS กับ เทคโนโลยีอื่นๆ ที่ใช้ในการฟอกอากาศปัจจุบัน (อ้างอิงจากเว็บไซต์ของผู้ผลิต)
| สารพิษในอากาศ | เทคโนโลยีการฟอกอากาศในปัจจุบัน | ||||||
| แบบประจุไฟฟ้า | แบบไส้กรอง | แบบโอโซน | ไส้กรอง HEPA (> 0.3µ) | ไส้กรองอนุภาคเล็ก (> 1.0 µ) | ไส้กรองคาร์บอน | เทคโนโลยี TSS (ใน Airfree) | |
| ฝุ่นละอองในบ้าน | ✔ | ✕ | ✕ | ✔ | ✔ | ✔ | ✕ |
| โอโซน (O3) | ✕ | ✕ | ✕ | ✕ | ✕ | ✕ | ✔ |
| สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOC) | ✕ | ✔ | ✕ | ✕ | ✕ | ✔ | ✕ |
| แบคทีเรียในอากาศ | ✕ | ✔ | ✔ | ✕ | ✕ | ✕ | ✔ |
| เชื้อราในอากาศ | ✕ | ✔ | ✔ | ✔ | ✕ | ✕ | ✔ |
| เชื้อไวรัส | ✕ | ✔ | ✔ | ✕ | ✕ | ✕ | ✔ |
| มูลของตัวไรฝุ่น (ก่อให้เกิดภูมิแพ้) | ✕ | ✕ | ✕ | ✔ | ✔ | ✕ | ✔ |
| ละอองเกสรดอกไม้ | ✕ | ✕ | ✕ | ✔ | ✔ | ✕ | ✔ |
| กลิ่นไม่พึงประสงค์ | ✔ | ✔ | ✔ | ✕ | ✕ | ✔ | ✔ |
| ขนรังแคจากสัตว์เลี้ยง | ✕ | ✕ | ✕ | ✔ | ✔ | ✕ | ✔ |
หลักการทำงานของ เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree ด้วยเทคโนโลยี TSS
ถ้าหากเกิดความสงสัยว่า ในเมื่อเทคโนโลยีนี้ ไม่ได้ใช้ พัดลมดูดอากาศ ในการดูดลมเข้ามาภายในตัวเครื่อง เหมือนกับ เครื่องฟอกอากาศทั่วๆ ไปเลย แล้ว อากาศจะเข้าไปข้างในให้ถึง แกนเซรามิค (Ceramic Core) ได้มากเพียงพอ ได้อย่างไร ? ตรงจุดนี้ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า โดยหลักธรรมชาติแล้ว “อากาศเย็น จะต้องวิ่งเข้าหา อากาศร้อน เสมอ”
ถ้าไม่เชื่อหรืออยากทดสอบ ก็ขอให้ทดลองเปิดแอร์ในห้องๆ นึงแล้วทิ้งไว้สักพักจนอุณหภูมิห้องนั้นลดต่ำลงในระดับนึง (สมมุติ 25 องศาเซลเซียส) แล้วเปิดประตูออกไปอีกห้อง หรือ ข้างนอก ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า ถ้าเราอยู่ห้องที่ไม่ได้เปิดแอร์ (ห้องที่ร้อนกว่า) หรือ นอกอาคาร เราก็จะรู้สึกว่ามีลมเย็นวิ่งออกไปหาพื้นที่ที่มีอากาศร้อน (อุณหภูมิสูงกว่า) โดยทันที กล่าวโดยสรุปคือ
อากาศเย็น 🢂🢂 อากาศร้อน 🢂🢂 อากาศอุ่น
และหลักการนี้ ก็ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยี TSS นี้ด้วยเช่นกัน อากาศเย็น จะวิ่งเข้าไปที่แกนเซรามิคที่มีความร้อนสูงในระดับ 200 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นอากาศก็จะกลับออกมาสู่บรรยากาศภายนอกอีกครั้ง
แกะกล่องผลิตภัณฑ์ เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree Lotus
ผลิตภัณฑ์ Airfree Lotus ถูกบรรจุในเป็นกล่องสีขาว โดยมีการใช้ สีน้ำเงิน และ สีฟ้า ที่เป็นสีโลโก้หลักของผลิตภัณฑ์ Airfree
ด้านหน้าและด้านหลังของกล่อง : มีรูปแบบการออกแบบที่เหมือนกัน คือเป็นตัวเครื่อง เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree Lotus สีขาว กำลังเปิดฝากลีบบัวของเครื่อง เล็กน้อย มีชื่อยี่ห้อพร้อมรุ่น “Airfree Lotus” พร้อมกับเขียนอธิบายสรรพคุณแบบสั้นๆ ว่า
“The Natural Solution for Asthma, Allergies, Mould and Contaminated Air”
แปลเป็นภาษาไทยคือ
“ทางออกของ โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ เชื้อรา และ อากาศที่ปนเปื้อน ด้วยวิธีธรรมชาติ”
ด้านซ้ายของกล่อง : ด้านซ้ายส่วนบนจะเป็น รูปกราฟฟิกประกอบหลักการ การทำงานของตัวเครื่อง Airfree ที่สามารถเข้าใจง่ายๆ ขณะที่ส่วนกลางบอกถึงจำนวนสีของไฟในตัวเครื่อง ซึ่งมีทั้งหมด 9 สี ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ ลดความซ้ำซากจำเจ เพราะแต่ละสี ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไปได้ เรียกได้ว่า นอกจากปล่อยอากาศที่บริสุทธิ์ออกมาแล้ว ยังปล่อยแสงที่สบายตาออกมาอีกด้วยเช่นกัน
และสุดท้ายด้านซ้ายส่วนล่างของกล่อง จะมีมีข้อมูลบอกถึงรายละเอียดสเปค หรือ ข้อมูลจำเพาะของตัวเครื่อง (ดูข้อมูลจำเพาะของเครื่อง เพิ่มเติมได้ที่นี่) พร้อมกับข้อความกำกับชัดๆ ว่า “Made in Portugal – ผลิตในประเทศโปรตุเกส” และก็มีสติ๊กเกอร์จากบริษัทตัวแทนนำเข้า และจัดจำหน่ายในประเทศไทย อีกเล็กน้อย
ด้านขวาของกล่อง : จะบอกถึงความสามารถหลักๆ ของตัวเครื่อง ว่าทำอะไรได้บ้าง เป็นอย่างไรบ้าง อาทิ ประเภทของสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ในอากาศ (Air Impurity) ที่สามารถกำจัดได้ทั้งหมด รวมไปถึงข้อดีอื่นๆ เช่น กินไฟน้อย เสียงเงียบ และอื่นๆ (ดูคุณสมบัติและความสามารถ Airfree Lotus เพิ่มเติมได้ที่นี่)
อุปกรณ์ภายในกล่องผลิตภัณฑ์ เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree Lotus
- Airfree Lotus (เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree รุ่น Lotus) : ตัวเครื่องมี ขนาดมิติ 195 x 195 x 330 มิลลิเมตร พร้อมสายไฟที่ยึดติดกับตัวเครื่อง ขนาดความยาว 1.5 เมตร
- English Instruction Manual (หนังสือคู่มือแนะนำการใช้งานเป็นภาษาอังกฤษ) : ภายในมีข้อมูลรายละเอียดด้านความปลอดภัย การดูแลรักษา ส่วนประกอบต่างๆ ของเครื่อง วิธีการดูแลรักษาเครื่อง ผลการทดสอบประสิทธิภาพของตัวเครื่อง คำถามที่พบบ่อย (FAQs) และอื่นๆ อีกมากมาย
ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค ของ เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree Lotus
| รายละเอียด (Specification) |
|
| ขนาดมิติ (Dimension) |
195 x 195 x 330 มม. |
| น้ำหนัก (Weight) |
2.35 กิโลกรัม |
| ไฟเข้า (Input) |
AC 220-240V 50/60 Hz |
| อัตราการกินไฟ (Power Consumption) |
48 ถึง 57 วัตต์ (Watts) (วัดจริงได้ประมาณ 52-53 วัตต์) |
| พื้นที่รองรับ (Area Coverage) |
60 ตารางเมตร (m2) |
| ระดับเสียง (Noise Level) |
0 dB. (เงียบสนิท) |
คุณสมบัติ และ ความสามารถของ เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree Lotus
มาดูคุณสมบัติของ เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree Lotus นี้กันดูบ้างว่ามีอะไร จุดไหนที่น่าสนใจบ้าง บ้าง มาดูกันเลย
1. Eliminates up to 99.99% of Air Impurities
จากเทคโนโลยี TSS ที่ถูกนำมาใช้ใน เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree Lotus ตัวนี้ มันจึงสามารถ ช่วยกำจัดอากาศที่ไม่บริสุทธิ์ (Air Impurity) ได้สูงสุดถึง 99.99% โดยสามารถกำจัดสิ่งต่างๆ รวมถึงเชื้อโรค ที่ลอยอยู่ในอากาศ (ไม่รวมที่ตกอยู่บนพื้นห้อง) ได้แก่
- Dust Mites (ตัวไรฝุ่น)
- Ozone (O3) (ก๊าซโอโซน)
- Bacteria (เชื้อแบคทีเรียในอากาศ)
- Virus (เชื้อไวรัสในอากาศ)
- Mould (เชื้อราในอากาศ)
- Pollen (ละอองเกสรดอกไม้)
- Organic Odour (กลิ่นไม่พึงประสงค์) (สะกดแบบภาษาอังกฤษอเมริกัน คือ “Odor”)
- Pet Dander (ขนและรังแคจากสัตว์เลี้ยง)
หมายเหตุ : ดูรายละเอียดผลการทดสอบ ผลการวิจัยของเครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree และ ใบรับรองต่างๆ จากสถาบันทดสอบต่างๆ ทั่วโลก ได้ที่นี่ (รายละเอียดผลการทดสอบ และ วิจัย)
2. Made in Europe
ตัวเครื่อง และ วัสดุ ต่างๆ ถูกผลิตและประกอบในประเทศโปรตุเกส (Made in Portugal) แบบ 100% มั่นใจเรื่องคุณภาพของวัสดุ และ กระบวนการผลิตได้เลย
3. Requires no Maintenance
ข้อนี้ถือเป็นอีกจุดเด่นตัวชูโรงของ เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree ตัวนี้เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ “ไม่ต้องเปลี่ยนแผ่นกรอง” พูดง่ายๆ คือ ไม่ต้องมีการบำรุงรักษาเครื่อง หรือ ดูแลอะไรให้มากมาย
4. Totally Silent
เนื่องจาก เทคโนโลยี TSS ทำงานด้วยการใช้หลักธรรมชาติคือ ให้อากาศเย็นวิ่งเข้าหาอากาศร้อน นั่นคือการดูดอากาศเข้าไปข้างในตัวเครื่อง ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องใช้ พัดลมดูดอากาศ ในการดูดอากาศเข้าไปภายในตัวเครื่อง เหมือนเครื่องฟอกอากาศทั่วๆ ไป
และด้วยความที่ภายใน ไม่มีพัดลมดูดอากาศ จึงทำให้ไม่มีมอเตอร์ และ เมื่อไม่มีมอเตอร์ ก็ไม่มีอุปกรณ์ชิ้นใด ในการทำเกิดเสียง เพราะส่วนใหญ่แล้ว เครื่องใช้ไฟฟ้า ต่างๆ จะมีเสียงที่ดังหรือไม่ดัง ก็มาจากมอเตอร์พัดลม นี่แหละ
5. Low Energy Consumption
มีอัตราการกินไฟที่ค่อนข้างต่ำ ประมาณ 50 วัตต์ +/- นิดหน่อย เทียบเท่ากับการเปิดพัดลมไฟฟ้า เบอร์ 3 เพราะจากที่กล่าวไปในคุณสมบัติข้อ 4. คือ ตัวเครื่องจะไม่มีพัดลมดูดอากาศ จึงทำให้ไม่ต้องไปสูญเสียพลังงานไปกับมอเตอร์พัดลมดูดอากาศ และ นี่คืออีกหนึ่งข้อได้เปรียบของมัน
การบริโภคไฟฟ้าของเครื่องนี้จะเกิดขึ้น ในส่วนของ แกนเซรามิค ที่จะต้องสร้างความร้อน ในระดับ 200 องศาเซลเซียส เพื่อใช้ในการฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศบ้าง ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับรุ่นของ เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree
6. Small and Portable
ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกระทัดรัด สามารถขนย้ายไปไหนมาไหนได้สะดวก ไม่มีขั้นตอนติดตั้งอะไรซับซ้อนมากมาย และที่สำคัญน้ำหนักเบาเพียง 2.4 กิโลกรัม เท่านั้น
7. Release neither Ozone nor Ions
ไม่มีการปล่อยก๊าซโอโซน และ ประจุไอออน ออกมาสู่บรรยากาศ ในรูปลักษณที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ออกมา
8.Distinctive Design
ตัวเครื่องมีการออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ รูปทรงคล้ายดอกบัวหุบ (ตามชื่อรุ่นว่า “Lotus“) พร้อมกับหลอดไฟด้านบน ที่สามารถปรับเปลี่ยนสีได้ตามต้องการ ถึง 9 สีหลักๆ อาทิ สีแดง สีเขียว สีฟ้า สีส้ม และสีอื่นๆ ที่ให้ความรู้สึก และ อารมณ์ ที่แตกต่างกันออกไปนั่นเอง
เรียกได้ว่านอกจากจะใช้เป็นเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศแล้ว ยังสามารถใช้เป็น เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน เป็นของแถมได้อีกด้วย
สำรวจ เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree Lotus
ส่วนนี้จะพามาทำความรู้จักกับตัวเครื่องกันสักเล็กน้อย จริงๆ แล้วก็ไม่มีอะไรซับซ้อนมากมายเลย ไม่ต้องมีรีโมทคอนโทรล ไม่มีปุ่มควบคุม อะไรเลย ดังนั้นส่วนประกอบเลยน้อยสำหรับส่วนประกอบของตัวเครื่องก็มีดังต่อไปนี้ (ดูหมายเลขกำกับ ตามรูปประกอบด้านล่างได้เลย)
- Top Lid with Air Outlets and Illumination : ฝาด้านบน มีช่องอากาศออก และ ส่วนของแสงสว่าง
- Moving Petals : ฝากลีบบัวของตัวเครื่อง (สามารถเปิดหรือปิดก็ได้ ตามต้องการ)
- Air Inlets : ช่องอากาศเข้า
- ON/OFF and LED Color Control Sensor : ปุ่มเปิดปิดไฟ LED และ เปลี่ยนสีของหลอดไฟ LED
- Power Cord : สายไฟที่ยึดติดกับตัวเครื่องโดยตรง ความยาว 1.5 เมตร (ไม่มีอะแดปเตอร์แปลงไฟ)
- Base : ฐานเครื่อง
การติดตั้งและเริ่มต้นใช้งาน และ ความรู้สึกหลังการใช้งาน
แม้ว่า เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree Lotus จะมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย แต่ก็มีเรื่องที่ควรจะต้องทราบด้วย เพื่อการใช้งานให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด มาดูกันเลย
1. การติดตั้งและเริ่มต้นใช้งาน
ส่วนนี้เป็น ข้อแนะนำการติดตั้งและใช้งานตัวเครื่อง เพื่อให้ใช้งานได้ประสิทธิภาพการทำงานที่สูงสุด (นำมาจากคู่มือการใช้งาน โดยคัดเลือกเฉพาะข้อที่สำคัญ)
- วางเครื่องภายในห้องขนาด 60 ตารางเมตร (m2) หรือเล็กกว่านั้น ถ้าจำเป็นจะต้องใช้ภายในห้องมีขนาดใหญ่กว่านี้ แนะนำให้ใช้หลายเครื่อง (ซื้อเพิ่ม) มิเช่นนั้นประสิทธิภาพการกำจัดเชื้อโรคในอากาศลดลง
- วางเครื่องบนพื้นผิวเรียบ (Flat Surface) มีอากาศถ่ายเท อย่างวางไว้ใต้เฟอร์นิเจอร์ ชั้นวางของ เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องลดลง
- ควรเปิดเครื่องใช้งานอย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ในห้องเดิม เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่สูงสุด
- สามารถเปลี่ยนสีของหลอดไฟ LED ได้ด้วยการกดที่ “ปุ่มเปิดปิดไฟ LED” ด้านหลัง สามารถกดซ้ำอีกครั้งเพื่อเปลี่ยนสี วนไปเรื่อยๆ หากกดปุ่มค้าง จะเป็นการปรับความสว่าง (Brightness) ของหลอดไฟ
- ไม่ควรนำเครื่องไปวางใกล้ประตูห้อง เพราะอากาศที่ถูกฆ่าเชื้อจะลอยออกไปนอกห้อง
2. ความรู้สึกหลังการใช้งาน
- รู้สึกถึงการมีลมอุ่นๆ ที่ถูกปล่อยออกมาจากช่องอากาศออกจริงๆ โดยไม่ต้องใช้พัดลมดูดอากาศใดๆ
- เมื่อเปิดเครื่องใช้งานในครั้งแรก อาจจะมีกลิ่นแปลกๆ ออกมาจาก ช่องอากาศออก ของตัวเครื่อง และ เมื่อผ่านไป 2-3 วัน (หากเปิดต่อเนื่อง) กลิ่นดังกล่าวจะหายไปเอง
- หากจับที่ตัวเครื่องขณะเสียบปลั๊กใช้งาน ตรงรอบๆ ฝากลีบบัวจะรู้สึกอุ่นๆ เล็กน้อยๆ (ไม่ได้ร้อนจี๋ ถึงขั้นจับไม่ได้)
คำถามที่อยากรู้เกี่ยวกับตัวเครื่อง (FAQs)
ตามสไตล์ของ Thanop.com ก่อนใกล้จะจากกัน ก็จะต้องมีส่วนของคำถามที่ (ผม) คาดว่าคุณจะต้องอยากรู้ เกี่ยวกับการใช้งาน การรับประกันต่างๆ ของตัวเครื่อง ตอนนี้รวบรวมได้แค่ 5 คำถาม ถ้ามีคนถามมาทางช่องทางอื่น และเห็นว่าเป็นประโยชน์ จะนำเข้ามาเพิ่มให้ในส่วนนี้อีก
1. เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree Lotus สามารถกำจัดเชื้อโรคในอากาศ ได้จริงๆ หรือไม่ ?
เป็นคำถามที่เชื่อว่าทุกคนต้องอยากรู้อย่างแน่นอน และ ผมซึ่งเป็นผู้ทำการรีวิว ก็อยากจะทราบเช่นกัน ซึ่งการทดสอบเพื่อพิสูจน์นั้นต้องใช้อุปกรณ์ทดสอบหลายอย่าง ซึ่งมีราคาสูงมาก ดังนั้นผมจึงขอใช้ผลทดสอบและวิจัย ที่ทางบริษัท Airfree ผู้ผลิตสินค้า เขาไปให้สถาบันและบริษัทต่างๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ความสะอาดในอากาศ ในการอ้างอิง ความน่าเชื่อถือ (ดูการรับรองจากสถาบันวิจัย และ การทดสอบจากอุตสาหกรรมจริง)
2. กลิ่นแปลกๆ ที่ถูกปล่อยออกมา เป็นอย่างไร ?
ลักษณะกลิ่นที่ได้เหมือนกลิ่นพลาสติกที่โดนความร้อน แต่กลิ่นนี้จะมีแค่ 2-3 วันแรกเท่านั้น หลังจากนั้น จะหายไปเอง (พิสูจน์มาแล้ว ด้วยการดมเองทุกวัน ๕๕๕)
3. หากไม่ได้เปิดหลอดไฟ LED บนตัวเครื่อง เราจะทราบได้อย่างไรว่า เครื่องกำลังเปิดอยู่ ?
ถ้าสังเกตด้วยสายตาจะ ไม่ทราบเลย เพราะนอกจากตัวหลอดไฟ LED ที่อยู่ในตัวเครื่องแล้วก็ไม่มีตัวบ่งชี้ได้เลยว่าเครื่องกำลังเปิดทำงานอยู่ แต่ว่าถ้าหากเห็นเครื่องเสียบปลั๊ก (แล้วสวิตซ์ที่ปลั๊กเปิดด้วยนะ) อยู่แล้วละก็ ตัวเครื่องเปิดทำงาน 100%
4. อากาศที่ถูกปล่อยออกมาจากตัวเครื่อง เป็นอากาศร้อน หรือ อากาศเย็น ?
เป็นอากาศร้อน จากเทคโนโลยี TSS ที่บอกว่าใช้ความร้อนในระดับ 200 องศาเซลเซียส แต่เมื่อนำเทอร์โมมิเตอร์ มาวัดจาก ปากช่องอากาศออก (Air Outlet) ของตัวเครื่อง ก็จะได้อยู่ประมาณ 45-50 องศาเซลเซียส
5. ในเมื่อบอกว่า เป็นอากาศร้อน จะทำให้ห้องร้อนขึ้นด้วยหรือเปล่า ?
แทบจะไม่รู้สึกใดๆ เลย เพราะลมที่ออกมามีอัตราการไหลของอากาศ ที่ไม่สูงมาก และ อุณหภูมิที่ไม่ร้อนมาก จึงไม่ทำให้ห้องรู้สึกร้อนขึ้นแต่อย่างใดเลย
6. เชื้อโรค หรือ สิ่งปนเปื้อนในอากาศ ที่ถูกกำจัดด้วยเครื่อง Airfree แล้วจะไปอยู่ที่ไหน ?
ทั้งหมดจะถูกย่อยสลายไปเลยในอากาศ (มีขนาดอนุภาคที่เล็กมาก)
7. สามารถเปิดฝาครอบตัวเครื่อง หรือ ฝากลีบบัว (Moving Petals) ขณะที่เครื่องกำลังเปิดทำงานได้หรือไม่ ?
ได้เลย ไม่มีปัญหา แถมยิ่งจะสวยขึ้น ถ้าเครื่องเปิดหลอดไฟ LED ไปด้วย ก็จะได้มุมมองที่สวยงามในอีกมุม
8. หากอุณหภูมิร้อนเกิน 200 องศาเซลเซียส ตัวเครื่องจะทำอย่างไร ?
ตัวเครื่องมีระบบตัดไฟอัตโนมัติ เพื่อไม่ให้แกนเซรามิค ทำความร้อนต่อไป หากตัวเครื่องมีแนวโน้มในการ ทำอุณหภูมิขึ้นสูงเกินกว่า 200 องศาเซลเซียส และ เมื่ออุณหภูมิตกลงมาระบบก็จะเปิดให้แกนเซรามิคทำความร้อนต่อไป (โดยรักษาระดับอุณหภูมิเอาไว้ ให้อยู่ในช่วง 200 องศาเซลเซียส +/- นิดหน่อย)
9. การรับประกันเครื่องกี่ปี ?
ระยะเวลารับประกันเครื่อง จะอยู่ที่ 1 ปี* โดยถ้าหากภายใน 1 ปีนี้ซื้อมาแล้วเครื่องเสีย ใช้การไม่ได้ ทางบริษัทฯ จะเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ฟรี และ ถ้าหากเกินจากนั้นจะเป็นการซ่อมเครื่อง โดยค่าซ่อมจะต้องรอประเมินอาการจากช่างผู้ชำนาญการอีกที แล้วจะแจ้งกลับให้ลูกค้าทราบ
*หมายเหตุ : อาจจะเห็นข้างกล่องผลิตภัณฑ์ระบุเป็นภาษาอังกฤษว่า “2-Year Warranty หรือ รับประกัน 2 ปี” แต่สำหรับประเทศไทย ทางบริษัทตัวแทนนำเข้า และจัดจำหน่ายในประเทศไทย มีสัญญาผูกพันธ์กับทางต่างประเทศ
10. สามารถติดต่อสั่งซื้อ เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree Lotus ได้ที่ไหน ?
คุณสามารถซื้อ เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree รุ่น Lotus รองรับพื้นที่ขนาด 60 ตารางเมตร หรือ เครื่อง Airfree รุ่นอื่นๆ ที่รองรับขนาดพื้นที่ได้น้อยกว่า และ ราคาถูกกว่า ได้ผ่านทางช่องทาง
- Telephone No (เบอร์โทรศัพท์) : 09-7995-1536 หรือ 08-1832-4647
- Website (เว็บไซต์) : http://www.thaiinterairfree.in.th/
- Line ID (ไลน์ไอดี) : @airfreethailand
- Facebook Page (เพจเฟสบุ๊ค) : airfreethailand (แอร์ฟรีไทยแลนด์) ตามกรอบด้านล่าง
บทสรุปข้อดีข้อเสีย ของ เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree Lotus
ข้อดี 🙂
- มีความน่าเชื่อถือค่อนข้างมาก มีการรับรองจากสถาบันวิจัย สถาบันทดสอบ ต่างๆ มากมายกว่า 20 ครั้ง จากหลายประเทศทั่วโลก
- ตัวเครื่องคิดค้นวิจัย และ ผลิตจากในประเทศโปรตุเกสเอง เรื่องคุณภาพผลิตภัณฑ์หายห่วง
- เสียงเงียบ ไม่รบกวนใคร แน่นอน 100% เพราะในตัวเครื่องมีแค่ แกนเซรามิค ที่จะปล่อยความร้อนออกมาเท่านั้น ไม่มีพัดลม ไม่มีมอเตอร์ ใดๆ ที่จะเป็นตัวสร้างเสียงให้เกิดขึ้นได้
- ประหยัดไฟฟ้า
- สามารถเป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับตกแต่งบ้าน หรือ สำนักงานได้ด้วย
- หลอดไฟ LED สามารถปรับเปลี่ยนสีได้มากถึง 9 สี พร้อม ปรับความสว่างได้อีกด้วย
ข้อเสีย 🙁
- หากปิดหลอดไฟ LED จะไม่สามารถทราบได้เลยว่าเครื่องกำลังเปิดทำงานอยู่หรือไม่
- ตัวเครื่องมีราคาค่อนข้างสูง (อย่างไรก็ตาม ลองตรวจสอบโปรโมชั่น ส่วนลด ต่างๆ จากทางบริษัทตัวแทนนำเข้า และจัดจำหน่ายในประเทศไทย)
การรับรองจากสถาบันวิจัย และ การทดสอบจากอุตสาหกรรมจริง (Research and Test Results)
เนื่องจากเป็นการยากมาก ที่จะมาทดสอบว่า เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree Lotus นั้นสามารถฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ ได้จริงหรือเปล่า เพราะการที่จะมีเครื่องมือทดสอบเชื้อโรคในอากาศ อะไรต่างๆ นั้น ราคาคงไม่ใช่ถูกๆ เป็นแน่
องค์กร ที่ให้การทดสอบ เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ Airfree จากหลายประเทศทั่วโลก
ด้วยเหตุนี้ทาง Airfree เขาจึงนำเครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ มาทำการ ทดสอบทางวิทยาศาสตร์ โดยสถาบันวิจัยและ ทดสอบชั้นนำของโลก แถมยังมีการนำเครื่องใช้จริงในอุตสาหกรรมต่างๆ อีกด้วย โดยในที่นี้ ขอแบ่งประเภทของการรับรองและทดสอบออกเป็น 2 ส่วนคือ
- ผลการทดสอบในห้องแลปหรือห้องทดลอง (Lab Test Results)
- ผลการทดสอบในอุตสาหกรรมจริง (Industry Test Results)
Lab Test Results (ผลการทดสอบในห้องทดลอง)
| รายการทดสอบ (Tested Item) |
รายละเอียดการทดสอบ (Test Descriptions) |
ผลลัพธ์ที่ได้ (Results) |
รับรองโดย (Verified by) |
| การทดสอบการไหลของอากาศ
(Airflow Test) |
ทดสอบการไหลของอากาศ โดยการใช้เครื่องวัดความเร็วลม (Air Velocity Meter) ที่อยู่ด้านบน โดยมีกระดาษปิดอยู่ด้านบน เพื่อให้การไหลของอากาศ ไปในทิศทางเดียวกัน | 14 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง (m3/h) | SP Swedish National Testing and Research Institute |
| การทดสอบประสิทธิภาพของ การกำจัดเชื้อโรคในอากาศ
(Efficacy of an Air Sanitizer) |
ทดสอบด้วยการนำเอาเครื่อง Airfree เข้าไปวางในห้องที่ถูกหมักหมมด้วยเชื้อแบคทีเรีย และ เชื้อรา ขนาด 16.7 ตารางเมตร (m2) (3.65 เมตร x 4.57 เมตร) ในห้องตึกเก่าของบริษัททดสอบ อยู่นานกว่า 8 สัปดาห์ | สามารถลดจำนวนของเชื้อราในห้อง ไปได้ 69.64% และ เชื้อแบคทีเรีย 85.0% หลังการเปิดเครื่องใช้งาน | EMSL Analytical, Inc., New Jersey, USA |
| การวัดปริมาณก๊าซโอโซน ที่ถูกปล่อยออกมาในช่องลมออก
(Measurements of Ozone in the outlet of Aifree) |
นำเครื่อง Airfree เข้ามาในห้องแลป ของ สถาบันวิจัยฯ เป็นเวลา 2 ชั่วโมงติดต่อกัน แล้วทำการวัดด้วยเครื่องวัดปริมาณโอโซน Dasibi UV-Instrument รุ่น 1003-PC ทั้งก่อนอากาศเข้า และ หลังปล่อยอากาศ กลับออกสู่บรรยากาศห้องอีกครั้ง | ปริมาณโอโซนในช่องอากาศเข้า (Air Inlet) อยู่ที่ 19.5 ppb (หรือ 0.0195 ppm) ขณะที่ ช่องอากาศออก (Air Outlet) อยู่ที่ 14.4 ppb (หรือ 0.0144 ppm)
1หมายเหตุ : ระดับมาตรฐานไม่ควรเกิน 0.05 ppm |
Research Institutes of Sweden (RISE), Stockholm, Sweden |
| ทดสอบประสิทธิภาพการกรองอากาศ
(Efficiency Test of Airfree Air Sterilizer) |
นำเครื่อง Airfree ไปทดสอบในห้องขนาด 160 ลูกบาศก์เมตร (m³) โดย
ระยะเวลาการทดสอบทั้งสิ้น 6 สัปดาห์ |
ผลทดสอบในสัปดาห์สุดท้าย มีการกำจัด (ฆ่า) เชื้อแบคทีเรีย ไปได้สูงสุดถึง 99%
ในขณะที่เชื้อรากำจัดไปได้ 69% จากค่าที่วัดได้ก่อนเริ่มต้นทดสอบ |
Department of Microbiology, Faculty of Biological Science, Complutense University of Madrid, Madrid, Spain |
| ทดสอบประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อโรค ในอุณหภูมิ 3 ถึง 5 องศาเซลเซียส
(Air Sterilization Efficiency of Airfree at 3 to 5 ºC) |
ทดสอบในห้องเย็น (Cold Chamber) ขนาด 40.32 ลูกบาศก์เมตร (m3) ที่มีอุณหภูมิ ระหว่าง 3 ถึง 5 องศาเซลเซียส โดยการใส่ผักไว้ในห้อง และมีการควบคุมสภาพแวดล้อม ด้วยการเพาะหมักเชื้อแบคทีเรีย และ เชื้อรา เป็นระยะเวลามากกว่า 15 วัน | สามารถลดปริมาณของเชื้อรา และ ยีส ที่ลอยอยู่ในอากาศ ไปได้สูงสุดถึง 86% | AINIA Technology Center, Paterna, Spain |
| การทดสอบการลดปริมาณของ ฝุ่นละอองจากสารก่อภูมิแพ้ในอากาศที่มาจากตัวไรฝุ่น
(Airborne Dust Mite Allergen Reduction Test) |
นำมูลไรฝุ่น (Fecal Allergen – Der p 1) ที่ได้มาจาก ตัวไรฝุ่นบ้าน (House Dust Mite) ที่เป็นหนึ่งในสารก่อภูมิแพ้ ที่สำคัญ มาให้ลอยอยู่ในอากาศ ด้วยการ เผาจากเตาเผา (Incinerator) ภายในห้องที่มีอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส และ ความชื้นสัมพัทธ์ 75% | มีความสามารถลดปริมาณมูลไรฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศ ได้ในอัตราเฉลี่ย 70.6% | Insect Research & Development Limited,Cambridge, United Kingdom |
| การทดสอบความเข้มข้นของอนุภาค
(Testing of Particle Concentration Upstream and Downstream) |
การทดสอบความเข้มข้นของอนุภาค (ปริมาณฝุ่น) ของอากาศก่อนเข้าไปข้างในตัวเครื่อง (Air Inlet – Upstream) และ หลังจากถูกปล่อยออกมาจากตัวเครื่อง (Air Exhaust – Downstream) โดยทดสอบในห้องแลปของสถาบันฯ ในห้องที่มี อุณหภูมิ 23.5 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 20% | ความเข้มข้นของอนุภาคหลังจากถูกปล่อยออกมาจากตัวเครื่อง ลดลงอย่างมีนัยยะ | SP Swedish National Testing and Research Institute |
| การวัดประสิทธิภาพของแกนเซรามิค ในการ ฆ่าจุลินทรีย์ อย่าง แบคทีเรีย
(Evaluate the efficiency of Ceramic Core in Destroying Microorganisms like Airborne Bacteria) |
นำเอาเครื่อง Airfree มาเปิดใช้งานในห้อง ที่มีจานเพาะเชื้อ ที่บ่มเพาะด้วย อาหารเลี้ยงเชื้อแบคทีเรีย ประเภท TSA (Trypticase Soy Agar) ไว้ในอุณหภูมิ 36 องศาเซลเซียส เป็นเวลากว่า 2 วัน โดยนำมาคว่ำตรงกับแกนเซรามิคด้านบนของตัวเครื่อง และเปิดทิ้งเอาไว้เป็นเวลานานกว่า 120 นาที (2 ชั่วโมง) | แกนเซรามิค ของเครื่อง Airfree มีความสามารถในการ ลดจำนวนแบคทีเรีย ที่ลอยอยู่ในอากาศ จาก 10 UFC เหลือ 0 UFC หรือคิดเป็น 100% | Ambientális, Portugal |
| การลดจำนวนของ เชื้อจุลินทรีย์ และ ไวรัส ในห้องทดลอง
(Microbial / Viral Reduction Rate) |
นำเอา สารอาหารประเภท Nutrient Agar และ Potato Dextrose Agar มาสร้าง อาหารเลี้ยงเชื้อแบคทีเรีย ประเภท TSA (Trypticase Soy Agar) | ไม่มีสัญญาณของการเจริญเติบโต และ มีอัตราการสลายตัวตามธรรมชาติ จากของเดิม อยู่ที่ 63.2% ในระยะเวลา 165 นาที | Intertek Microbiology, Columbus, Ohio, USA |
1 อ้างอิงจาก : องค์กรปกป้องสภาพแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา (United State Environmental Protection Agency = US.EPA)
(เว็บไซต์ : https://www.epa.gov/indoor-air-quality-iaq/ozone-generators-are-sold-air-cleaners)
Industry Test Results (ผลการทดสอบในอุตสาหกรรมจริง)
| รายการทดสอบ (Tested Item) |
รายละเอียดการทดสอบ (Test Descriptions) |
ผลลัพธ์ที่ได้ (Results) |
รับรองโดย (Verified by) |
| การทดสอบการเกิดเชื้อราในลูกพีช (ผลไม้)
(Mold in Peach Test) |
ทดสอบนำเอาลูกพีช ไว้ในตู้แช่เย็น ที่มีเครื่อง Airfree กับไม่มีเครื่อง เป็นระยะเวลา 25 วัน ว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญด้านเชื้อรา (Mould) หรือ การเน่าบูด (Decomposition) เกิดขึ้นหรือไม่ ? | ไม่มีเชื้อรา และ การเน่าบูด เกิดขึ้น ในเครื่องทำความเย็น ที่มีเครื่อง Airfree อยู่ | Shokri Hassan Trading Co, Dubai, UAE |
| การทดสอบป้องกันเชื้อราในผลไม้
(Mould in Fruit Prevention) |
ทดสอบเครื่องด้วยการใส่ ผลส้ม บลูเบอรี่ และ ผลไม้อื่นๆ เข้าไปใน ตู้แช่เย็นภายใต้ความเย็น 2 องศาเซลเซียส โดยใช้เวลาทดสอบทั้งสิ้น 44 วัน | ลดปริมาณเชื้อราในผลไม้ จาก 125 cfu ต่อจานเพาะเชื้อ เหลือ 19 cfu ต่อจานเพาะเชื้อ | Organic Foods & Café, Dubai, UAE |
| การทดสอบประสิทธิภาพของ การกำจัดเชื้อราและแบคทีเรียในอากาศ
(Fungi and Bacteria Test in the Air) |
ทดสอบนำเครื่อง Airfree ไปวางไว้ในห้องโสตทัศนูปกรณ์ ของ 2 ห้อง แบ่งเป็น
ขององค์การกระจายเสียงกิจการของประเทศโปรตุเกส (Rádio e Televisão de Portugal – RTP) เป็นระยะเวลา 43 วัน โดยมีการเก็บผลการทดสอบ ระหว่างการทดสอบ จำนวน 12 ครั้ง |
ผลการทดสอบ ห้อง A ให้ผลการทดสอบได้ดีกว่า ห้อง B ในช่วงวันแรก แต่วันสุดท้าย ให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกัน
ผลโดยรวมให้ผลการกำจัดเชื้อรา ที่ดีกว่าเชื้อแบคทีเรีย อยู่นิดหน่อย |
INETI RTP Laboratory, Lisbon, Portugal |
| การทดสอบเชื้อรา และ แบคทีเรีย ในพื้นที่ผลิตน้ำผลไม้
(Fungi and Bacteria Test in Juice Processing Area of Juice Company) |
ทดสอบด้วยการติดตั้งเครื่อง Airfree เอาไว้ในบริษัท Barakat Quality Plus LLC. ซึ่งเป็นบริษัทผลิตน้ำผลไม้ ชื่อดัง ในเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเครื่อง Airfree ได้ถูกติดตั้งเอาไว้ในส่วนของการผลิตน้ำผลไม้ (Juice Processing Area) และ ส่วนของการปลอกเปลือกผลไม้ (Fruit Peeling Area) เป็นระยะเวลา 7 สัปดาห์ โดยเป็นการผลิตน้ำผลไม้จำพวก น้ำสัปปะรด น้ำมะม่วง น้ำแอปเปิ้ล น้ำค็อกเทล และอื่นๆ | สามารถลดปริมาณเชื้อแบคทีเรียได้ 93% และ เชื้อราได้ 96% | Barakat Quality Plus (L.L.C), Dubai, UAE |
| การกำจัดเชื้อโรคในห้องคลอดดฟาร์มสุกร
(Air Sterilization in the Maternity Room in Swine Farm) |
การทดสอบการใช้เครื่อง Airfree ในพื้นที่ห้องคลอดลูกสุกร ในฟาร์มเลี้ยงสุกร ในเมือง เซาเปาโล ประเทศบราซิล กับ แม่สุกร 200 ตัว | ลดอัตราการเสียชีวิตของลูกสุกร การเกิดโรคท้องเสีย รวมไปถึง น้ำหนักเฉลี่ยของลูกสุกรในแต่ละช่วงระยะ (Stage) เพิ่มมากขึ้น และ มีการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น หลังการใช้เครื่อง Airfree | Soto, F.R.M., Ibiúna, São Paulo, Brazil |
| การทดสอบปริมาณความหนาแน่นของเชื้อจุลินทรีย์ ที่ลอยอยู่ในอากาศในโรงพยาบาล
(Microbial Density in the Air, Tested in Hospital) |
การนำเอาเครื่อง Airfree ไปไว้ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในเมืองมะนิลา เมืองหลวงของประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อวัดประมาณความหนาแน่นของเชื้อจุลินทรีย์ ที่ลอยอยู่ในอากาศ ในแต่ละพื้นที่รักษาผู้ป่วย (Ward) เป็นระยะเวลากว่า 42 วัน โดยมีการวัดค่าทุกๆ สัปดาห์ (7 วัน) | มีบางส่วนที่หยุดการเจริญเติบโต และ มีบางส่วนที่ลดลง ในแต่ละช่วงสัปดาห์ | San Juan de Dios Foundation, Manila, Philippines |
| การทดสอบเชื้อรา ในพื้นที่เก็บอาหารสด
(Mould Level Test in Fresh Food Chiller Units) |
นำเครื่อง Airfree มาใช้ในตู้แช่เย็นเก็บอาหารสด ขนาดใหญ่ ของบริษัทฯ ในเมือง Al Aweer ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นระยะเวลาเกิน 5 สัปดาห์ | สามารถลดปริมาณเชื้อรา จาก 273 cfu เป็น 36 cfu คิดเป็น 86.8% พร้อมสั่งซื้อเครื่องเพิ่มเติมสำหรับโรงงานในเมือง Ajman | Kibsons International LLC, Dubai, UAE |
| การผ่านมาตรฐานการฟอกอากาศในอาคาร
(Certification of Indoor Air Cleaning Devices) |
รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา รับรองเครื่องฟอกอากาศในอาคาร ภายใต้มาตรฐาน ANSI/UL 867 และ ANSI/UL 507 ของ สถาบันมาตรฐานอเมริกัน (ANSI) ว่ามีการปล่อยก๊าซโอโซน ออกมาในระดับไม่เกิน 0.05 ppm | ผ่านมาตรฐานการฟอกอากาศภายในอาคาร | State of California, California, USA |
หมายเหตุ : จากตารางทั้ง 2 ด้านบน จะเห็นว่าบางการทดลองหรือวิจัย ใช้คำว่า “Fungus” “Mold” หรือแม้แต่ “Mould” ซึ่งทั้ง 3 คำมีความหมายที่เหมือนกันคือ “เชื้อรา” ขึ้นอยู่กับสถาบัน หรือ องค์กรว่าจะเลือกใช้คำใด
ราคาเท่าไหร่ครับ
ประมาณ 26k ครับผม ลองเข้าไปที่เฟสบุ๊ค : Vitainno ของผู้แทนจำหน่ายเขาได้เลยนะครับ