นมอัลมอนด์ (Almond Milk)

บทความนี้เป็นบทความวิธีการทำ นมอัลมอนด์ (Almond Milk) สืบเนื่องมาจากภรรยาของผมได้ซื้อไอเจ้า เครื่องทำนมถั่วเหลือง ยี่ห้อ Homemate มาจากร้านวีรสุ ราคาประมาณเกือบๆ 3 พันบาท มาใช้เพื่อที่หวังจะทำ นมถั่วเหลือง ไว้ดื่มกันเอง แต่ด้วยความที่ชอบเสิร์ช ค้นหาข้อมูลจากเว็บกูเกิล หาข้อดีข้อเสียของอาหารการกินที่กำลังจะกิน น้ำที่กำลังจะดื่ม ก็พบว่า นมถั่วเหลือง มันมีประโยชน์มากๆ มากมายมหาศาล คือ มีคุณสมบัติช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด ป้องกันโรคกระดูกพรุน ป้องกันโรคมะเร็ง ซึ่งดูแล้วดีมากๆ แต่ !! แต่มีข้อเสียของมันซึ่งมีน้อย แต่ค่อนข้างรับได้ยากนั่นคือ อาจจะทำให้ เกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย ได้ ซึ่งภรรยาเลยบอกให้หยุดกิน เพราะต้องการมีลูกนั่นเอง

ดังนั้นเราสองคนจึงหาว่าเจ้าเครื่องทำนมถั่วเหลือง ตัวนี้มันสามารถทำอะไรได้อีกบ้าง หาไปหามาก็พบว่าเจ้าเครื่องนี้มันสามารถที่จะทำ นมอัลมอนด์ ได้ ซึ่งตอนแรกๆ เราก็ตกใจว่าอัลมอนด์ ถั่วชนิดนี้ส่วนมากเราจะพบกันไอ้เจ้าถั่ว อัลมอนด์ กันในอาหารทานเล่น ของหวานต่างๆ ขนมขบเคี้ยว มากมาย ไม่ว่าจะเป็น อัลมอนด์อบเกลือ ไอศกรีม ป๊อปคอร์น (ข้าวโพดคั่ว) อย่าง กาเร็ตป๊อปคอร์น ก็มีบางรสชาติที่มีส่วนผสมของอัลมอนด์ด้วยเช่นกัน

หรือแม้แต่เค้ก และ อาหารจำพวกเบอเกอรี่ ต่างๆ ก็จะเห็นอัลมอนด์ เป็นส่วนประกอบในของกินเหล่านี้ บางทีก็ใช้โรยหน้า บางทีก็ผสมไปกับอาหารเลย บางอันก็ใส่มาก บางอย่างน้อยเหลือแต่วิญญาณอัลมอนด์ก็มี แล้วแต่ผู้ปรุงแต่งอาหาร ของหวานต่างๆ จะนำไปประยุกต์ใช้ ทั้งนี้เนื่องจาก ถั่วอัลมอนด์ มีราคาในตลาดค่อนข้างสูงกว่าถั่วชนิดอื่นๆ

ประโยชน์ข้อดีอัลมอนด์ และ ข้อเสียอัลมอนด์ โดยทั่วไป

จากการค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตมาจากหลายแหล่งก็พบว่า ถั่วอัลมอนด์ มีประโยชน์มากมาย ขอสรุปมาให้สั้นๆ คร่าวๆ ดังต่อไปนี้ เริ่มที่ข้่อดีกันก่อนเลย

ประโยชน์ของอัลมอนด์ 🙂

1. มีส่วนช่วยในการพัฒนาสมอง และ สุขภาพที่ดี
2. รักษาระดับไขมันในเส้นเลือด หรือ คอเลสเตอรอล ให้อยู่ในระดับเหมาะสม
3. มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก ช่วยระบบการเผาผลาญที่ดี
4. มีผลดีกับสตรีมีครรภ์ ควรรับประทาน
5. ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colon Cancer)
6. มีส่วนช่วยป้องกันโรคเบาหวาน (Diabetes)
7. ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ (Heart Diseases)
8. ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis)
9. ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อม หรือ ที่รู้จักกันในนามโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer)
10. ปรับความดันโลหิต ความดันเลือด ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
11. บำรุงผิวพรรณ ผิวหนัง มีสุขภาพที่ดี
12. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ และ สร้างภูมิคุ้มกันโรค

ข้อเสียของอัลมอนด์ 🙁

1. ในถั่วอัลมอนด์มีสารที่เรียกว่า อะฟลาทอกซิน (Aflatoxin) คือสารที่ผลิตจากเชื้อรา ซึ่งส่วนมากจะพบสารเหล่านี้ได้ใน ถั่วเมล็ดแห้ง และ เมล็ดพืชน้ำมันชนิดต่างๆ เช่น ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ข้าว ข้าวสาลี ถั่วลิสง มะพร้าว สมุนไพร เครื่องเทศ และในผลิตภัณฑ์แปรรูปแทบทุกชนิดที่ใช้วัตถุดิบจากผลิตผลทางการเกษตรที่มีเชื้อราชนิดนี้ปนเปื้อนอยู่ก่อน ซึ่งก็ถือว่า ถั่วอัลมอนด์ ก็จัดอยู่ในประเภทถั่วเมล็ดแห้ง เช่นกัน ดังนั้นการบริโภคในจำนวน หรือ ปริมาณที่มากเกิน อาจะทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ ซึ่งใน ปัจจุบันองค์การ IARC (International Association Research Cancer) ได้จัดสารอะฟลาทอกซิน เป็นสารก่อมะเร็ง Class I ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่ตับ และอาจก่อมะเร็งในอวัยวะอื่นๆ เช่น ไต ระบบหายใจ ระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และระบบภูมิคุ้มกัน (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่)

จากที่ดูเราก็จะเห็นว่าข้อดีของมันมีมากมาย จนทำให้อยากกิน อยากดื่มตอนนี้เลย เพราะดูแล้ว ข้อดีมันมากกว่าข้อเสียของอัลมอนด์เสียอีก แต่ว่าจากที่อ่าน ข้อเสียของอัลมอนด์ ถึงแม้ว่ามันจะมีเพียงข้อเดียว ก็เล่นทำเอาตกใจได้เหมือนกัน เพราะไม่ใช่แค่การแพ้หรือคัน เป็นไข้ หรือ การไอจาม แต่มันคือโรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนมาแล้วทั่วโลก อย่างมะเร็งนั่นเอง

แต่หากกิน หากดื่ม ถั่วอัลมอนด์ ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ใช่กินบริโภคเป็นอาหารทุกมื้อ ทุกวัน ไม่ใช่การดื่มแทนน้ำเปล่า ตลอดเวลา ก็คงไม่ต้องไปวิตกกังวล หรือซีเรียส อะไรกับข้อเสียของมันมาก แต่เราจะได้ข้อดีของมันมามากกว่า เพราะไม่ใช่แค่อัลมอนด์ที่มีข้อเสีย จะว่าไปอาหาร เครื่องทุกชนิด ในโลกนี้ หากบริโภคเข้าไปเป็นจำนวนมาก ก็ล้วนแต่มีข้อดี และข้อเสีย ทั้งนั้น

หา ซื้ออัลมอนด์ ได้ที่ไหน ?

เราสามารถหาซื้อเม็ดอัลมอนด์ ได้เท่าที่ดู มีขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป อาทิเช่น ฟู้ดแลนด์ โฮมเฟรชมาร์ท (เดอะมอลล์ ทุกสาขา) หรือจะไปเดินหาซื้ออัลมอนด์ ได้ตามเยาวราช หรือจะสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งมีขายอยู่มากมาย ที่ถูกสุด เห็นจะเป็นที่เยาวราช รองลงมาเป็นอินเทอร์เน็ต และที่ราคาแพงหรือสูงที่สุดนั้นเห็นจะเป็นห้างสรรพสินค้า การขายอัลมอนด์ส่วนใหญ่จะขายกันเป็นขีด ขีดละตกประมาณ 40 – 60 บาท แล้วแต่แหล่งที่มา

การเก็บรักษาอัลมอนด์

ปกติเวลาเราซื้ออัลมอนด์ ส่วนมาก (แต่ก็ไม่ทุกที่) ผู้ขายจะแพ็คเก็บเอาไว้ในวัสดุแบบสูญญากาศ หากแกะออกจากห่อแล้ว ก็ควรเก็บรักษาอัลมอนด์ ในพื้นที่ที่แห้งเท่านั้น ไม่เปียก ไม่มีความชื้น ไม่ควรเอาไว้ในตู้เย็น เนื่องจากจะมีความชื้นค่อนข้างสูง เพราะความชื้น จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดเชื้อรา ที่มีสารชื่อว่า อะฟลาทอกซิน (รายละเอียดที่กล่าวมาด้านบน)

ขั้นตอนการทำนมอัลมอนด์ วิธีทำนมอัลมอนด์

ในบทความนี้ จากที่จั่วหัวเรื่องมาด้านบนว่าเราจะมาทำ นมอัลมอนด์ กันเพราะว่ามันจะทำให้เราได้บริโภคถึงอัลมอนด์เน้นๆ จริงๆ ให้ได้ประโยชน์จากอัลมอนด์ ตามที่ได้กล่าวไว้ในด้านบนจริงๆ เพราะมันจะ ไม่มีส่วนผสมอื่นๆ ใดมาเกี่ยวข้อง ขอเริ่มวิธีทำดังต่อไปนี้เป็นข้อๆ อย่างละเอียด

1. นำเมล็ดอัลมอนด์ออกมาจากหีบห่อที่ซื้อมา แล้วนำมาล้างด้วยน้ำเปล่า (น้ำสะอาด) เพื่อให้เชื้อรา อันเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของสาร อะฟลาทอกซิน หลุดออกไปกับสายน้ำ

   

2. นำเมล็ดอัลมอนด์ใส่ในภาชนะ ที่มีวัสดุที่สามารถใช้กับเครื่องไมโครเวฟได้ (Microwavable) อาทิเช่น ชามกระเบื้อง หรือ กล่องที่ทนความร้อน ไปเข้าเครื่องไมโครเวฟ (Microwave) ใช้ระดับไฟสูงสุด จำนวนประมาณ 5-6 นาที
3. นำเมล็ดอัลมอนด์ออกจากเครื่องไมโครเวฟ แล้วรอให้เย็น ประมาณ 10-20 นาที แล้วแกะเปลือกอัลมอนด์ออกมา (สามารถใช้มือบิดทีละเมล็ดได้ อาจจะเสียเวลาเล็กน้อย หากมีปริมาณเท่ากับ รูปภาชนะ)

   

4. นำเอาอัลมอนด์ที่แกะเปลือกแล้ว ตามขั้นตอนที่ 3 ไปใส่ถ้วยตวง ตามรูปด้านล่าง ซึ่งถ้วยตวงนี้ต้องเติมให้เต็มเป็นจำนวน 2 ถ้วย

   

5. ใส่น้ำเปล่า น้ำสะอาด ลงไปในเครื่องหลังจากใส่เมล็ดอัลมอนด์แล้วให้อยู่ในขีดบน 1.2 ลิตร หรือประมาณ 1,200 cc. (ส่วนตัวใช้น้ำจากเครื่องกรองน้ำ RO – Reverse Osmosis)

   

6. ปิดฝาเครื่องเสียบปลั๊ก กดที่ “ปุ่ม Select” เลือกไปที่ปุ่มแรก ที่เขียนว่า “Five Grains” และกด “ปุ่ม Start” เพื่อเริ่มทำงาน ระยะเวลาการทำงานของเครื่องจะประมาณ 20-25 นาที

   

7. หลังจากเสร็จแล้วให้นำชาม พร้อมรองด้วย ผ้าขาวบางสีขาว พร้อมกับ ช้อน 1 คัน เอาไว้กวาดเศษอัลมอนด์ต่างๆ ที่ติดอยู่ตามเครื่อง จับยกส่วนหัวขึ้น แล้วนำช้อนเกลี่ย เศษอัลมอนด์ที่ติดอยู่รอบๆ หัวปั่นของเครื่อง Homemate Soymilk Maker แล้วเทลองบนกระชอน ที่วางอยู่บนเหยือกพลาสติก ที่มีหูจับอีกที (แถมมากับเครื่อง ตั้งแต่ตอนซื้อ) ดังภาพประกอบด้านล่าง

   

8. หลังจากนั้นก็ให้เท นมอัลมอนด์ลงไปในกะชอนเพื่อทำการกรองกากของอัลมอนด์ออกมาให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ (กรณีถ้าชอบเข้มข้นก็ไม่จำเป็นต้องกรอกกาก ตัดขั้นตอน 9 ไปได้เลย แต่หากเข้มข้นมากเกินไป เวลาแช่ตู้เย็นแล้วนำออกมาดื่ม จะทำให้รํู้สึกฝืดๆ ที่ลำคอเวลากลืน เนื่องจากกากอัลมอนด์จะเยอะ ไม่เหมือนทำเสร็จตอนร้อนๆ แล้วดืมจะอร่อยกว่ามาก)

   

   

9. นำกากอัลมอนด์ที่ถูกห่อด้วยผ้าขาวบางมาบิด เพื่อรีดนมอัลมอนด์ออกมาอีกที ใส่ลงไปในเหยือกพลาสติก สมทบกับนมอัลมอนด์ที่ถูกเทออกมาจากเครื่องปั่นโดยตรง

   

10. หลังจากเสร็จแล้วขอให้ รอประมาณ ครึ่งชั่วโมง (30 นาที) เพื่อให้นมอัลมอนด์หายร้อน (เย็นลง) ค่อยเทลงบนขวดพลาสติกทั่วไป เพราะตอนทำเสร็จใหม่ๆ นมอัลมอนด์จะมีอุณหภูมิที่สูงมากๆ (เกิน 100 องศาเซลเซียส) หากนำไปใส่ในขวดพลาสติก ที่ไม่กันความร้อนสูง อาจจะทำให้ขวดเสียรูปร่าง บิดเบี้ยวไปได้ เนื่องจากทนความร้อนไม่ไหว ก็เป็นอันเสร็จพิธีการทำนมอัลมอนด์

เล็กน้อยก่อนจากกัน เกี่ยวกับ นมอัลมอนด์

ส่วนตัวหลังจากที่เครื่องปั่นเสร็จแล้วจะทำการกรองกากทิ้งทั้งหมด 3 รอบ เพื่อให้เวลาดื่มน้ำนมอัลมอนด์แล้ว ไม่รู้สึกฝืดที่ลำคอ เพราะทำให้ผู้ใหญ่อายุเกิน 60 ได้ดื่มด้วย อุปกรณ์เครื่องนี้หลังจากทำเสร็จแล้วจะต้องทำการล้างให้สะอาดมากๆ (ย้ำว่าต้องสะอาด มากๆ) เพราะถ้าหากล้างไม่สะอาดแล้ว จะมีกลิ่นตกค้างซึ่งเป็นกลิ่นที่ค่อนข้างเหม็นบูด เหม็นเปรี้ยว เนื่องจากมันคือน้ำนมดีๆ นี่เอง ส่วนที่ล้างยากที่สุดก็ตามซอกเล็กๆ ใกล้ๆ ใบมีดเครื่อง เพราะเป็นหัวน็อต และหลังจากทำเสร็จ สิ่งตกค้าง เศษต่างๆ มันจะละเอียดมาก ทำให้ง่ายต่อการเข้าไปสะสมในหัวน๊อตใกล้ๆ ใบมีด นอกจากนี้ขอให้ระวังเรื่องอุณหภูมิ ที่ค่อนข้างสูงเกิน 100 องศา ดังนั้นหลังการปั่นทำนมอัลมอนด์ ควรจะต้องใช้ความระมัดระวังสูงมากทีเดียว ควรให้เด็กเล็กหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้ใหญ่ หรือ ผู้ปกครองขณะกำลังทำ หรือใช้เครื่องนี้

เท่านี้คุณก็จะได้น้ำนมอัลมอนด์ ที่ทำเอาไว้ดื่มเองง่ายๆ หากต้องการสั่งซื้อสำเร็จรูป เห็นเขาว่ากันว่ามีขายกันอยู่แถวเยาวราช แต่หากทำดื่มเอง กินเอง เราจะเห็นคุณค่า และ สดสะอาดกว่าซื้อข้างนอกอย่างแน่นอน ดังนั้นสนับสนุนให้ทำเองดีกว่าครับ 🙂