เรือ Disney Dream สวนสนุกลอยน้ำ
หากเอ่ยชื่อ “ดิสนีย์ (Disney)” เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จักอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะรู้จักในนามของผลงานการ์ตูนแอนิเมชั่น หรือ ภาพยนตร์ ต่างๆ มากมายตั้งแต่เด็กๆ หรือหากใครที่เคยไปเมืองนอกอย่างประเทศ ฮ่องกง ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา หรือแม้แต่ฝรั่งเศส ส่วนมากคงจะต้องเคยไปเยือนสวนสนุกที่ถือว่ามีเครือข่ายใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง “ดิสนีย์แลนด์ (Disneyland)” อย่างแน่นอน แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าทาง ดิสนีย์ นั้นได้มีธุรกิจอีกประเภทหนึ่งนั่นคือธุรกิจเรือสำราญ (Cruise Ship) ซึ่งเป็นธุรกิจที่ก่อให้เกิดรายได้กับเขาอยู่พอสมควร ซึ่งพอดีผมกับภรรยาได้มีโอกาสไปเที่ยวเรือ Disney Dream กันมาช่วงปลายเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2556 (ค.ศ. 2014) ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ปิดเทอม ไม่มีคลาสสอนพอดี เลยมีโอกาสได้ไป
ขอสารภาพตามตรงว่า รีวิวฉบับนี้เป็นรีวิวที่ใช้เวลาเขียนนานมากๆ (ประมาณ 2 เดือน) แต่เอาจริงๆ ก็เขียนบ้างหยุดบ้าง ติดธุระ งานแทรก โน่นนี่นั่น ภายในมีคำพูดในบทความนี้มากกว่า 6 พันคำ เรียกได้ว่าละเอียดยิบ ละเอียดมากๆ ยาวที่สุดตั้งแต่เกิดมา ตั้งแต่เคยเขียนบทความมาเลย คิดตรงไหนออก ก็มาแทรกเสริมเข้าไปให้มันละเอียดที่สุด เท่าที่จะสามารถทำได้
แต่คิดในอีกแง่นึง เราเขียนบรรยายหมดแล้ว คนอ่านจะอยากไปอีกเหรอนี่ ผมบอกเอาไว้ตรงนี้ได้เลยว่า เมื่อคุณอ่านรีวิวฉบับนี้จบ จะต้องยิ่งไปให้ได้ เพราะบรรยากาศมันสุดยอดมากๆ เหมือนคนที่ดูบอลจากจอทีวี กับ คนที่ดูบอลในสนามฟุตบอลจริงๆ บรรยากาศต่างกันมากๆ นะ
และสำหรับใครที่ขี้เกียจอ่านรีวิวยาวเยียดขนาดนี้ ผมก็ได้ทำคลิปวีดีโอสรุป เหตุการณ์หลักๆ สำคัญๆ บนเรือ มาไว้ในคลิปที่มีความยาวประมาณเกือบๆ 4 นาที ตั้งแต่ขึ้นเรือ จนจบเหตุการณ์สำคัญๆ บนเรือ
และเนื่องด้วยรีวิวนี้เป็นรีวิวที่ยาวมากๆ มีหลายหัวข้อ หลายตอนมากๆ โดยเริ่มกันตั้งแต่จองตั๋วไปเลย ดังนั้นผมจึงขอทำเมนูเอาไว้สำหรับผู้อ่าน จะได้ข้ามไปยังส่วนที่ตัวเองต้องการอ่านได้เลย โดยหัวข้อย่อย ที่เห็นเป็นหัวข้อ A. B. สรุปมาจะคัดมาเฉพาะส่วนที่สำคัญๆ เป็นไฮไลท์ เท่านั้น ความจริงยังมีรายละเอียดอีกเยอะมากๆ ต้องกดเข้าไปดูในหัวข้อหลักๆ ดูเองเลย
- รู้จักกับธุรกิจทั้งหมดของ Disney
- วิธีจองเรือ Disney Dream
- เตรียมตัวก่อนเดินทางไปเรือ Disney Dream
- วันแรก Disney Dream (ขึ้นเรือที่ Port Canaveral)
- วันที่สอง Disney Dream (เที่ยวเมือง Nassau ประเทศ Bahamas)
- วันที่สาม Disney Dream (เที่ยวเกาะ Castaway Cay เกาะส่วนตัวดิสนีย์)
- วันที่สี่ Disney Dream (กลับท่าเรือ Port Canaveral)
- บทสรุปขึ้นเรือ Disney Cruise
รู้จักกับธุรกิจของ Disney สักนิด
และถ้าหากพูดถึงเจ้าตัวการ์ตูนดิสนีย์ (Disney Characters) แล้วละก็เชื่อว่าเด็กๆ ส่วนใหญ่ หรือแม้แต่ ผู้ใหญ่ ที่ไม่ใช่แค่เฉพาะประเทศไทย แต่เกือบทั่วโลก ต้องรู้จักอย่างแน่นอนคือ มิกกี้เมาส์ (Mickey Mouse) มินนี่เม้าส์ (Minnie Mouse) โดนัลดั๊ก (Donald Duck) พลูโต (Pluto) กู๊ฟฟี่ (Goofy) เหล่านี้ถือเป็นตัวการ์ตูนยุคบุกเบิก ยุคแรกๆ ของดิสนีย์เลยก็ว่าได้ ซึ่งระยะหลังๆ มาก็มีโผล่มาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตัวจากละคร ทอยสตอรี่ (Toy Story) ลิโล่แอนด์สติช (Lilo & Stitch) การ์ตูนปลานีโม (Nemo) หรือจะเป็นภาพยนตร์ที่เป็นคนนักแสดงตัวจริงๆ แสดง อย่าง ไพเรท ออฟ เดอะ แคริบเบียน (Pirate of the Caribbean) อะไรแบบนี้เป็นต้น
หารู้ไม่ว่าความเป็นจริงแล้วเจ้า บริษัท เดอะวอลต์ดิสนีย์ นั้นไม่ได้มีแค่การ์ตูน หรือแม้แต่สวนสนุกให้พวกเราได้ไปเที่ยวกันอย่างเดียว โครงสร้างองค์กรของเขา ได้ถูกแบ่งออกเป็น 5 ส่วนหลักๆ (ในแต่ละส่วน ก็จะมีบริษัทลูก แตกย่อยอยู่ข้างในอีกมากมาย) ด้วยกันคือ
Disney Media Networks : ส่วนแรกนี้เป็นส่วนที่เรียกว่า มีเดียเน็ตเวิร์ค คือ ส่วนของสื่อต่างๆ ที่เขามีอยู่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสื่อวิทยุ โทรทัศน์ อย่าง ABC ที่สหรัฐอเมริกา รวมไปถึง ช่องโทรทัศน์ดิสนีย์ (Disney Channel) และ นอกจากนี้ ก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่า เขาเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ในกลุ่มของ ESPN ซึ่งเป็นช่องโทรทัศน์ด้านกีฬาชื่อดังอีกด้วย
Parks and Resorts : ในส่วนธุรกิจประเภทนี้เชื่อว่าคนไทยรู้จักกันดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใครที่ได้มีโอกาสไปต่างประเทศ คงจะรู้จักดีเข้าไปใหญ่ เพราะว่าดิสนีย์มีสวนสนุก อยู่มากมายทั่วโลก ซึ่งผู้ก่อนตั้งอย่าง คุณวอลท์ ดิสนีย์ (Walts Disney) นั้นตั้งใจจะเปิดสวนสนุกขึ้นมาเพื่อสำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ลูก หรือแม้แต่ คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย ก็สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในสวนสนุกเหล่านี้ได้อีกด้วยเช่นกัน
ดิสนีย์มีสวนสนุกอยู่ทั้งหมดมากกว่า 10 สวนสนุกทั่วโลก และ รีสอร์ตอีกมากกว่า 40 รีสอร์ต ทั่วโลก นอกจากนี้ยังรวมไปถึง ดิสนีย์ครูซ (Disney Cruise) หรือ เรือสำราญดิสนีย์ ที่เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้จัก ว่าดิสนีย์มีเรือด้วยเหรอ แน่นอนว่าเขามีธุรกิจเรือสำราญ ด้วยแนวคิดที่ว่ายกสวนสนุกขึ้นไปไว้อยู่บนเรือ
The Walt Disney Studios : ธุรกิจที่เรียกว่า “วอลท์ ดิสนีย์ สตูดิโอ” นี่ถือเป็นธุรกิจแรกเริ่ม หรือ ธุรกิจต้นกำเนิด ของธุรกิจดิสนีย์เลยก็ว่าได้ เป็นส่วนของการผลิตภาพยนตร์การ์ตูน แอนิเมชั่นต่างๆ ออกมามากมาย ซึ่งภายในก็แต่ย่อยออกไปเป็นสตูดิโอ เล็กๆ น้อยๆ ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ดิสนีย์แอนิเมชั่นสตูดิโอ (Walt Disney Animation Studio) รวมไปถึงบริษัทอื่นๆ ที่ทางดิสนีย์เข้าไปซื้อกิจการมา เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านธุรกิจการ์ตูน แอนิเมชั่น และ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ให้สูงยิ่งขึ้นไป อย่าง พิกซาร์แอนิเมชันสตูดิโอ (Pixar Animation Studio) มาร์เวลสตูดิโอ (Marvel Studio) ลูคัสฟิลม์ (Lucasfilm) ทัชสโตนพิกเจอส์ (Touchstone Picture) หรือแม้แต่ ดรีมเวิร์ค (DreamWorks) เองก็ล้วนแต่เป็นธุรกิจที่อยู่ในเครือเดียวกันกับดิสนีย์ทั้งนั้น
Disney Consumer Products : ธุรกิจนี้คือ สินค้าดิสนีย์ ของที่ระลึก ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นของเล่น (Toy) เครื่องแต่งกาย (Apparel) หนังสือ (Book) และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งก็ถือเป็นอีกธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ ได้อย่างมหาศาล และ เป็นกอบเป็นกำมากๆ สำหรับดิสนีย์ เนื่องจากเขามีตัวการ์ตูน ตัวละคร ภาพยนตร์ ในสังกัดอยู่มากมาย และส่วนใหญ่เป็นขวัญใจของเด็กๆ หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ จึงทำให้หากใครไปเยือน สวนสนุกดิสนีย์ ต่างๆ หรือแม้แต่ ร้านดิสนีย์สโตร์ (Disney Store) ที่มีกระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก กว่า 350 ร้าน ก็จะต้องซื้อของติดไม้ติดมือกลับบ้านไปใช้ หรือกลับไปเป็นของฝาก อย่างแน่นอน หรือแม้แต่สินค้าดิสนีย์ ที่ถูกลิขสิทธิ์ ที่ขายอย่างถูกต้องตามกฏหมาย ทั่วโลก ดิสนีย์เองก็มีส่วนได้ส่วนเสียกับตรงจุดนี้เป็นจำนวนมากเช่นกัน
Disney Interactive : ธุรกิจประเภทสุดท้ายของดิสนีย์คือ ดิสนีย์ อินเตอร์แอคทีฟ (Disney Interactive) เป็นหน่วยงานที่ผลิตสื่อมีเดีย ที่อยู่ในรูปแบบดิจิตอลทั้งหมด (อยู่บนคอมพิวเตอร์) ไม่ว่าจะเป็นเกมส์คอนโซล เกมส์บนมือถือ หรือแม้แต่ เว็บไซต์ดีสนีย์ดอทคอม (Disney.com) และเว็บไซต์เครือข่ายอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่แม่และเด็ก ครอบครัว อีกมากมาย
และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ขอเข้าเรื่องธุรกิจเรือสำราญของดิสนีย์ กันเลยด้านล่างนะ
เรือสำราญ Disney Cruise อีกหนึ่งธุรกิจสร้างชื่อของดิสนีย์
แน่นอนว่ารีวิวฉบับนี้เราจะเจาะลึกลงในในส่วนของธุรกิจเรือสำราญดิสนีย์ครูซส์ (Disney Cruise) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจหลัก Parks and Resorts ของดิสนีย์ที่ได้กล่าวมาด้านบน เชื่อว่าตรงจุดนี้ มีคนไทยหลายคนไม่รู้จักธุรกิจนี้ สาเหตุเนื่องจากว่า เรือที่เขามีในครอบครองทั้งหมดเหล่านี้ไม่ได้เดินทางมาแถบประเทศไทย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือแม้แต่ ทวีปเอเชีย ของเราเลย และกว่าจะไปขึ้นเรือได้ ก็ไกลแสนไกลจึงทำให้เป็นที่รู้จัก และ เป็นที่นิยมในประเทศไทยน้อยมากๆ
ซึ่งเรือทั้งหมด 4 ลำของเขาป้วนเปี้ยนอยู่ในแถบทวีปอเมริกาเหนือ (North America) แถบอเมริกากลางหรือที่ส่วนใหญ่รู้จักกันในนามว่า “แคริบเบียน (Caribbean)” เป็นส่วนใหญ่ และ ทวีปยุโรป (Europe) อีกบางส่วน นั่นเอง และที่สำคัญ เมืองหลักๆ ที่เป็นเมืองขึ้นเรือ ของเขาอยู่ที่ ออร์แลนโด มลรัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา (Orlando, Florida, USA) นั่นเอง ซึ่งการจะเดินทางไปในแต่ละครั้งนั้น แน่นอนว่าเป็นเรื่องลำบากมากๆ เพราะมันอยู่คนละซีกโลกกับประเทศเราเลย เรียกได้ว่าคนละฝั่งกันเลย ระยะทางการเดินทางนั้นแน่นอนเกินหมื่นกิโลเมตร แน่นอน
ธุรกิจเรือสำราญของดิสนีย์ถูกเริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ.1996 ภายใต้ชื่อ ดิสนีย์ครูซไลน์ (Disney Cruise Line) ซึ่งปัจจุบันมีเรือทั้งหมด 4 ลำ ด้วยกันซึ่งการตั้งชื่อของเขาจะมีคำว่า “ดิสนีย์” นำหน้า ได้แก่
- Disney Magic (ดิสนีย์เมจิก) เรือลำแรกของดิสนีย์ ที่เปิดให้บริการในวันที่ 30 กรกฏาคม ค.ศ.1998 มีระวางขับน้ำ 83,338 ตัน สามารถจุผู้โดยสารได้ 2,400 คน
- Disney Wonder (ดิสนีย์วันเดอร์) ถัดมาอีกหนึ่งปี ก็ได้เปิดบริการเรือที่มีขนาดใกล้เคียงกับลำแรก ในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ.1999 ระวางขับน้ำ 85,000 ตัว จุผู้โดยสารได้ 2,400 คน เช่นกัน
- Disney Dream (ดิสนีย์ดรีม) : หลังจากที่ได้ประสบความสำเร็จกับเรือสองลำแรกมาแล้วนั้น หลังจากนั้นอีก 11 ปี ก็ได้เปิดบริการเรือลำที่ 3 ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าสองลำแรก เกือบเท่าตัว ที่มีชื่อว่า “ดิสนีย์ดรีม” เปิดตัวในวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2011 มีระวางขับน้ำ 129,690 ตัน จุผู้โดยสารได้ 4,100 คน ซึ่งถือว่าใหญ่มากๆ ซึ่งในรีวิวฉบับนี้เจ้าของรีวิวจะรีวิวเรือลำนี้
- Disney Fantasy (ดิสนีย์แฟนตาซี) : เรือลำที่สี่ ซึ่งถือเป็นลำล่าสุด ขณะที่เขียนรีวิวฉบับนี้อยู่ ได้เปิดตัวในวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ.2012 ระวางขับน้ำ เท่ากับลำที่สาม คือ 129,690 ตัน และ จุผู้โดยสารได้เท่ากันคือ 4,100 คน เช่นกัน โดยเขาเอามาวิ่งสำหรับโปรแกรมแบบ 8 วัน 7 คืน แถบทะเลแคริบเบียน นั่นเอง
แค่นั้นไม่พอทาง ดิสนีย์ เขายังได้ไปเช่าเกาะส่วนตัวที่ทำสัญญาระยะยาว 99 ปีที่ ประเทศบาฮามาส (Bahamas) โดยเริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ.1997 ซึ่งเกาะนี้มีชื่อว่า “แคสอะเวย์คีย์ (Castaway Cay)” เดิมทีสมัยก่อนเกาะนี้มีชื่อว่า “เกาด้าร์คีย์ (Gorda Cay)” ที่เอาไว้เป็นที่กักกันผู้คนยาเสพติด (Drug Runner) พร้อมกับยัง ท่าเรือจอดเรือสำราญขนาดใหญ่ที่มีอยู่ของดิสนีย์ ซึ่งผู้โดยสารสามารถลงแล้วเดินเข้าเกาะได้เลย โดยไม่ต้องลงเรือเล็ก และในเกาะมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ตรงจุดนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ ที่เติมให้เต็มของธุรกิจเรือสำราญ ดิสนีย์ครูซส์ไลน์ ให้มีจุดเด่น เหนือคู่แข่งที่ยากนักจะมีเกาะส่วนตัวเป็นของตัวเองอีกด้วย
เรือ Disney Dream เรือสำราญ ที่เลือกไปล่อง
สืบเนื่องจากผมและภรรยา ได้เห็นรีวิวเรือสำราญ Disney Fantasy ฉบับหนึ่งบนเว็บไซต์ Pantip.com ชุมชนเว็บบอร์ด ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยตลอดกาล ซึ่งเป็นรีวิวสำหรับโปรแกรมล่องเรือเที่ยว แบบ 8 วัน 7 คืน ก็รู้สึกว่าเริ่มอยากไปบ้าง เพราะส่วนตัวแล้วตัวเองกับภรรยา ก็ชอบสวนสนุกมาเป็นทุนทั้งคู่อยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้ ครั้งก่อน (เดือนมีนาคม ค.ศ.2013) ที่ไปฮันนีมูนกัน ทริปแรก ก็ได้มีโอกาสไปเที่ยว ประเทศสหรัฐอเมริกาฝั่งตะวันตก (West Coast) มาแล้ว อย่าง ลอสแอนเจลิส ลาสเวกัส และ ซานฟรานซิสโก รวมแล้ว 21 วันพอดี ก็ได้มีโอกาสไปเที่ยวทั้ง ดิสนีย์แลนด์ (Disneyland California) และ ดิสนีย์แอดเวนเจอร์ (Disney Adventure) ที่อยู่ตรงข้ามกัน ซึ่งได้ไปแค่วันเดียว และรู้สึกติดใจว่าจะต้องไปอีกให้ได้
เนื่องจากครั้งแรกยังไม่รู้สึกเที่ยวได้อย่างจุใจ สะใจ มาปีนี้ (ค.ศ.2014) จึงได้แพลนวางแผนตั้งแต่ต้นปีเลย เพื่อที่จะได้กลับไปสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง แต่เนื่องจากภรรยาผมไม่ชอบเที่ยวที่เดิมๆ ซ้ำๆ จึงตัดสินใจไปเที่ยวอีกฝั่งนั่นคือ ฝั่งตะวันออก (East Coast) นั่นเอง โดยครั้งนี้ได้แพลนว่าจะไปเที่ยวเมือง ออร์แลนโด (Orlando) วอชิงตัน ดีซี (Washington DC) ฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia) น้ำตกไนแองการ่า (Niagara Falls) และ จบท้ายที่นิวยอร์ค (New York) ทั้งหมดรวมทั้งสิ้น 24 วัน (เที่ยวเกือบเดือน แทบไม่ต้องทำงานกันเลยทีเดียว)
และแน่นอนทริปนี้ได้รวมเอา โปรแกรมเรือสำราญดิสนีย์ (Disney Cruise) บวกเพิ่มเข้าไปด้วย แค่นั้นไม่พอ ยังจะต้องรวมสวนสนุกบนบก ดิสนีย์เวิลด์ (Disney World)* และ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์ออร์แลนโด (Universal Studio Orlando) บวกกับโปรแกรมเมืองอื่นๆ ที่กล่าวมาทั้งหมด เลยมีความจำเป็นจะต้องเลือกโปรแกรมเรือ ที่จำนวนวันน้อยๆ เพื่อที่จะได้ไปเที่ยวที่อื่นได้อย่างครบถ้วน
หมายเหตุ : ปกติสวนสนุกบนบก โดยปกติแล้วของดิสนีย์เขาจะเรียกทุกที่ว่าดิสนีย์แลนด์ (Disneyland) แต่ว่ามีสวนสนุกบนบกอยู่ที่เดียว ที่เรียกชื่อแตกต่างไปจากที่อื่นคือที่เมืองออร์แลนโด ซึ่งจะใช้ชื่อว่า ดิสนีย์เวิลด์ (Disney World) นั่นเอง เนื่องจากมันใหญ่มากๆ มีสวนสนุกแบ่งยิบย่อยอีกมากมาย เดินวันเดียวก็ไม่หมด
หากเดินทางจากประเทศไทย แนะนำให้จองเรือก่อน แล้วค่อย จองตั๋วเครื่องบิน ในการเดินทางมาขึ้นเรือ เพราะตั๋วเครื่องบิน มีวันและเวลาที่หลากหลายมากกว่า จองเรือ ที่มีจำนวนเที่ยวหรือรอบที่จำกัดกว่า
ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ ได้จองไปเรียบร้อยแล้ว
คราวนี้พยายามหาในเอกสารของดีสนีย์ว่าหากไปทางครูสจะ “ไม่ต้องใช้วีซ่าบาฮามาส” จะสามารถดูได้จากตรงไหนไหมคะ พอดีกลัวจะมีปัญหาตอน check-in
สวัสดีครับคุณThanop ผม ไก่ครับ ถามหน่อยครับว่าเรือ Disney dream มีบริการฟรี wifi ม้ัยครับ หรือ ถ้าเราต้องการ wifi สามารถ ซื้อในเรือได้มั้ยครับ ราคาเท่าไหร่ มีแพคเก็จwifi มั้ยครับ ขอบคุณครับ
มีครับผม ตอนผมไปเรตราคา ตามปริมาณ Bandwidth หรือ ข้อมูลที่รับส่งครับ ตอนของผมไป ไม่มีราคาโปรโมชั่น (Promotional Price) นะครับ มีแต่ ราคาปกติ (Regular Price) ครับ ราคาค่อนข้างแพงมาก ห้ามเปิดคลิปเลยทีเดียว เพิ่งรู้สึกว่า การใช้อินเทอร์เน็ตมีค่า ก็ตอนนี้แหละครับ ส่วนราคาเรต ก็ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยนะครับ
http://disneycruiselineblog.com/wp-content/uploads/2014/01/DCL-Connect-at-Sea-Data-Plans-Magic-Feb-2014-Introductory-Pricing.jpg
ขอบคุณที่มารีวิวค่ะ มีแพลนจะไปเที่ยวทางแถบนั้นช่วงปลายปี เดินทางจากซิดนีย์ มีเวลา 7 อาทิตย์ เริ่มต้นทริปจากแคนาดาเที่ยวโตรอนโต้ ออตตาวา มอนทรีออล แล้วสกีอีก 1 อาทิตย์ จากนั้นมาบอสตัน นิวยอร์ค เช่ารถจากนิวยอร์ค แล้วขับลงใต้มาเรื่อย ๆ จนถึงไมอามี่ ปิดทริปที่ Bahamas พออ่านเจอรีวิวของคุณเลยคิดจะขับมาแค่ออแลนโด้ซะแล้ว 555 มีแนวโน้มจะไป Disney cruise 80% แล้วค่ะ จากตอนแรกว่าจะจัดทริปไป scuba dive ที่ Bahamas แต่คิดไม่ตกเพราะต้องนั่งเครื่องกลับมาซิดนีย์อีก ขอบคุณมากที่มารีวิว ได้ข้อมูลมากมายแถมเขียนได้ดีจนเทใจไปกะ Disney cruise แล้วค่ะ
โหดมากครับ ได้เที่ยวตั้ง 7 สัปดาห์ ส่วนเรื่องเรื่องดิสนีย์ นั้น ขอบอกว่าน่าไปเที่ยวมากๆ ครับ นี่ผมเองก็เพิ่งกลับมาจาก เรื่อง Disney ครับ (พอดีไปมาอีกรอบ) คราวนี้ไปมา 8 วัน 7 คืน เลย ชอบมากๆ (นี่ขนาดไปมาครั้งที่ 2 แล้วนะ) ยังไงต้องไปอีกครับ
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ สำหรับริวิว เขียนและอธิบายให้เข้าใจตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ได้สาระและความรู้มากเลยค่ะ!
กำลังจะไปเที่ยว Eastern Carribean เดือนกุมภาพันธ์ 2017 แต่ไปของ Royal Carribean .
ได้อ่านจากประสบการณ์ของคุณธนพแล้ว เหมือนเรียนรู้ทางลัดเลยค่ะ เขียนได้ละเอียดมากจริงๆเลย สุดยอดค่ะ!
ด้วยความยินดีนะครับผม คุณกนกวรรณ 🙂
รีวิวละเอียดยิบมากเลย ชอบมากค่ะ มีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังแพลนจะไปอย่างมาก มีภาพประกอบตลอดๆด้วย อ่านไม่เบื่อเลยค่ะ ถึงจะยาว 6พันคำ ก็อ่านทีละบรรทัดรวดเดียวจบนะคะ 55 ขอบคุณนะคะสำหรับรีวิวดีๆ
อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ กำลังจะไป Florida กุมภานี้ค่ะ ขอเล่าเรื่องแพลนของเราคร่าวๆก่อนนะคะ
เราวางไว้หมดแล้วว่าวันไหนไปไหนทำอะไร แต่การเดินทางเป็นอะไรที่ยากและคิดไม่ตกจริงจังค่ะ เลยอยากได้คำแนะนำค่ะ ไปทั้งหมด 17 วัน 15 คืนค่ะ (รวมเดินทาง)
วันแรก เดินทางไปถึง Miami ประมาณ 5 โมงเย็นค่ะ แล้วจะดิ่งไปนอนที่ Disney World เลย เพราะ 3วันต่อมาจะลุยอยู่ในนี้ค่ะ จากนั้นก็ไป Universal 2 วัน ตามด้วย Disney Cruise 8 วัน แล้ววันที่กลับเข้าฝั่งก็ฟรี 1 วัน แล้วถึงจะเดินทางกลับกรุงเทพตอนเย็นวันต่อมาค่ะ
ประเด็นที่หนึ่งคือ บินไปลง Miami ถ้าจะบินต่อไป Orlando ก็แค่ชั่วโมงเดียว แต่ไหนจะรอเอากระเป๋า ตรวจคนเข้าเมือง เช็คอินอีกรอบ รอเครื่อง แล้วที่สำคัญ ถ้า Flight ที่จะถึง Miami ดีเลย์ นี่ยุ่งเลย แล้วบินภายในประเทศก็แพง จำกัดน้ำหนักกระเป๋าอีก แค่เริ่มต้นก็มึนแล้วค่ะ
แต่ถ้าเช่ารถไป ก็ขับไป 3 ชั่วโมง สะดวกดี แต่เราจะอยู่ในสวนสนุกอย่างเดียวจริงๆ รถเหมือนจะเช่ามาเพื่อมาจอด คุณธรรณพว่าเราควรไปยังไงดีคะ
ปัญหาการเดินทางอย่างที่สองคือ จาก Disney World ไป Universal คงต้อง Taxi ใช่มั้ยคะ แต่ราคาจะสูงมั้ยคะ หรือมีช่องทางอื่นแนะนำมั้ยคะ อันนี้คือเราย้ายไปนอนที่ Universal ด้วยนะคะ
ต่อมาจาก Universal ไป Port Canaveral เท่าที่เช็คมาคือ Universal มีรถไปส่งที่สนามบิน Orlando แล้ว Disney Cruise ก็มีรถมารับที่นี่ แต่ถ้าอย่างนี้คือต้องเสียค่ารถคนละ USD55 เราไป 3คน ทั้งหมดก็ USD165 อย่างนี้นั่ง Taxi ตรงไปเลยจะคุ้มกว่ามั้ยคะ หรือจะแพงกว่าคะ
ปัญหาการเดินทางสุดท้ายคือ จาก Port Canaveral จะกลับไปสนามบิน Miami เนื่องจากเราจะฟรีวันที่กลับเข้าฝั่ง แล้วก็ครึ่งวันเช้าของวันที่เราต้องบินกลับกรุงเทพ เราก็อยากไปซื้อของฝาก ช้อปปิ้ง แล้วไหนจะกระเป๋าเดินทางอีก เลยอยากเช่ารถ ก็เลยกะว่า คงต้องยอมเช่า One-Way แล้วขับจากท่าเรือ แล้วเที่ยวเลาะๆไป แล้วไปนอนแถวๆสนามบิน หรือควรบินกลับจาก Orlando ไป Miami ดีคะ แล้วค่อยไปเช่ารถจากที่นั่น
รบกวนด้วยนะค้า
สวัสดีครับคุณ Dew
ผมขอตอบเป็นประเด็นๆ ตามที่คุณ Dew ถามมาดังต่อไปนี้นะครับ
ประเด็นแรก :
เรื่องการต่อ Flight ไม่ต้องห่วงครับ ถ้าหากเป็นสายการบินเดียวกัน น่าจะพอครับ และส่วนมาก Flight ที่คุณบินมาถึง Miami นั้นน่าจะเป็น Flight บินไกลแน่ๆ ซึ่งแน่นอน Flight บินไกลๆ ส่วนมากแล้วจะบินมาถึงก่อนเวลานะครับ ไม่ค่อยจะดีเลย์เท่าไหร่ ส่วนเรื่องการเช่ารถแล้วขับขึ้นไป Orlando เพื่อไปเล่นสวนสนุกอย่างเดียวนี่บอกตรงๆ ว่าไม่คุ้มอย่างแรงเลยครับ เพราะไหนจะค่าเช่ารถ ไหนจะค่าจอดรถภายในสวนสนุก Disney World อีก ไม่คุ้มมากๆ เลยครับ
ประเด็นที่สอง :
เรื่องการนั่งแท็กซี่จาก Disney World ไป Universal นั้น ค่าแท็กซี่ขาเดียว เที่ยวละ ประมาณ $30.00 (ไปกลับก็ประมาณ $60.00) ตอนนั้นผมพักที่ Holiday Inn Orlando SW – Celebration Area (ลอง Search ดูใน Google ได้) มันจะอยู่ปากประตู Disney World นะครับ การเดินทางช่องทางอื่นคือ พอดีที่โรงแรมผมจะมีรถ Shuttle Bus วิ่งไปที่ Universal เหมือนกัน แต่ข้อจำกัดคือ ต้องไปตามเวลา กลับตามเวลาเขา (ขออภัยผมจำเวลาไม่ได้) ส่วนราคาผมก็จำไม่ได้อีก 555 แต่ถูกกว่านั่งแท็กซี่มากๆ แน่นอนครับ ลองถามที่ล็อบบี้ของโรงแรมดูนะครับ
ประเด็นที่สาม :
การนั่งรถไป Port Canaveral ตามที่คุณ Dew บอกครับ ถ้าไปกันเยอะ 3 คน นั่ง Taxi ตรงไปลงที่ Port Canaveral เลยจะดีกว่าครับ เพราะไม่อย่างนั้นต้องนั่งแท็กซี่ไปลงสนามบิน และจากสนามบินต้องเสียค่ารถบัส ให้ Disney ไปเป็นรายหัวอีก ตรงไปเลยดีกว่าครับ
ประเด็นที่สี่ สุดท้าย :
ถ้าถามผม เช่ารถจาก Orlando ไปดรอปลง Miami ก็ได้ครับ จะได้เที่ยวลัดเลาะ และ ดูวิวข้างทาง ไปด้วย แต่เช่ารถไปดรอปคนละที่กันแพงกว่าพอสมควรนะ แต่ผมคิดว่าคงถูกกว่า ค่าเครื่องบิน Flight จาก Orlando -> Miami ของทั้ง 3 คนรวมกันนะครับ
มีอะไรสอบถามผมเพิ่มเติมได้เลยนะครับ ขอให้สนุกกับการเดินทางนะครับ 🙂
ประเด็น
ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับคำแนะนำ พึ่งกลับมาสดๆร้อนๆเลยค่ะ เดินทางตามที่คุณธรรณพแนะนำ แต่ใช้บริการ Uber แล้วมี Promotion Code เลยยิ่งถูกไปอีก ต้องขอขบคุณอีกครั้งค่ะ
ราคา 60,000 กว่าอะครับ
ไม่รวมค่าเครื่องที่ไปขึ้นเรือใช่มั้ยครับ
ไม่รวมครับผม ค่าเครื่องต่างหากครับ แต่ 6 หมื่นนี่ สำหรับ 2 คนนะครับ ไม่ใช่ต่อคน ก็ตกประมาณ คนละ 30,000 หารออกมาก็วันละหมื่นบาท / คน ครับผม
รีวิวดีมากๆ เลยค่ะ อ่านตามแล้วได้ความรู้สึกดี ภาพก็เยอะ ขอเพิ่มเติมนิดนึงเรื่องโรงแรม… ถ้าจะพักคืนนึงที่ Orlando ก่อนจะขึ้นเรือ พักที่โรงแรมในสนามบินออร์แลนโด (MCO) เลยก็ได้ค่ะ จะสะดวกกว่าเยอะเลย
ขอบคุณมากๆ นะครับสำหรับคำแนะนำ ผมก็เห็นด้วยกับคุณ pearlelpis เหมือนกันว่าควรจะให้อยู่โรงแรมในสนามบินเลย ถึงอาจจะแพงกว่าข้างนอกหน่อย แต่ก็ประหยัดค่าเดินทางอย่างแท็กซี่ ไปได้เยอะเลยครับ
ขอบคุณมากค่ะ เป็นสถานที่ในฝันเลย อยากสอบถามด้วยว่าถ้าไปเส้นทางเดียวกับคุณจะต้องทำวีซ่าเข้าบาฮามาสไหมคะสำหรับเข้า นาซอร์ กับ castaway kays
เส้นทางที่คุณไปชื่ออะไรคะ
เคยดูเวปแต่กลัวต้องทำวีซ่าที่ไม่มีสถานฑูตในไทยค่ะ
ขอบคุณจากใจค่ะ มีประโยชน์มาก
“ไม่ต้อง” ทำวีซ่าของประเทศ Bahamas ครับทางเรือ Disney เขาจะพาเข้าให้เลย น่าจะอารมณ์ประมาณให้เข้าได้ชั่วคราว และคงจะมีข้อตกลงกันไว้ครับ เส้นทางที่ผมไปไม่ทราบเหมือนกันว่าชื่ออะไรครับ แต่เป็นแพคเกจแบบ 4 วัน 3 คืน จะเป็น
Port Canaveral -> Nassau -> Castaway Cay -> Port Canaveral
คุณพี่ขา อยากทราบว่าค่าขึ้นเรือตกคนละเท่าไกร่อะค่ะ 3 คืน อ่ะค่ะ
ตอนผมไป 2 คนคือประมาณ 6 หมื่นนะครับ ก็สรุป คนละประมาณ 3 หมื่นนิดๆ ครับ ลองเข้าไปดูในเว็บได้เลยนะครับ
คุณพี่ค่ะ จาก new york ไป disney world, universal orlando ลงที่สนามบิน MCO ใข่รึเปล่าค่ะ ถามเพื่อความชัวร์ 2. จาก orlando ไปหาด ไมอามี่ หนูจะนั่งรถ เกรย์ฮาว ไป ดีรึเปล่าค่ะไปกับเพื่อน อีก 1 คน 3. NASA อยุ่ที่ไมอามี่ ใช่มั้ยค่ะ หนูว่าจะไปเที่ยว แล้วค่อยขึ้นเรือ disney dream ที่ ไมอามี่ ตอนนี้ หนูจอง ตั๋ว ไปกลับ bkk-jfk กับ เรือ disney dream แล้วค่ะ 4. นั่งเรือเสร็จหนูจะกลับมา new york สนามบินที่ไมอามี่ ชื่อ MIA ใช่รึเปล่าค่ะ หนูเหลือ จองตั๋วบินในประเทศ เพราะยังไม่ชัวร์ เรื่องสนามบิน รู้สึกสับสนอะค่ะ รบกวนหน่อยนะค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ
พี่ค่ะ จะขึ้นเรือ disney dream ที่ port Canaveral คือ ท่าเริอ อยุ่ในออแรนโด้ นี้ใช่มั้ยค่ะ ไม่ได้อยุ่ที่ maimy ใช่มั้ยค่ะ รู้สึกสับสน ขอบคุณมากๆค่ะ