รีวิว ล่องเรือ Disney Dream เรือสำราญ สวนสนุกลอยน้ำ 4 วัน 3 คืน

เตรียมตัวก่อนเดินทางไปเรือ Disney Dream

หลังจากที่เราจองตั๋วของเรือดิสนีย์เสร็จแล้ว เมื่อมั่นใจแล้วว่าการจองเสร็จสิ้น จ่ายเงินแล้ว ได้ไปแน่ๆ ช่วงระหว่าง 2 เดือนกว่าๆ ระหว่างจะไปขึ้นเรือนั้น ผมก็ได้มีการเตรียมตัวเพื่อที่จะไปขึ้นเรืออีกเล็กน้อย ดังต่อไปนี้

จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก เพื่อเดินทางไป Orlando

แน่นอนว่าจองตั๋วเรือแล้ว อย่างลืมจองตั๋วเครื่องบินด้วยละ ไม่งั้นจะไปขึ้นเรือได้อย่างไร ต้องมีการวางแผนที่ดี เพราะว่าเมืองออร์แลนโด (Orlando) นี่อยู่ไกลมากๆ การเดินทางจากเมืองไทยไป จึงไม่มีเที่ยวบินตรง แบบชนิดที่ บินรวดเดียวถึง อย่างแน่นอน โดยการเดินทางนั้นจำเป็นที่จะต้องมีการต่อเครื่องบิน เพื่อเปลี่ยนเครื่องบิน เปลี่ยนไฟล์ท เพื่อเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางในลำดับต่อไป ซึ่งอย่างน้อยต้องมี 2 ต่อ แน่นอน (อาจะเป็น 3 ต่อ หรือ 4 ต่อ ก็เป็นได้)

จากรายละเอียดการจองตั๋วเรือด้านบน มีกำหนดขึ้นเรือ วันพฤหัสบดี ที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 (ช่วงบ่าย เรือออกจากฝั่ง 15:45 น.) ดังนั้นการเดินทางตรงไปจากประเทศไทย จะต้องเผื่อเวลาเอาไว้อย่างน้อย 2 วัน เผื่อเกินเหตุไม่คาดคิด เครื่องบินดีเลย์ หรือ กระเป๋าเดินทางล่าช้ามาไม่ถึง

เริ่มต้นจากการจองตั๋วจาก กรุงเทพฯ (Bangkok) ไป นครลอสแอนเจลิส (Los Angeles) หรือที่คนไทยมักรู้ใจในนามว่า เมืองแอลเอ (LA) ด้วยสายการบิน คาเธ่ย์แปซิฟิค (Cathay Pacific)* ซึ่งจะต้องไปแวะเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง ประมาณ 2 ชั่วโมง

รายละเอียดการเดินทาง

1. CX750 (กรุงเทพ ไป ฮ่องกง) เครื่องออก 11:10 น. (วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 2014)
2. CX882 (ฮ่องกง ไป ลอสแอนเจลิส) เครื่องถึง 14:40 น. (วันเดียวกัน กับที่เดินทางออกมา คือ วันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 สาเหตุเพราะเวลาที่แอลเอ ช้ากว่าบ้านเรา 14 ชั่วโมง)

และเมื่อเดินทางถึงแอลเอ ก็วางแผนว่าจะค้างคืน นอนที่นั่นหนึ่งคืน และกว่าจะได้ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋า ซื้อซิมการ์ด ติดต่อ เช็คอินโรงแรม เป็นที่เรียบร้อย ก็กินเวลาไปจนถึงบ่ายแก่ๆ (4-5 โมงเย็น) ของที่โน่นแล้ว หลังจากนั้นก็เข้าพักที่ โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส‎ (Holiday Inn Express) คืนละตกอยู่ประมาณ 4 พัน กว่าบาท เพื่อที่วันรุ่งขึ้นจะเดินทางต่อไปยังที่หมายคือ ออร์แลนโด (Orlando) นั่นเอง

สาเหตุที่ต้องค้างคืนที่แอลเอ ก็เพราะว่า ไม่อยากจะต่อเครื่องรวดเดียวจบ กลัวเครื่องดีเลย์ กระเป๋าดีเลย์ และ จะมีปัญหาในเที่ยวบินต่อๆ ไปด้วย

หลังจากนั้นวันรุ่งขึ้น (28 พฤษภาคม ค.ศ. 2014) จึงได้เดินทางต่อด้วย สายการบิน เดลต้าแอร์ไลน์ (Delta Airlines) ไปยังเมืองออร์แลนโด ซึ่งสายการบินเดลต้า เป็นสายการบินของ สหรัฐอเมริกา ที่ผมเอาไว้ใช้บินในเส้นทางภายในประเทศ ระหว่าง ลอสแอนเจลิส (Los Angeles) ไปยังเมือง ออร์แลนโด (Orlando) สาเหตุที่เลือกเที่ยวบินนี้เพราะว่า มันเป็นไฟล์ทบินตรงยาวถึงที่หมายเลข เพราะปกติ ส่วนมากแล้วจะเป็นไฟล์ทต่อเครื่อง บางทีอาจจะต้องไปต่อที่เทกซัส (Texas) ซึ่งเสียเวลา และเหนื่อยด้วย

รายละเอียดการเดินทาง

1. DL1462 (ลอสแอนเจลิส ไป ออร์แลนโด) เครื่องออก 9.40 น. (ตามเวลาท้องถิ่นที่ แอลเอ) และมีกำหนดถึงที่หมาย ออร์แลนโด เวลาประมาณ 16.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นที่ ออร์แลนโด**)

*คาเธ่ย์แปซิฟิค เป็น สายการบินที่คว้าอันดับ 1 สายการบิน ยอดเยี่ยมระดับโลก จาก สกายแทร็กซ์ ประจำปี ค.ศ.2014

**เมืองออร์แลนโด เวลาต่างกับ เมืองลอสแอนเจลิส 3 ชั่วโมง (ออร์แลนโดเร็วกว่า 3 ชั่วโมง แต่ ช้ากว่าเมืองไทย 11 ชั่วโมง)

บทสรุปการจองตั๋วเครื่องบิน

สรุปว่าขาไป ผมจองตั๋วเครื่องบินทั้งหมด 2 ครั้ง แต่ใน 2 ครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนเครื่องบิน (เปลี่ยนเที่ยวบิน) ทั้งหมด 3 ครั้งด้วยกัน

1. CX750 (Bangkok -> Hong Kong)
2. CX882 (Hong Kong -> Los Angeles)
3. DL1462 (Los Angeles -> Orlando)

เที่ยวบินแบบ 2 ต่อ (แวะ 2 ครั้ง) มี แต่ราคาสูงมาก ลองหาสายการบิน จากยุโรป หรือ ตะวันออกกลางดู ที่มีบินมาลงที่ออร์แลนโด เพราะเขาจะบินมาจากทาง ตะวันออกกลาง ผ่านทวีปยุโรป มหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งสะดวกมากๆ แต่เนื่องจากราคาค่าตั๋วก็สูงมากๆ เช่นกัน ชั้นประหยัด (Economy Class) นั้นราคาสูงเกือบๆ แสนบาท จึงเลือกสายการบินเอเชีย ที่บินมาจากฝั่งตะวันตกดีกว่า

วางแผนทำกิจกรรมขณะอยู่บนเรือ Disney Dream

นอกจากนี้แล้ว หลังการจองตั๋วเรือเสร็จสิ้น ยังมีอีกส่วนนึงที่สามารถวางแผนแพลน ก่อนไปขึ้นเรือได้นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า กิจกรรมบนเรือ (Cruise Activities) ที่คุณสามารถเพิ่มเติม (Top-up) ขึ้นมาได้จากเดิม โดยสามารถเข้าได้จากเมนูสุดท้ายของหน้าเว็บไซต์ ที่เขียนว่า “Planning Center” ซึ่งเขาแบ่งออกเป็น 4 หมวดหลักๆ ด้วยกันคือ

1. Port Adventures : มาถึงตรงนี้ขอบอกไว้อีกนิดว่า รายละเอียดตั๋วที่คุณจองนั้น คือแค่การจองตั๋วในแพคเกจธรรมดาเท่านั้น จะไม่ได้มีทัวร์พาลงไปเที่ยว ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ดำน้ำ ดูปะการัง ชมเมือง เล่นสวนน้ำ บนเกาะ ของประเทศบาฮามาส (Bahamas) ในเมืองหลวงของเขาอย่าง แนสซอ (Nassau) ซึ่งกิจกรรมบนเกาะต่างๆ ที่เรือไปแวะ หรือแม้แต่ เกาะแคสอะเวย์คีย์ (Castaway Cay) เกาะส่วนตัวของดิสนีย์ เอง ก็มีกิจกรรมเสริม ที่ให้คุณได้เสียเงินเพิ่มเช่นกัน อาทิเช่น เช่าจักรยาน ขับเจ็ทสกี พายเรือแคนู ศึกษาชีวิตสัตว์น้ำ นั่งเรือท้องกระจกดูปะการัง ฯลฯ
2. Adult Dining : เรื่องของอาหารการกินบนเรือ ปกติแล้วเขาจะมีให้ทุกมื้อกินฟรี ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม (รวมอยู่ในค่าตั๋วแล้ว) แต่ถ้าอยากพิเศษ ฉลองกับคนพิเศษ เปลี่ยนบรรยากาศให้ดูหรูหราขึ้นกว่าเดิม เขาก็มีร้านอาหารอิตาเลียน ฝรั่งเศส บนเรือ ให้คุณสามารถเปลี่ยนร้านอาหารไปดินเนอร์ได้ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ จะต้องเสียเงินเพิ่ม (ฮาๆ) ขึ้นไปจากเดิมอีก
3. Spa & Fitness : หากคุณชอบทำสปา นวด หรือ เล่นฟิตเนส บนเรือ ก็สามารถเข้ามาแพลน ได้เช่นกัน
4. Nursery : บริการรับเลี้ยงดูเด็ก ให้บุตรหลานอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านการฝึกอบรมด้านการเลี้ยงเด็ก เป็นอย่างดี

การแพลนวางแผนทั้งหมดนี้ จะเป็นบริการเสริม ที่คุณจะต้องเข้าไปนัด กำหนดวันเวลาเอง พอถึงเวลาก็ให้ไปยังสถานที่ ที่ได้นัดหมายเอาไว้ ห้องอะไร ชั้นอะไร จะมีเจ้าหน้าที่แจ้งมา

เอกสาร รายละเอียดของเรือ Disney จะถูกส่งมาให้ที่บ้าน

หลังจากการจองตั๋วเรือไปอีกประมาณเดือนกว่าๆ ประมาณช่วงหลังสงกรานต์ (ก่อนการเดินทางประมาณเดือนเศษๆ) ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าหลังการจองตั๋วแล้วจะมีเอกสารอะไรส่งมาให้ที่บ้านหรือเปล่า ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นแค่หลักฐานในอีเมล์ ที่จะต้องนำไปใช้ในวันขึ้นเรือ (หรือผมอาจจะอ่านเมล์เขาไม่ละเอียด ก็เป็นได้)

แต่แล้วก็มีของมาส่งถึงบ้านจนได้ พัสดุถูกบรรจุในหีบห่อ และถูกส่งมาผ่านบริการรับส่งสินค้าข้ามชาติ ที่รู้จักกันดีอย่าง FedEx ข้างในมีรายละเอียดอะไรบ้างไปดูกันได้เลย

สรุปแล้วของที่ส่งเจ้ามา เป็นหนังสือรายละเอียดข้อตกลง ทำความเข้าใจ สัญญา ต่างๆ ทั้งหมดก่อนการขึ้นเรือ เรียกได้ว่าเล่มนี้ละเอียดกว่าอีเมล์ที่ส่งมายืนยันตอนแรกเอามากๆ บอกรายละเอียดทั้งหมดที่อยากรู้จริงๆ ตั้งแต่รายละเอียดการเดินทาง ขึ้นเรือ กรณีฉุกเฉิน รายละเอียดการให้ทิปส์ (Gratuity) ฯลฯ ซึ่งเล่มนี้เขาถูกพิมพ์ขึ้นมาให้เฉพาะเรา เพราะเนื้อหา รายละเอียดในเล่ม พร้อมบอกโปรแกรมเรือ ของเราทั้งหมด รวมไปถึงรายละเอียดการจอง หรือ โปรแกรมเที่ยวที่เราซื้อเป็นพิเศษ โดยจะมีชื่อเราถูกพิมพ์ในเล่มอย่างชัดเจน

ขอแนะนำว่า ก่อนไปเรือ หากมีเวลาว่างก็นำมาอ่านสักหน่อย พอถึงวันจริง จะได้ไม่ฉุกละหุก (เหมือนผม)

ของที่จะต้องเตรียมไปขึ้นเรือ Disney

ความจริงระยะเวลา 4 วัน 3 คืน เป็นระยะเวลาที่สั้นมากๆ แต่ของที่อยากให้เตรียมเอาไปใช้กันบนเรือ นอกจากเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว มีบางอย่างที่จะขอเสริมไปด้วย ตรงนี้เลย

1. ชุดว่ายน้ำ พร้อม แว่นตาว่ายน้ำ
2. ครีมกันแดด (สำคัญมากๆ เพราะแดดแรงมากๆ ยิ่งกว่าบ้านเราอีก)
3. ยาสามัญประจำบ้าน (แก้ปวดหัวตัวร้อน ชุดทำแผลเล็กๆ เตรียมไปด้วย)
4. ยาแก้เมาเรือ (แม้เรือลำใหญ่ ไม่โคลงมาก แต่ควรต้องติดตัวไปด้วย)
5. เสื้อผ้าลายดิสนีย์ (ไม่จำเป็นหรอก แต่แฟนผมเตรียมไปเพียบ ฮาๆ)