รีวิว ล่องเรือ Disney Dream เรือสำราญ สวนสนุกลอยน้ำ 4 วัน 3 คืน

Disney Dream วันที่สี่ (กลับท่าเรือ Port Canaveral)

และแล้ว งานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา มาถึงวันสุดท้ายของการเดินทางทริปเรือ Disney Dream แล้ว วันนี้เราตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพราะว่าเสียงไลน์ (LINE) แอพแชท มันดัง หลังจากที่ไม่ได้เล่นเน็ตมากว่า 3 วันเต็มๆ เราก็ตื่นมาตอนประมาณ ตี 3 ครึ่ง (เวลาเมืองไทยคือบ่าย 4 โมงครึ่ง) เนื่องจากเรือเข้าใกล้เทียบท่าที่ชายฝั่งแล้ว ซึ่งก็มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้เล่น มันก็เข้ามาในมือถืออัตโนมัติเจ้าตัวแจ้งเตือน (Notifications) ก็ดังกันใหญ่ ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ทั้งไลน์ (LINE) เฟสบุ๊ค (Facebook) อีเมล์ (E-Mail) คราวนี้ก็เลยไม่ได้นอนกันต่อละ เล่นเน็ต เช็คอีเมล์ ตอบเฟสบุ๊ค อัพรูป กันอย่างเมามันส์

จนเมื่อถึงเวลาประมาณ 6 โมงเช้า ก็ไปอาบน้ำ เก็บกระเป๋า เคลียร์ห้อง เช็คของ และก็แบกกระเป๋าลงลิฟท์ ลงมาทานข้าวที่ห้องอาหารรอยัลพาเลซ (Royal Palace) เหมือนเดิมอีกครั้ง ที่เมื่อคืนเพิ่งจะมา จริงๆ จะไปห้องอื่นอย่างบุฟเฟต์คาบาน่า ก็ได้ แต่ภรรยาเลือกที่จะมาห้องนี้อีกครั้ง เพราะยังไม่เคยทานอาหารเช้าที่ห้องนี้เลย

อาหารเช้าที่ ห้องอาหาร Royal Palace (8:00 น.)

หลังจากที่เคลียร์ห้อง ตรวจสัมภาระในห้องว่าไม่มีอะไรหลงเหลือในห้องแล้ว ก็แบกกระเป๋า ทั้งกระเป๋าลาก กระเป๋าถือ พะลุงพะลัง กันออกมาจากห้องพัก มาวางแปะเอาไว้ที่หน้าห้องอาหารรอยัลพาเลซ ไว้อย่างนั้นแหละ

ขณะนั้นก็เริ่มเห็นมีผู้โดยสารบางส่วนได้ทยอยเดินทางออกจากเรือแล้ว เพราะเรือที่นี่เขาจัดระเบียบดี จะจัดเป็นเวลา คนที่ออกจากเรือก็จะทยอยกันออกเป็นชุดๆ ไม่ใช่ออกพร้อมกันทั้งลำ เพราะผู้โดยสารทั้งลำมีเกือบๆ 4 พันคน การที่จะออกได้ทั้งหมดลำพร้อมกันนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เลยต้องจัดเวลา จัดชุดกันออกนั่นเอง

ผมได้คิวที่ห้องอาหารรอยัลพาเลซ ตอนแปดโมงเช้า ถึงจะสามารถเข้าไปทานอาหารเช้าในห้องได้ เพราะก่อนหน้านี้เป็นของชุดก่อนนั่นเอง แต่เมื่อเข้าไปแล้วก็เห็นคนไม่เยอะละ เพื่อนร่วมโต๊ะฝรั่งอีก 2 คู่ ที่เจอๆ กัน ก็ไม่ได้มา (คาดว่าเขาไปทานบุฟเฟต์ และ อาจจะออกจากเรือไปแล้วก็ได้) กลายเป็นว่าทั้งโต๊ะมีเรา (ผมกับภรรยา) อยู่แค่สองคน จากที่นั่งทั้งหมด 6 ที่

ส่วนอาหารเช้าที่นี่เป็นแบบสั่งเป็นชุดอาหารเช้า ซึ่งอาหารก็ไม่ได้ต่างอะไรจากบุฟเฟต์อาหารเช้า ห้องข้างบนมากนัก มีไข่ดาว ไข่ออมเล็ต (ไข่คน) เบคอน แฮม ก็แล้วแต่จะเลือกเซ็ต ที่เขามีอยู่ในเมนู เมื่อรับประทานอาหารเสร็จก็ได้เวลาออกจากเรือ

ออกจากเรือ Disney Dream (9:15 น.)

เมื่อรับประทานอาหารเช้ามื้อสุดท้ายบนเรือ Disney Dream เสร็จ ก็ได้เวลาที่ผมต้องก้าวเท้าออกจากเรือ Disney Dream ลำนี้ซะแล้ว เห็นเด็กๆ ผู้ใหญ่แต่ละคนเดินออกจากเรือด้วยท่าทางเฉยๆ ไม่คึกคัก กระดี้กระด้า เหมือนวันแรกแล้ว (หรือเพราะยังง่วง เพิ่งตื่นนอน ก็ไม่รู้นะ) แต่ส่วนตัวผมก็คิดว่าจบละ บรรยากาศที่เราฝันอยากมาอยู่หลายเดือน ได้มาสัมผัสแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แค่ 4 วัน 3 คืน เท่านั้น แต่รู้สึกเหมือนอยู่บนเรือนานมากๆ ผูกพันธ์ อีกต่างหาก เรียกได้ว่าตอนนั้นอินไปกับดิสนีย์มากๆ อารมณ์เหมือน มิกกี้เม้าส์ และ จิตวิญญาณ ตัวการ์ตูนของดิสนีย์ มาเข้าสิง ยังไงยังงั้น มันถูกสะกดไว้อย่างนั้นจริงๆ (ไม่ได้โม้นะ) เพราะทั้งบรรยากาศ เสียงเพลง และอื่นๆ อินไปกับมันทั้งหมด

หลังจากนั้นก็ลากกระเป๋าออกไป มีเจ้าหน้าที่จะเอาบัตรสมาร์ทการ์ดของเราไปแตะที่เครื่องตรวจสอบ และยืนยันว่าเราได้เช็คเอ้าท์ออกจากเรือ Disney Dream ไปแล้วจริงๆ และนอกจากนี้ยังมีการเช็คยอดค้างชำระต่างๆ อีกด้วยว่า บัตรเครดิตที่เอามาผูกนั้นเป็น บัตรเครดิตปลอม วงเงินพอ โดนแบน หรือไม่อีกด้วย ถ้าไม่พอ โดนแบน รูดไม่ได้ เขาจะเรียกให้กลับเข้าไปบนเรือใหม่อีกครั้ง ที่เค้าน์เตอร์บริการลูกค้า (Guest Services) อีกครั้ง เพื่อเคลียร์บิล เคลียร์เงินกับเจ้าหน้าที่

ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองประเทศสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง (9:30 น.)

(กระบวนการนี้ไม่มีรูปประกอบ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป)

หลังจากผ่านขั้นตอนการตรวจสอบเช็คเอ้าท์ออกจากเรือแล้ว ลงบันไดเลื่อนมายังชั้นล่างของอาคารผู้โดยสาร ก็จะพบกับกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสาร สำหรับใครที่วางอยู่หน้าห้องพัก เมื่อคืนตอนสี่ทุ่ม เจ้าหน้าที่ก็จะยกมาวางเอาไว้ตรงพื้นที่ตรงนี้ ก่อนผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองต่อไป

หลังจากนั้นก็จะต้องผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง (Immigration) โดยเจ้าหน้าที่จาก Department of Homeland Security กันอีกรอบ เพราะมันคือการกลับเข้ามายังประเทศสหรัฐอเมริกา อีกครั้ง เพราะที่ผ่านมาเราออกไปแล้ว ไปประเทศอื่น อย่างบาฮามาส (Bahamas) เพราะฉะนั้นเมื่อกลับมายังท่าเรือคานาวารัล นั้นก็เปรียบเสมือนว่าคุณได้กลับมาเหยียบแผ่นดินของอเมริกาอีกครั้ง ดังนั้นอารมณ์เหมือนคุณเพิ่งขึ้นเครื่องบินมาถึงอเมริกา รอพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ที่สนามบิน เลยยังไงยังงั้น แต่ที่นี่ไม่ใช่สนามบิน มันคือที่อาคารผู้โดยสารของเรือดิสนีย์ (Disney Cruise Terminal) ที่เดียวกับที่เราขึ้นตอนขาไปนั่นเอง แต่นี่อยู่ชั้นล่าง ขาไปตอนรอขึ้นเรือจะอยู่ชั้นบน

แต่การตรวจคนเข้าเมืองนั้นไม่ได้ยุ่งยากมากเท่าไหร่นัก เพราะว่าเจ้าหน้าที่เขารู้อยู่แล้วว่าเราไปไหน เรากลับมาจากไหน ของที่ระลึกสัมภาระก็ไม่มีอะไรมาก เพราะก็คงหนีไม่พ้นของที่ระลึกจะบนเรือ บนเกาะ แค่นั้น จะตรวจอะไรมากมายละ ถูกมะ

ขึ้นรถทัวร์กลับสนามบิน Orlando (10:00 น.)

หลังจากนั้นก็กลับขึ้นรถบัส ที่เขาจัดเตรียมรอผู้โดยสารเอาไว้ ขึ้นที่เดิมกับขามานั่นแหละ เพื่อจะพาไปส่งที่สนามบินนานาชาติออแลนโด้ (Orlando International Airport) อีกครั้ง ซึ่งก็ใช้เวลาประมาณ 45-50 นาที ก็เดินทางไปถึงเวลาเกือบๆ 11 โมงเช้า ก็ถือเป็นอันจบทริป เรือสำราญสุดหรูจากดิสนีย์