iClebo Arte Review
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่ได้มีโอกาสนำมารีวิว ในครั้งนี้เป็น หุ่นยนต์ดูดฝุ่น จากแดนโสมขาว ประเทศเกาหลีใต้ มารีวิวให้รับชมกันอีกครั้งนึง หลังจากที่เคยจับเอาแบรนด์จากโสมขาวมารีวิวไปแล้วสองแบรนด์ ได้แก่ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น จาก LG และ Samsung แต่แบรนด์ที่เอามารีวิวในบทความชุดนี้มีชื่อว่า iClebo (อ่านออกเสียงภาษาไทยว่า “ไอคลีโบ้“) โดยรุ่นที่ได้มารีวิวนั้นคือ iClebo Arte ฟังดูแล้วอาจจะรู้สึกไม่ค่อยคุ้นหูคุ้นตามาก่อน ว่ามันเป็นใครมาจากไหน เพราะมันไม่ใช่แบรนด์ตลาด ที่มีสินค้าจำหน่ายหลายประเภทเหมือน 2 ยี่ห้อ ที่ผมเคยรีวิวมา แต่ขอบอกว่าความสามารถมันไม่ได้ด้อยไปกว่า 2 ยี่ห้อนั้นเลยแม้แต่น้อย
ด้วยความสามารถที่โดดเด่น อย่าง Visual Mapping System ที่กล้องช่วยถ่ายรูป จดจำแผนที่ ที่ตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเคยทำความสะอาดไปแล้ว และจะไม่กลับมาทำซ้ำอีก พร้อม Wall Detector Sensor เซนเซอร์กันกระแทก ป้องกันการชน หรือ กระทบกับ สิ่งอีกขวาง ข้างของเครื่องใช้ภายในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ กำแพง แถมตั้งเวลาทำความสะอาดได้ กลับแท่นชาร์จได้เองอัตโนมัติ แถมยังสามารถใช้ทำความสะอาดได้ต่อเนื่องถึง 120 นาที ตัวเครื่องรับประกันเต็มๆ 1 ปี เห็นแบบนี้แล้วน้ำลายไหลแล้วใช่มั้ยละ มาเริ่มดูรายละเอียดกันด้านล่างนี้เลยดีกว่า
ด้านล่างนี้เป็นเมนูลัด ที่เอาไว้ให้สามารถเข้าถึงเนื้อหา ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
- รู้จักกับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte กันก่อน
- หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo มีจำหน่ายทั้งหมดกี่รุ่น
- แกะกล่องผลิตภัณฑ์ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น
- คุณสมบัติ และ ความสามารถ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte
- ข้อมูลจำเพาะ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte
- สำรวจ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte
- เปิดใช้งานจริงหุ่นยนต์ดูดฝุ่น
- 10 คำถามที่คุณต้องอยากรู้ เกี่ยวกับมัน
- บทสรุปการใช้งาน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte
- คลิปวีดีโอรีวิว iClebo Arte แบบเจาะลึก โดยผมเอง
รู้จักกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo กันก่อน
ก่อนที่จะพาไปรู้จักตัว หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte นั้นขอ พามาทำความรู้จักกับ สินค้ายี่ห้อ iClebo กันก่อน ว่าแบรนด์นี้เป็นใครมาจากไหน มีชื่อเสียงเป็นอย่างไรกันบ้าง ?
เริ่มจาก แบรนด์ iClebo นั้นเป็นแบรนด์หุ่นยนต์ดูดฝุ่น จากประเทศเกาหลีใต้ (South Korea) โดยตรง จริงๆ iClebo ย่อมาจากคำว่า “Intelligent Cleaning Robot” โดย บริษัท Yujin Robot จำกัด (อ่านว่า ยูจินโรบอท – ผมไปถามลูกศิษย์ที่ผมสอนหนังสือชาวเกาหลีมา เขาบอกว่าแบบนี้)
ซึ่งแน่นอน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ตัวนี้ ไม่ใช่สินค้าแบบ OEM ที่ทางผู้จัดจำหน่ายในเมืองไทย ไปหาสินค้าที่มีอยู่แล้วในตลาด แล้วปั้มตรา ตีแบรนด์ใหม่ ดังนั้นมั่นใจเรื่องของคุณภาพสินค้าว่าดีแน่นอน
ขอเจาะลึงลงไปที่ บริษัท Yujin Robot จำกัด กันสักนิด ซึ่งบริษัทนี้ เป็นแบรนด์เกาหลีที่พวกเราอาจจะไม่คุ้นหูคุ้นตากันมาก เหมือนกับผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าไอที ชั้นนำของโลกอย่าง LG Samsung แต่ถ้าดูแบบเจาะลึกลงไปจะพบว่า บริษัทนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี ค.ศ. 1988 (เกือบ 30 ปีแล้ว) เป็นบริษัทก่อตั้งขึ้นมาเพื่อคิดค้นวิจัยและพัฒนางานด้านหุ่นยนต์ (Robot) โดยเฉพาะ และ ปัจจุบัน เป็นบริษัทที่ถูกจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ KOSDAQ ของประเทศเกาหลีใต้ ภายใต้รหัสหุ้น 056080 (กดดูรายละเอียดหุ้นของ บริษัท Yujin Robot)
ทางบริษัท มีสายการผลิตหุ่นยนต์มากมาย ในหลากหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็น หุ่นยนต์ที่ใช้ทางด้านอุตสาหกรรม ในสายการผลิตต่างๆ หรือแม้แต่ หุ่นยนต์ที่ใช้เพื่อการศึกษา สอนหนังสือ ที่ชื่อว่า iROBi-Q และที่สำคัญคือ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่คุณกำลังอ่านในรีวิวฉบับนี้ นั่นเอง จะว่าไปผมมองว่า บริษัท Yujin Robot จำกัด นั้นจะทำธุรกิจคล้ายคลึง กับ บริษัท iRobot Corporation ผู้ผลิต หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot ของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เกิดมาเพื่อ ศึกษา ค้นคว้า วิจัย ทำแต่หุ่นยนต์ อย่างเดียว แต่นั่นเป็นเวอร์ชั่นอเมริกา แต่อันนี้เป็นเวอร์ชั่นเกาหลี นั่นเอง
หากเจาะลึกด้านประสบการณ์การพัฒนา หุ่นยนต์ดูดฝุ่น แล้วละก็ ทาง Yujin Robot นี้ได้เริ่มพัฒนาอย่างจริงจังมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2005 โดยนำเอาข้อเสียของแต่ละรุ่นในอดีตที่ผ่านมา มาพัฒนาปรับปรุงทีละเล็กทีละน้อย เพื่อออกรุ่นใหม่ ให้ดียิ่งขึ้นไป จนกลายเป็น หุ่นยนต์ดูดฝุ่นประสิทธิภาพสูง
และนอกจากนี้แล้วทาง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo นั้นก็มีวางจำหน่ายอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกเช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ รัสเซีย เบลเยี่ยม ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และ ประเทศอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพ ของมันอย่างแน่นอน ว่าเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก
นอกจากจะเป็นที่ยอมรับในระดับสากลแล้ว iClebo เองก็ยังได้รับรางวัลจากการประกวดคุณสมบัติของสินค้าอย่างมากมายอีกด้วย ตามรูปด้านล่าง
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo มีจำหน่ายทั้งหมดกี่รุ่น ?
หากพูดถึงหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo นั้น ที่มีผลิต และ จำหน่าย นั้นมีอยู่ทั้งหมดแค่ 2 รุ่นเท่านั้น ซึ่งเป็น 2 รุ่นที่ได้คุณภาพจริงๆ ได้แก่
- iClebo OMEGA : รุ่นล่าสุด ที่ถูกปรับปรุง ให้มีความฉลาด และ ความแรงในการดูดฝุ่นมากขึ้นอีก จากรุ่นก่อน (อ่าน รีวิว iClebo OMEGA ได้ที่นี่)
- iClebo Arte (รุ่นที่รีวิวในบทความนี้) : รุ่นนี้ มาพร้อมระบบ Visual Mapping System และ ระบบปฎิการ Triple CPU ที่ช่วยในการจดจำพื้นที่ที่ทำความสะอาดไปแล้วได้อย่างแม่นยำ และมีความสามารถวิ่งข้ามพื้นที่ต่างระดับได้ถึง 2 เซนติเมตร (20 mm.) แปรงข้าง 2 แปรง
- iClebo Pop : รุ่นรองของเขา สามารถวิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับได้ 1.8 เซนติเมตร (18 mm.) และ จะมีแปรงกวาดข้าง แค่แปรงเดียว และไม่มีระบบกล้องจดจำพื้นที่ที่ทำความสะอาดไปแล้ว
ด้านบนคือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างหลักๆ ของทั้ง 2 รุ่น แต่นอกนั้นออปชั่นต่างๆ ที่ให้มาจะเหมือนกันเกือบทั้งหมด ทั้งมิติขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง (Diameter) ความสูง (Height) ขนาดของแบตเตอรี่ (Battery Capacity) รูปทรง (Shape) และน้ำหนัก (Weight) ก็ต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อ้อ ! ลืมบอกไปอีกสิ่งนึงที่แตกต่างคือราคา โดย 2 รุ่นนี้ราคารุ่น iClebo Arte จะต่างจาก iClebo Pop อยู่ประมาณนึงเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากได้ตัวไหน ก็ขอให้ลองช่างน้ำหนักดูกับสิ่งที่แตกต่างกันให้ดีก่อนทำการตัดสินใจซื้อนะครับ
ลองดูคลิปวีดีโอ แนะนำความสามารถของ iClebo Arte กันก่อนด้านล่างนี้เลยนะครับ
แกะกล่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte
และแล้วก็ได้เวลามาแกะกล่องดูตัวจริงของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte กันแล้วนะ ว่าภายใน มีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง แต่ก่อนที่จะไปดูอุปกรณ์ข้างในว่ามีอะไรบ้างนั้น ลองมาดูรูปลักษณ์ของกล่องภายนอกกันก่อนดีกว่า ว่ามีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง เขางัดเอาอะไรออกมาโชว์บนกล่องผลิตภัณฑ์กันบ้าง
ด้านนอกกล่อง
ด้านนอกกล่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte ตัวนี้ มาด้วยสีโทนแบบสบายๆ ขาว-เทา แกมส้ม นิดหน่อย ส่วนรายละเอียดหน้ากล่องจะเน้นแสดงฟีเจอร์ ความสามารถของตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นด้วยรูปภาพที่สื่อความหมาย ว่ามันมีจุดเด่น และ สามารถทำอะไรได้บ้าง พร้อมคำอธิบายสั้นๆ ใต้ความสามารถของมัน แทนการเขียนอธิบายข้อมูลที่ยาวเหยียดบนหน้ากล่อง
แต่ไม่ต้องห่วง ถ้าคิดว่าดูรูปอธิบายแล้วไม่เข้าใจ คุณเปิดมาถูกเว็บแล้ว เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ละเอียดยิบว่า รูปแต่ละอันหมายความว่าอย่างไรกันบ้าง โดย ขอเริ่มกันที่ด้านหน้าของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นกันก่อนเลยดีกว่า
ด้านหน้ากล่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte ตรงมุมซ้ายบน เขาเขียนว่า “iClebo Intelligent Cleaning Robot” หมายความว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ ซึ่งตรงจุดนี้ก็มองว่า ทุกแบรนด์ ทุกเจ้าแหละครับ เขาก็เขียนคำโฆษณาประมาณนี้ นอกจากนี้ยังเสริมอีกประโยคด้วยว่า
Smart Cleaning Robot, Made by Smart Company
ตรงกลางด้านขวาก็เป็นรูปของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte รูปใหญ่ พร้อมที่อยู่เว็บไซต์ของบริษัทผู้ผลิต www.iclebo.com ซึ่งก็สามารถเข้าไปหารายละเอียดเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของผู้พัฒนาได้เช่นกัน (แต่เป็นภาษาเกาหลีนะ)
ถ้าหากต้องการข้อมูลภาษาไทย แบบละเอียดๆ ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของผู้แทนจำหน่ายในเมืองไทยได้เลยที่ www.iclebothailand.com ได้อีกด้วยเช่นกัน
แต่ถ้าอยากดูข้อมูลจากเว็บไซต์ผู้ผลิตจริงๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษ ด้วยก็สามารถเข้าดูได้ที่ en.yujinrobot.com ข้อมูลแน่น บอกรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัท และ สินค้าทุกประเภท ที่ทางบริษัทผลิต
มาถึงส่วนไฮไลท์ที่อธิบายแสดงความสามารถเด่นของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte ตัวนี้กันบ้างแล้วนั่นก็คือ วงกลมเล็กๆ 6 วง ที่อยู่ภายใต้แถบสีเทาเข้มด้านล่างนั่นเอง ขออธิบายทีละวงเลยนะครับ
- No.1 Cleaning Performance : ทาง iClebo Arte เป็น หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพการทำความสะอาดอันดับ 1 โดยทางบริษัทผู้ผลิตนั้น เค้าได้รับรางวัล “ The Best Product of the year 2015” จากการประกวดในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอัจฉริยะ หรือ “Smart Home Appliance” จากประเทศรัสเซีย
- Vision Mapping System : ระบบกล้องจดจำพื้นที่ สร้างแผนที่จำลอง ที่ตัวเครื่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte วิ่งทำความสะอาดไปแล้ว โดยมันจะไม่กลับมาทำซ้ำอีกให้เสียเวลา และ เปลืองแบตเตอรี่เล่นๆ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีระบบนี้ จะสังเกตง่ายๆ ว่ามันจะมีกล้องอยู่ด้านบนของตัวเครื่อง เห็นชัดเจนแน่นอน (อยากเห็นเป็นอย่างไร เลื่อนลงไปดูด้านล่างได้เลยจ้า) ซึ่งระบบนี้ผมเคยเห็นตัว Samsung Powerbot VR9000 ที่มีระบบคล้ายๆ อันนี้ แต่ราคาเขาก็แพงกว่าหลายพันบาทเลยทีเดียว
- Various Sensors : เซ็นเซอร์ตรวจจับรอบตัว ไม่ว่าจะเป็น เซ็นเซอร์ที่อยู่รอบๆ กันชนด้านหน้าของตัวเครื่อง เพื่อตรวจจับสิ่งกีดขวาง อาทิ เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่อยู่รอบๆ ด้าน และ เซ็นเซอร์ใต้เครื่อง ตรวจสอบพื้นที่ต่างระดับ พูดง่ายๆ คือป้องกันการวิ่งตกบันได นั่นเอง
- Can Climb upto 20 mm Doorsill : มีความสามารถในการวิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับ อย่างเช่น ธรณีประตู ได้ 20 มิลลิเมตร (หรือ 2 เซนติเมตร) ซึ่งถือว่าสูงที่สุด ของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เท่าที่เคยพบเห็นมา เพราะส่วนมาก หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ก็จะสามารถวิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับได้ระยะประมาณ 1-2 เซนติเมตร ในกรณีนี้ถือว่าอยู่ในระดับสูงสุด
- Ultra light and Slim : น้ำหนักเบา ตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียงแค่ 2.8 กิโลกรัม (kg) เท่านั้น ซึ่งถือว่าเบามากๆ ส่วนมากจะหนักประมาณ 3-5 กิโลกรัมเลยทีเดียว
- Eco-Friendly : เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในแง่ของการประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ และ การปล่อยอากาศจากในตัวเครื่องกลับออกกมาสู่สิ่งแวดล้อม
มาดูกันที่กล่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte ด้านหลังกันดูบ้างว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้าง ?
ด้านหลังกล่อง ข้อมูลที่ให้มาเหมือนด้านหน้ากล่องเป๊ะๆ มีข้อแตกต่างอยู่นิดนึงคือ ตรงกลางด้านขวาก็เป็นรูปของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte รูปใหญ่ และด้านซ้ายมือตรงกลางก็เป็นรูปเล็กๆ แบบเมตริกซ์ แสดงทุกท่วงท่า ของตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นในหลากหลายมุมมอง นอกนั้นข้อมูลที่ให้มาเหมือนด้านหน้าของกล่องเลย ไม่ผิดไม่เพี้ยน
คราวนี้ลองมาดูด้านฝั่งซ้ายของกล่องกันดูบ้าง ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้างมั้ย
ส่วนมากข้อมูลด้านนี้จะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับมาตรฐานสินค้า และวิธีการดูแลสินค้า ต่างๆ เช่น ห้ามโดนฝน ห้ามวางของทับกล่อง อะไรแบบนี้เป็นต้น พร้อมโลโก้มาตรฐานการรับรองต่างๆ พร้อมที่อยู่ของบริษัทในแถบสีเทาเข้มด้านล่าง แต่ที่น่าสนใจคือ ตรงกลางก็เขียนเน้น เด่นเป็นสง่าอยู่ว่า
Made in Korea
เห็นแบบนี้ก็ค่อยอุ่นใจหน่อยว่า บริษัทของเกาหลี ก็ผลิตเองในประเทศเกาหลี คุณภาพคงต้องดีในระดับนึงแล้วละ อุ่นใจได้ (นี่เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้นนะครับ) ลองมาดูด้านขวาของกล่องกันต่อบ้าง ว่ามีอะไรน่าสนใจ
ด้านขวาของกล่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte นั้นข้อมูลที่ถูกนำมาแสดงก็จะคล้ายกับฝั่งซ้ายของกล่อง เพียงแต่สลับมุมกันขึ้นมาแสดงจากฝั่งซ้ายที่ข้อมูลจะแสดงเป็นแนวนอน ฝั่งขวาข้อมูลจะแสดงเป็นแนวตั้ง ซึ่งตอนแรกก็งงๆ ว่าเขาจะสลับไปเพื่ออะไร ?
ตอนหลังนึกออก อ๋ออ เอาไว้ใช้สำหรับกล่องหากต้องวางซ้อนกันในแนวนอนยังไงละ
ด้านในกล่อง
และเมื่อเราดูส่วนประกอบต่างๆ ด้านนอก ข้อมูลที่เขาให้มาด้านนอกเสร็จแล้ว เราลองมาดูด้านในกล่องของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte กันดูบ้างว่า ภายในมีอุปกรณ์อะไรที่ให้มากับกล่องบ้าง มาดูกันเลยด้านล่าง
เมื่อเปิดออกมาก็พบว่า อุปกรณ์ทั้งหมด ถูกห่อหุ้มด้วยพลาสติกอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น รีโมทคอนโทรล แท่นชาร์จ คู่มือการใช้งาน รวมไปถึงตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเอง และทั้งหมดถูกดูดซับแรงกระแทกด้วยกระดาษแข็ง แทนการใช้โฟม ในการห่อหุ้ม (ช่วยลดปัญหาโลกร้อน ได้ดีมากๆ เลยทีเดียว)
และเมื่อผมเอาซองพลาสติกที่ใส่คู่มือการใช้งานออก ก็จะพบกับตัวเครื่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte พระเอกของงานนี้กันแล้วละ คราวนี้ก็ได้เวลาหยิบอุปกรณ์ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ภายในกล่อง ออกมาวางเรียงกันให้ดูแล้วว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
อุปกรณ์ภายในกล่อง
อุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte
คราวนี้ ก็ได้เวลามาดูส่วนประกอบสำคัญ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ทาง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte ยัดใส่มาให้คุณในกล่องกันดูแล้ว เริ่มกันเป็นข้อๆ ขอเริ่มตามหมายเลขที่กำกับอยู่ในรูปเลย
- iClebo Arte (1 เครื่อง) : ตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เป็นทรงกลม มีขนาดมิติ อยู่ที่ 350 x 350 x 89 มิลลิเมตร ซึ่งถือเป็นขนาดทั่วๆ ไป ของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่ใช้กันตามบ้าน ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป ขนาดพอดิบพอดี
- User Manual and Accessories (1 ชุด) : ซองใส่ชุดคู่มือการใช้งานของตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น และ อุปกรณ์เสริมอื่นๆ โดย ตัวนี้มาแปลกดี คือ มาพร้อมกับคู่มือสั้นๆ (Quick Guide) ที่มีอยู่แค่ 3 หน้าหลักๆ ที่จะสอนวิธีการทำงานในฟังก์ชั่นที่จำเป็น ที่จะช่วยให้คุณใช้สินค้าเป็นภายใน 5 นาที แต่ถ้าหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม มากกว่านี้แต่ถ้าหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม มากกว่านี้รายละเอียดจะอยู่ในแผ่นซีดี ที่ให้มาในซอง โดยหน้าแผ่นซีดี นั้นจะเขียนว่า “User Guide” ซึ่งข้อมูลภายในแผ่นนั้นจริงๆ มีแค่ไฟล์ PDF ธรรมดา โดยแยกเป็นหลายๆ ไฟล์ แต่ละไฟล์ก็แทนแต่ละภาษาไป
นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์เสริม มาให้อีก 2 อย่างได้แก่ Side Brush (แปรงด้านข้าง 2 อัน) และยังมี Antibacterial Filter (แผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง ป้องกันเชื้อแบคทีเรีย) สำรองมาให้เพื่อการใช้งานในอนาคตนะครับ
- Remote Control (1 อัน) พร้อมแบตเตอรี่พร้อมใช้งาน : อุปกรณ์ควบคุมการทำงานเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่นระยะไกล ไม่ต้องลุกเดินไปกดที่เครื่องขณะทำงานให้เมื่อย และ เสี่ยงถูกมันชน สามารถควบคุมทิศทางให้มันไปดูดในตำแหน่งที่คุณต้องการ พร้อมปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานของเครื่องได้ตามใจชอบ ที่นี่
- Adapter (1 ชุด) : อะแดปเตอร์ แปลงไฟล์ จากไฟบ้าน ให้ไปเป็นไฟที่ใช้กันภายในเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น
- Power Cord (1 เส้น) : สายไฟ (Power Cord) คุณภาพสูง จากปลั๊กไฟบ้าน เข้ามายังอะแดปเตอร์แปลงไฟล์ ที่มีความยาวสายประมาณ 1.5 เมตร (ผมวัดเองจากตลับเมตร) มีคุณสมบัติเหนียว และ หนา
- Ultra Microfiber Wet Mop (2 ชิ้น) : ผ้าม็อบถูพื้นอัลตร้าไมโครไฟเบอร์ ที่เอาไว้ดูดเก็บเศษฝุ่นขนาดเล็กๆ ที่แปรงกวาดหลัก (Main Brush) นั้นไม่สามารถปัดกวาดเข้ามาเก็บในกล่องใส่ขยะฝุ่นละอองได้แต่ผ้าไมโครไฟเบอร์ นี้จะสามารถที่จะช่วยเก็บกวาดรายละเอียดน้อยๆ ตรงจุดนี้ได้อย่างดีเยี่ยม ก่อนการดูดฝุ่น สามารถนำไปชุบน้ำหมาดๆ ได้ด้วย เหมือนเป็นการถูพื้นไปในตัว และ หลังดูดเสร็จ สามารถถอดนำไปซักล้างด้วยน้ำสะอาดได้เช่นกันในชุดเขาให้มา 2 ผืน โดยมีสำรอง 1 ผืน เผื่อเอาไปซักแล้วยังไม่แห้งสะอาดพอ ยังมีอีกชุดช่วยสำรองเอาไว้ให้ได้
- Mop Plate (1 ชิ้น) : ที่ติดผ้าม็อบถูพื้น เพื่อยึดเข้ากับตัวเครื่อง ในกรณีที่ต้องการ ให้ตัวเครื่องช่วยถูพื้นไปด้วยในเวลาเดียวกัน ขณะทำการดูดฝุ่น
- Charge Base (1 ชุด) : แท่นชาร์จ หรือ ฐานชาร์จ ในคู่มือเรียกว่า “Charging Station” มันเป็นสถานี ที่ให้เครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่นนั้นวิ่งกลับเข้ามาจอดเองโดยอัตโนมัติ หลังการดูดฝุ่นทำความสะอาด แต่ละวันเสร็จสิ้น
- Area Boundary Tape (Virtual Wall) (1 เส้น) : ชุดกำแพงจำลอง หรือ กำแพงเสมือน แต่ตัวนี้จะเป็นเทปแม่เหล็ก ขนาดความยาวประมาณ 2 เมตร ให้คุณวางบนพื้น หน้าห้อง ที่ไม่ต้องการให้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte วิ่งเข้าไปทำความสะอาด โดยห้องนั้นอาจจะมีเด็กเล็ก ทารกอยู่ในห้อง หรือผู้สูงอายุที่ต้องการพักผ่อน โดยเมื่อหุ่นยนต์ดูดฝุ่น วิ่งเข้ามาพบกับเทปแม่เหล็ก กำแพงจำลองชุดนี้ มันจะไม่วิ่งเข้าไปในหลังพื้นที่เลย เรียกได้ว่าเหมือนงูกับเชือกกล้วย เลยทีเดียว
คุณสมบัติ ความสามารถ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte
ก่อนที่จะพาไปดูส่วนประกอบของ ของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte ตัวนี้ว่ามีอะไรบ้างนั้น ผมขอพามาอธิบาย 10 คุณสมบัติและความสามารถของมันกันก่อน ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง โดยขอสรุปจากที่สังเกตเห็นเอง เพราะที่กล่อง กับคู่มือ “Quick Guide” นั้น ไม่ได้มีบอกชัดเจนเท่าไหร่นัก
- Light Weight (น้ำหนักเบา 2.8 กิโลกรัม) : น้ำหนักไม่ถึง 3 กิโลกรัม สามารถยกไปไหนมาไหนได้สะดวก เด็กวัยรุ่นทำได้ ผู้ใหญ่ คนแก่ ก็ยกได้ยกดีเช่นกัน
- Climb upto 2 cm Doorsill (วิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับสูงสุด 2 เซนติเมตร) : หากคุณมีพื้นที่ต่างระดับสูงๆ ไม่เกิน 2 เซนติเมตร เช่น พื้นที่ต่างระดับระหว่างพื้นกระเบื้อง กับ พรม หรือแม้แต่ธรณีประตู (Doorsill) ที่คั่นระหว่างห้องแต่ละห้อง เครื่องนี้จะวิ่งผ่านได้อย่างสบายๆ เลยทีเดียว
- Various Sensors (เซนเซอร์ตรวจจับรอบคัน) : เครื่องนี้ถือเป็นเครื่องที่ มีเซนเซอร์ ตรวจจับต่างๆ ได้รอบคัน ทั้งนี้ก็เพื่อความฉลาดในการทำงาน และ ป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ ตลอดเวลา ขณะที่เครื่องกำลังทำงาน มันมีเซนเซอร์ หลักๆ ทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน
- กล้องด้านบน สำหรับระบบ Vision Mapping Systems
- อินฟราเรด (IR – Infrared Sensor)
- เซนเซอร์ PSD (Position Sensitive Device)
- Bumper (กันชนดูดซับแรงกระแทก) : มีกันชนดูดซับแรงกระแทก เพื่อลดโอกาสเกิดความเสียหาย ระหว่าง ตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น กับ สิ่งกีดขวาง ข้าวของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ ต่างๆ
- 2-Side Brush (แปรงข้างกวาดฝุ่นรอบด้าน 2 ฝั่ง) : มีแปรงกวาดข้าง (Side-Brush) แบบ 3 แฉก รัศมีแปรงจากจุดศูนย์กลางออกมาข้างนอก 3 เซนติเมตร มาจัดให้บริการถึง 2 ตัว (2 ฝั่ง ซ้าย-ขวา) เพื่อดูดกวาดเศษฝุ่นที่อยู่นอกรัศมีทำการของแปรงหลัก (Main Brush) ให้มันเข้ามาด้านใน แล้วให้ แปรงหลัก ดูดเข้าไปเก็บไว้บนกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ในลำดับต่อไป ซึ่งแปรงนี้จะสามารถเลือกติดหรือไม่ติดตั้งก็ได้ สามารถติดตั้ง และ ถอดออกได้ง่ายมากๆ
- Ultra Microfiber Wet Mop (ผ้าม็อบถูพื้นอัลตร้าไมโครไฟเบอร์แบบเปียก) : เครื่องนี้ มีออปชั่นเสริม คือ ผ้าม็อบถูพื้นอัลตร้าไมโครไฟเบอร์แบบเปียก มาให้กับตัวเครื่อง เป็นออปชั่นเสริม (จะติดตั้ง หรือ ไม่ติดตั้งก็ได้) มีหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจำนวนไม่มาก เท่าที่เคยรีวิวมา ที่มีออปชั่นตัวนี้มาให้ด้วย และ iClebo Arte ตัวนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น ทำให้ พื้นห้อง สะอาด หมดจด มากยิ่งขึ้นไปอีกระดับ
- 2-Hour Operatiion (ทำงานต่อเนื่อง 2 ชั่วโมงเต็ม) : ด้วยแบตเตอรี่ขนาดความจุ 2,200 mAh สามารถ สร้างพลังขับเคลื่อน ให้มันทำงานต่อเนื่องได้นานถึง 2 ชั่วโมง (120 นาที) แบบเต็มประสิทธิภาพ ได้อย่างสบายๆ และเมื่อดูดเสร็จ จะวิ่งกลับแท่นชาร์จเองโดยอัตโนมัติ
- Timer Cleaning (ตั้งเวลาทำความสะอาดล่วงหน้าได้) : สามารถตั้งเวลาทำความสะอาดล่วงประจำวันได้ โดยมันจะออกมาทำความสะอาด ตามเวลาที่คุณกำหนดทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด
- Virtual Wall (ระบบกำแพงจำลอง) : มีระบบสร้างกำแพงจำลอง หรือ กำแพงเสมือน ด้วย เทปแม่เหล็ก ขนาดความยาว 1 เมตร ที่จะพอปิดปากประตูห้องได้ เทปนี้ทางผู้ผลิตเขา เรียกว่า “Area Boundary Tape” เพื่อสร้างขอบเขตในการทำความสะอาดได้
- Remote Control (รีโมทคอนโทรล ควบคุมเครื่องระยะไกล) : มีรีโมทคอนโทรล สามารถสั่งงาน เช่น เปลี่ยนโหมดการทำความสะอาด สั่งให้กลับแท่นชาร์จ สั่งปิดเครื่อง ควบคุมทิศทางของเครื่อง ให้ไปดูดฝุ่นยังตำแหน่งที่ต้องการ ระยะไกล และอื่นๆ ได้ง่ายๆ ขณะที่คุณนั่งเล่นอยู่บนโซฟาได้
ข้อมูลจำเพาะ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte
ก่อนที่จะไปใกล้ชิดกับตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น นั้นผมขอพามาดูตัวข้อมูลจำเพาะ (Specifications) กันก่อนนะครับ พร้อมกับบทวิเคราะห์ ความคิดเห็นส่วนตัว จากที่เคยรีวิวตัวอื่นๆ มาด้านล่าง
รายละเอียด (Specification) |
|
ขนาดมิติ (Dimension) |
350 x 350 x 89 มิลลิเมตร (mm.) |
น้ำหนัก (Weight) |
2.8 กิโลกรัม |
ไฟเข้า (Input) |
AC 100-240V 50/60 Hz |
ไฟออก (Output) |
DC 19V 2.5A |
ประเภทของแบตเตอรี่ (Battery Type) |
Li-Ion |
ปริมาณความจุแบตเตอรี่ (Battery Capacity) |
2,200 mAh |
ระดับเสียง (Noise Level) |
48 dB. (เดซิเบล) (วัดจากที่ระยะห่าง 1 เมตร) |
ขนาดกล่องใส่ขยะ (ลิตร) Dustbin Capacity (Litre) |
0.6 ลิตร (600 mL) |
ความคิดเห็นส่วนตัว
ข้อมูลจำเพาะของเครื่องนี้ จากที่ดูตัวเลขคร่าวๆ ขอสรุปเป็นข้อๆ ดังต่อไปนี้
ขนาดมิติ : ก็ไม่ถือว่าใหญ่หรือเล็กมากจนเกินไป ออกจากค่อนไปทางใหญ่ด้วยซ้ำ
น้ำหนัก : น้ำหนักตัวของมัน 2.8 กิโลกรัม จุดนี้ถือว่าเบา พอสมควร แต่เนื่องจากหุ่นยนต์ดูดฝุ่นชุดนี้ ไม่มีระบบพัดลมช่วยดูดอากาศ (Vacuum Fan) ที่หลักการเหมือนเครื่องดูดฝุ่น
ประเภทของแบตเตอรี่ : ลิเธียม ไอออน ถือว่ามาตรฐานที่ใช้กัน
ปริมาณความจุของแบตเตอรี่ : 2,200 มิลลิแอมป์ ความจุปกติ ค่อนเอียงไปทางน้อย แต่ทางผู้ผลิตบอกว่า สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 120 นาที (ชั่วโมง)
กล่องใส่ขยะ : ระดับปานกลาง ไม่เยอะไม่น้อยจนเกินไป หาก 3-4 วัน ทำความสะอาดที ความจุเท่านี้ ถือว่าเหลือเฟือ
สำรวจหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte
หลังจากที่เราได้เห็นอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีมาให้ในกล่องผลิตภัณฑ์ ในหัวข้อก่อนหน้านี้กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลองมาสำรวจดูที่ตัวไฮไลท์ ที่ถือว่าเป็นพระเอกสำคัญกันดีกว่า นั่นคือตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น นั่นเอง
ด้านบน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte
เราลองมาดูส่วนประกอบหลักๆ ที่สำคัญด้านบน ของตัวเครื่องกันดูบ้าง ว่ามีอะไรที่น่าสนใจเป็นพิเศษบ้าง ผมขออธิบายรายละเอียดตามหมายเลขไปเลยนะ
- Dustbin (กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง) : ด้านหลังเครื่องคือ กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ขนาด 0.6 ลิตร เศษฝุ่น เศษผง เศษเส้นผม ต่างๆ ทั้งหมด จะถูกเก็บไว้ที่นี่ พร้อมนำออกไปทำความสะอาดได้เลย
- Dustbin Button (ปุ่มกดเปิด กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง) : ปุ่มกดเปิด เพื่อนำ กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ออกไปทำความสะอาด
- On/Off Switch (สวิตซ์เปิดปิดหลัก) และ Manual Charging Jack (แจ็คต่อชาร์จไฟเข้าเครื่องโดยตรง) : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้ มีสวิตซ์เปิดปิดหลัก ที่ตัวเครื่องติดตั้งอยู่ที่ด้านข้าง ซึ่งถือว่าสะดวกต่อการใช้งานมากๆ เพราะบางตัวสวิตซ์เปิดปิด จะอยู่ใต้ตัวเครื่อง หรือ บางตัวก็จะต้องดึงเอา กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ออกมาเสียก่อน ถึงจะทำการเปิดปิดเครื่องได้ แต่ตัวนี้อยู่ข้างๆ ถือว่าะสะดวกมากๆนอกจากนี้แล้ว เขายังมีแจ็คต่อชาร์จไฟเข้าเครื่องโดยตรง จะมีประโยชน์อย่างมาก ในกรณีที่แท่นชาร์จ มีปัญหา (เสียใช้งานไม่ได้) หรือ ยกไปใช้ที่อื่นแล้วดันลืมพกแท่นชาร์จไปด้วย ตรงจุดนี้ก็สามารถถที่จะเสียบไฟ เข้าไปชาร์จที่ตัวเครื่องได้เลยโดยตรง
- Bumper and Sensor (กันชน และ เซ็นเซอร์กันชน) : กันชนหน้าเครื่อง พร้อมเซ็นเซอร์ป้องกันสิ่งกีดขวาง (Barrier Sensor) ประโยชน์ของมันคือ เพื่อใช้ดูดซับแรงกระแทก ที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายระหว่างตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเอง กับ ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน อย่างเช่น เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
- Control Button and Screen (ปุ่มควบคุมและหน้าจอแสดงผล) : ปุ่มควบคุมการทำงานของเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ตรงชุดปุ่มควบคุมนี้จะประกอบไปด้วยปุ่มหลักๆ ทั้งหมด 3 ปุ่มหลักๆ ด้วยกันได้แก่
- Power Button : ปุ่มเปิดปิดเครื่อง
- Mode Button : ปุ่มปรับเปลี่ยนโหมด การทำงานดูดฝุ่น
- Start/Stop Button : ปุ่มสั่งเครื่องเริ่มหรือหยุดการทำงาน
นอกจากนี้แล้วยังมี หน้าจอแสดงผล ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สถานะของแบตเตอรี่ ไฟแจ้งเตือน เวลา ต่างๆ ของตัวเครื่อง ก็จะแสดง ณ จุดนี้เช่นกัน
- Mapping Camera (กล้องสร้างแผนที่) : กล้องที่เอาไว้ใช้ในการ สร้างแผนที่การเดนทาง ของตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ในระบบ Vision Mapping System ที่จะเป็นตัวคอยที่จะ จดจำว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte นั้นทำงาน หรือ ยังไม่ทำงาน ตรงพื้นที่ส่วนไหนแล้วบ้าง มีความแม่นยำค่อนข้างสูง ส่งผลให้ตัวเครื่องไม่วิ่งทำงานแบบมั่วๆ ช่วยประหยัดเวลาการทำงาน และ แบตเตอรี่ ของเครื่องไปได้เยอะพอสมควรเลยทีเดียว
ความคิดเห็นส่วนตัว
ตัวเครื่องถือว่าออกแบบการใช้งานมาได้สวยงาม ใช้สีดำ ขอบส้ม กล่องใส่ขยะฝุ่นละอองสามารถถอดไปล้างได้สะดวก ตรงปุ่มกดตอนแรกแอบงงนิดนึงว่าจะต้องกดตรงไหน อย่างไร แต่พอใช้เป็นแล้วก็ไม่ยากอะไร
การทำความคุ้นเคยครั้งแรก ก่อนเริ่มใช้งานนั้น ใช้เวลาไม่นาน แม้แต่ต้องเปิดดูคู่มือก็สามารถใช้ได้ง่ายๆ แต่ข้อเสียอย่างนึงที่ผมไม่ค่อยชอบคือ ตรงพื้นผิวบนตัวเครื่องด้านบน เป็นผิวมัน เวลาเอานิ้วมือไปจับแล้วจะเกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย ต้องเช็ดตัวเครื่องอยู่ตลอดเวลา (คนอื่นอาจจะไม่ได้คิดอะไร แต่ผมไม่ชอบ ฮ่าๆ เป็นโรคจิตชนิดหนึ่งครับ)
ด้านล่าง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte
มาดูที่ส่วนประกอบของเครื่องด้านล่างกันดูบ้าง เพราะส่วนประกอบด้านล่างนั้นถือว่าสำคัญมากๆ เพราะมันมีหน้าที่สำผัสกับพื้นผิวของห้อง และเป็นกลไกสำคัญในการดูดฝุ่น เศษผง ต่างๆ ขึ้นมาเก็บไว้บนเครื่อง ลองมาดูกันที่รูปก่อนนะ ว่ามีอะไรที่สำคัญใต้เครื่องกันบ้าง
ด้านส่วนประกอบใต้เครื่องนั้น ก็จะคล้ายๆ กับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั่วๆ ไป ที่เราพบเห็นกันตามท้องตลาด และ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ขอพาทุกท่านเข้าไปชมส่วนประกอบสำคัญที่อยู่ใต้เครื่องกันเลย โดยผมได้ระบุตัวเลขตำแหน่งของส่วนประกอบใต้เครื่องเอาไว้แล้ว ขอให้ดูคำอธิบายประกอบกันด้านล่างนี้เลยนะ
- Fixed Pin Side Brush (ที่เสียบแปรงข้าง) : ที่ใส่แปรงข้าง (Side Brush) ซึ่งมีทั้ง 2 ฝั่ง ให้กวาดเศษฝุ่นบริเวณรอบๆ ด้าน ที่อยู่นอกรัศมีทำการของตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เช่น ตามมุมห้อง ขอบเฟอร์นิเจอร์ ให้สามารถถูกดูดเข้ามาภายในเครื่องได้ง่ายๆ ด้วยแปรงกวาดหลัก (Main Brush)
- Charging Terminal (จุดสัมผัสแท่นชาร์จ) : ที่สังเกตเป็นแผ่นโลหะสี่เหลี่ยม อันเล็กๆ 2 ตัวใต้เครื่องนั้น มันเป็น จุดสัมผัสแท่นชาร์จ ที่เอาไว้ใช้ในการถ่ายทอดพลังงานไฟ จากแท่นชาร์จ (Charge Base) เอาเข้ามาเก็บเอาไว้ในแบตเตอรี่ ที่ติดตั้งอยู่ในเครื่อง เวลา ตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นวิ่งกลับเข้ามายังแท่นชาร์จ
- Front Wheel (ล้อรับน้ำหนักหน้าเครื่อง) : ลักษณะเป็นล้อพลาสติกอันเล็กๆ ธรรมดา ที่เอาไว้รับน้ำหนักเครื่องเท่านั้น แต่ว่า ไม่ได้ มีหน้าที่ส่งกำลังให้ตัวเครื่องเดินไปข้างหน้า ถอยหลัง หรือ ควบคุมทิศทางได้
- Battery Slot (ช่องใส่แบตเตอรี่) : ช่องใส่แบตเตอรี่ แบบ ลิเธียมไอออน (Li-Ion) ขนาดความจุ 2,200 มิลลิแอมป์ (mAh) พร้อมสกรูน๊อต ที่สามารถใช้ไขควงไขออกมาได้ด้วยตัวเอง นั่นหมายความว่า หากมีปัญหา ผู้ใช้งานก็สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด
- Main Wheel (ล้อขับเคลื่อนหลัก) : หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte นี้มีล้อขับเคลื่อนหลัก อยู่ 2 ล้อ (ฝั่งซ้าย และ ฝั่งขวา) ที่จะนำพาหุ่นยนต์ดูดฝุ่น วิ่งไปดูดฝุ่นตามพื้นที่ต่างๆ ในห้องของเรา รวมไปถึงการบังคับเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ก็เกิดจากล้อขับเคลื่อนหลักนี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น ล้อขับเคลื่อน 2 ล้อนี้จึงมีขนาดใหญ่ พร้อมกับมีสปริง ในการให้ตัวของล้อ เพื่อที่จะให้มันสามารถวิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับ หรือ สิ่งกีดขวาง เช่น ธรณีประตู ในขนาดไม่เกิน 2 เซนติเมตร ได้
- Main Brush (แปรงกวาดหลัก) : แปรงกวาดหลักเครื่องนี้มีมาให้ 1 แปรง โดยเป็นแปรงในลักษณะแบบเกลียว ขนาดความยาว 190 มิลลิเมตร (19 เซนติเมตร) ให้ประสิทธิภาพการดูดฝุ่น ปัดฝุ่นเข้าเครื่องได้ดี สะอาด และ ละเอียด
- Dustbin (กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง) : ที่เก็บกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ขนาด 0.6 ลิตร โดยทางผู้ผลิตเขาทำในรูปแบบพลาสติกใส เพื่อให้ดูว่ามีฝุ่นละอองถูกเก็บอยู่ในกล่องมากน้อยเพียงใด เพื่อรอการทำความสะอาดต่อไป และถ้าหากมองทะลุเข้าไป จะเห็นในส่วนของแผ่นตะแกรงสีเหลืองๆ ตรงนั้นคือ แผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง (High-Performance Air Filter) กรองอากาศเสีย ไม่ให้กลับออกไปนอกเครื่องนั่นเอง
และสุดท้าย ผมขอซูมให้ดูรายละเอียดตรงฉลาก ที่แปะติดอยู่ตรงใต้เครื่อง ว่ามีรายละเอียดอะไรบ้าง
โดยรวมๆ ก็จะเป็นวิธีการป้องกันด้านความปลอดภัย (Safety Precaution) รวมไปถึงรายละเอียดของรุ่น ซึ่งรุ่นนี้ไม่ได้ใช้มีแค่ชื่อรุ่น “Arte” อย่างเดียว แต่ยังมีหมายเลขรุ่นเฉพาะ (Model No.) อีกด้วย นั่นคือ รุ่น “Arte YCR-M05-10” พร้อมหมายเลขซีเรียลนัมเบอร์ (Serial No.) ของเครื่องซึ่งเป็นเลขเฉพาะของแต่ละเครื่องจะไม่มีซ้ำกัน สุดท้าย อีกข้อความที่ทำให้ผมอุ่นใจเลยก็คือ “Made in Korea” หรือ ผลิตในประเทศเกาหลีใต้ นั่นเอง
ความคิดเห็นส่วนตัว
ด้านใต้เครื่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte ตัวนี้ ส่วนตัวคิดว่าก็เหมือนหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ผมเคยรีวิวมาก่อนหน้านี้ทั่วๆ ไป
ในจุดที่ชอบคือตรงจุดที่แปรงข้าง มีขนาดความยาวพอสมควร ชอบตรงที่มันจะซอกแซก เข้าไปปัดกวาดฝุ่นที่อยู่ด้านในตามซอกมุม ขอบต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
และ แปรงกวาดหลัก (Main Brush) ของมัน แม้จะไม่ได้มีขนาดยาว ที่สุด ตั้งแต่เคยรีวิวมา เพราะว่าตัวนี้มันมีแปรงข้างช่วยเอาไว้อยู่ แต่มันมีความหนา และ ความถี่ของขนแปรงดูละเอียดมากๆ
กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte
ในส่วนของ กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (Dustbin) ตัวนี้ พกขนาดความจุมาให้ 0.6 ลิตร ซึ่งถือว่าไม่เยอะ ถ้าเทียบกับคู่แข่งตัวอื่นๆ แต่ก็ไม่ถือว่าเล็กกว่ามาก เพราะเท่าที่เจอตอนนี้ใหญ่สุดของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่เคยผ่านมือผมมาแล้วนั้น อยู่ที่ 0.8 ลิตร เท่านั้น ก็ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ ลองมาดูรูปประกอบด้านล่างกันเลย
จากรูปด้านบน ก็แสดงให้เห็นว่า อุปกรณ์ต่างๆ นั้นสามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย ตัว กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง นั้นสามารถที่จะล้างด้วยน้ำเปล่าทำความสะอาดได้ง่ายๆ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเช็ดเป่าให้แห้งเสียก่อน ที่จะนำไปประกอบกับตัวเครื่อง
นอกจากนี้ รวมไปถึงแผ่นกรองอากาศ (Air Filter) สีฟ้าๆ นั้น ให้ใช้แปรงหรือมือปัดๆ เป่าๆ ให้ฝุ่นที่เกาะอยู่นั้นหลุดออกไป แต่ทางผู้ผลิตเขาไม่ให้ใช้น้ำในการล้างทำความสะอาดนะ เพราะถ้าหากทำบ่อยๆ มันจะกลายเป็นขุ่ยๆ หลุดลุ่ย ในอนาคตได้ พูดง่ายๆ คือ อายุการใช้งานของมันจะสั้นลงนั่นเอง หากใช้น้ำ
รีโมทคอนโทรล หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte
รีโมทคอนโทรล ถือเป็นอุปกรณ์สั่งงานระยะไกล ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน โดยสามารถสั่งงานมันได้เลย โดยไม่ต้องลุกจากโซฟา ไปที่ตัวเครื่อง ซึ่งมันสามารถทำอะไรได้มากกว่า การตั้งค่าโดยตรงจากบนหน้าเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเสียอีก ลองมาดูกันเลย
จากที่เห็นหน้าตาของรีโมทคอนโทรลด้านบนนั้น คุณสามารถที่จะทำอะไรต่อมิอะไรได้หลายอย่าง อาทิ
- ปุ่ม Start/Stop Button (มุมขวาบน) : สั่งให้เครื่องเริ่มทำงาน หยุดทำงาน
- ปุ่ม Direction Button : ควบคุมทิศทาง ที่เป็นคล้ายๆ ทรงกลมอยู่ 4 ทิศทาง ให้เครื่องเดินซ้ายขวา เดินหน้า ถอยหลัง ไปยังทิศทางที่เราต้องการ ส่วนตรงปุ่มกลางคือ “ปุ่ม Enter” เพื่อเลือกเมนู หรือ ตอบตกลง
- ปุ่ม Mode : ปรับเปลี่ยนโหมด หรือ รูปแบบการทำความสะอาด
- ปุ่ม Clock : ตั้งวันเวลาของเครื่อง เพื่อใช้สำหรับการตั้งเวลาทำความสะอาดล่วงหน้า (Timer)
- ปุ่ม Timer : ตั้งเวลาทำความสะอาดล่วงหน้า
- ปุ่ม Base : สั่งให้เครื่องกลับฐาน (กลับแท่นชาร์จ)
- ปุ่ม Climb : โหมดสั่งให้เครื่องทำงานกับพื้นที่ต่างระดับสูงๆ กว่า 20 เซนติเมตร (20 mm.) ได้ หากไม่เปิดโหมดนี้ จะสามารถวิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับได้ไม่เกิน 5 เซนติเมตร (5 mm.) เท่านั้น
- ปุ่ม Spot : โหมดทำความสะอาดเฉพาะจุด โดยตัวเครื่องมันจะวิ่งรอบๆ จุดเริ่มทำความสะอาด (จุด Start) ในระยะ 1 เมตร เท่านั้น ไม่ไปไกลกว่านี้ หากคุณทำเศษขนม เศษยางลบ หกหล่น แถวนี้ โหมดนี้จะมีประโยชน์มากๆ เลยทีเดียว
- ปุ่ม Max : ปุ่มทำความสะอาดเป็นเต็มความสามารถ โดยจะวิ่งทำความสะอาดแบบอัตโนมัติทั่วห้อง โดยจะใช้เวลาทำความสะอาดเฉลี่ย 120 นาที ถึง 160 นาที
สำรวจแท่นชาร์จ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte
แท่นชาร์จ (Charge Base) เป็น ชื่ออย่างเป็นทางการที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นส่วนมากใช้เรียกกัน แต่สำหรับ iClebo Arte นั้นใช้ชื่อว่า สถานีชาร์จ (Charging Station) นั้น แต่กระนั้น จะเรียกอะไรก็สุดแท้แต่ โดยขอให้พึงระลึกเอาไว้เสมอว่า แท่นชาร์จเป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากอีกตัวหนึ่ง ที่จะทำให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ไม่ว่าจะเป็นตัวใดก็ตามนั้น สามารถออกมาวิ่งทำงานได้ และวิ่งกลับเข้าไปจอดชาร์จแบตเตอรี่ใหม่อีกครั้ง เมื่อทำการดูดเสร็จ หรือ แบตเตอรี่ใกล้หมด
นอกจากนี้ ข้อที่แตกต่างและโดดเด่น ของ แท่นชาร์จ iClebo Arte คือ ระยะเวลาในการชาร์จแบบค่อนข้างสั้นเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น เมื่อเทียบกับสินค้ารุ่นอื่นๆที่ต้องใช้เวลา 8-10 ชั่วโมงในการชาร์จแบตต่อการทำงานแค่ 1 ครั้ง
ลองสำรวจมาดูที่แท่นชาร์จของ iClebo Arte ตัวนี้กันดูบ้างว่ามีจุดไหร ที่น่าสนใจกันบ้าง
จุดที่ประทับใจของ แท่นชาร์จ ตัวนี้คือ ด้านบน มันจะมีคำแนะนำในเรื่องของสัญญาณไฟบอกกำกับ แสดงสถานะ ของการชาร์จไฟลงเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น นั่นเอง โดยด้านบนจะมีสถานะไฟแสดงอยู่ทั้งหมด 3 ระดับด้วยกันได้แก่
- POWER (สีแดง) : ไฟเข้าแท่นชาร์จ
- Charging (สีเขียวกระพริบ) : กำลังชาร์จไฟลงหุ่นยนต์ดูดฝุ่น
- Fully Charged (สีเขียว) : ชาร์จไฟลงหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเต็มแล้ว
นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำว่า การติดตั้งแท่นชาร์จนั้น ควรว่างห่างจากสิ่งกีดขวาง ในรอบๆ รัศมีของมัน ด้านซ้ายขวา ประมาณ 50 เซนติเมตร และ ด้านหน้า ประมาณ 150 เซนติเมตร (1.5 เมตร) นั่นเอง เพื่อจะได้ให้ตัวเครื่อง iClebo Arte นั้นสามารถวิ่งกลับมายังแท่นชาร์จ หรือ สถานีชาร์จไฟ ได้ง่ายๆ นั่นเอง
อีกจุดหนึ่งที่ผมชอบ และ ประทับใจคือ ตัวอะแดปเตอร์ ที่ใช้แปลงไฟบ้าน มาเป็นไฟที่ใช้สำหรับเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่นนั้น สามารถถูกเก็บซ่อนเข้าไปข้างหลังแท่นชาร์จได้ด้วยเช่นกัน ประหยัดเนื้อที่ ไม่เกะกะนั่นเอง บางทีสายยาวเกินไป ออกมาขัดขวางการทำงานของตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอีกด้วยต่างหาก
และอีกจุดที่เซอร์ไพรส์ ประหลาดใจ มากๆ หลังจากที่ลูบๆ คลำๆ แท่นชาร์จ มันอยู่ซักพัก ก็คือ ด้านบน มันมีฝาที่เปิดได้อีกด้วยเช่นกัน ซึ่งเมื่อเปิดฝาด้านบนออกมาดู ก็พบว่ามันคือแปรง (Brush) สีเหลือง ที่เอาไว้ใช้ปัดทำความสะอาดฝุ่น ภายในตัวเครื่องตามซอกมุม ต่างๆ ที่ลำพังมือไม่สามารถเข้าถึงได้ อาทิ ซอกของล้อขับเคลื่อน หรือ การทำความสะอาดปัดฝุ่น แผ่นกรองอากาศ
โดยแปรงสีเหลืองที่ว่านี้มี 2 ด้าน ได้แก่ แปรงฝั่งพลาสติก ลักษณะเหมือนไม้เกาหลังขนาดเล็ก กับอีกฝั่งที่เป็น แปรงขนๆ ซึ่งลักษณะการใช้งานก็แล้วแต่จะนำไปประยุกต์ใช้กันนะครับ
นอกจากนี้แล้ว ตรงฝาแปรงด้านบน ยังมีบอกโค้ดการเกิดข้อผิดพลาด (Error Display Code) ของการทำงานตัวเครื่องว่า มีข้อผิดพลาดอะไรยังไงบ้าง (แต่อันที่จริงแล้ว ในคู่มือการใช้งาน ทั้งตัวที่เป็นกระดาษ Quick Guide และ ที่เป็นไฟล์ PDF ในแผ่นซีดี อย่าง User Guide ก็มีบอกเอาไว้เช่นกัน)
ยกตัวอย่างเช่น ข้อผิดพลาดแสดงบนหน้าจอว่า
โค้ดแสดง : C1
สาเหต : ล้อไม่สัมผัสกับพื้น (Lifted Wheel)
วิธีแก้ไข : ยกเครื่องไปวางบนพื้นราบ (Move the robot cleaner to flat area)
รู้จักกับ ที่ติดผ้าม็อบถูพื้น (Mop Plate)
ออปชั่นอีกอย่างนึงที่ทาง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte นี้ให้มาในกล่องเลยคือ ที่ติดผ้าม็อบถูพื้น มีลักษณะเป็นแผ่นรองผ้าม็อบถูพื้น ที่เขาให้มาในกล่องนั้นเป็น ผ้าชนิดพิเศษที่เรียกแบบเต็มยศ เลยว่า ผ้าม็อบถูพื้นอัลตร้าไมโครไฟเบอร์แบบเปียก (Ultra Microfiber Wet Mop) ซึ่งเป็นผ้าที่มีคุณสมบัติดูดฝุ่น เก็บฝุ่นได้ดี ละเอียด แม้แต่ฝุ่นละอองขนาดเล็กๆ ก็มิอาจรอดจากเงื้อมมือของมันไปได้
นอกจากนี้แล้ว คุณยังสามารถนำเอา ผ้าอัลตร้าไมโครไฟเบอร์ ตัวนี้ไปซักล้างด้วยน้ำสะอาด เพื่อพร้อมใช้งานในครั้งต่อไปได้อีกด้วยเช่นกัน อ้อ ! ทางผู้ผลิตเขาใจดี ให้ ผ้าอัลตร้าไมโครไฟเบอร์ มาถึง 2 ชิ้นด้วยกัน เขาให้เผื่อสำรองเอาไว้อีกชุดนึงด้วยนะ
เปิดใช้งาน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte
หลังจากที่บรรยายสรรพคุณ คุณสมบัติ และ ความสามารถ ของตัวเครื่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte กันมาแบบเต็มอิ่มแล้ว มาเริ่มเปิดใช้งานเครื่องกันเลยดีกว่า
ก่อนอื่นจะต้องดึงเอาฉลากพลาสติก ออกจากเซ็นเซอร์ ตรงแท่นชาร์จเสียก่อน มิเช่นนั้น จะไม่สามารถใช้งานได้
โดยหลังจากที่คุณได้ติดตั้งแท่นชาร์จ เสียบสายไฟ อะแดปเตอร์ ต่างๆ เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลานำเอาเครื่อง iClebo Arte มาวางไว้ที่แท่นชาร์จได้เลย เพื่อทำการชาร์จไฟครั้งแรก
และก็เป็นธรรมเนียมของผม เมื่อใช้งานครั้งแรก ก็จะต้องชาร์จแบตเตอรี่ ทิ้งเอาไว้ข้ามคืนกันเสียก่อน เพื่อวันรุ่งขึ้นจะได้ทดลองใช้งาน เขียนรีวิวกันได้อย่างเต็มที่
จากภาพถ่ายด้านบน จริงๆ แล้วไฟตรงแท่นชาร์จด้านบนจะ เป็นไฟสีเขียวและกำลังกระพริบอยู่ (ซึ่งหมายความว่า กำลังชาร์จไฟอยู่) และ บนตัว หุ่นยนต์ดูดฝุ่นก็เป็นสีแดงกระพริบเช่นกัน แต่ผมไม่สามารถถ่ายรูปขณะที่มันแสดงไฟพร้อมกัน ระหว่างตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น (กระพริบสีเขียว) และ แท่นชาร์จ (กระพริบสีแดง) ได้ เพราะมันกระพริบกันคนละทีครับ
ตั้งเวลาเครื่อง ก่อนใช้งาน (Clock Setting)
ก่อนจะเริ่มใช้งานหุ่นยนต์ดูดฝุ่น อีกสิ่งหนึ่งที่เราควรจะต้องทำเอาไว้เลยคือ การตั้งเวลาปัจจุบันให้เครื่อง (Current Time Setting) ซึ่งวิธีการตั้งเวลานั้นไม่ยากเลย สามารถทำได้จากรีโมทคอนโทรล ได้เลยโดยตรง (อย่าลืมใส่ถ่านขนาด AAA จำนวน 2 ก้อน ที่เขาให้มาในกล่องก่อนนะ ไม่งั้นกดไม่ติดนะแออ)
และเมื่อใสถ่านแบตเตอรี่เข้าไป เรียบร้อยแล้ว ก็ทำตามขั้นตอนง่ายๆ ดังต่อไปนี้
- กดปุ่ม “Clock” แล้วจะเห็นค่าของชั่วโมงจะกระพริบ
- กดปุ่มลูกศรขึ้นลง (+)(-) ตรงกลางรีโมท เพื่อเปลี่ยนตัวเลขชั่วโมง
- กดปุ่มตรงกลาง (ปุ่ม Enter)
- เมื่อกดปุ่ม Enter แล้ว ก็จะกระพริบตัวเลขด้านขวา เพื่อเลือกนาที
- กดปุ่มลูกศรขึ้นลง (+)(-) ตรงกลางรีโมท เพื่อเปลี่ยนตัวเลขนาที
- กดปุ่มตรงกลาง (ปุ่ม Enter) อีกครั้ง
- เสร็จเรียบร้อย
ตั้งเวลาทำความสะอาดอัตโนมัติ (Timer Setting)
ด้านการตั้งเวลาทำความสะอาดอัตโนมัติ นั้นก็สามารถทำได้ง่ายๆ คือ กดปุ่ม “Timer” ที่รีโมทคอนโทรล แล้วลักษณะการตั้งเวลาจะ เหมือนกับตอน ตั้งเวลาเครื่อง (Clock Setting) ตามวิธีด้านบน ก็เป็นอันเสร็จพิธี
โดย หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte ตัวนี้มันจะสามารถตั้งเวลาได้ตามใจชอบ เจาะลึกลงเป็นชั่วโมง เป็นนาที เลยก็ได้ ไม่เหมือนกับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นบางรุ่น ที่ตั้งเวลาได้แบบ ทุก 15 นาที เช่น 17:00 น. 17:15 น. 17:30 น. 17:45 น. เพราะในเมนูมันมีตัวเลือกให้เลือกแค่นี้ แต่ iClebo Arte นี้สามารถตั้งเวลาได้ละเอียด ทุกนาที 1-60 นาที ทำได้หมด
10 คำถาม ที่ต้องอยากรู้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte
มาถึงช่วงที่บอกเล่าประสบการณ์หลังการใช้งาน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte มาอย่างต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ ทุกวัน
1. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ตัวนี้ ดูดสะอาด หรือไม่ ?
สะอาด หายห่วง เลยแน่นอน เพราะตัวมันเองมีแปรงกวาดทั้งหมด 3 แปรงด้วยกันไม่ว่าจะเป็น แปรงกวาดหลัก ที่อยู่ตรงกลาง x 1 แปรง และ แปรงด้านข้าง x 2 ฝั่ง ซึ่งแปรงกวาดหลัก มีขนาดที่ใหญ่ และ ขนแปรงมีจำนวนมาก เหนียว ทำให้เก็บฝุ่นขนาดเล็กๆ ได้อย่างละเอียด
2. วิ่งกลับแท่นชาร์จได้เองจริงๆ หรือไม่ ?
อัตราการวิ่งกลับแท่นชาร์จของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้ อยู่ที่ 100% โดยผมทดลองใช้งานกว่า 2 สัปดาห์ (ประมาณ 14 วัน) ก็พบว่า เมื่อมันดูดเสร็จ มันก็วิ่งกลับแท่นชาร์จโดยอัตโนมัติ โดยเรียบร้อยดี
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ห้องที่คอนโดมิเนียมของผม ถูกจัดข้าวของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ ต่างๆ รองรับการใช้งาน หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอยู่แล้ว พูดง่ายๆ คือ ห้องผมเรียบร้อยอยู่แล้ว (ขอโม้นิดนึง 55) มันเลยกลับแท่นชาร์จถูก (หรือเปล่า ?) หากนำไปดูดในห้อง หรือบ้านที่ของรกๆ นั้นจะกลับมาได้ครบ 100% แบบนี้หรือเปล่า อันนี้ผมไม่แน่ใจนะครับ
3. ดูดได้ทั่วทุกบริเวณห้อง หรือไม่ ?
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte ตัวนี้ มีความสามารถในการวิ่งเข้าห้องเล็ก ห้องน้อย ที่อยู่ในบ้าน หรือ คอนโดมิเนียม เราได้สบายๆ ไม่มีปัญหาใดๆ แม้แท่นชาร์จจะอยู่คนละห้อง ก็สามารถวิ่งกลับได้ โดยไม่หลงทาง หรือ แบตเตอรี่หมดกลางทาง (ตรงจุดนี้ต้องขอชมเชย)
4. สามารถวิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับได้มากน้อยแค่ไหน ?
ตามที่ทางผู้ผลิตหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เขาเคลมมาว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้สามารถวิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับ หรือ สิ่งกีดขวางได้ระดับ 20 มิลลิเมตร (mm.) หรือ 2.0 เซนติเมตร (cm.)
จากที่ทดสอบใช้งานดูแล้วก็พบว่าสามารถวิ่งผ่านได้จริง ประมาณ 18 มิลลิเมตร (mm.) หรือ 1.8 เซนติเมตร เท่านั้น และมีข้อแม้ว่าจะต้องกดปุ่มเปิด โหมด Climb โดยกดจากรีโมทคอนโทรล ด้วยนะครับ มิเช่นนั้นจะไม่สามารถวิ่งผ่านได้ แต่ก็หมดห่วงเรื่องการทำงานบนพรม เพราะเจ้า iClebo Arte นี้สามารถปีนไปทำงานบนพรมได้ และ เอาตัวรอดจากอุปสรรค ต่างๆ เฉพาะหน้าได้สูงมากๆ พูดง่ายๆ คือฉลาดมากๆ
จากภาพด้านล่าง เป็นภาพที่ผมกำลังทดสอบ iClebo Arte ขณะกำลัง วิ่งผ่านธรณีประตู (Doorsill) ระหว่างห้องโถงใหญ่กับ ห้องน้ำ โดยเป็นหิน ความสูงประมาณ 13 มิลลิเมตร (1.3 เซนติเมตร) ก็พบว่า วิ่งผ่านฉลุย แต่มีข้อแม้ว่า ต้องเปิดโหมด Climb บนรีโมทคอนโทรล ก่อนนะ มิเช่นนั้นจะไม่สามารถวิ่งผ่านได้ (เหมือนแรงหดหาย ถ้าไม่ได้เปิดโหมด Climb)
6. ขณะที่กำลังทำการดูดฝุ่น เสียงดังหรือไม่ ?
เห็นข้างกล่องเขียนว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้มีระดับการทำงานที่ค่อนข้างเงียบ มีระดับความดังของเสียงขณะทำงานอยู่ที่ประมาณ 56 dB. (เดซิเบล) แต่วัดขณะที่อยู่ห่างจากตัวเครื่องขณะทำงานประมาณ 1 เมตร
ซึ่งจุดนี้ผมขอลองพิสูจน์ด้วยตัวเอง โดยขณะที่กำลังทำงาน ผมเอามือถือไอโฟน 6s ที่ติดตั้ง แอพ LINE Tools เลือกเมนู “Sound Level Meter” ซึ่งเป็นเมนูที่เอาไว้ใช้ในการวัดระดับเสียง เข้าไปจ่อที่ตัวเครื่องขณะกำลังทำงานให้ใกล้ที่สุด เท่าที่จะทำได้ ก็พบว่ามีระดับเสียงอยู่ที่ประมาณ 60 dB. โดยเฉลี่ย (อาจจะมีสูงกว่า หรือต่ำกว่านิดหน่อย) เนื่องจากขณะวัดระดับเสียง ค่อนข้างจะลำบาก เพราะต้องวัดขณะที่เครื่องวิ่งทำงานไปด้วย
ลองดูตารางการเปรียบเทียบระดับเสียง ประมาณ 56 เดซิเบล (dB) นั้นถือว่าเงียบมากๆ อยู่ระหว่างเสียงของ คอมเพรสเซอร์แอร์ (Outdoor Air-Conditioning Fan) ที่วางอยู่นอกบ้าน กับ เสียงสนทนาทั่วๆ ไป (Usual Conversation) เท่านั้น
แต่ลองดูดีๆ จะพบว่า ระดับเสียงของ เครื่องดูดฝุ่น (Vacuum Cleaner) ทั่วๆ ไปนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 70 เดซิเบล (dB) ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte นั้นมีเสียงที่เบา และเงียบมากๆ เลยทีเดียว
7. เทปยาวๆ Area Boundary Tape มันคืออะไร ?
เทปสร้างขอบเขตของการดูฝุ่น (Area Boundary Tape) หรือที่เรียกว่า กำแพงจำลอง (Virtual Wall) นั่นเอง โดยปกติแล้วการทำงานของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น นั้น มันจะพยายามวิ่งผ่านสิ่งกีดขวางทุกอย่างที่ขวางหน้า ที่มันสามารถจะเคลื่อนที่ไปได้ มีความสามารถในการเอาตัวรอดจากอุปสรรคได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะนี่คือจุดประสงค์หลักของผู้ผลิต พัฒนา คิดค้น หุ่นยนต์ดูดฝุ่น
แต่มีอีกกรณีนึงที่ หากคุณไม่ต้องการให้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น วิ่งเข้าไปทำความสะอาด ในบางจุดที่คุณไม่ต้องการให้มันเข้าไป อาทิ ห้องที่มีเด็กเล็ก ห้องที่มีสัตว์เลี้ยง พักอาศัยอยู่ แต่ไม่มีประตู หรือ อะไรมากันมัน ก็สามารถใช้เจ้า Area Boundary Tape ตัวนี้เป็นตัวป้องกันเอาไว้ได้ มันเปรียบเสมือนงูกับเชือกกล้วย เลยทีเดียว ที่เมื่อ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นวิ่งเข้ามาเจอ จำต้องวิ่งหลบหลีกออกไปบริเวณนั้นเสมอ
โดยทาง iClebo Arte นั้น เขาได้ให้เทปขนาดความยาวประมาณ 2 เมตร มาให้ และจริงๆ แล้ว เทปนี้สามารถตัดแบ่งเป็นท่อนๆ ได้ตามใจชอบ (แต่ตัดได้ครั้งเดียวนะ ต่อใหม่ไม่ได้แล้ว)
แต่ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นในบางยี่ห้อ บางรุ่นนั้น กำแพงจำลอง ของเขาก็ให้เป็นกล่อง มาวางไว้ปากทางเข้า โดยมันจะยิงแสงอินฟราเรด ออกมาแทนการใช้เทป ยกตัวอย่างของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Jupiter ด้านล่างนี้เลย
8. ดูดฝุ่นวันๆ นึงออกมาได้มากน้อยแค่ไหน ?
ในความเป็นจริงแล้ว จำนวนของฝุ่นที่สามารถดูดได้ในแต่ละวัน ไม่สามารถตอบไม่ได้ชัดเจน เพราะต่างสถานที่กัน การใช้ชีวิต ไลฟ์สไตล์ ของคนที่พักอาศัย จำนวนคนที่อยู่อาศัย เด็ก จำนวนสัตว์เลี้ยง รวมไปถึง ที่ตั้งของสถานที่ (ริมถนน หรือ ในหมู่บ้าน) และอีกหลายปัจจัย
ข้อมูลเพิ่มเติม
การดูดฝุ่น 3 วันต่อเนื่องกันนั้น โดยผมตั้งเวลาดูดเอาไว้เป็นเวลา 10 โมง ของทุกวัน ซึ่งโดยปกติ ผมมีหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอีกตัว ที่ใช้เป็นประจำ และ ตั้งเวลาดูดเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว ในเวลา 6 โมงครึ่งตอนเย็น (18.30 น.) แต่ก่อนตั้งเอาไว้ตอน 17.30 น. ตอนนี้อยู่บ้านช่วงเย็น เลยตั้งให้มันเลทออกไปอีกชั่วโมง ระหว่างลงไปกินข้าวข้างล่าง ของทุกวันอยู่แล้ว แล้วยังได้ฝุ่นมาขนาดนี้
ขนาดดูดวันละ 2 ครั้ง และถูบ้านเอง ยังได้ขนาดนี้ แล้วบ้านที่กวาดฝุ่นเอง ฝุ่นจะเยอะขนาดไหน ?
เพราะเวลาเรากวาดบ้านด้วยไม้กวาดบ้านแบบสมัยก่อนนั้น ฝุ่นก็ไม่ได้ถูกกวาดไปยังที่เก็บฝุ่นทั้งหมดเสมอไป เหมือน การดูดด้วยหุ่นยนต์ดูดฝุ่นนะ เพราะบางทีฝุ่น เศษผม ที่กวาดไปก็อยู่ข้างๆ ฝาผนัง ขอบกำแพง ต่างๆ
9. ซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte ได้ที่ไหนบ้าง ?
คำถามนี้ถือว่าสำคัญมากๆ สำหรับผู้ที่อ่านรีวิวเสร็จแล้ว แล้วสนใจจะสั่งซื้อ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte ตัวนี้ คุณสามารถสั่ง ซื้อได้จากหลายช่องทาง ทั้งช่องทางออนไลน์ อย่างทางเว็บไซต์ และช่องทาง ออฟไลน์ อย่างตาม ห้างสรรพสินค้า ชั้นนำทั่วไปได้ดังต่อไปนี้เลย
- เว็บไซต์ iCleboThailand.com
- เว็บไซต์ Lazada.co.th
- เว็บไซต์ ShopAt7.com
- เว็บไซต์ iTrueMart.com
- ห้างสรรพสินค้า Central Plaza (ในบางสาขา ตรวจสอบกับทางผู้จัดจำหน่ายอีกที)
- ห้างสรรพสินค้า Mega Bangna (ทางเข้าลานจอดรถ Homepro)
- และอื่นๆ อีกมากมาย
หรือจะใช้ช่องทางเสริม อย่างเช่นเบอร์โทรศัพท์ หรือ LINE ติดต่อกับทาง บริษัท เอ็ม เอ็ม โกลบอลเทรด จำกัด เจ้าของแบรนด์สินค้านี้ได้โดยตรงเลยที่
- Tel (โทรศัพท์) : 08-7087-5352
- LINE ID (บัญชีไลน์) : Mister_Robot
และสุดท้าย ก็สามารถติดต่อผ่านทางช่องทางเฟสบุ๊คเพจ (Facebook Page) ได้จากกล่องด้านล่างนี้เลย
10. ราคาอะไหล่ แพงหรือไม่ ค่าบำรุงรักษาแพงหรือเปล่า ?
ค่าราคาอะไหล่ ของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte ตัวนี้ ถือว่าราคาไม่แพงมาก และที่สำคัญคือ อุปกรณ์หลักๆ มีเกือบทุกชิ้น และ เปลี่ยนเองได้ โดยไม่ต้องส่งศูนย์บริการ จากที่ดูด ราคาแพงสุด ก็คือแบตเตอรี่ ราคาประมาณ 1,5xx บาท รองลงมาก็เป็นแท่นชาร์จ ราคาประมาณ 1,2xx บาท และ ชุดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ ราคา 7xx บาท ตามลำดับ
รายละเอียดของอะไหล่ สามารถหาเพิ่มเติม และ สั่งซื้อได้โดยตรงจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยได้เลยที่นี่ กดตรงนี้
บทสรุปการใช้งาน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte
และสุดท้ายก็มาถึงในส่วนของ บทสรุปการใช้งาน ของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte ตัวนี้ว่ามีความน่าประทับใจตรงจุดไหนกันบ้าง โดยผมจะสรุปให้เป็นข้อดีข้อเสีย เหมือนกับที่เคยๆ ทำมาให้ดูกันตรงนี้แบบตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อมกันเลย
ข้อดี 🙂
- ด้วยเทคโนโลยี Vision Mapping System ทำให้การวิ่งทำความสะอาดนั้นเป็นไปได้อย่างแม่นยำ ไม่วิ่งมั่วไปมั่วมา ดูดซ้ำในที่ที่ดูดแล้ว หรือ ไม่ดูด
- น้ำหนักเบา เพียง 2.8 กิโลกรัม ซึ่งผมยกก็เบาจริงๆ
- มีรีโมทคอนโทรล ใช้ในการสั่งงานเครื่องระยะไกล ครบทุกฟังก์ชั่น
- รีโมทคอนโทรล สามารถสั่งงานตัวเครื่อง โดยหันหัวรีโมทชี้ไปในทิศทางใด ก็ได้ในห้อง ไม่จำเป็นจะต้องชี้ตรงไปที่ตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ซึ่งปกติที่เจอส่วนมาก ไม่ว่าจะเป็น รีโมทหุ่นยนต์ดูดฝุ่น รีโมทโทรทัศน์ รีโมทกล่องทีวีดิจิตอล ส่วนมาก จะต้องหันหัวรีโมทไปยังทิศทางที่ตรงกับเครื่อง หรือ อุปกรณ์รับสัญญาณ เท่านั้น
- มีแปรงข้าง (Side Brush) ให้ 2 ข้าง โดยปกติ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นบางตัว ก็จะมีแปรงข้างให้มาบ้างไม่ให้บ้าง
- เครื่องสามารถถอดทำความสะอาด พร้อม ประกอบง่าย ไม่ซับซ้อน
- มีกันชนดูดซับแรงกระแทก เวลาชนจริงๆ ก็เบาๆ ไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย ระหว่างตัวเครื่อง กับ เฟอร์นิเจอร์
- วิ่งกลับแท่นชาร์จได้เอง และ แม่นยำ ไม่ได้วิ่งมั่ว และ ไปจอดตาย หรือ แบตเตอรี่หมด ที่อื่น
- สามารถตั้งเวลาทำความสะอาดเป็นประจำทุกวันอัตโนมัติได้
- สามารถเอาตัวรอดออกจากอุปสรรคหรือสิ่งกีดขวางต่างๆ ได้ดี
- สามารถปีนสิ่งกีดขวาง พื้นที่ต่างระดับ ธรณีประตู (Doorsill) ได้สูง
- แท่นชาร์จมีไฟแสดงสถานะการชาร์จ บางยี่ห้อ บางรุ่นไม่มี เลยทำให้ไม่รู้ว่ามันกำลังชาร์จอยู่หรือไม่
- กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง สามารถเก็บสายไฟที่รกรุงรัง เข้าไปในที่เก็บด้านหลังได้ รวมไปถึงอะแดปเตอร์แปลงไฟ ก็ใส่ในพื้นที่เก็บข้างหลังกล่องได้เช่นกัน
- มีแปรงทำความสะอาดตัวเครื่องมาให้ มีทั้งแปรงขน และ แปรงพลาสติก อยู่ในแปรงชิ้นเดียวกัน
- มีผ้าอัลตร้าไมโครไฟเบอร์แบบเปียก (Ultra Microfiber Wet Mop) มาให้เป็นออชั่นเสริม สามารถติดตั้ง หรือ ถอดออกได้ตามต้องการ นอกจากจะช่วยกวาดแล้ว ยังจะช่วยถูพื้นไปในตัวอีกด้วย
- เสียงเงียบมากๆ ไม่รบกวนชาวบ้าน และ ผู้ที่กำลังพักผ่อน
- เพิ่มในส่วนของการชาร์จแบตเตอรี่ที่ใช้เวลาชาร์จเพียง 2 ชั่วโมงก็แบตเตอรี่เต็มแล้ว
- การันตีคุณภาพของสินค้าด้วยการรับประกันตัวเครื่อง 1 ปีเต็มๆ
ข้อเสีย 🙁
- วัสดุด้านบนพื้นผิวของตัวเครื่องใช้เคลือบด้วยผิวมัน เวลาจับอาจจะเกิดรอยนิ้วมือปรากฏบนตัวเครื่องได้
- ไม่สามารถตั้งเวลาทำความสะอาดแบบแยกรายวันได้ เช่น วันจันทร์ทำ 6 โมงเย็น วันอังคารทำ 8 โมงเช้า อะไรแบบนี้ ตัวนี้จะตั้งเวลาแบบนั้นไม่ได้
- กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง มีขนาดเล็ก ต้องหมั่นทำความสะอาดบ่อยๆ ไม่เช่นนั้นฝุ่นจะเต็มเร็ว แล้วจะทำให้ประสิทธิภาพการดูดฝุ่นลดลง
- แปรงข้าง (Side Brush) ให้มาแค่ชุดเดียว (2 อัน) ไม่ได้ให้ชุดสำรองมาใช้
สุดท้ายนี้ก็หวังว่า บทความรีวิว iClebo Arte ตัวนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน ช่วยในการตัดสินใจซื้อได้ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว ไว้พบกับ Thanop.com รีวิว ในโอกาสหน้า สวัสดีคร้าบ ..
คลิปวีดีโอรีวิว iClebo Arte โดยผมเอง
สุดท้ายนี้ หากคุณพอจะมีเวลาอีกสัก 20 นาที ลองสละเวลานั่งดูอีกสักนิด คราวนี้คุณจะรู้จักเจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iClebo Arte ตัวนี้อย่างลึกซึ้ง เหมือนซื้อมาใช้เองที่บ้านเลย ผมอัดเองครับ ดูบ้านๆ หน่อย แต่ได้ประโยชน์นะจ๊ะ 🙂
เปิดเครื่อง แล้วเครื่องทำงานไม่เกิน2วินาทีแล้วเครื่องหยุดทำงาน ขึ้นเครื่องหมายc8 หมายถึงอะไร และจะแก้ไขอย่างไรครับ
ตอนนี้สามารถใช้กับพื้นคอนกรีตผิวขัดมันเคลือบอีพร้อกซี่แบบใส คือมันจะมีเหมือนคราบของปูนใต้ พื้นที่เคลือบได้รึยังครับ ผมเคยเอามาทดลองใช้ มัน ระบบจะในการทำงานจะ งง คือ จะทำอยู่กับที่ เปลี่ยนไป 4 ตัว ก็แก้ไม่หาย ใช้ตัวที่รีวิวนั่นล่ะครับแต่พื้นทั่วไปไม่มีปัญหาอะไร
ขอบคุณที่ประทับใจครับผม 🙂
ขอบคุณมากสำหรับรีวิวค่ะ สั่งซื้อ Iclebo Arte ไปวันนี้ค่ะ
รบกวนขอคำแนะนำอาจารย์หน่อยค่ะ กำลังเลือกซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวแรกสำหรับบ้านเดี่ยวขนาดกลางค่ะ แบบแปลนไม่ซับซ้อนแต่สิ่งของกีดขวางค่อนข้างเยอะ กำลังลังเลระหว่าง
1. neato botvac D85
2. Iclebo omega
3. LG hom bot
เน้นความสะอาด ดูดแรง ใช้งานได้จริง (กลัวว่าตัวม๊อบไมโครไฟเบอร์จะทำไม่สะอาดสำหรับการถูบ้านค่ะ แต่ยังไม่เคยเห็นการสาธิตนะคะ) ไม่เอ๋อในระยะยาว แล้วก็ทนทานค่ะ
รบกวนอาจารย์แนะนำหน่อยนะคะ เป็นพระคุณมากค่ะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
ขออภัยที่ตอบช้านะครับ จริงๆ อยู่ที่งบประมาณและความต้องการครับ โดยตัว Neato Botvac D85 นั้น จะถูพื้นไม่ได้นะครับ แต่ถ้า อยากได้ถูพื้นด้วย ก็ iClebo OMEGA ครับ (ราคาประมาณ 20k – ถูกกว่า Botvac D85 อยู่เกือบ 6 พันบาท) ส่วนรูปแบบของการวิ่ง Neato จะวิ่งแม่นยำกว่า กลับแท่นชาร์ได้ดี (จากที่ได้ใช้นะครับ) ความสะอาด พลังการดูดฝุ่น มอเตอร์แรงพอกันทั้งคู่ครับ
แต่ว่า ในส่วนของ Neato มีข้อเสียในจุดของเลเซอร์คือ ใช้ไปนานๆ สัก เกือบๆ ปี ตรงหัวกลมๆ สีน้ำเงินข้างใต้มันจะเป็นเลเซอร์ที่หมุนๆ ติ้วๆ อยู่อาจจะสกปรกได้ครับ อาจจะต้องถอดมาทำความสะอาดด้วยครับ (แต่แนะนำให้ส่งศูนย์บริการไปทำความสะอาดให้ดีกว่า) ขณะที่ iClebo OMEGA เป็นการนำทางแบบใช้กล้องครับ จะไม่มีปัญหาเรื่องนี้ ส่วนแบตเตอรี่ อายุการใช้งานก็พอๆ กันครับ สัก 1.5-2.0 ปี ก็น่าจะเสื่อมสภาพแล้ว ก็ต้องเปลี่ยนใหม่ครับ
ปล. LG HOM-BOT ไม่เคยใช้เลยครับ
ขอบคุณอาจารย์สำหรับคำแนะนำนะคะ
ตอนนี้จัด Neato D85 มาแล้วค่ะเพราะดูเหมือนการเดินจะฉลาดและแม่นยำกว่า หาโปรที่มีส่วนลดได้เลยซื้อมาราคาที่ถูกกว่า icleabo อยู่เกือบหกพันบาทเลยค่ะ
ขอบคุณอาจารย์สำหรับข้อมูลและคำแนะนำดีๆ นะคะ
เว็บไซต์มีประโยชน์มากจริงๆค่ะ 😀
ซื้อมาใช้งาน ได้ ปีนึงพอดีค่ะ เวลาใช้ ก็ชอบนะ แนะนำเพื่อนไปซื้อกันอีกหลายคน หลายตัว แต่พอถึงเวลาส่งเครื่องเคลม บริการแย่มากๆ จนท.ตอบไล่ลูกค้าสุดๆ ล่าช้า (ของรอซ่อมสิบกว่าวัน ค่อยส่งคืน แต่แจ้งว่า ไม้่มีไรเสีย แค่เครื่องสกปรก????…..ตกลงเอาไปดองทำไร)
ทำผิดพลาดซ้ำๆ ซากๆ ทั้งที่อยู่จัดส่งคืน ไม่โทรกลับ ทั้งๆ ที่โทรตามหลายครั้ง ไม่รับสายเป็นนิจต้องไปตามในเพจ ถึงโทรกลับ พอติดต่อได้ ก็แจ้งว่า เป็นความผิดของเบอร์เราเอง โทรไปไม่มีคนรับสาย เออ สุดท้าย พบว่า จนท.โทรไปผิดเบอร์
ส่งของคืน ก็พลาดอีก ส่งมาไม่ครบ รีบโทรตามให้แก้ไขส่งมาด่วน พร้อมย้ำที่อยู่ว่า อย่าส่งผิดอีก (ไม่ว่ากัน อยากได้คืนเร็วๆ ) แต่รอไปเถอะสามวันก็ไม่มา โทรไปตาม บอกว่า ช่างยังไม่ได้เอาที่ชารจมาคืน !!!!!!!! ย้ำว่า ให้รีบส่งมาด่วนที่สุด แจ้งเบอร์tracking no ด้วย จะได้แน่ใจว่า ส่งแล้วตามของได้เร็ว จนบัดนี้ ก็ยังไม่ได้รับของ ไม่มีการแจ้ง
…..
นายแน่มาก
……
ใครจะซื้อ ก็คิดๆ เผื่อไว้หน่อยนะ ว่า พนักงานคุณภาพแบบนี้ จะเสี่ยงซื้อของด้วยไหม ราคาระดับนี้ แต่บริการแย่มาก
เพิ่งซื้อมาใช้ค่ะไม่ทราบว่าเวลาติดถาดผ้าเช็ดถูกแล้วเวลาเลี้ยวมีเสียงแครกๆของล้อไหมคะเหมือนล้อมันลากตอนเลี้ยวคะ
เป็นเหมือนกันครับ เสียงน่าจะมาจากล้อหน้าเวลาหมุนเลี้ยว เสียงดังมาก ไม่ทราบว่ามีวิธีแก้ไขมั้ยครับ เหมือนจะเป็นกันเยอะ คนรู้จักส่งเคลมก็ไม่หาย เปลี่ยนเครื่องใหม่ 3-4 รอบก็เป็นเหมือนเดิม
สวัสดีครับอาจารย์
ผมรบกวนขอทราบความเห็นของอาจารย์หน่อยครับ ว่าถ้ามีงบประมาณ ไม่เกิน 30000 บาท ณ เวลานี้ อยากรบกวนให้อาจารย์ช่วย เลือก ตัวหุ่นยนต์ที่น่าใช้เรียงลำดับให้สัก 3 รุ่นได้มั้ยครับ
ผมเน้น เรื่อง ความฉลาดของเครื่อง และความสามารถในการทำความสะอาดครับ
ป.ล. ผมอ่านรีวิวของอาจารย์ด้ายบน บอกว่า เครื่องมีน้ำหนักเบา เพราะไม่มีพัดลมช่วยดูดอากาศ
แต่เห็นด้านล่างอาจารย์บอกว่า มีระบบ พัดลมช่วยดูดอากาศ ยังไงรบกวนอาจารย์เช็คให้นิดนะครับผม ขอบพระคุณครับ
เรียนคุณ Pop ครับ
สำหรับเรื่องที่ตัว iClebo Arte ที่ว่ามี หรือ ไม่มี พัดลมดูดอากาศ นั้นสรุปว่ามัน “ไม่มี” นะครับ ตรงจุดนี้ต้องขออภัยสำหรับข้อมูล ที่ผิดพลาดด้วยครับ สำหรับ ถ้าให้เรียงลำดับจากความน่าใช้ ในงบประมาณไม่เกิน 3 หมื่น ตั้งแต่ น่าใช้มากสุดลงไป (ถ้าไม่ติดเรื่องงบประมาณละก็) ตามนี้เลยนะครับ
1. Neato Botvac D Series
2. iRobot Roomba 880
3. iClebo Arte
ขอบพระคุณอาจารย์มากๆสำหรับข้อมูลครับ
ยินดีคร้าบผม มีอะไรสอบถามเข้ามาอีกได้เลยนะครับ
เรียนถามครับถ้าอยู่ในงบสองหมื่น
ผมมีตัวเลือกสามแบรนด์ ระหว่าง
roomba ของไอโรบอท
iclebo arte
powerbot
neato botvac
พื้นที่ใช้สอยเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นเลี้ยงหมาชั้นล่าง ตัวไหนที่ฉลาดและคุ้มค่าเงินที่สุดครับ แล้ว ระบบนำทางแต่ละรุ่นต่างใช้เทคโนโลยีต่างกัน ความแม่นยำก็ต้องต่างกัน แต่ผมยังเห็นไม่ครบทุกยี่ห้อ ช่วยแนะนำด้วยครับ
ความจริง รุ่นที่กล่าวมานั้น ดีหมดครับ ทั้งความฉลาด ต่างๆ แต่ด้วยงบประมาณที่คุณบอกมาจำกัดที่ 2 หมื่น จึงขอเสนอตัว iClebo Arte ครับ เพราะนอกนั้น 25k+ หมดเลยครับ ที่เหลือ ส่วนมากที่แพงกว่านั้นมันจะเด่นกว่าพวก ออปชั่นต่างๆ เช่น กำแพงจำลอง (Virtual Wall) อะไรแบบนี้เป็นต้น ซึ่งสำหรับผม ผมคิดว่ากำแพงจำลอง พวกนี้ไม่จำเป็นครับ
ถ้าถามความเห็นจะซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเครื่องแรก ควรซื้อรุ่นไหนยี่ห้ออะไรคะ
พื้นที่บ้านค่อนข้างเยอะ เลี้ยงหมาจำนวนมาก มีทั้งผมและขนหมาเยอะมาก อยากได้แบบที่ทำความสะอาดตามมุมตามซอกตามขอบ และใต้โต๊ะใต้เตียงได้ แต่ปัญหามีอยู่ตรงนึงที่ต้องถามด้วยคะ ถ้านางไปเจอกับฉี่น้องหมานางจะไปรอดไหมคะ จะพังไหม ขอบคุนมากคะ
ตัว iClebo Arte ก็ได้ครับ ไม่เสียหายอะไร แต่ก่อนอื่นต้องขอสอบถามงบประมาณของคุณ โชติรส ก่อนครับ ว่ามีงบประมาณเท่าไหร่ ประมาณก็ได้ครับ ระหว่าง 5,000 – 30,000 บาท ครับ เพื่อที่ผมจะได้ให้คำแนะนำต่างๆ ได้อย่างถูกต้องครับผม ?
สอบถามคุณ thanop ครับ ถ้าจะซื้อตัวนี้ เปรียบเทียบกับ samsung Lg irobot ตัวนี้น่าจะเป็นตัวที่น่าซื้อมาใช้ใช่มั้ยครับ ผมไม่เคยมาก่อน พอดีเลี้ยงน้องแมวเลยอยากหามาไว้อำนวยความสะดวกตัวเองสักตัว น้องเเมวก็จะชอบทำพื้นเลอะอยู่ประจำ เวลากินน้ำกินอาหาร ส่วนมากพื้นจะเป็นคราบเล็กๆครับ ส่วนขนก็ร่วงเป็นปกติ ผมอาศัย แปรงขนให้น้องทุกวัน ทำให้ลดปริมาณขนร่วงไปได้เยอะ ขอคำเเนะนำด้วย ขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับคุน Thanop ผมรบกวนสอบถามเกี่ยวกับการเปรียบเทียบ ของเจ้าrobot ดูดฝุ่นห่อยนะคับ ไม่ทราบว่าตามความเข้าใจผม เราสามารถจัด ตัว iclebo arte ให้อยู่ในหมวดเดียวกับ roomba 880 กับ samsung powerbot ได้มั้ยคับ ผมหมายถึงเกรดเดียวกัน เพราะเหนว่าตัวiclebo arte ราคาถูกกว่าพอสมควร แต่ฟังค์ชั่นมันก้อคล้ายกันเกือบหมด ต่างกันก้อแต่ ชื่อเสียงในบ้านเรา รบกวนด้วยนะคับ
ขอบคุนคับ
เรียนคุณ Visanu
สามารถจัดให้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ได้ครับ ผมทดลองใช้มาทั้งหมด แล้ว ความฉลาดเหมือนกันครับ แต่แรงดูดของตัว iClebo Arte จะไม่มีพัดลมช่วยดูด (Vacuum Fan) แต่ Samsung Powerbot มีใช้ชื่อว่า “Cyclone Force” ส่วน iRobot Roomba 880 ใช้ชื่อว่า “Aeroforce” หากนึกไม่ออก นึกถึงเครื่องดูดฝุ่นครับ ที่จะมีลมดูดฝุ่นเข้าไปในเครื่องด้วย แต่ตัว iClebo Arte นี้เขามีแค่ แปรงกวาดหมุนตีฝุ่นเข้าไปอย่างเดียวเท่านั้นครับ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ก็แลกมาด้วยแปรงกวาดหลัก ที่ขนาดใหญ่มากๆ
ดังนั้น ผมดูที่ความฉลาด การออกไปวิ่งทำความสะอาดแต่ละครั้งว่า ครบทั่วทุกพื้นที่หรือไม่ และ วิ่งกลับแท่นชาร์จ (กลับฐาน) เองได้โดยไม่หลงทาง ไม่ไปจอดตายที่อื่นหรือไม่ ผลปรากฏว่า iClebo Arte ทำได้อย่างไม่มีปัญหาครับ
ขอบคุณมากๆคับ ตอนนี้ผมจัดiclebo มาแล้ว ถือว่าใช้ดีอยู่พอสมควร ข้อเสียก้อตามที่คุณ thanop พูดมาเป๊ะ ตลกตรงที่ตอนแรกผมไม่คิดว่าการที่วัสุมันแวววาวจับแล้วเป็นรอยจะไม่มีผลกระทบกะผม เอาเข้าจริงๆก้อรู้สึกรำคาญพอสมควรเลยคับเพราะเราต้องจับมันบ่อย ส่วนเรื่องตายกลางทางส่วนใหญ่เป็นเพราะเส้นผมเข้าไปพันในแปรงมีให้เห็นบ้างนะคับ ขอบคุณคับ