MCOT HDBOX รุ่น VIEW

กล่องทีวีดิจิตอล ทีวีระบบดิจิตอล เพื่ออนาคต

รีวิวนี้จะเป็น รีวิว ในส่วนของ กล่องทีวีดิจิตอล MCOT HDBOX รุ่น VIEW ซึ่งจะต้องใช้ควบคู่กับเสาอากาศ (Antenna) เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้ที่ต้องการอยากดูทีวีแบบฟรีๆ ซื้อครั้งเดียวจบ และตัดปัญหาเรื่องการติดตั้งจานดาวเทียมนอกบ้าน นอกอาคาร ซึ่งเชื่อว่าหลายคนมีข้อจำกัดตรงนี้ เพราะบางทีหากอยู่ตามหอพัก คอนโดมิเนียม จะมีปัญหาเรื่องการติดตั้งเสารับสัญญาณ หรือ จานดาวเทียม ที่อยู่นอกห้อง ตามระเบียง นอกชาน เป็นต้น

เปรียบเทียบคุณภาพ ทีวีดิจิตอล และ ทีวีอนาล็อก แบบชัดๆ

คลิปวีดีโอ เปรียบเทียบคุณภาพสัญญาณของทีวีดิจิตอล (Digital TV) และ ทีวีอนาล็อก (Analog TV) ทั้งๆ ที่ใช้เสารับสัญญาณเดียวกัน ซึ่งเป็นเสาอากาศระบบ UHF แต่ครั้งแรกไม่ผ่านกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล ครั้งที่สอง ผ่านกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล MCOT HD BOX ลองมาดูกันว่า คุณภาพสัญญาณแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน

ทำไมถึงต้องใช้ กล่องทีวีดิจิตอล ?

สืบเนื่องจากการที่อยู่พักอาศัยบนคอนโดมิเนียม ข้อจำกัดต่างๆ จึงมีมากกว่า การอยู่ตามบ้านเดียว หรือ ทาวน์โฮม อย่างแน่นอน การที่จะรับชมช่องโทรทัศน์ดีๆ สักช่อง แบบฟรี ไม่เสียเงิน จึงเป็นเรื่องที่ยากมากๆ สำหรับการอยู่คอนโดฯ

แต่ถ้าอยาก ดูกันแบบคมชัด ชัดแจ๋ว เห็นทีจะหนีไม่พ้นกับการ “เสียเงิน”  ไม่ด้วยช่องทางใดก็ทางหนึ่ง อย่างเช่น ซื้อบริการจากเคเบิลทีวี หรือ กล่องอินเตอร์เน็ตทีวีเป็นต้น โดยคอนโดที่ผมอยู่นั้น ก็มีตัวเลือกให้รับชมไม่มาก นั่นคือ ช่องต่อโทรทัศน์จากคอนโดฯ ที่เขาให้มา ซึ่งพอเสียบสายสัญญาณ จากเสารับสัญญาณแบบ RF ส่วนกลาง เหมือนทีวีทั่วไป พวกหนวดกุ้ง ภาพที่ออกมาก็ดูแทบไม่ค่อยได้ บางทีก็มีเงาซ้อนขึ้นมา ให้ความรู้สึกเหมือนดูหนังผี ซ้อนมิติไปด้วยเลย

หรืออีกวิธีหนึ่งคือว่า หากจะดูโทรทัศน์ในรูปแบบใช้สัญญาณเดียวกันกับอินเตอร์เน็ต (แชร์ความเร็วเน็ต) หรือที่เรียกว่า กล่องไอพีทีวี (IPTV Box) ซึ่งตอนแรกผมได้ใช้บริการนี้มาก่อน จากผู้ให้บริการเจ้าหนึ่ง ซึ่งข้อจำกัดมันคือ หากคุณดูโทรทัศน์ไปด้วย เล่นอินเตอร์เน็ตไปด้วย จะค่อนข้างมีปัญหามากๆ (ถ้าเน็ตไม่แรงพอ) โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงไพรม์ไทม์ (Prime Time) หรือช่วงเวลาที่คนรับชมโทรทัศน์มากที่สุด และ เล่นอินเตอร์เน็ตไปด้วยเยอะที่สุด ประมาณช่วง 2 ทุ่ม ถึง 4 ทุ่มละก็ จะไม่สามารถดูโทรทัศน์ผ่านระบบ IPTV นี้ได้เลย เพราะมันช้า กระตุก ดีเลย์ ไปมากๆ

ด้วยเหตุนี้เอง หลังจากที่เช่าครบสัญญา 1 ปี ก็ไปขอยกเลิกสัญญาทันที เพราะคุณภาพของสัญญาณโทรทัศน์ มันต้องขึ้นอยู่กับการใช้งานอินเตอร์เน็ตของเราด้วย ซึ่งก็ไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่แล้ว ต้องเล่นเน็ตไปด้วย และดูโทรทัศน์ไปพร้อมๆ กันด้วยอยู่แล้ว

จากข่าวเรืองของทีวีดิจิตอล (Digital TV) ก็ได้ยินมาบ้าง ผ่านหูผ่านตาทั่วๆ ไป เริ่มตั้งแต่ที่เขาประมูลสัมปทาน กันมาละ แต่ไม่ได้ติดตามข่าวอะไรมากมาย อย่างใกล้ชิด เพราะคิดว่ามันยังเป็นเรื่องไกลตัวอยู่ และไม่รู้ว่ามันจะดูได้เมื่อไหร่ อีกกี่ปี (เพราะคิดว่ามันเหมือน 3G 4G ที่ผ่านมา) จนกระทั่งมาวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2557 (ค.ศ. 2014) ก็เป็นวันได้ฤกษ์ เปิดทดลองออกอากาศทีวีดิจิตอล เป็นครั้งแรกในประเทศไทย บวกกับเห็นรุ่นน้องสุดเลิฟอย่างคุณปิง (เจ้าของเว็บไซต์ Pingbook.com) ได้ไปซื้อมาทดลองใช้ และอัพโหลดรูปขึ้นเฟสบุ๊ค จึงรีบโทรไปหาอย่างไม่รอช้า

ซื้อ กล่องทีวีดิจิตอล MCOT ได้ที่ไหน ?

หลังการสอบถามพบว่า กล่องทีวีดิจิตอล MCOT HDBOX รุ่น VIEW ตัวนี้สามารถ หาซื้อกล่องได้จากร้านเซเว่นอีเลฟเว่น (7-Eleven) ทุกสาขาทั่วประเทศ ในราคา 1,299.00 บาท เป็นกล่องยี่ห้อ Createch แต่เท่าที่ทราบมาคือ ของในล็อตแรกนั้น จะแจกจ่ายให้ร้านสะดวกซื้ออย่าง เซเว่นอีเลฟเว่น ได้เพียงแค่ 2 กล่อง ต่อสาขา เท่านั้น เขาจึงแนะนำว่า ให้ไปสาขาที่ไกลๆ หน่อย อย่ามีคนพลุกพล่านมาก เพราะอาจจะทำให้ไปแล้วเสียเที่ยวได้

ซึ่งอันที่จริงแล้วมีหลากหลายยี่ห้อมากๆ ไม่ว่าจะเป็น ของ Samart ของ TopField ของ LeoTech ของ Aconatic หรือแม้แต่ของ Samsung ก็มีให้เลือกช้อปเลือกซื้อได้ เช่นกัน

เมื่อไปซื้อก็เป็นตามจริงว่าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ที่ไปสาขาแรกปรากฏว่าไม่พบ มาพบเอาสาขาที่สอง จากที่สอบถามดู ก็เป็นเรื่องจริงอย่างที่เขาว่า ว่าแจกให้ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เพียงโควต้าร้านละ 2 ชุดเท่านั้น และสุดท้าย ก็ตัดสินใจซื้อ เสารับสัญญาณ Digital TV รุ่น AT-1 มาจากร้านด้วย ในราคา 350.00 บาท เบ็ดเสร็จ หมดค่าเสียหายไปทั้งสิ้นดังนี้

กล่องดิจิตอลทีวี MCOT HDBOX รุ่น VIEW = 1,299.00 บาท + เสารับสัญญาณ Digital TV ราคา 359.00 บาท ของ Createch ทั้ง 2 ชิ้น เบ็ดเสร็จราคา 1,658.00 บาท

ขณะขับรถกลับมาจากซื้อ กล่องทีวีดิจิตอล MCOT ก็ได้ยินข่าวทางวิทยุว่า ทาง กสทช. บอกว่าอย่าเพิ่งรีบซื้อกล่อง เพราะอีกไม่นานจะออกคูปอง หรือ วอชเชอร์ (Voucher) ออกมาเพื่อเป็นส่วนลดของการซื้อกล่องทีวีดิจิตอล ได้อีกเรื่อยๆ ซึ่งก็แอบเงิบเล็กน้อย ที่ซื้อมาแล้ว แต่ก็เอาวะ ซื้อก่อนก็ได้ลองก่อนใคร คิดซะอย่างนี้ละกัน

แกะกล่องทีวีดิจิตอล MCOT HDBOX รุ่น VIEW

เมื่อมาถึงห้องก็ไม่รอช้า รีบแกะกล่องเพื่อทำการติดตั้งกับ สมาร์ททีวี ที่มีอยู่ทันที แต่ก่อนอื่นขอโชว์ให้ดูก่อนว่ามีอะไรอยู่ในกล่องบ้าง

เมื่อแกะ กล่องทีวีดิจิตอล ออกมาแล้ว ก็จะพบกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ภายในกล่องมากมาย ภายในประกอบไปด้วย

1. กล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล
2. อะแดปเตอร์ แปลงไฟ จากไฟล์บ้าน เข้ามาใช้ในกล่อง
3. รีโมทคอนโทรล
4. ถ่าย AAA ฟรี จำนวน 2 ก้อน
5. สาย HDMI พร้อมพลาสติก ปิดส่วนหัว และ ส่วนท้ายของสายเป็นอย่างดี
6. สาย AV (สายสีขาว สีแดง และ สีเหลือง ใช้สำหรับโทรทัศน์รุ่นเก่า ที่ไม่มีพอร์ตรับสัญญาณภาพและเสียงแบบ HDM)
7. คู่มือการใช้งาน
8. ใบรับประกันสินค้า

ซึ่งส่วนตัวก็ถือว่าโอเคละ ที่มีสาย HDMI ติดมาให้ด้วย ไม่งั้นคงแย่แน่ๆ ที่ต้องไปหาซื้อเองอีกต่างหาก ราคาตามท้องตลาด ก็ไม่ใช่ถูกๆ ส่วนใครที่โทรทัศน์ไม่มีพอร์ตต่อสาย HDMI ก็ขอให้ใช้สาย AV ไป ก็สามารถรับชมได้เช่นกัน แต่หากเป็นสาย HDMI คุณภาพของสัญญาณจะดีกว่า ชัดกว่า เพราะเป็นการส่งสัญญาณแบบดิจิตอลจริงๆ ไม่ใช่แบบอนาล็อก

ซึ่งจากที่เห็นด้านบนพบว่า เจ้ากล่องทีวีดิจิตอล MCOT HDBOX ตัวนี้มีขนาดที่เล็กมากๆ หากนึกไม่ออก ผมจึงนำมาเทียบกับโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ยอดฮิตของโลกอย่างไอโฟน 4 (iPhone 4) ซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ ขนาดมันก็น่าจะประมาณ ซัมซุง กาแล็คซี่ โน๊ต 3 (Samsung GalaxyNote 3) เห็นจะได้ สามารถพกไปไหนมาไหนได้สะดวก อย่าว่าโง้นงี้เลย ไปต่างจังหวัด เอาใส่กระเป๋ากางเกงไปยังได้เลย

ช่องเสียบสาย (พอร์ต) หลังกล่องทีวีดิจิตอล MCOT HDBOX มีอะไรบ้าง ?

ส่วนต่อไป ที่อยากให้ดูคือ ด้านหลังของกล่องทีวีดิจิตอล ตัวนี้ว่ามันมีพอร์ต อะไรยังไงติดมาให้เราได้ใช้สอยบ้าง เริ่มนับจากซ้ายไปขวาเลย คือ พอร์ตแรกคือ ANT IN ย่อมาจากคำว่า Antenna In หรือช่องต่อสายสัญญาณจาก เสารับสัญญาณทีวีดิจิตอล (เสาอากาศ) นั่นเอง

ช่องที่สอง คือในส่วนของช่อง RF Out ในคู่มือที่ให้มา ไม่ได้ระบุว่าเอาไว้ใช้ทำอะไร ซึ่งทางผมก็ไม่ได้ใช้มันด้วยเช่นกัน แต่คาดว่าเอาไว้ต่อสัญญาณกับโทรทัศน์รุ่นเก่ามากๆ ที่ไม่มีทั้งช่องพอร์ต AV และ HDMI หรือจะไปพ่วงกับเครื่องรับโทรทัศน์อีกเครื่อง เพื่อดูพร้อมกันก็ได้ และนอกจากนี้ อาจจะสามารถนำไปต่อกับเครื่องอัดวีดีโอได้อีกด้วยเช่นกัน

ช่องที่สาม คือ HDMI หรือที่ย่อมาจาก High Definition Multimedia Interface เอาไว้ใช้ต่อกับเครื่องรับโทรทัศน์ในปัจจุบัน เพื่อรับส่งสัญญาณได้ทั้งภาพและเสียง ที่เกือบร้อยทั้งร้อย มีพอร์ตนี้มาให้อยู่แล้วอย่างน้อย 1 พอร์ต แน่นอน พร้อมสาย HDMI ขนาดความยาว 1 เมตร

ช่องที่สี่ ช่องต่อ AV หรือที่ย่อมาจากคำว่า Audio Video นั่นเอง แต่บางคนเรียกมันว่า สาย RCA ย่อมาจากคำว่า “Radio Corporation of America” ส่วนใหญ่จากมาเป็นแพ็คทรีโอ้ 3 พอร์ต สำหรับ 3 สาย ได้แก่สีแดง (Right – สัญญาณเสียง) สีขาว (Left – สัญญาณเสียง) และ สีเหลือง (Video – สัญญาณภาพ)

ส่วนช่องสุดท้ายของกล่อง ที่ปรากฏอยู่ด้านขวาสุด ซึ่งเป็นรูเล็กๆ มีฉลากกำกับด้านบนคือ 5V = 1A คือ ช่องปลั๊กไฟเต้าเสียบ เพื่อไปเสียบกับปลั๊กไฟฟ้า AC 220V ผ่าน อะแดปเตอร์ แปลงไฟ จากไฟล์บ้านเข้ามาในกล่องรับสัญญาณ

พอร์ต USB ที่ให้มา เพื่อใช้ในการเสียบแฟลชไดร์ฟ สามารถเปิดดูหนัง เปิดไฟล์วีดีโอ (Video File) ฟังเพลง เปิดไฟล์เสียง (Audio File) และ ดูรูปภาพ (Image File) ได้ตามใจชอบ ซึ่งอยู่ในเมนูหลัก ที่มีชื่อว่า “USB” สามารถเรียกใช้งานได้เลยทันที

เริ่มต้นใช้งานกล่องทีวีดิจิตอล

หลังจากนั้นก็จัดแจง เสียบสายทั้งหมด 3 สายเข้ากับกล่องทีวีดิจิตอล MCOT ตัวนี้ทันที สำหรับพอร์ต หรือ ช่องเสียบที่ใช้บริการนั้นมีอยู่ 3 พอร์ต ด้วยกันคือ

1. ANT IN
2. HDMI
3. ช่องเสียบไฟ 5V = 1A (ช่องขวาสุด)

โทรทัศน์ผมมีช่องรับสัญญาณทั้ง 2 แบบคือแบบ HDMI และ AV หากใครมีทั้งสองช่องแบบนี้ ขอให้หยิบเอา HDMI มาใช้แบบไม่ต้องคิดมากเลย เพราะคุณภาพที่ได้มานั้น ดีกว่าเยอะ ทั้งภาพและเสียงเลยทีเดียว

หลังจากเสียบเข้าไปแล้ว ก็อย่าลืมปรับช่อง Input ที่เครื่องรับโทรทัศน์ไปเป็นช่องรับทางพอร์ต HDMI ด้วย พอเปิดเข้าไปปุ๊บ เมนูแรก มันขะขึ้นมาให้เราได้ตั้งค่าภาษาก่อนเลย โดยเฟิร์มแวร์ ที่ติดมากับกล่องตัวนี้ มีให้เลือกเพียงแค่ 2 ภาษาเท่านั้น นั่นคือ ภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ เท่านั้น โดยตั้งต้นเลือกมาให้เป็นภาษาไทยอยู่แล้ว

ซึ่งการใช้งานสามารถ ควบคุมได้จาก รีโมทคอนโทรล ได้เลย แต่อย่าลืมวางกล่องเอาไว้ให้ตรงตำแหน่งเดียวกับทีวีนะ เช่นวางไว้ข้างบนเครื่องโทรทัศน์ (ทีวี) หรือวางไว้ข้างใต้ทีวี เพราะถ้าวางห่างๆ หรือวางข้างๆ จากทีวีแล้ว จะชอบชี้รีโมทไปที่ทีวีอยู่เลย กดเท่าไหร่ก็ไม่ติด เพราะคนละทิศคนละทางกัน คิดว่าหลายคนคงเป็น

เมื่อเลือกภาษาเสร็จแล้ว ก็กดไปเพื่อทำการค้นหาช่องได้เลยทันที ซึ่งก็จะใช้เวลาสักแป้บนึง จะกินเวลาอยู่ที่ ประมาณ 3-5 นาที เพื่อทำการค้นหาช่องสัญญาณ ที่มีอยู่ทั้งหมด ซึ่งหลักการตรงนี้ก็จะเหมือนกับ โทรทัศน์ในระบบเก่าอย่าง อนาล็อก (Analog) ที่จะต้องมีการค้นหาช่องสัญญาณ และบันทึกจดจำเอาไว้ด้วยเช่นกัน

เปรียบเทียบภาพ ระหว่างสัญญาณโทรทัศน์ธรรมดา กับ สัญญาณกับกล่องทีวีดิจิตอล

หลังจากที่ค้นหาช่องสัญญาณเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถือเวลามาดูผลงานกันแล้วละ แต่สิ่งนึงที่ผมทึ่งมากๆ เลยก็คือไม่คิดว่าเสารับสัญญาณขนาดเล็กๆ แบบนี้มันจะสามารถรับสัญญาณได้คมชัดแจ๋วได้ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่เสาก็วางอยู่ในห้องพัก ไม่ได้เอาออกไปวางนอกชาน นอกระเบียง เลยแต่อย่างใด ภาพที่ออกมาแตกต่างกันมากๆ ซึ่งในที่นี้ จะไม่ขอพูดถึงจำนวนช่องที่มี เพราะจำนวนช่อง ต่างๆ จะมีการอัพเดทอยู่ตลอดเวลา

จากภาพด้านบนแสดงให้เห็นว่า การที่จะเป็นภาพความคมชัดระดับ HD (1080p) ได้นั้น อุปกรณ์ทุกอย่าง จะต้องรองรับเช่นกัน เริ่มตั้งแต่กล้องถ่าย อุปกรณ์ตัดต่อสัญญาณ อุปกรณ์ส่งสัญญาณ และ อุปกรณ์รับสัญญาณ ซึ่งภาพด้านซ้ายแสดงให้เห็นว่า อุปกรณ์บันทึกภาพของผู้สื่อข่าว ยังไม่ได้รองรับ จึงเห็นขอบด้านซ้ายและขวาปรากฏอยู่ แต่พอภาพตัดกลับมาที่ห้องส่ง จะสังเกตุเห็นว่าภาพเต็มจอ และไม่มีขอบเหลือด้านซ้ายและขวา ขึ้นมาแต่อย่างใด เนื่องจากอุปกรณ์ในห้องส่งนั้นรองรับ เต็มรูปแบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ต่อกับฮาร์ดดิสก์ภายนอก หรือ ฮาร์ดดิสก์พกพา (External HDD) ได้หรือไม่ ? (เพิ่มเติม)

เป็นอีกคำถามที่หลายคนมาถาม หลังจากเขียนรีวิวฉบับนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งยอมรับขณะทดสอบตอนแรก ไม่ได้ทดสอบนำเอาฮาร์ดดิสก์ภายนอก (External Harddisk) มาทดสอบกับพอร์ต USB ด้วย เพราะแน่นอนว่าหากใช้กับแฟลชไดร์ฟ (USB Flash Drive) นั้นสามารถใช้ได้แน่นอน แต่มีอีกอุปกรณ์จัดเก็บนึงที่ก็ใช้พอร์ต USB เหมือนกันคือ ฮาร์ดดิสก์ภายนอก ว่าจะใชได้หรือเปล่า เพราะว่าจะมีการกินไฟที่เยอะกว่าแฟลชไดร์ฟ

สุดท้ายก็เลยมาลองเอาฮาร์ดดิสก์ภายนอก มาเสียบเข้ากับพอร์ต USB ที่อยู่หน้า กล่องทีวีดิจิตอล MCOT ดูตามรูปประกอบด้านล่าง ซึ่งฮาร์ดดิสก์ภายนอก ที่นำมาทดสอบนั้นเป็นยี่ห้อ Buffalo MiniStation รุ่น HD-PNTU3 ขนาดความจุ 1 GB. ซึ่งรองรับพอร์ต USB3.0 มาเสียบใช้ดู

เมื่อเสียบแล้วก็พบว่า ไฟที่ฮาร์ดดิสก์ก็แสดงขึ้นมา และสามารถอ่านค่าข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่ภายในได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ ซึ่งมันจะมีเมนูหลักขึ้นมาให้เลือกก่อนว่าจะเลือกเปิดไฟล์แบบ ภาพยนตร์ เพลง รูปภาพ เป็นต้น เมื่อเลือกแล้ว ก็จะเข้ามาพบกับรายการแสดง โฟลเดอร์ และ ไฟล์ ต่างๆ ที่อยู่ภายในฮาร์ดดิสก์ หากต้องการเล่นคลิป เปิดรูป หรือ ฟังเพลง ก็สามารถที่จะกดปุ่มเล่น (ปุ่ม “Play”) ได้เลยทันที โดยจะแสดงตัวอย่างด้านขวา หากต้องการเปิดแบบเต็มจอ ก็สามารถกดที่ปุ่มแดงในรีโมทคอนโทรลได้เลย

จากการทดสอบเปิดคลิปวีดีโอ ก็พบว่าการอ่านเป็นไปได้อย่างราบรื่น ไม่มีกระตุก ติดขัด หรือสัญญาณหายไปแต่อย่างใด มีความคมชัดมากๆ ทั้งภาพและเสียง

เสารับสัญญาณ Digital TV ของ Createch รุ่น AT-1

อุปกรณ์อีกตัวหนึ่งที่ไม่สามารถขาดได้เลยก็คือ เสารับสัญญาณ หรือที่เราส่วนใหญ่จะเรียกว่า เสาอากาศ นั่นเอง มันเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญมากๆ กับการรับชมทีวีดิจิตอล นี้ซึ่งเจ้าเสานี้ ผมซื้อมาในราคา 359.00 บาท พร้อมกับกล่องทีวีดิจิตอล จากร้านสะดวกซื้ออย่าง เซเว่นอีเลฟเว่น แต่คาดว่าในอนาคตคาดว่าราคาน่าจะต่ำลง อย่างแน่นอน

ส่วนของที่ให้มาในกล่องนั้นก็มีแท่นวาง ที่เป็นแม่เหล็กด้านล่าง ถ้าวางบนวัสดุที่เป็นเหล็ก ก็จะดูดยึดติดแน่เลยทีเดียว พร้อมเสา และ แหวนรองพลาสติกเล็กๆ เอาไว้รองระหว่างแท่นยึด กับ ตัวเสา พร้อมสายสัญญาณที่มีความยาวค่อนข้างจะยาวอยู่พอสมควร ประมาณ 3.5 – 4.0 เมตร คำแนะนำคือ ควรจะวางเสาสัญญาณให้อยู่ในตำแหน่งที่ไม่ใช่มุมอับ และสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้

(เสาอากาศ สามารถวางภายในห้องนอน หรือในอาคารได้ โดยไม่ต้องไปออกไปวางนอกบ้าน หรือ ตรงระเบียง)

ข้อมูลจำเพาะของเสารับสัญญาณ

• ช่วงความถี่ : UHF 470 – 862 MHz
• อินพีแดนซ์ : 75Ω (โอม)
• รูปแบบการรับข้อมูล : แนวตั้ง
• ไฟฟ้ากระแสตรง (DC) : 5V
• สี : ดำ
• วัสดุ : พลาสติก ABS
• แม่เหล็กที่แท่นยึด : มี

บทสรุปของ กล่องทีวีดิจิตอล MCOT HDBOX รุ่น View

สรุปคือ ส่วนตัวผมค่อนข้างพอใจ ในความคมชัด ที่ดูฟรี โดยไม่ต้องเสียเงินกับเคเบิลทีวี จ่ายเหมารายเดือน ในอาคารสูง อย่าง หอพัก อพาร์ทเม้นท์ หรือแม้แต่ คอนโดมิเนียม เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ขอสรุปข้อดี และ ข้อเสีย ของการดูทีวีดิจิตอล มาเป็นข้อๆ กันตรงนี้เลยดีกว่า

ข้อดี 🙂

• ภาพสัญญาณคมชัดแจ๋ว ไม่มีเบลอ ไม่มีมัว ไม่มีลายเส้น ขณะรับชมดู
• กล่องรับสัญญาณ หรือ กล่องทีวีดิจิตอล มีพอร์ตให้เลือกหลายพอร์ต ทำให้ดูกับโทรทัศน์ได้ทุกประเภท ทั้งรุ่นเก่าดึกดําบรรพ์ มาจนถึงรุ่นใหม่ล่าสุด
• สามารถติดตั้งได้เอง โดยไม่ต้องไปติดจานดาวเทียม หรือ เสาอากาศรับสัญญาณนอกบ้าน ยุ่งกับโครงสร้างอาคารภายนอก ให้ลำบาก และต้องเสียเวลานัดช่างมาติดตั้ง มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
• จำนวนช่องสามารถเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ
• มีช่องพอร์ต USB ให้สามารถ เปิดไฟล์หนัง (Video) ไฟล์เพลง (Audio) หรือแม้แต่ ไฟล์รูปภาพ (Image) ได้
• สามารถเปิดไฟล์หนัง ไฟล์เพลง รูปภาพ จากฮาร์ดดิสก์ภายนอก หรือ พกพา (External Harddisk) ได้ อย่างไม่มีปัญหา
• เฟิร์มแวร์ สามารถอัพเดทได้
• ไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน

ข้อเสีย 🙁

• ต้องเสียเงินซื้อกล่อง พร้อมเสาอากาศ (ถ้าจำเป็นต้องใช้)
• การเปลี่ยนช่อง ระหว่างช่องนึงไปยังอีกช่องนึง มีเวลาหน่วงสักเล็กน้อย
• วัสดุของกล่องไม่ค่อยแข็งแรง แต่ถ้าวางอยู่ในที่ที่ไม่เสี่ยงต่อการตกหล่น ก็ไม่มีปัญหาอะไร

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงแค่ประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ จากการทดลองดูทีวีดิจิตอล ที่เราอาจจะเคยได้ยินบริการนี้ตามข่าวกันมานาน ตั้งแต่แนวคิด โครงการ เปิดซองประมูล วันประมูล ผู้ชนะประมูล และอื่นๆ อีกมากมาย จนมาถึงวันนี้ ฝันของพวกเรา คนไทยทุกคนเป็นจริงแล้ว ก็ขอให้กอบโกยประโยชน์จากมันให้ได้มากที่สุด ดูโทรทัศน์ดีๆ มีสาระ สอนลูกหลาน ให้แต่ความรู้ที่เป็นประโยชน์ สร้างสรรค์ เพื่อที่จะได้เป็นคนดีของประเทศชาติสืบต่อไป