หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Mister Robot LASER Max

รีวิวฉบับนี้เป็นรีวิวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น จากค่าย Mister Robot อีก 1 ตัว โดยรุ่นนี้มีชื่อเต็มๆ ว่า Mister Robot LASER Max จัดเป็นหุ่นยนต์ที่ “อยู่นอกตระกูล Hybrid” แต่มีความสามารถต่างๆ ที่โดดเด่นอยู่มากมาย โดยจุดเด่นที่สำคัญมากๆ ของเครื่องนี้เลยก็คือ แม้ว่าตัวเครื่องนี้รูปทรง และหน้าตาของมันจะดูเป็น หุ่นยนต์ดูดฝุ่น (Robot Vacuum Cleaner) ตามที่เราเห็น และเข้าใจ แต่ว่าจริงๆ แล้วมันสามารถที่จะเปลี่ยนเป็น หุ่นยนต์ถูพื้นแบบเปียก (Wet Floor Mopping Robot) อย่างเดียวได้แบบชนิดที่เรียกว่า “จำลองการถูพื้นที่เหมือนคนถูจริงๆ”

โดยการถูพื้นแบบเปียกนี้ น้ำจะถูกปล่อยลงพื้น จากถังน้ำขนาดความจุ 500 มิลลิลิตร (หรือ 0.5 ลิตร) ซึ่งถือเป็น “ถังน้ำขนาดใหญ่ที่สุด” ตั้งแต่เคยรีวิวมาเลยก็ได้ นอกจากนี้แล้ว เครื่องนี้ยังมาพร้อมกับ แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน (Li-Ion) ที่ขนาดความจุที่มากถึง 5,000 มิลลิแอมป์ (mAh) สามารถทำงานต่อเนื่องได้สูงสุด 2 ชั่วโมงครึ่ง

นอกจากนี้แล้วมันก็ยัง มีความสามารถในการควบคุมผ่านสมาร์ทโฟน ด้วยแอปพลิเคชันที่มีความสามารถเต็มมากๆ สามารถที่ใช้ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android สำหรับความสามารถอื่นๆ สามารถกดดูได้จากลิงค์ของเมนูลัด ด้านล่างนี้ได้เลย

1. รู้จักกับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น แบรนด์ Mister Robot
2. แกะกล่องผลิตภัณฑ์
3. อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องผลิตภัณฑ์
4. ข้อมูลจำเพาะ ข้อมูลทางเทคนิค ของเครื่อง
5. คุณสมบัติ และ ความสามารถของตัวเครื่อง
6. สำรวจรอบๆ ตัวเครื่อง
7. เตรียมเครื่อง และเปิดใช้งานจริง
8. คุณสมบัติ และความสามารถของตัวแอปพลิเคชัน LASER Max
9. คำถามที่คุณต้องอยากรู้ (FAQs) เกี่ยวกับการใช้งาน
10. บทสรุปหลังการใช้งาน ข้อดี ข้อเสีย

ด้านล่างนี้เป็นรีวิวความสามารถของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Mister Robot LASER MAX ใครที่พอมีเวลา ลองเปิดดูคลิปนี้ก่อนที่จะอ่านบทความ จะทำให้เข้าใจง่าย และเร็วยิ่งขึ้น

รู้จักกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่น แบรนด์ Mister Robot

คุณสามารถทำความรู้จักกับ ประวัติที่มาที่ไปของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot ให้มากกว่านี้ พร้อมรายละเอียดติดต่อ สถานที่สั่งซื้อ ฯลฯ ได้ที่ลิงค์เชื่อมต่อไปยังหน้ารายละเอียดด้านล่างนี้เลย

⇒ ทำความรู้จักกับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot

แกะกล่องผลิตภัณฑ์ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Mister Robot LASER Max

ตัวกล่องผลิตภัณฑ์มาในขนาดที่เล็กกระทัดรัด โดยกล่องมีขนาดมิติ (Dimension) อยู่ที่ ยาว (L) 410 x กว้าง (W) 130 x สูง (H) 463 มิลลิเมตร (วัดเองด้วยตลับเมตร) และมี น้ำหนักสินค้ารวมกล่อง (Gross Weight) อยู่ที่ประมาณ 5.9 กิโลกรัม (ชั่งเองด้วยเครื่องชั่งน้ําหนักดิจิตอล) เท่านั้น สีกล่องจะเน้นใช้ใช้โทนสีขาว ดำ และเงิน เป็นหลัก

ด้านหน้ากล่อง : มีโลโก้ผลิตภัณฑ์ Mister Robot อยู่ที่มุมขวาบน และคิวอาร์โค้ดที่เมื่อสแกนแล้วจะเข้าไปที่เว็บไซต์ของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ (www.misterrobotcleaner.com) พร้อมกับรูปตัวเครื่องอยู่ตรงกลางใหญ่ๆ เด่นๆ บอกความสามารถของระบบการสร้างแผนที่แบบ 3 มิติ (3D Mapping System) และการเลือกทำความสะอาดเฉพาะพื้นที่ (Select Area) ได้ ส่วนมุมขวาล่างเขียนชื่อรุ่นคือ “LASER MAX” นั่นเอง

ด้านหลังกล่อง : หลักๆ เหมือนด้านหน้ากล่อง มีรูปแนวเฉียงของตัวเครื่อง โดยมีโลโก้รองรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ผ่านเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi อยู่ที่มุมขวาบน

ด้านซ้ายกล่อง : รูปภาพกราฟิก พร้อมคำบรรยายสั้นๆ ข้างล่างบอกความสามารถของตัวเครื่องหลักๆ ทั้งหมด 6 อย่าง อาทิ การทำความสะอาดแบบ Mapping เทคโนโลยีล้ำสมัยของถังน้ำอัจฉริยะ การควบคุมสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟน เป็นต้น (คุณสมบัติและความสามารถเครื่องเพิ่มเติม)

ด้านขวากล่อง : ส่วนบนมีรูปมุมมองด้านบนของตัวเครื่อง ถัดลงมาเป็นตาราง ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค ของตัวเครื่องพอสังเขป และมีโลโก้รับรองอยู่ 2 ตัวคือ โลโก้ RoHS ผ่านกฏระเบียบและมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม เน้นไปที่การนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ของวัสดุที่ใช้ผลิต และ โลโก้ CE คือ สินค้าที่มีคุณสมบัติตามมาตรฐานด้าน สุขภาพ ความปลอดภัย และกฎหมายการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ของยุโรป

อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องผลิตภัณฑ์ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Mister Robot Hybrid LASER MAX

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Mister Robot LASER MAX เครื่องนี้มีอุปกรณ์มาให้ทั้งหมด 8 อย่างหลักๆ ด้วยกัน ซึ่งก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย ลองมาดูกันทีละชิ้นเลยดีกว่า

1. Mister Robot LASER MAX (หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น x 1 เครื่อง)

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทรงกลม (Round Shape Robot Vacuum Cleaner) สีขาว มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง (Diameter) อยู่ที่ 350 มิลลิเมตร (หรือ 35 เซนติเมตร) และความสูงอยู่ที่ 94.5 มิลลิเมตร (หรือ 9.45 เซนติเมตร) และมีน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 3.27 กิโลกรัม ก็ถือว่าไม่หนัก ไม่เบา เท่าไหร่นัก กับเครื่องที่มีแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน ขนาดความจุ 5,000 มิลลิแอมป์ อยู่ด้านใน

ในขณะที่ด้านบนของตัวเครื่องจะมี โดมกลมๆ ยื่นออกมา ซึ่งโดมนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของ ระบบการนำทางด้วยเลเซอร์ ภายในจะมีเซ็นเซอร์วัดระยะทางด้วยเลเซอร์ หรือ เซ็นเซอร์ LiDAR ที่จะคอยหมุนติ้วอยู่ตลอดระยะเวลาที่เครื่องทำงาน

2. Charge Base (แท่นชาร์จ x 1 ชุด)

แท่นชาร์จขนาดเล็ก ที่มีจุดชาร์จไฟ เป็นแถบโลหะสีเงินทั้ง 2 แถบ (ความกว้างแถบละ 10 เซนติเมตร) มีหน้าที่เอาไว้จ่ายพลังงานเข้าสู่ตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ติดตั้งอยู่ที่ด้านหน้า ซึ่งก็มีข้อดีคือ ช่วยลดปัญหาเรื่องของฝุ่นละอองสำหรับแท่นชาร์จที่มีขั้วชาร์จไฟอยู่ด้านล่างบางครั้งอาจจะทำให้ชาร์จไฟไม่เข้าได้

ที่ด้านล่างของแท่นชาร์จ หากเปิดฝาครอบออกมาก็จะพบกับพื้นที่เก็บสายไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้สายไฟไปวางระเกะระกะรอบๆ แท่นชาร์จ รบกวนการทำงานของตัวเครื่องที่อาจจะเข้าไปวิ่งติดสายไฟเสียเอง

3. Adapter Set (ชุดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ x 1 ชุด)

ชุดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ ที่มาพร้อมกับสายไฟ* ความยาว 1.5 เมตร จัดเป็นอุปกรณ์มีที่มีหน้าที่แปลงไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Power) จากไฟบ้าน ไปเป็นไฟฟ้ากระแสตรง (DC Power) ที่ใช้ภายในตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ไฟตัวนี้รองรับแรงดันไฟฟ้าตั้งแต่ 100 ถึง 240 โวลต์ (V) นั่นหมายความว่า สามารถนำไปใช้ได้ในทุกประเทศทั่วโลกเลยทีเดียว

โดยหลังจากที่แปลงแล้ว มันจะจ่ายไฟด้วยแรงดันไฟฟ้า 20 โวลต์ (V) และกระแสไฟฟ้า 1.8 แอมป์ (A) ออกไปยังแท่นชาร์จทันที

หมายเหตุ* : สายไฟของชุดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟตัวนี้ ถือว่ามีความเหนียว และหนา กว่าชุดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ ของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นในหลายรุ่น หลายยี่ห้ออยู่พอสมควรเลยทีเดียว ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี

4. Side Brush (แปรงกวาดข้าง x 2 ชุด = 2 แปรง)

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเครื่องนี้ ให้แปรงกวาดข้างมาทั้งหมด 2 ชุด (รวมทั้งสิ้น 2 แปรง) นั่นหมายความว่าเครื่องนี้สามารถติดตั้งแปรงกวาดข้างได้แค่ฝั่งเดียวเท่านั้น นั่นคือติดตั้ง “เฉพาะฝั่งขวาของตัวเครื่อง” เท่านั้น สาเหตุเนื่องมาจากเครื่องนี้ถูกโปรแกรมให้วิ่งทำงานชิดขอบกำแพงทางฝั่งขวาตลอด จึงมีความต้องการใช้แปรงกวาดข้างแค่ข้างเดียวก็พอ

โดยตัวแปรง เป็นแปรงสีขาวมี 3 แฉก แต่ละแฉกมีขนแปรงยาวประมาณ 4.5 เซนติเมตร (ถ้ารวมก้านด้วยจะยาวประมาณ 6.5 เซนติเมตร)

5. Water Tank (ถังน้ำ x 1 ถัง)

ถังน้ำพลาสติกขนาดความจุ 0.5 ลิตร (หรือ 500 มิลลิลิตร) แบบทึบ มีรูปทรงเดียวกับ กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (เพราะมันใส่แทนที่กัน) มีฝาเปิดเติมน้ำเป็นยางอุดอยู่ด้านบน ภายมีมีปั๊มน้ำ หรือปั๊มลม ที่จะคอยช่วยปล่อยน้ำออกจากถังให้มีความสม่ำเสมอคงที่ แถมยังควบคุมปริมาณน้ำที่จะปล่อยลงพื้นผ่านแอปพลิเคชันได้ 3 ระดับอีกด้วย ว่าจะปล่อยน้ำมาก ปานกลาง หรือน้อย

6. Spare HEPA Filter (แผ่นกรองอากาศ HEPA ชุดสำรอง x 1 แผ่น)

แผ่นเยื่อกระดาษทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีขาว มีขนาดมิติ (ไม่รวมกรอบพลาสติกใส) อยู่ที่ ยาว (L) 128 x กว้าง (W) 42 x สูง (H) 9 มิลลิเมตร เป็น แผ่นกรองอากาศ HEPA  โดยแผ่นนี้มีหน้าที่ดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กมากๆ ที่ถูกดูดเข้ามาในตัวเครื่อง เป็นชั้นที่ 2 ต่อจากแผ่นกรองอากาศชั้นต้น (Pre Filter) ที่เป็นแผ่นตาข่ายขนาดเล็ก เพื่อดักจับฝุ่นชนาดใหญ่ เพื่อไม่ให้หลุดลอดออกไปข้างนอกอีกครั้งได้นั่นเอง

โดยทาง Mister Robot เขาได้ให้ แผ่นกรองอากาศ HEPA มาทั้งหมด 2 ชุดด้วยกัน แผ่นนึงติดตั้งอยู่ภายในกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

7. และ 8. Microfiber Cloth and Plate (ผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ x 1 ผืน และแผ่นติด x 1 ชุด)

เครื่องนี้มีผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ และ แผ่นติด (Plate) มาให้อย่างละชุด เพื่อใช้ในการปล่อยซึมน้ำ จากถังน้ำขนาดความจุ 0.5 ลิตร ลงสู่พื้นนั่นเอง โดยที่ตัวผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์นั้นมีขนาดพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ แถมยังมีเนื้อผ้า 2 รูปแบบ คือแบบผิวหยาบ กับแบบผิวเรียบ เพื่อการถูพื้น ขจัดคราบฝังพื้นต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยที่ชุดแผ่นติด (Microfiber Cloth Plate) สามารถถอดเข้าถอดออกได้ด้วยการบีบสลักสีน้ำเงินด้านหลังเข้าหากัน แล้วดึงออกมาได้เลย การใส่กลับก็ดันเข้าไปง่ายๆ เช่นกัน

ข้อมูลจำเพาะ ข้อมูลทางเทคนิค ของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Mister Robot LASER Max

คุณสมบัติ และ ความสามารถ ของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Mister Robot LASER Max

คุณสมบัติ และความสามารถ ที่เห็นอยู่ด้านล่างนี้ ได้ถูกคัดมาเฉพาะจุดที่โดดเด่นกว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวอื่นๆ เท่านั้น เพราะในความเป็นจริงแล้ว ความสามารถพื้นฐานอื่นๆ อย่างเช่น การวิ่งกลับเข้าแท่นชาร์จเอง การตั้งเวลาทำความสะอาดอัตโนมัติ รวมไปถึง การป้องกันการชนสิ่งกีดขวาง หรือแม้แต่การตกจากที่สูง (ตกบันได) ก็มีมาให้อย่างเพรียบพร้อมอยู่แล้ว ซึ่งไม่ได้กลาวถึงในที่นี้ ลองมาดูกันเลยว่ามีอะไร จุดไหนน่าสนใจบ้าง

1. Laser-Guided Navigation System (ระบบการนำทางด้วยเลเซอร์)

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเครื่องนี้ จัดเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจากค่าย Mister Robot ตัวที่ 2 ต่อจาก Mister Robot Hybrid LASER Map ที่ใช้เทคโนโลยีระบบการนำทางด้วยเลเซอร์ (Laser-Guided Navigation System) ที่เราจะสามารถสังเกตหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่นำทางด้วยเลเซอร์นี้ได้ง่ายๆ จากโดมกลมๆ ที่ยื่นออกมาจากด้านบนของตัวเครื่อง ถึงแม้ว่ามันจะทำให้เครื่องมีความสูงที่มากขึ้น แต่ประสิทธิภาพที่ได้กลับมานั้นถือว่าเกินคุ้มจริงๆ เพราะว่าระบบนี้ ถือเป็นระบบการนำทางของ หุ่นยนต์ทำความสะอาด ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลกในขณะนี้เลยก็ว่าได้

โดยภายนอกโดมนี้จริงๆ แล้ว มันเป็นเพียงแค่ฝาครอบพลาสติกธรรมดาเท่านั้น แต่ว่าภายในมีเซ็นเซอร์ที่เรียกว่า “LiDAR” ย่อมาจาคำว่า “Light Detection and Ranging” หลักการของมันก็คือ ตัวเซ็นเซอร์นี้จะหมุนติ้ว 360 องศา ในขณะเดียวกัน ก็จะยิงแสงเลเซอร์ (ที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น) ออกไปรอบๆ เพื่อให้ไปตกกระทบกับวัตถุที่อยู่รอบๆ ตัวของมัน ก่อนที่จะสะท้อนกลับมา เพื่อคำนวณหาระยะห่าง และนำไปประมวลผลในการสร้างแผนที่จะลอง เพื่อคำนวณเส้นทางการวิ่งทำความสะอาดของหุ่นยนต์เป็นลำดับต่อไป

2. Two-in-One Vacuum and Wet Mopping Robot (ดูดฝุ่น และ ถูพื้นแบบเปียก ได้ในเครื่องเดียว)

ถึงแม้ว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเครื่องนี้ จะมีความสามารถของการถูพื้นแบบเปียก (Wet Mopping) เหมือนกับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอีกหลายๆ ตัวที่อยู่ในท้องตลาด แต่ว่าตัวนี้มันมีคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่าตัวอื่นๆ อีก 2 อย่างนั่นก็คือ

1. Extra Large Water Tank (ถังน้ำขนาดใหญ่พิเศษ) : ถังน้ำความจุ 0.5 ลิตร ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยรีวิวมา
2. Human-Simulated Mopping (จำลองการถูพื้นที่เหมือนคนถูจริงๆ) : มีการถูขึ้น ถูลง เพื่อขจัดคราบให้หมด

แต่คุณสมบัติทั้ง 2 อย่างที่กล่าวมาด้านบนนี้ ก็จะต้องแลกมาด้วยความสามารถของการดูดฝุ่น และถูพื้น ที่สามารถ “ทำได้ทีละอย่างเท่านั้น” นั่นหมายความว่าจะดูดฝุ่นก็ต้องดูดฝุ่นอย่างเดียว หรือจะถูพื้นก็ต้องถูพื้นอย่างเดียว จะไม่สามารถดูดฝุ่น และถูพื้นไปพร้อมๆ กันได้

3. Extra Large Lithium-Ion Battery (แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน ความจุมากเป็นพิเศษ)

เครื่องนี้ใช้ แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน (Li-Ion หรือ Lithium-Ion) ที่มีขนาดความจุมากถึง 5,000 มิลลิแอมป์ (mAh) เป็นขุมพลังในการจ่ายไฟ ทำให้มันมีความสามารถทำความสะอาดพื้นได้ต่อเนื่องสูงสุด 100 ถึง 150 นาที หรือประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งกันเลยทีเดียว ไม่ว่าห้อง หรือพื้นที่บ้าน จะมีขนาดเล็ก หรือใหญ่ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเครื่องนี้ ก็สามารถทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึงอย่างแน่นอน หายห่วง

โดยคุณสมบัติพื้นฐานของแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน นั้นหลักๆ ก็จะเป็นในเรื่องของการจ่ายไฟที่แรง และคงที่ ตลอดระยะเวลาการทำงาน ไฟไม่มีตก หรืออ่อนกำลังลงเลยแม้ในขณะที่แบตเตอรี่ใกล้จะหมด เหมือนกับแบตเตอรี่ชนิดเก่าๆ ที่เวลาไฟใกล้หมด ก็จะส่งผลทำให้การทำงานเช่น มอเตอร์พัดลมดูดฝุ่น หรือมอเตอร์ขับเคลื่อนต่างๆ ของเครื่องใชไฟฟ้านั้นๆ อ่อนกำลังตามลงไปด้วย

แถมยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานอีกด้วย ถ้ามีการดูแลรักษาที่ถูกวิธี เช่น อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่ไฟหมดเกลี้ยง อย่าเก็บในที่ที่มีอุณหภูมิ และความชื้นสูง (อากาศร้อน)

4. Adjustable Suction Power (ปรับระดับพลังดูดฝุ่นได้ตามต้องการ)

เครื่องนี้มีความสามารถในการปรับระดับพลังดูดฝุ่นได้มากถึง 3 ระดับ คือ โหมดประหยัดพลังงาน (ECO Mode) โหมดธรรมดา (Normal Mode) และ โหมดเทอร์โบ (Turbo Mode) เอาไว้ให้คุณได้เลือกปรับใช้ได้ตามสถานการณ์ เพราะการดูดแรง เป็นสิ่งที่ดีเพราะห้องสะอาด แต่ก็ต้องแลกมาด้วยเสียงรบกวนที่ค่อนข้างดัง และเปลืองแบตเตอรี่ (อาจจะดูดได้ไม่นานนัก) แต่ถ้าใช้ทุกวัน โหมดประหยัดพลังงาน ก็น่าจะเพียงพอแล้ว เพราะเสียงเงียบกว่า

5. Smartphone Control with Limit Cleaning Area Function (ควบคุม และสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟน พร้อมฟังก์ชั่น กำหนดขอบเขตพื้นที่การทำความสะอาด)

เครื่องนี้มีความสามารถของการควบคุม และสั่งงานผ่านแอปพลิเคชัน ที่ถูกติดตั้งลงบนสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ผ่านเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi ได้จากทุกที่ทั่วโลก (ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต) โดยมัน มาพร้อมกับ คุณสมบัติ และความสามารถ ของแอป ที่มากมายเหลือเกิน (มากเป็นอันดับต้นๆ จากหุ่นยนต์ดูดฝุ่นต่างๆ ที่ได้เคยรีวิวมา)

นอกจากนี้แล้ว เครื่องนี้ยังมีฟังก์ชั่นการกำหนดขอบเขตการทำความสะอาด (“Room Selection” หรือ “Limit Cleaning Area”) โดยความสามารถนี้ เราจะต้องให้เครื่องวิ่งทำความสะอาดให้ครบทั่วทั้งพื้นที่เสียก่อน เพื่อให้มันรู้จัก และสร้างแผนที่การทำความสะอาดขึ้นมาก่อนนั่นเอง

และหลังจากนี้ เราก็จะสามารถเลือกได้ว่า จะให้ตัวเครื่องนี้ทำความสะอาดในห้องไหน เช่น ทำความสะอาดเฉพาะห้องนอนใหญ่ โดยพอเราเปิดเครื่องปุ๊บเครื่องจะตรงดิ่งไปทำความสะอาดที่ห้องนั้น โดยที่ไม่แวะห้องอื่นเลย และเมื่อเสร็จก็ตรงดิ่งกลับแท่นชาร์จโดยทันทีเช่นกัน ซึ่งในแอปฯ ตัวนี้มันมีความสามารถในการแบ่งพื้นที่การทำความสะอาดได้สูงสุดถึง 5 ห้องเลยทีเดียว

อ่านต่อหน้า 2 (Next Page) →