Mister Robot LASER Max หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่แยกเป็น หุ่นยนต์ถูพื้นอย่างเดียวได้

← กลับไปอ่านหน้า 1 (Previous Page)

สำรวจรอบๆ ตัวเครื่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Mister Robot LASER MAX

มาดูส่วนประกอบของตัวเครื่องในแต่ละส่วนกันว่า มีหน้าที่อะไร และสามารถทำอะไรได้บ้าง โดยเนื้อหาจะเป็นภาพประกอบพร้อมคำบรรยายพอสังเขป ในที่นี้ขอนำเสนอเป็น 3 หัวข้อหลักๆ ได้แก่

1. ส่วนประกอบด้านบน และด้านข้าง
2. ส่วนประกอบด้านล่าง
3. ส่วนประกอบของ กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง และถังน้ำ

Top and Side Components (ส่วนประกอบด้านบน และด้านข้าง)

1. Speaker (ลำโพง) : ลักษณะเหมือนช่องระบายอากาศ แต่อยู่คนละข้าง ใช้ปล่อยเสียงพูด และเสียงแจ้งเตือน
2. Air Ventilation (ช่องระบายอากาศ) : ปล่อยอากาศที่ถูกดูดเข้ามาพร้อมฝุ่น และกรองแล้ว ออกมาทางช่องนี้
3. Charge Pins (จุดสัมผัสแท่นชาร์จ) : แถบโลหะสีเงินขนาด 2 แถบรับไฟจากแท่นชาร์จ เข้ามาเก็บในตัวเครื่อง
4. LiDAR Sensor Cover (ฝาครอบเซ็นเซอร์ LiDAR หรือเซ็นเซอร์วัดระยะทางด้วยเลเซอร์) : ใช้ป้องกันความเสียหายให้กับเซ็นเซอร์ LiDAR ที่จะต้องหมุนอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่เครื่องกำลังทำงาน เพื่อสร้างแผนที่จำลอง
5. Dustbin Cover (ฝาปิดกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง) : สามารถยกเปิดขึ้นมาได้ เพื่อนำกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ที่อยู่ด้านในออกมา และยังมี เครื่องมือทำความสะอาดอเนกประสงค์ ที่อยู่ด้านในอีกด้วยเช่นกัน
6. HOME Button (ปุ่มสั่งให้เครื่องกลับแท่นชาร์จ) : เครื่องจะวิ่งกลับแท่นชาร์จทันที ที่กดปุ่มนี้
7. POWER Button (ปุ่มเปิดปิดเครื่อง) : ปุ่มนี้จะอยู่คู่กับ “ปุ่ม HOME” แต่อยู่ส่วนล่าง โดยมันมีหลายสถานะเช่น
   1. When Power Off (เมื่อเครื่องปิดอยู่) : ปุ่มสั่งให้เครื่องเปิดทำงาน (ปลุกเครื่องให้ตื่น และพร้อมใช้งาน)
   2. When Power On (เมื่อเครื่องเปิดอยู่) : กด 1 ครั้งเพื่อให้เครื่องเริ่มทำความสะอาดในโหมดอัตโนมัติ
   3. When Working (ขณะที่เครื่องกำลังทำงานอยู่) : กด 1 ครั้งเพื่อหยุดการทำงานชั่วคราว (Pause)
   4. Press and Hold (กดและค้างเอาไว้) : ปิดเครื่องทันที (ใช้ในกรณีที่จะไม่ใช้เครื่องเป็นเวลานานๆ)
8. Front Bumper (กันชนหน้า) : ป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างตัวเครื่อง กับข้าวของภายในบ้าน

Underside Component (ส่วนประกอบด้านล่าง)

1. Floor Sensor (เซ็นเซอร์ป้องกันการตกหล่น) : มี 3 จุดป้องกันเครื่องวิ่งตกบันได้ หรือตกจากที่สูง
2. Front Caster Wheel (ล้อเลื่อนรับน้ำหนักด้านหน้า) : ล้อพลาสติกสีดำ อยู่ด้านหน้าสุด หมุนได้ 360 องศา
3. Battery Cover (ฝาครอบแบตเตอรี่) : ด้านในมีแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนขนาด 5,000 มิลลิแอมป์ (mAh)
4. Side Brush Installation Area (พื้นที่ติดตั้งแปรงกวาดข้าง) : สามารถดึงแปรงกวาดออกได้เลย ไม่มีน๊อต
5. Main Brush Installation Area (พื้นที่ติดตั้งแปรงกวาดหลัก) : ด้านนอกมีฝาครอบสีขาวอยู่ บีบสลัก แล้วถอดออกมาได้เลย ในกรณีที่ต้องการใช้ถังน้ำ (ถูพื้นอย่างเดียว) จะต้องถอดแปรงกวาดหลักออกทุกครั้ง
6. Main Wheel (ล้อขับเคลื่อนหลัก) : ล้อขนาดใหญ่ 2 ล้อพร้อมลายดอกยาง ที่สามารถวิ่งได้บนทุกๆ พื้นผิว และยังมีสปริงโช๊คอัพที่สามารถวิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับได้ประมาณ 1.5 เซนติเมตร
7. Microfiber Cloth and Plate Installation Area (พื้นที่ติดตั้งผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ และแผ่นติด) : พื้นที่ขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านล่าง ส่วนท้ายของตัวเครื่อง มีที่เกี่ยว สำหรับสลักล็อคอย่างแน่นอน ไม่หลุดแน่นอน

Dustbin and Water Tank Components (ส่วนประกอบของ กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง และถังน้ำ)

เนื่องจากเครื่องนี้พื้นที่เก็บกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง และถังน้ำ คือพื้นทีเดียวกัน ดังนั้นรูปทรงของอุปกรณ์ทั้ง 2 ชิ้นนี้จึงเหมือนกันทั้งหมด รวมไปถึงขนาดความจุก็เท่ากันด้วยเช่นกันคือ 0.5 ลิตร

แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็จะอยู่ตรงที่แตกต่างกันตรงที่ กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (Dustbin) เอาไว้เก็บฝุ่น ซึ่งก็จะต้องมีแผ่นกรองอากาศ HEPA (HEPA Filter) ที่มีหน้าที่คอยดักฝุ่นก่อนที่จะปล่อยกลับออกไปข้างนอก และช่องฝุ่นเข้า (Dust Inlet)

ในขณะที่ ถังน้ำ (Water Tank) ก็มีหน้าที่เอาไว้เก็บน้ำก็จะต้องมีช่องเติมน้ำ (Fill Cap) เป็นจุกยางอยู่ด้านบน และก็มีช่องน้ำออก (Water Outlet) ที่อยู่ด้านล่างของถังน้ำเพื่อค่อยๆ ปล่อยน้ำให้ซึมลงสู่ผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์เป็นลำดับต่อไป และก็ยังมีขั้วจ่ายไฟเข้าปั๊มน้ำ (Water Pump Power Inlet) เพื่อให้ปั๊มน้ำทำงานได้ตามต้องการ

เตรียมเครื่อง และเปิดใช้งาน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Mister Robot LASER MAX

การใช้งานเครื่องนี้ ก็จะเหมือนหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั่วๆ ไป ที่จะต้องมีการติดตั้งแท่นชาร์จ รวมไปถึงการชาร์จไฟ เข้าเครื่องให้เรียบร้อยเสียก่อนที่จะเริ่มต้นใช้งาน ในครั้งแรก มาดูข้อมูลต่างๆ จากหัวข้อด้านล่างนี้กันได้เลย

1. การติดตั้งแท่นชาร์จ และ ดึงอุปกรณ์ป้องกันเครื่องออก
2. การชาร์จไฟครั้งแรก
3. การใช้งานอุปกรณ์สำหรับถูพื้น
4. การเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่น ผ่าน Wi-Fi

1. Charge Base Installation and Protection Removing (การติดตั้งแท่นชาร์จ และ ดึงอุปกรณ์ป้องกันเครื่องออก)

หาพื้นที่ติดตั้งแท่นชาร์จ ที่อยู่ชิดกับผนังห้อง ที่จะต้องเป็นที่โล่ง โดยจะต้องไม่มีสิ่งกีดขวางในระยะมาตรฐานคือ ด้านหน้า 2.0 เมตรด้านหน้า ขณะที่ฝั่งซ้ายและขวา 1.0 เมตร ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อความแม่นยำของเครื่องในการตรวจจับหาแท่นชาร์จและเข้าออก เพื่อให้มีความแม่นยำ

นอกจากนี้แล้ว เครื่องนี้ยังมีแผ่นโฟมขนาดเล็ก ที่คั่นระหว่างกันชนหน้า กับตัวเครื่อง เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายขณะขนส่ง ขนย้ายต่างๆ ก็จะต้องดึงออกด้วยเช่นกัน

2. First Time Charging (การชาร์จไฟครั้งแรก)

การชาร์จไฟของเครื่องนี้ สามารถทำได้วิธีเดียวคือ ชาร์จผ่านแท่นชาร์จ (Charge via Charge Base) เท่านั้น โดยการชาร์จไฟในครั้งแรกนั้น ก็ขอแนะนำให้ชาร์จไฟทิ้งเอาไว้ข้ามคืนไปเลย ประมาณ 6-8 ชั่วโมง ให้แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน เก็บประจุไฟให้เต็มเสียก่อน เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับการใช้งานในครั้งแรก

3. Mopping Device and Water Tank Usage (การใช้งานอุปกรณ์สำหรับถูพื้น)

การใช้งานฟังก์ชั่นถูพื้นแบบเปียก ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ผู้ใช้งานจะต้อง “เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งว่า จะดูดฝุ่น (Vacuum Only) หรือจะถูพื้นแบบเปียก (Wet Mopping Only) โดยไม่สามารถให้มันทำงานควบคู่กันไปได้” ด้วยเหตุผลในเรื่องของประสิทธิภาพการถูพื้น ที่จะดีกว่าการดูดฝุ่นไปด้วย และถูพื้นไปด้วย โดยแบ่งออกเป็น 2 หัวข้อหลักๆ ด้วยกันคือ (3.1) การติดตั้งถังน้ำ และ (3.2) การติดตั้งผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ และแผ่นติด

3.1 Water Tank Installation (การติดตั้งถังน้ำ)

ดังนั้นการถูพื้นแบบเปียกสามารถทำได้ด้วยการนำเอา กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ออกจากตัวเครื่อง ก่อนที่จะเปิดฝาเติมน้ำแล้วเติมน้ำลงไปในถังน้ำจนเต็ม แล้วค่อนนำเอาถังน้ำ ใส่กลับเข้าไปในช่องเดียวกัน

3.2 Microfiber Cloth and Plate Installation (การติดตั้งผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ และแผ่นติด)

หลังจากที่ติดตั้งถังน้ำเสร็จแล้ว ก็นำผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ พร้อมกับแผ่นติด ประกบติดเข้าด้วยกัน ก่อนที่จะนำไปติดที่ด้านหลังของตัวเครื่อง เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี

4. Application Connection via Wi-Fi (การเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน ผ่าน Wi-Fi)

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเครื่องนี้ มีให้เลือกใช้กันทั้ง 2 ระบบปฏิบัติการยอดฮิต นั่นก็คือ iOS และ Android

1. ดาวน์โหลดแอป LASER MAX สำหรับ iOS ผ่าน App Store
2. ดาวน์โหลดแอป LASER MAX สำหรับ Android ผ่าน Play Store

เมื่อดาวน์โหลดและติดตั้งเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้ เพื่อเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน LASER MAX กับตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น

1. เปิดแอป LASER MAX เข้ามาแล้ว เพื่อให้เข้าสู่ระบบ ถ้าหากเป็นการใช้งานครั้งแรก ให้กดที่ “ปุ่ม Sign Up” ที่อยู่มุมขวาบนของหน้าจอ เพื่อทำการลงทะเบียนผู้ใช้งาน (ทำแค่ครั้งแรกครั้งเดียวเท่านั้น)
2. ลงทะเบียนด้วยการกรอกข้อมูล ที่ช่อง อีเมล (E-Mail) รหัสผ่าน (Password) และยืนยันรหัสผ่านอีกครั้ง (Confirm Password) เมื่อกรอกครบทุกช่องแล้วกด “ปุ่ม Completed” เพื่อทำการลงทะเบียน
3. เมื่อลงทะเบียนเสร็จสิ้น หน้าจอจะขึ้นว่า “Sign Up Successfully” พร้อมพากลับไปสู่หน้าจอเข้าสู่ระบบอีกครั้ง
4. กรอกข้อมูลอีเมล และรหัสผ่าน ที่ใช้ลงทะเบียนมา แล้วกด “ปุ่ม Start” เพื่อเข้าสู่ระบบเป็นลำดับต่อไป
5. ในการเข้าสู่ระบบครั้งแรก เราจะยังไม่เจออุปกรณ์อะไรใดๆ เลย โดยเราจะต้องเพิ่มอุปกรณ์ ซึ่งนั่นก็คือหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เข้าไปให้อยู่ในการควบคุมของเราเสียก่อน ด้วยการกด “ปุ่ม Add Robot“
6. ระบบจะแนะนำให้ “ปุ่ม POWER (ปุ่มเปิดปิดเครื่อง)” และ “ปุ่ม HOME” พร้อมกัน โดยค้างเอาไว้ประมาณ 3 วินาทีจนกว่าจะ เห็นไฟสีน้ำเงินของปุ่มทั้ง 2 กระพริบ และได้ยินเสียงพูดขึ้นมาว่า  “ Network Configuring” ดังขึ้นมาพร้อมๆ กัน
7. กลับไปที่แอป LASER MAX อีกครั้ง กด “เลือกติ๊กถูกที่ช่อง” เพื่อยืนยันว่ากดทั้ง 2 ปุ่มดังกล่าวค้างเอาไว้ 3 วินาทีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (The button was long-pressed until the blue light started flashing) หลังจากนั้นให้กด “ปุ่ม Next” เพื่อดำเนินการต่อไป
8. กรอกรหัสผ่าน Wi-Fi ของ SSID (รองรับเฉพาะคลื่น 2.4 GHz เท่านั้น) ปัจจุบันที่เราใช้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่ เสร็จแล้วกดที่ “ปุ่ม Connect to Wi-Fi“
9. ระบบจะขึ้นคำแนะนำในการเปลี่ยนการเชื่อมต่อจาก SSID ของเรา ไปเป็น SSID ของเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เมื่ออ่านแล้วให้ออกไปเปลี่ยนการตั้งค่า Wi-Fi ของสมาร์ทโฟนเราโดยทันที
10. เลือก SSID ที่เป็นชื่อของ Mister Robot LASER MAX โดยชื่อ SSID จะขึ้นต้นประมาณ “LASER-MAX-xxxxxxx“
11. กลับไปที่แอป LASER MAX อีกครั้ง ระบบจะขึ้นข้อความบอกให้รอสักครู่ พร้อมแสดงสถานะขั้นตอนการเชื่อมต่อว่าอยู่ในขั้นตอนใด โดยกระบวนการนี้ จะใช้เวลาไม่เกิน 90 วินาที (หรือ 1.30 นาที)
12. หลังจากนั้นระบบจะพาเข้ามาที่หน้าจอแสดงรายการอุปกรณ์ (Robot List) พร้อมชื่อรหัสของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นของเราโดยทันที ในรูปแบบของชื่อ “MISTERxxxxxx“
13. กด “ปุ่ม Enter Main Menu” เพื่อเข้าสู่หน้าจอหลักของการควบคุมเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เป็นอันเสร็จพิธี

คุณสมบัติ และความสามารถ ของแอปพลิเคชัน LASER MAX กับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Mister Robot LASER MAX

ความสามารถของแอปพลิเคชัน LASER MAX ที่ใช้กับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Mister Robot LASER MAX ตัวนี้ ถือว่าเยอะมากๆ ลองมาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

1. การสั่งงานเครื่อง (Execute Cleaning Command)
   1. สั่งให้เครื่องเริ่มทำงาน (Start Auto Cleaning)
   2. สั่งให้เครื่องหยุดทำงานชั่วคราวหรือทำงานต่อ (Pause / Continue Cleaning)
   3. สั่งให้เครื่องกลับแท่นชาร์จ (Back to Charge Base – Recharge)
   4. ปรับระดับความแรงของพัดลมดูดฝุ่น (Adjust Vacuum Power Level)
      1. โหมดประหยัดพลังงาน (ECO Mode) – ดูดเบา
      2. โหมดธรรมดา (Normal Mode) – ดูดปกติ
      3. โหมดเทอร์โบ (Turbo Mode) – ดูดแรง
   5. ปรับระดับของปริมาณน้ำที่จะปล่อยลงพื้น (Seepage or Water Control Level)
      1. เปียกน้อย (Low)
      2. เปียกปานกลาง (Medium)
      3. เปียกมาก (High)
   6. ความสามารถเสริมพิเศษเกี่ยวกับการทำความสะอาด (Special Cleaning Features)
      1. โหมดควบคุมทิศทางเครื่องด้วยตัวเอง (Manual Control Mode)
      2. โหมดทำความสะอาดที่เน้นการถูพื้น (Scrubbing Cleaning Mode)
      3. โหมดทำความสะอาดแบบเลาะขอบกำแพง (Edge Cleaning Mode) (วิ่งเลาะขอบ ชิดขวาอย่างเดียว)
      4. โหมดทำความสะอาดเฉพาะจุด (Spot Clean Mode) (วิ่งทำความสะอาดภายในกรอบ พื้นที่สี่เหลี่ยมจตุรัส 2 x 2 เมตร หรือ 4 ตารางเมตร)
      5. โหมดทำความสะอาดเฉพาะพื้นที่ (Area Cleaning Mode)
      6. การสร้างกำแพงจำลอง (Virtual Wall)
2. การดูสถานะของตัวเครื่อง (Robot Status)
   1. ดูสถานะปัจจุบันของตัวเครื่อง (Robot Status) ได้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ อาทิ
      1. กำลังทำงาน (Working)
      2. กำลังกลับแท่นชาร์จ (Recharge)
      3. ชาร์จแบตเตอรี่เสร็จสิ้น (Charge Completed)
   2. ขนาดพื้นที่ที่ทำความสะอาดไปแล้ว (Cleaned Area) (หน่วยเป็นตารางเมตร – m²)
   3. ปริมาณคงเหลือของแบตเตอรี่ (Remaining Power) (หน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ – %)
   4. เวลาที่ใช้ในการทำความสะอาด (Cleaned Time) (หน่วยเป็นนาที – Min)
   5. ดูแผนที่การทำความสะอาดแบบสดๆ (Real-time Cleaning Map)
   6. แจ้งบอกตำแหน่งปัจจุบันของตัวเครื่องด้วยเสียงผ่านแอปพลิเคชัน (Location)
3. การตั้งค่า และข้อมูลเกี่ยวกับการทำความสะอาด (Cleaning Settings and Information)
   1. สามารถตั้งเวลาทำความสะอาด (Schedule) ได้แบบยืดหยุ่น เช่น วันนี้ทำ พรุ่งนี้ไม่ทำ หรือ วันนี้ทำเวลานี้ พรุ่งนี้ทำอีกเวลานึง นอกจากนี้แล้ว มันยังสามารถตั้งเวลาทำความสะอาดต่อวันได้วันละหลายครั้ง (กี่ครั้งก็ได้)
   2. ดูประวัติการทำความสะอาดย้อนหลัง (Cleaning Record)
      1. ดูขนาดพื้นที่ที่ทำความสะอาด และเวลาที่ใช้ในการทำความสะอาดแต่ละครั้ง (Cleaned Area and Time)
      2. ดูแผนที่การทำความสะอาดในแต่ละครั้งได้หมด ว่าจุดไหนวิ่งเข้าไปหรือไม่ได้วิ่งเข้าไป (Cleaned Map)
      3. ลบประวัติการทำความสะอาดย้อนหลัง (Delete Cleaning Record)
4. การตั้งค่า และข้อมูลทั่วไป (General Settings and Information)
   1. เปลี่ยนชื่อเครื่อง (Modify Device Nickname)
   2. ดูหมายเลขจำเพาะของเครื่อง  (Robot ID)
   3. ปรับเวลาให้ตรงกับปัจจุบัน (Synchronize Time Zone)
   4. การงดทำความสะอาดในช่วงเวลาพักผ่อน 22:00 ถึง 07:00 น. (สามารถเปลี่ยนได้) (Quite Mode)
   5. เปิดปิดการแจ้งสถานะเครื่องด้วยเสียง (Voice Enable)
   6. ปรับระดับความดังของเสียงแจ้งเตือน (Voice Volume Control)
   7. เปิดระบบการจดจำแผนที่ (Memory Map)
   8. รีเซ็ต หรือลบแผนที่ใหม่ (Reset Map)
   9. การสอบเทียบกับค่ามาตรฐาน (Zero Calibration)
   10. ดูสถานะของวัสดุสิ้นเปลือง (Consumable Product Status)
   11. เปิดระบบการอัพเกรดเฟิร์มแวร์ของเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติ (Auto Firmware Upgrade)
   12. ดูเวอร์ชั่นของเฟิร์มแวร์เครื่อง (Firmware Version)
   13. ล้างการตั้งค่าทั้งหมด กลับไปค่าตั้งต้นจากโรงงาน (Factory Reset)

หมายเหตุ : ความสามารถต่างๆ ของแอปพลิเคชันนี้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ได้ตลอดเวลา เนื่องจากมันมีการพัฒนาและอัพเดทอย่างต่อเนื่องจากทางผู้พัฒนา

คำถามที่คุณต้องอยากรู้ (FAQs) เกี่ยวกับการใช้งาน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Mister Robot LASER MAX

1. สามารถที่จะดูดฝุ่น และถูพื้นไปพร้อมๆ กันได้หรือไม่ ?

“ไม่ได้” เพราะพื้นที่ติดตั้งถังน้ำของเครื่องนี้ ใช้พื้นที่เดียวกับกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ดังนั้นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น

2. ปริมาณฝุ่นละออง ในกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง หลังการใช้งานมา 2 สัปดาห์ เป็นอย่างไรบ้าง ?

เครื่องนี้สามารถปรับพลังการดูดฝุ่นได้อย่างหลากหลายถึง 3 ระดับ ดังนั้นความสามารถในการดูดฝุ่นขนาดเล็ก หรือขนาดใหญ่นั้นบอกได้เลยว่า “เหลือเฟือ” จริงๆ ลองดูรูปประกอบด้านล่างได้เลย

3. มีระยะเวลาการรับประกัน ยาวนานแค่ไหน ?

หุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านของ Mister Robot จะมีการรับประกันในส่วนของอุปกรณ์ภายในตัวเครื่องเป็นระยะเวลา 1 ปี ส่วนของแบตเตอรี่จะรับประกัน 6 เดือน หลังจากหมดช่วงระยะประกันแล้วสามารถสั่งซื้ออุปกรณ์อะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆ ได้ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของผู้จัดจำหน่ายได้เลย

โดยลูกค้าที่สั่งซื้อไปใช้งานแล้ว ถ้าหากเครื่องมีปัญหา ก็สามารถติดต่อแผนกบริการหลังการขาย (After Service Support Team) ได้โดยตรงเลยที่

• Hotline (สายด่วน) : 06-3269-9500
• LINE ID (ไลน์ไอดี) : servicemisterrobot

หมายเหตุ : เมื่อแกะกล่องใช้งานแล้ว อย่าลืมกรอกข้อมูลส่วนตัวลงในบัตรรับประกันสินค้าเสียก่อน แล้วเก็บเอาไว้กับตัว (แนะนำให้เก็บไว้ในกล่องผลิตภัณฑ์เหมือนเดิม) เผื่อกรณีเครื่องมีปัญหา จะได้นำมาเป็นหลักฐานอ้างอิงได้

4. สั่งซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mister Robot Hybrid LASER Map ได้ที่ไหน ?

คุณสามารถสั่งซื้อ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Mister Robot Hybrid LASER Map ได้ผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น ตามรายละเอียดด้านล่างดัต่อไปนี้

• Telephone No (เบอร์โทรศัพท์) : 08-7087-5352
• Website (เว็บไซต์) : http://www.misterrobotcleaner.com
• LINE ID (ไลน์ไอดี) : @mister_robot
• Facebook Page (เพจเฟสบุ๊ค) : misterrobotcleaner (มิสเตอร์โรบอทคลีนเนอร์) ตามกรอบด้านล่าง

บทสรุปหลังการใช้งาน ข้อดี ข้อเสีย หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Mister Robot LASER MAX

ข้อดีทั่วไป 🙂

• ใช้ระบบการนำทางด้วยเลเซอร์ มีความแม่นยำสูง ทำความสะอาดครบทั่วทั้งพื้นที่ และกลับแท่นชาร์จได้อย่างแม่นยำ
• ขนาดความจุที่มากถึง 5,000 มิลลิแอมป์ (mAh) สามารถทำงานต่อเนื่องได้สูงสุด 2 ชั่วโมงครึ่ง
• ถังน้ำมีขนาดความจุ 500 มิลลิลิตร (mL) ทำให้ถูพื้นได้ในพื้นที่ที่กว้างกว่า โดยไม่ต้องคอยหมั่นเติมน้ำบ่อยๆ
• เป็นได้ทั้งหุ่นยนต์ดูดฝุ่น และ หุ่นยนต์ถูพื้น ได้ในเครื่องเดียวกัน ซึ่งมีโหมดการถูพื้นที่ชัดเจน แต่จะต้องเลือกว่าจะดูดฝุ่น หรือถูพื้น เพราะทำได้ทีละอย่างเท่านั้น (ไม่สามารถดูดฝุ่น และถูพื้นไปพร้อมๆ กันได้)
• ถังน้ำมีขนาดใหญ่มากถึงครึ่งลิตร (0.5 ลิตร) ถือว่าเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่มีคุณสมบัติถูพื้นได้ ที่มีขนาดถังน้ำใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยรีวิวมาเลย

ข้อดีในส่วนของแอปพลิเคชัน 🙂

• มีฟังก์ชั่นต่างๆ ให้เลือกค่อนข้างหลากหลายมากๆ ให้เลือกกันแบบเต็มอิ่ม จุใจ เช่นการปรับระดับความแรงของพัดลมดูดฝุ่น ปรับระดับของปริมาณน้ำที่จะปล่อยลงพื้น รวมไปถึงโหมดทำความสะอาดเสริมพิเศษต่างๆ ให้มาเยอะมากๆ

ข้อเสีย 🙁

• แอปพลิเคชัน ไม่รองรับรหัสผ่าน Wi-Fi ที่มีอักษรพิเศษ ถ้ามีต้องเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่เท่านั้น ถึงจะสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันได้
• ผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ ให้มาแค่ผืนเดียว (ไม่มีแผ่นสำรองมาให้)
• ความสามารถเกือบทั้งหมด จะต้องปรับแต่ง หรือตั้งค่าผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเท่านั้น เพราะไม่มีรีโมทคอนโทรลมาให้ อาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดการใช้งานสมาร์ทโฟน

← กลับไปอ่านหน้า 1 (Previous Page)