เริ่มใช้งาน หุ่นยนต์ยนต์ดูดฝุ่น Neato Botvac 70e
หลังจากที่เห็นความสามารถอันสุดแจ่มของมันด้านบนแล้ว อยากจะรู้แล้วว่ามันทำงานได้ดีจริงตามที่คุยไว้หรือเปล่า ได้เวลาเริ่มใช้งานเจ้าเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้กันได้เลย ซึ่งการติดตั้งเพื่อเริ่มใช้งานในครั้งแรก ไม่มีอะไรยุ่งยากและซับซ้อนเลย และที่สำคัญไม่ต้องติดตั้งแบตเตอรี่ ของเครื่อง เพราะมันถูกติดตั้งเอาไว้ภายในเครื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลดโปรเซสการติดตั้งลงไปได้อีก
ติดตั้งแท่นชาร์จ (Charge Base Installation)
แต่ส่วนที่จะต้องให้ความสำคัญกับมันมากๆ หน่อยนั่นก็คือตัวแท่นชาร์จ (Charge Base) นั่นเอง ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ที่จริงมันก็ให้ความสำคัญมากๆ เช่นกัน
แท่นชาร์จตัวนี้ถือได้ว่าเป็นแท่นชาร์จที่มีขนาดความกว้างพอสมควร หน้าสัมผัส สังเกตดีๆ จะเป็นแทบโลหะ 2 เส้น เพื่อเป็นหน้าสัมผัสระหว่างแท่นชาร์จ กับตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่มันจะวิ่งเข้ามาประกบโดนตรงนี้นั่นเอง
คราวนี้มาดูการติดตั้งสายไฟเข้ากับ แท่นชาร์จสีขาว (Charge Base) กันดูบ้าง โดยเจ้าตัวแท่นชาร์จ นี้ไม่มีสวิตซ์ เปิดปิดเครื่องแต่อย่างใด ไม่มีไฟแสดงว่าทำงานอยู่หรือไม่ ควบคุมได้อย่างเดียวคือ เสียบปลั๊ก หรือ ดังปลั๊ก อย่างเดียว หรือถ้าบ้านใครใช้รางปลั๊กไฟแบบมีสวิตซ์อยู่ ก็สามารถเปิดปิด จากตรงนั้นได้เช่นกัน ลองไปดูการติดตั้งกันเลยดีกว่า
ข้อควรระวัง
ควรตั้งแท่นชาร์จให้ห่างจากสิ่งกีดขวางเป็นระยะ อย่างน้อยประมาณ 1 เมตร (3.2 ฟุต) ทุกมุม เพื่อให้เครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato Botvac 70e ตัวนี้สามารถตั้งลำ ตีวง กลับเข้ามายังแท่นชาร์จ ได้โดยอัตโนมัติ ไม่ติดวัตถุใดๆ
ติดตั้งตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น (Robot Vacuum Installation)
หลังจากนั้นก็มาดูเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น กันบ้างว่าต้องทำอะไรกับมันบ้างไหม สรุปคือไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแค่แกะกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (Dirt Bin) ออกมา เพื่อที่จะไป เปิดสวิตซ์ของเครื่องให้อยู่ในตำแหน่ง “On” แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จพิธี
รูปด้านล่างนี้เป็นรูปของสวิตซ์ปิดเปิดเครื่อง ให้ดูกันแบบชัดๆ อีกครั้ง ซึ่งจะสังเกตข้างๆ ปุ่มสวิตซ์นั้นจะเห็นเป็นพอร์ต USB รุ่นเล็ก (Mini USB) ที่เค้าบอกว่าสามารถเอาไว้ใช้ในการอัพเดทซอฟต์แวร์ หรือบางคนก็เรียกว่า เฟิร์มแวร์ (Firmware) ของเครื่องได้ ในกรณีที่ใช้ๆ อยู่มีการออกเวอร์ชั่นใหม่มา ปรับปรุงให้เครื่องสามารถเดิน และทำงานได้อย่างฉลาดมากยิ่งขึ้น ก็สามารถเชื่อมต่อข้อมูลลิงค์กับ ตรงพอร์ต USB นี้ได้เลย ซึ่งจะทำการอัพเดทซอฟต์แวร์ตรงนี้ได้นั้นจะต้องมีการไปลงทะเบียน สมัครแอคเคาท์ บนเว็บไซต์ของผู้พัฒนาเสียก่อน
เมื่อเปิดเครื่องเสร็จแล้วก็สามารถเอาไปวางชาร์จไฟได้เลย ในรูปมีวางเปรียบเทียบกันให้ดูระหว่าง เครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น LG Hombot รุ่น VR5906LM ซึ่งเป็นตัวเก่า ตัวแรก ที่ซื้อมาใช้งานว่ามันแตกต่างกันยังไงบ้าง
จุดที่น่าสังเกตคือ แท่นชาร์จของตัว Neato Botvac 70e (ตัวขวา สีขาว) มีแท่นชาร์จที่ค่อนข้างกว้าง และใหญ่กว่ามาก หน้าสัมผัสค่อนข้างที่จะใหญ่มาก
คำแนะนำเพิ่มเติม
เมื่อแกะกล่องครั้งแรก ควรจะชาร์จไฟ ให้ได้อย่างน้อย 12 ชั่วโมง ก่อนการเปิดใช้งานครั้งแรก เพื่อให้แบตเตอรี่ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
การตั้งค่าครั้งแรก เครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato Botvac 70e
บรรยายมาซะยืดยาว คราวนี้ได้เวลาในการเปิดเครื่องจริงๆ สักทีละ โดยจุดเด่นของเจ้าเครื่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato Botvac ตัวนี้คือมันจะเป็นจอแอลซีดี (LCD Screen) ที่ฝังติดมากับตัวเครื่องเลย ซึ่งจะแสดงค่า รวมถึงสถานะต่างๆ ทั้งหมดในนี้ ไม่ว่าจะเป็นปริมาณของแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ในเครื่อง (Battery Status) รวมไปถึง มันติดปัญหาอะไร ต้องการอะไร ขาดอะไร ทำอะไรอยู่ มันจะแสดงตรงหน้าจอ LCD นี้ชัดเจน ตามภาษาที่เราได้ตั้งค่าเอาไว้เลย
สามารถกดที่ “ปุ่มโฮม” หรือที่ “ปุ่มรูปสัญลักษณ์บ้าน” สีเขียวๆ เพื่อทำการเปิดเครื่อง หลังจากนั้น สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ผู้ใช้งานจะต้องตั้งค่า (Setting) วันเวลา ของตัวเครื่องเสียก่อน เพื่อเป็นการเริ่มทุกสิ่งทุกอย่าง
สำหรับปุ่มที่อยู่ข้างๆ หน้าจอ LCD จะมีส่วนประกอบหลักๆ ทั้งหมด 4 ปุ่มด้วยกันคือ
- ลูกศรชี้ขึ้น : เลื่อนเมนูขึ้นด้านบน หรือ ปรับค่าให้มากขึ้นหรือสูงขึ้น
- ลูกศรชี้ลง : เลื่อนเมนูลงด้านล่าง หรือ ปรับค่าให้น้อยลงหรือต่ำลง
- ลูกศรชี้ไปทางซ้าย : กลับไป 1 ระดับ
- เส้นตรงแนวขวาง : กลับเมนูหลัก
ภาพด้านล่างเป็นเมนูหลัก (Main Menu) ที่มีให้เลือกอยู่แค่ 4 เมนูด้วยกัน ได้แก่
- Schedule : ใช้ตั้งเวลาให้เครื่องทำงานตามเวลาที่กำหนด ในแต่ละวัน
- Set Clock : โหมดตั้งเวลาให้กับเครื่องก่อน ถ้าไม่ตั้งเวลาให้เครื่อง ก็ทำข้อ 1. ไม่ได้
- Language : สำหรับตั้งค่าภาษา ที่ใช้และจะแสดงบนจอ LCD ภายในเครื่อง
- Support : หน้าจอแสดงผลการตั้งค่า ซอฟต์แวร์ และ ตั้งค่าอื่นๆ ทั่วไป
ตั้งเวลาทำความสะอาด (Cleaning Schedule)
เมนูหลักอันแรกของเครื่องนี้คือ มันมีความสามารถในการตั้งเวลาทำความสะอาด ในรูปแบบของกิจวัตรประจำ ได้ (แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเซ็ตตั้งวันเวลา ในเมนูด้านล่างก่อนนะ) ว่าต้องการจะให้เจ้าเครื่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato Botvac นั้นทำความสะอาดวันไหน แต่ละวันทำความสะอาดกี่โมง ทำวันเว้นวัน วันเว้นสองวัน หรือหนุ่งวันต่อสัปดาห์ ก็สามารถตั้งค่าได้ทั้งหมด ซึ่งถือได้ว่าฉลาดมากๆ ถ้าเทียบกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวอื่นๆ น้อยรุ่นนักที่จะสามารถทำได้
จากที่สังเกตดูจากรูปภาพด้านบนจะเห็นว่า การตั้งเวลาทำความสะอาด สามารถทำได้อย่างอิสระ วันต่อวันเลย อาทิ วันจันทร์อยากให้ทำตอน 7 โมงเช้า วันอังคารไม่ทำ ทำวันพุธตอน 5 โมงเย็น วันพฤหัสไม่ทำ วันศุกร์ทำตอน 7 โมงเช้า วันเสาร์และวันอาทิตย์ไม่ทำ แบบนี้เราก็สามารถทำได้ ตั้งค่าได้ทั้งหมด เพราะมันแยกอิสระกัน
ซึ่งการทำความสะอาดแบบวันเว้นวัน หรือ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง แบบนี้จะเหมาะมากๆ สำหรับ คนที่ต้องทิ้งห้อง ทิ้งบ้านเอาไว้ แล้วไปต่างประเทศนานๆ โดยที่ไม่มีคนดูแล หมดกังวลเรื่องฝุ่นและสัตว์เล็ก ต่างๆ ไปได้ ด้วยเครื่องนี้ เวลากลับบ้านมาจะได้ไม่เหนื่อย หรือ ทำความสะอาดน้อยลง ฝุ่นไม่หนาเป็นนิ้วๆ เหมือนไม่ได้ทำเลย
ตั้งเวลา (Time Setting)
อย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่า การตั้งเวลา (Set Clock) นั้นถือเป็นส่วนแรกที่ผู้ใช้งานจะต้องตั้ง เพราะถ้าไม่ตั้งเวลาเครื่องก็จะไม่สามารถตั้งเวลาทำความสะอาดประจำวันได้ ซึ่งการตั้งเวลานั้นไม่ยากเลย มีการใส่ค่าทั้งหมดจำนวน 4 ค่าด้วยกัน กระบวนการนี้สามารถทำเสร็จได้ง่ายๆ โดยใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ดูภาพประกอบด้านล่างได้เลย
ตั้งค่าภาษา (Language Setting)
เครื่องดูดฝุ่นหุ่นยนต์ Neato รุ่น Botvac ตัวนี้สามารถ ตั้งค่าภาษาได้หลายภาษามากๆ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ที่เมนูที่ 3 ในเมนูหลัก ที่เขียนว่า “Language” เมื่อกดเข้าไปก็จะพบกับภาษาต่างๆ จากทั่วโลก ที่มีให้เลือกมากมายแต่ค่าตั้งต้นของมันคือ “ภาษาอังกฤษ (English)” ซึ่งจะปรากฏอยู่ด้านบนสุด อยู่แล้ว
ตั้งค่าและดูค่าทั่วไป (Support)
เมนูส่วนซัพพอร์ต (Support) จะเป็นส่วนที่เอาไว้ดูค่าต่างๆ ที่ถูกตั้งเอาไว้โดยผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังมีส่วนของ ข้อมูลจำเพาะที่ถูกเซ็ตเอาไว้ในเครื่องตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และมีการตั้งค่านิดหน่อย โดยรายละเอียดมีดังต่อไปนี้
- Show Revisions : แสดงหมายเลขเวอร์ชั่นของเฟิร์มแวร์ ซอฟต์แวร์ ที่อยู่ในเครื่อง
- Warranty Info : รายละเอียดการรับประกันเครื่อง ซึ่งสามารถนำไปตรวจสอบบนเว็บไซต์ของผู้ผลิตได้
- ShutDown : ปิดเครื่องทันที แต่จะไม่สามารถปิดได้ หากเครื่องเสียบกับแท่นชาร์จอยู่
- Set LEDs Off : ตั้งเวลาในการปิดหน้าจอ LED
- Bin Alert Off : เปิดปิดการ แจ้งเตือน หากกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (Dirtbin) ไม่ถูกใส่อยู่ที่เครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น อย่างถูกต้อง หากเปิดเอาไว้ มันจะแจ้งเตือนเป็นเสียงดังขึ้นมา เป็นต้น
เมนูต่างๆ อย่างเช่น เวอร์ชั่นของซอฟต์แวร์ในเครื่อง ใช้ชื่อว่า “Show Revisions” และ รายละเอียดการรับประกัน หรือ “Warranty Info” ผมไม่สามารถแสดงให้ดูได้ เพราะจะเป็นข้อมูลจำเพาะ เฉพาะของเครื่องที่ผมใช้งานอยู่เท่านั้น ส่วนของเมนู ปิดเครื่อง “ShutDown” นั้น ขณะที่เครื่องจอดชาร์จติดกับแท่นชาร์จอยู่นั้น จะไม่สามารถกดเพื่อสั่งปิดเครื่องได้ โดยมันจะขึ้นข้อความดังนี้
16 คำถาม หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato Botvac 70e ที่ทุกคนต้องอยากรู้
มาถึงการใช้งานหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ผมก็เตรียมคำถาม คำตอบมาให้ทั้งหมด 16 ข้อ เพราะเชื่อว่าทุกคนจะต้องอยากรู้ เหมือนที่ผมอยากรู้ตอนแรก อย่างแน่นอน
1. วิ่งข้ามห้องได้หรือไม่ ?
ได้สบาย หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้ถือเป็นตัว ที่เขาโปรโมต อย่างจริงจังว่ามันเป็นหุ่นยนต์ประเภท ที่เรียกว่า “Multi-room Cleaning” ซึ่งพอเอามาใช้จริงๆ มันก็เป็นไปอย่างที่คิด คือสามารถวิ่งข้ามห้องได้อย่างสบายบรื้อ ห้องที่ใช้งานเป็นคอนโดมิเนียมแบบ 1 ห้องโถงใหญ่ 2 ห้องนอน 1 ห้องครัว และ 1 ห้องน้ำ ปรากฏว่าตัวนี้วิ่งเข้าออกได้ครบทุกห้องอยู่ประมาณ 60 ตารางเมตร พร้อมวิ่งกลับแท่นชาร์จโดยอัตโนมัติ เมื่อทำงานเสร็จสิ้น ดูดฝุ่นเสร็จครบทั่วทุกพื้นที่ ได้อย่างสบายๆ
2. วิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับได้หรือไม่ ?
ได้สบายๆ จากที่ผมเคยใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นมาหลายตัว พบว่าตัวนี้สามารถปืนหรือแล่นผ่านพื้นที่ต่างระดับ ได้สูงถึง 150 มิลลิเมตร หรือประมาณ 1.5 เซนติเมตร (จริงสามารถปืนได้สูงกว่านั้นแต่ไม่กล้าเคลม เพราะเป็นแค่บางครั้งเท่านั้น) ความจริงไม่มีสเปคบอกระบุเอาไว้ แต่จากที่ทดลองเอง มันสามารถแล่นผ่าน ขาเก้าอี้ทานข้าวแบบโลหะ หรือ ขอบรางเลื่อนระหว่างห้องรับแขก กับห้องครัวได้สบายๆ (ดูภาพประกอบด้านล่าง)
จากห้องที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวอื่น ไม่สามารถแล่นผ่านไปได้เพราะพื้นที่ต่างระดับมันสูง จากที่เคยลองใช้มา ไม่เคยหรือไม่ค่อยเห็นตัวไหนที่แล่นผ่านพื้นที่ต่างระดับได้สูงเกิน 100 มิลลิเมตร (1 เซนติเมตร) แต่ตัวนี้แล่นผ่านได้เกินกว่านั้น จึงทำให้ทุ่นแรงเจ้าของอย่างผม ที่ไม่ต้องยกข้ามห้องไปมา ไปได้มากทีเดียว
ลองมาดูภาพตัวอย่างที่ถ่ายเอาไว้ว่ามันสามารถวิ่งผ่านได้เช่นกัน อันนี้เห็นวิ่งผ่านไปมา มาหลายทีละ คิดว่าไม่น่ามีปัญหา
นอกจากนี้แล้วยังสามารถวิ่งผ่านขาเก้าอี้ทานข้าว (Dining Chair) แบบโลหะ ที่มีความสูงเกือบๆ 2 เซนติเมตร ได้อยู่เหมือนกัน แต่ว่าวิ่งได้บางครั้งนะ ขณะใช้งานจริงๆ มันวิ่งผ่านได้ แต่พอถึงเวลาตั้งใจจะมาอัดคลิปถ่ายรีวิว ดันวิ่งไม่ผ่านซะงั้น เลยไม่ขอเคลมว่าวิ่งผ่านได้ 100% ละกัน
ในส่วนของ พื้นที่ต่างระดับระหว่างห้องน้ำ กับ ห้องโถงใหญ่ (ห้องรับแขก นั่งเล่น) ก็สามารถวิ่งได้อย่างสบายบรื้อเช่นกัน
ความคิดเห็นส่วนตัว
สรุปคือ จากที่เห็นมันสามารถวิ่งผ่านพื้นที่สูงได้แน่ๆ ระหว่าง 0.0 – 1.5 เซนติเมตร แต่ในระดับ 2 เซนติเมตร เคยเห็น มันวิ่งผ่านอยู่นะ แต่ไม่การันตี ว่าจะแล่นผ่านได้ ในทุกครั้ง เพราะขณะนำมาทดสอบถ่ายคลิป ดันไม่วิ่งขึ้นซะงั้น
3. วิ่งกลับฐานหรือแท่นชาร์จ (Charge Base) ได้เองหรือไม่ ?
ได้แน่นอน แถมแม่นยำอีกต่างหาก มันสามารถวิ่งกลับฐานได้เอง ทุกครั้งที่ดูดฝุ่นเสร็จ ระบบดูดฝุ่น พวกแปรงด้านข้าง (Side Brush) และ แปรงกวาดหลัก (Main Brush) จะหยุดทำงาน เสียงเครื่องจะเงียบลง และจะวิ่งตรงเข้าหาแท่นชาร์จโดยทันที ไม่ว่าขณะนั้นจะอยู่ห้องไหน หรือ ตรงไหนในห้องก็ตาม โดยไม่วิ่งวนไปวนมา คลำทางไปเรื่อย จุดนี้เองแสดงให้เห็นถึงความเฉลียวฉลาดของมัน ที่สามารถจดจำ ตำแหน่งแท่นชาร์จ เอาไว้ตั้งแต่แรกเป็นอย่างดี
หากพูดถึง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ตัวอื่นๆ บางตัวนั้น ถึงแม้ว่ามันจะมีแท่นชาร์จ (Charge Base) ให้วิ่งกลับไปชาร์จและจอด เมื่อทำงานเสร็จก็จริง แต่ว่าพอทำความสะอาดเสร็จทั่วทั้งห้องแล้ว มันกลับวิ่งวนหาแท่นชาร์จของตัวเองไม่เจอซะงั้น สุดท้ายก็แล่นวนไปวนมา และก็จอดดับเองสักแห่ง เนื่องจากแบตเตอรี่หมดนั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้น บางตัวแล่นชนแท่นชาร์จของตัวมันเองก็ยังมี ไม่ยอมเข้าซองไปจอดให้ดีๆ
4. มีรูปแบบทำความสะอาดกี่โหมด (Cleaning Mode) ?
มีทั้งหมด 2 โหมด นั่นคือแบบ การทำความสะอาดแบบปกติ (General Cleaning Mode) และ การทำความสะอาดเป็นจุด (Spot Cleaning Mode) โดยการทำความสะอาดแบบปกติ นั้นมันจะวิ่งเข้าทุกหนทุกแห่งในห้อง ที่มันสามารถเข้าถึงได้ จนครบแล้วมันถึงจะวิ่งกลับเข้ามาชาร์จแบตเตอรี่ใหม่อีกครั้งที่แท่นชาร์จ (Charge Base)
แต่ยังมีอีกโหมดการทำความสะอาดนึงที่เรียกว่า (Spot Cleaning Mode) หรือการทำความสะอาดเฉพาะจุด เมื่อคุณกดที่ปุ่มซ้าย ที่เป็นรูปตารางสี่เหลี่ยม (คล้ายๆ ตารางเกมส์ OX) มันก็จะถอยหลังออกมาทำความสะอาดเช่นกัน แต่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดในพื้นที่รอบๆ เครื่องเท่านั้น
การทำความสะอาดแบบนี้จะเหมาะสำหรับกรณีที่ คุณเอง หรือ เด็กๆ ในบ้าน ทำเศษอะไรต่างๆ หกเช่น ขนมอบกรอบหก เศษยางลบ เส้นผม ขนสัตว์ ที่อยู่กระจุกเดียว ก็สามารถใช้โหมดนี้ช่วยทำความสะอาดได้ จะประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยทีเดียว และเมื่อเสร็จแล้ว มันก็จะวิ่งกลับเข้าแท่นชาร์จโดยอัตโนมัติเช่นกัน
5. วิ่งชน เฟอร์นิเจอร์ หรือ ตกบันได หรือไม่ ?
ชนแต่ เป็นการชนแบบเบามากๆ เนื่องจากหุ่นยนต์ Neato Botvac ตัวนี้ใช้ระบบนำทาง พร้อม เซ็นเซอร์ ด้วยเลเซอร์ (Laser-Guided Systems) ทำให้การเดินทำงานในแต่ละครั้ง มีความแม่นยำสูงมากๆ และ นอกจากนี้ยังสร้างความเสียหายให้กับตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเอง และ เฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ ต่างๆ น้อยมากๆ หากเทียบกับตัวอื่นๆ ที่ใช้งานแล้วเป็นรอยขูดขีด ทั้งบนตัวเครื่องเอง และ เฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน
ส่วนเรื่องการวิ่งตกบันได นั้นหายห่วง ขนาดหุ่นยนต์ดูดฝุ่นราคาถูก รุ่นต่ำกว่านี้ยังไม่ตกกันเลย ระดับนี้แล้วไม่ต้องพูดถึง ไม่มีแน่นอน
6. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato Botvac 70e ตัวนี้ ดูดฝุ่นสะอาดมั้ย?
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้ ถือว่ามีประสิทธิภาพในการดูดที่สูงมากๆ สามารถเรียกได้ว่า มันเป็น “American Muscle*” เลยก็ว่าได้ หุ่นยนต์ตัวนี้ความแรงในการดูดสูงมากๆ รอบที่แปรงหมุนต่อนาที ค่อนข้างจะมาก หากสงสัยว่าผมรู้ได้ยังไง ก็สังเกต มาจากเสียงเครื่องที่ค่อนข้างดัง แปรงกวาดหลัก (Main Brush) ที่ขนาดใหญ่ และ ยาวกว่า มากๆ รวมไปถึง แรงลมที่ถูกดูดเข้าไปพร้อมกับแปรงกวาดหลัก พ่นออกมาทางช่องลมออก ท้ายเครื่อง รู้สึกเลยว่าลมเป่าพ่นออกมาแรงมากๆ
*American Muscle : หมายถึง ชื่อเล่นใช้เรียกรถสปอร์ต พันธุ์ดุ จากประเทศสหรัฐอเมริกา (USA) ซึ่งรถสปอร์ต จากอเมริกาส่วนมากมักจะมีจุดเด่นคือรถที่มีขนาดใหญ่ เครื่องแรงๆ หลายสูบ มักจะ 6 สูบขึ้น และ เสียงโหดๆ ดุๆ เป็นต้น
7. เสียงเครื่องขณะดูดฝุ่น ดังหรือไม่ ?
เสียงเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้คือว่า “ค่อนข้างดัง” และนี่ถือว่าเป็นจุดเสีย ของเจ้าเครื่องนี้ หลังจากใช้งานมาแล้วกว่า 2 สัปดาห์ ผมได้ใช้แอพพลิเคชั่น LINE Tools เป็นแอพฯ เครื่องมือสารพัดประโยชน์บนไอโฟน (iPhone) ในการตรวจวัดปรากฏว่า เจ้า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato Botvac ตัวนี้ มีระดับความดังของเสียงอยู่ที่ 72 เดซิเบล (dB) เลยทีเดียว
แต่ถ้าหากดูจากตารางเปรียบเทียบระดับความดังของเสียงดูแล้ว ความดังระดับ 70 เดซิเบล (dB) นั้นถือว่าเป็นระดับความดังเสียงที่ปกติ สำหรับ เครื่องดูดฝุ่น (Vacuum Cleaner) ทั่วๆ ไป ที่ไม่ใช่ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น อยู่แล้ว ดังนั้นหากคุณมีเครื่องดูดฝุ่นปกติ ที่ต้องเดินลากท่อ ลากสาย ดูดเองบ้าน เทียบกับเจ้าตัวนี้แล้วก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ ที่ปกติเลย
ถ้าใครที่พักอาศัยอยู่บนคอนโดมิเนียม ขอแนะนำว่าให้เปิดเครื่องทำความสะอาดกันตอนกลางวันดีกว่า หากเป็นกลางคืนเสียงจะไปรบกวนลูกบ้านห้องอื่นได้
สำหรับผมจากเดิมสมัยก่อนที่ใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่น จากเดิมที่เคยใช้เครื่องเก่ามัน ทำความสะอาดตอนกลางคืน เพราะเสียงเงียบกว่า พอมาใช้เครื่องนี้ ก็แก้ปัญหาด้วยการตั้งเวลาทำความสะอาดเอาไว้ช่วงเย็นๆ ก่อนหัวค่ำ ประมาณ 17:30 น. ของทุกวัน เป็นต้น
8. แปรงกวาดหลัก (Main Brush) มีกี่แบบ ?
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato Botvac นั้นมีตัวเลือกแปรง (Brush) ให้ใช้งานกัน ทั้งหมด 2 แบบหลักๆ ด้วยกัน แต่ส่วนมากแล้ว ยี่ห้ออื่นๆ ที่เห็นขายในท้องตลาดบ้านเราส่วนมาก จะมีมาให้แบบเดียวเลย แต่ Neato Botvac นี้มีมาให้เลือก 2 แบบ ด้วยกัน ขึ้นอยู่กับประเภทของการใช้งาน โดยมีรายละเอียดข้อดีข้อเสียดังต่อไปนี้
- Blade Brush (แปรงใบพัด) : แปรงนี้อ่านออกเสียงเป็นภาษาไทยว่า “เบลดบรัช (Blade Brush)” หรือ แปรงใบพัด ทำมาจากวัสดุยางเหนียวๆ มีหน้าที่ในการปัดเศษฝุ่นเศษขยะ เข้าไปในเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ด้วยความเร็วสูง แปรงชนิดนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในการดูฝุ่นบนพรม หลักการมันคือใช้ตีฝุ่นขึ่นมาจากพื้น แล้วดูดปั่นเข้าไปเก็บใน กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (Dirt Bin) นั่นเอง
- Combo Brush (แปรงลูกผสม ใบพัด กับ ขน) : แปรงประเภทนี้อ่านว่า “คอมโบบรัช (Combo Brush)” เอาไว้ใช้ในการทำสะอาดบนพื้นห้องทั่วๆ ไป ทั้งกระเบื้องชนิดต่างๆ เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วๆ ไป สามารถดูดเส้นผมได้ดี โดยเฉพาะเส้นผมที่ยาวๆ จากคุณผู้หญิงทั้งหลาย ขนสัตว์ เป็นต้น
และเห็นว่าทางตัวแทนจำหน่ายในไทย หากซื้อเครื่องแล้ว เขาจะให้มาทั้งหมด 2 แบบ ทั้ง “Blade” และ “Combo” กันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเอาไปใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ได้เลย
9. วิ่งดูดครอบคลุมทุกบริเวณ ในห้องหรือไม่ ?
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้ มีหลักการดูดที่ค่อนข้างจะเป็นหลักการหน่อย จากที่สังเกตเห็นด้วยตาเปล่า จะเห็นว่าเมื่อเครื่องวิ่งออกจากแท่นชาร์จ มันจะทำการวิ่งเลาะขอบกำแพงทางด้านขวาของเครื่อง ไปเรื่อยๆ จนรอบ แล้วถึงจะมาเก็บพื้นที่ว่างตรงกลางห้องอีกที และ ถ้าหากมีสิ่งกีดขวาง ที่วางอยู่ตรงกลางห้องเช่น โต๊ะกลาง โต๊ะทานข้าว เก้าอี้ ต่างๆ มันจะวิ่งวน ทำความสะอาดให้ครบจนหมดเสียก่อน แล้วค่อยวิ่งไปดูดฝุ่น ยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไป โดยผมมีภาพอธิบายข้างกล่องมาให้ดูกันแบบชัดๆ
10. หลังทำความสะอาดสภาพ กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง เป็นอย่างไร ?
เรามีภาพฝุ่น เศษขยะ ต่างๆ ที่อยู่ใน กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (Dirt Bin) มาให้ดูว่า ที่มันดูดออกมาได้นั้น มีฝุ่นเยอะหรือไม่ เป็นอย่างไรกันบ้าง โดยทดลองใช้งานจริงจากห้องขนาดประมาณ 60 ตารางเมตร (ตรม.) และมีการดูดฝุ่นด้วยเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato Botvac 70e ทุกวัน สภาพที่ได้ยังสกปรกขนาดนี้
สังเกตจากภาพด้านบน เห็นได้ว่าเศษฝุ่นละออง เศษเส้นผม ต่างๆ จะไปติดกับแผ่นกรองอากาศมาตรฐาน ด้านหลังเกือบทั้งหมด เพราะด้วยแรงดูด แรงลมอัดของมันที่มีมากมายมหาศาล แรงมากๆ จึงทำให้ลอยไปติดแผ่นกรองกันหมด แทนที่จะตกอยู่ในกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (Dirt Bin)
ส่วนที่ตกอยู่ในกล่อง “Dirt Bin” ก็พอมีให้เห็นอยู่บ้าง เพราะเป็นเศษที่มีอนุภาค ขนาดใหญ่ มีน้ำหนักเยอะ จึงไม่ลอยไปติดอยู่กับแผ่นกรองอากาศนั่นเอง
คำแนะนำเพิ่มเติม
ความทำความสะอาดกล่องใส่ชยะฝุ่นละออง ทุกๆ ครั้ง หลังการทำงานเสร็จสิ้น เพราะหากปล่อยไปหลายๆ วันแล้วค่อยทำความสะอาด จะทำให้พลังการดูดฝุ่น ลดน้อยลงไปด้วย เพราะติดเศษฝุ่นที่แผ่นกรอง ทำให้แรงลมอัด ไม่สามารถระบายออกไปจากเครื่องได้
การทำความสะอาดก็ไม่ยาก เอาเล็บเขี่ยๆ ขูดๆ เศษผม ออกจากแผ่นกรองอากาศ ก็เป็นอันเสร็จพิธี
11. แผ่นกรองอากาศ ขาออก (Outbound Air Filter) มีกี่รูปแบบ
มี 2 แบบคือ แบบ แผ่นกรองอากาศมาตรฐาน (Standard Filter) และ แผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง (High-Performance Filter) หรือแบบหลัง บางคนจะเรียกว่า “แผ่นกรองอากาศ HEPA” ก็ได้ ซึ่ง
จากที่เขียนอธิบายในช่วงข้างต้นว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato Botvac 70e ตัวนี้มีประเภทของที่กรองอากาศ (Filter) มาให้อยู่ 2 ประเภท ได้แก่
- Standard Filter (แผ่นกรองอากาศมาตรฐาน) : กรองเศษฝุ่นได้ดีในระดับนึง
- HEPA Filter (แผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง) : กรองฝุ่นขนาดเล็กได้ดี
ซึ่งการกรองอากาศ ก่อนที่จะไหลออกจากเครื่องนั้นก็ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ เพราะมันคืออากาศที่กรองฝุ่นออกไปหมดแล้ว เพราะฝุ่นจะถูกดักจับ และ ติดอยู่กับเครื่องกรองอากาศตรงนี้นั่นเอง
12. จะรู้ได้ไงว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato Botvac 70e ดูดครบทุกพื้นที่ ?
นี่คงเป็นคำถามที่หลายคนจะสงสัยว่า หากเราตั้งเวลาทำความสะอาดเป็นกิจวัตร ประจำวันแล้ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato Botvac ของเรานั้นมันเข้าไปดูตามห้องต่างๆ หรือพื้นที่ ที่เราต้องการให้มันเข้าไปดูอย่างครบถ้วนแล้ว
วิธีง่ายๆ ที่ผมนำมาใช้คือ ฉีกกระดาษทิชชู่ หรือ กระดาษชำระแบบม้วน แล้ววางไว้ในห้องเล็ก เช่นห้องนอนที่หนึ่ง และ ห้องนอนที่สอง แบบวางไว้สุดมุมลึกสุดของห้อง
จากที่ทำการทดสอบมาพบว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ ผมวางเอาไว้แบบนี้ที่ห้องนอน ทั้งสองห้อง พบว่า เมื่อกลับมาถึงบ้าน มีอยู่แค่ครั้งเดียว ที่กระดาษทิชชู่ไม่ถูกดูดเข้าไปในเครื่อง แต่มาพบเจออีกทีคนละตำแหน่งจากที่ทิ้งเอาไว้ ดังนั้นผมจึงสามารถคาดเดาได้ว่าตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato Botvac นั้นสามารถวิ่งเข้าถึงกระดาษทิชชู่ แต่ไม่สามารถดูดเข้าเครื่องได้ อาจจะเป็นเพราะขนาดมันใหญ่เกินไปหรือเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจ แต่โดยรวมถือว่าน่าพอใจ เพราะทุกครั้งที่เหลือ มันถูกดูดเข้าไปเก็บไว้ใน กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (Dirt Bin) ตลอด
13. Boundary Marker คืออะไรเหรอ ?
คำว่า “Boundary Marker” หากแปลเป็นภาษาไทยตรงๆ ก็คือ “ตัวสร้างกรอบ” ให้การเดินให้กับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นนั่นเอง ซึ่งอุปกรณ์ในลักษณะนี้จะมีใน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น รุ่นสูงๆ โดยบางยี่ห้อ หรือ บางรุ่น อาจจะเรียกว่า “Virtual Wall” หรือว่า “กำแพงจำลอง” นั่นเอง เปรียบเสมือน งูกับเชือกกล้วย ที่เมื่อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นไปเจอมันเมื่อไหร่ เป็นต้องวิ่งหนีกันเลยทีเดียว (พูดเว่อร์ไปมั้ย)
แต่ไม่ว่าจะเรียกด้วยชื่ออะไรก็ตาม มันมีหลักการทำงานที่คล้ายคลึงกัน นั่นคือ มันสามารถช่วยป้องกัน ไม่ให้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เดินเข้าไปในห้อง หรือเข้าไปในพื้นที่ ที่ไม่ต้องการให้เข้าไปได้นั่นเอง เช่นห้องน้ำ ที่อาจจะเปียกอยู่ตลอดเวลา เราไม่ต้องการให้หุ่นยนต์ราคาแพงของเราเข้าไปดูดน้ำถูกมั้ยครับ ? เพราะมันอาจจะเสียหรือพังได้ง่ายๆ หรือ แม้พื้นที่อย่าง แต่ห้องครัว ที่อาจจะมีคราบสกปรก คราบมันฝังอยู่ในพื้น ซึ่งจะทำให้เครื่องสึกหรอได้ง่ายและเร็วขึ้น
วิธีการง่ายๆ เราก็เพียงแค่เอาเจ้า Boundary Marker ที่เป็นลักษณะของ เทปแถบแม่เหล็ก ไปวางขวางทางเดินกั้นห้อง ที่เราไม่ต้องการให้มันวิ่งเข้าไปทำความสะอาด หรือ พื้นที่ ที่ไม่ต้องการให้วิ่งเข้าไปเอาไว้
14. ใช้งานมาแล้ว เครื่อง Neato Botvac 70e เป็นรอยหรือไม่ ?
เป็นนิดหน่อย เพราะแน่นอนว่าเจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เป็นเครื่องที่ต้องวิ่งดูดภายในบ้าน ตามห้อง ต่างๆ การมีรอยขีดข่วน ขูดขีด ต่างๆ จึงถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะมันก็ต้องมีการวิ่งชน กระทบกระทั่ง กันบ้าง
แต่เนื่องจากเจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้มันใช้เทคโนโลยีการนำทางด้วยแสงเลเซอร์ (Laser-Guided Technology) จึงมีอัตราการเข้าชน กระทบกระทั่ง กับเฟอร์นิเจอร์ หรือ ข้างของเครื่องใช้ค่อนข้างน้อยครั้ง และการชนแต่ละครั้งจะเป็นการชนที่เบามาก เพราะนอกจากจะใช้เลเซอร์แล้ว ยังมีกันชนหน้า เพื่อดูดซับแรงกระแทกอีกชั้นนึงอีกด้วย เรียกได้ว่าสภาพยังโอเคอยู่มากๆ ดูจากภาพด้านล่างได้เลย
15. การดูดฝุ่นครั้งนึง จะใช้เวลานานเท่าไหร่ ?
เป็นเรื่องที่ตอบยากพอสมควร เพราะเวลาที่ใช้ในการดูดฝุ่นนั้น จะต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยของขนาดห้อง และ อุปสรรค ต่างๆ ที่มี เช่น ข้าวของเครื่องใช้เยอะมั้ย วันนี้ของในห้องเยอะหรือเปล่า แบบนี้เป็นต้น
แต่ถ้าสำหรับตัวผม เป็นห้องพักขนาดพื้นที่ ที่ให้ดูดอยู่ ประมาณ 60 ตารางเมตร (ตัดระเบียง และ ห้องน้ำออกไป) ซึ่งแบ่งออกเป็น 1 ห้องโถงใหญ่ 2 ห้องนอน และ 1 ห้องครัว ครั้งนึงหากปล่อยมันวิ่งครบทุกห้อง ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับมัน ก็จะ ใช้เวลาประมาณ 40-45 นาที ต่อครั้ง เท่านั้นเอง
16. ซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato Botvac 70e ได้ที่ไหน ราคาเท่าไหร่ ?
ขณะนี้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato Botvac 70e ได้ถูก หยุดผลิต หยุดจัดจำหน่าย ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กรุณาหา หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato รุ่นอื่น ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้ที่นี่
⇒ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato ในรุ่นอื่นๆ
ราคาอะไหล่ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato Botvac 70e
หลายคนก่อนจะซื้อสินค้าอะไรมาใช้สักชิ้นนึง อาจะมีข้อกังวลเรื่องของค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเครื่องว่าแพงหรือไม่ ผมได้สืบเสาะ มาจาก บริษัท โรบอท เมคเกอร์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายและนำเข้า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato แต่เพียงผู้เดียว ในประเทศไทย พบว่าราคาอะไหล่ ก็ถือว่าสมเหตุสมผล ไม่ถูกไม่แพง ตามราคาเครื่อง และ คุณภาพของเครื่อง ที่อยู่ในเกรดสูง มาดูราคากันเลย
บทสรุปการใช้งาน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato Botvac 70e
หลังจากที่ใช้งานเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เป็นธรรมเนียมของเว็บ Thanop.com ทุกครั้ง ที่จะต้องมาเขียนบทสรุปส่งท้าย ข้อดีข้อเสียของสินค้าที่นำมารีวิว และ นี่ก็เช่นเดียวกัน หลังจากรีวิวเสร็จแล้ว ขอเชิญมาอ่านข้อดีข้อเสียของเจ้าเครื่องนี้ที่ด้านล่างเลย
ข้อดี 🙂
- นำทางด้วยระบบเลเซอร์ (Laser-Guided Technology) ทำให้ลดโอกาส วิ่งชนสิ่งกีดขวางได้เยอะ ถึงชนก็เบาๆ สร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ ในห้อง ได้น้อยมากๆ ก่อนมาเขียนรีวิวก็ใช้มา 2 สัปดาห์ แล้ว พบว่าเกิดรอยขูดขีดบนตัวเครื่อง ขนาดนิดเดียวเล็กมากๆ
- สามารถ ดูดฝุ่น เศษขยะ ต่างๆ ได้แรงมากๆ พลังเหลือเฟือ สมกับที่เขาโฆษณาเอาไว้จริงๆ ที่ว่า “Powerful Suction”
- สามารถทำความสะอาดข้ามห้องได้จริงๆ ไม่หลง พาตัวเองออกจากห้องต่างๆ ได้อย่างง่ายๆ ไม่วิ่งวนไปวนมา
- เวลาวิ่งกลับฐาน หรือ แท่นชาร์จ ไม่วิ่งมั่ว เหมือนหุ่นยนต์ดูดฝุ่นหลายๆ ตัว พอดูดเสร็จ ระบบดูดฝุ่นจะหยุดดูดทันที เหลือแต่ระบบขับเคลื่อน (ระบบล้อ) ที่หมุนวิ่งตรง พาเข้ากลับแท่นชาร์จโดนอัตโนมัติ ไม่หลงทาง
- สามารถเอาตัวรอดจากสิ่งกีดขวางได้เป็นอย่างดี เช่น เวลาวิ่งไปแล้วเกิดติดพรม ระบบทำความสะอาดอาทิ แปรงกวาดหลัก (Main Brush) และ แปรงด้านข้าง (Side Brush) จะหยุดทำงานอย่างอัตโนมัติก่อน เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อระบบขับเคลื่อน ในการพาตัวเองออกมาจากจุดที่ติดและวิ่งต่อไม่ได้
- สามารถวิ่งข้ามพื้นที่ต่างระดับได้เกิน 1-1.5 เซนติเมตร ซึ่งหุ่นยนต์ดูดฝุ่นในท้องตลาดหลายตัว แค่ 0.5 เซนติเมตร ก็เหนื่อยแล้ว
- สามารถตั้งเวลาทำความสะอาดประจำวัน (Cleaning Schedule) ได้อย่างอิสระ จุดนี้ผมชอบมากๆ กลับบ้านมาไม่ต้องตั้งเครื่องแล้วรอเวลาดูดให้เสียเวลาพักผ่อนไปอีก ตั้งเวลาไปเลย พอกลับบ้านมาก็เสร็จแล้ว แค่เอาเศษขยะจากกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ไปทิ้งลงถังขยะก็เสร็จพิธี
- สามารถอัพเดทซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นใหม่ๆ ได้ผ่านทางพอร์ต USB ในกรณีที่ทางผู้ผลิตออกซอฟต์แวร์ใหม่ โดยไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ หรือ เอาเครื่องเข้าศูนย์บริการ สามารถเข้าไปลงทะเบียนและดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จาก เว็บไซต์ผู้ผลิตหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato ได้เลย
- ปุ่มเปิดเครื่องอยู่ด้านบน ทำให้เปิดเครื่องได้ง่าย บางรุ่นอยู่ใต้เครื่อง เวลาจะเปิดที ต้องยกเครื่อง (ซึ่งมีน้ำหนักมาก) ขึ้นมาเปิดเครื่อง และพลิกกลับไปวางอีกที
- ดูดต่อเนื่องได้นานสูงสุดถึง 2 ชั่วโมง เนื่องจาก แบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ ความจุไฟระดับ 4,200 mAh (เทียบให้ดูระหว่าง ไอโฟน 6 – 1810 mAh และ ไอโฟน 6 พลัส – 2,915 mAh *ข้อมูลจาก Wikipedia)
ข้อเสีย 🙁
- ตัวเครื่องมีน้ำหนักเยอะ แบตเตอรี่ มีความจุเยอะ ตัวเครื่องแข็งแรง
- เสียงดังพอสมควร แต่ก็ไม่ได้ดังจนแสบแก้วหูอะไรมากมาย เหมือนเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้คนดูด
- อะไหล่ราคาค่อนข้างสูง แน่นอนมันต้องแพงตามราคาและคุณภาพของเครื่องด้วย
- ไม่มีรีโมทคอนโทรลมาให้ ทำให้สั่งงานระยะไกลไม่ได้
- ตัวเครื่องใช้วัสดุ พลาสติก แบบมัน จึงทำให้เวลาจับเป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ก็ออก
สุดท้ายนี้ก็หวังว่า รีวิวฉบับนี้ ก็จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นดีๆ มาใช้สักตัวได้ไม่มากก็น้อยนะครับ หากมีสิ่งใดที่ผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ จุดนี้ด้วย ไว้พบกันในรีวิวใหม่ฉบับหน้า สวัสดีคร้าบ 🙂
ขอบคุณค่ะ มีประโยชน์ม้ากกกกกกกก
ด้วยความยินดีครับ
เราสามารถใช้แถบหล็กแบบนี้กับ hom bot ของ lg รุ่นฝาแดงได้ไหมคะ ถ้าทำได้แล้วจะหาซื้อแถบแม่เหล็กได้ที่ไหนคะ
ไม่ได้ครับผม เพราะว่า LG Hom-Bot มันไม่ได้มีตัวเซ็นเซอร์อ่านค่าตรงนี้ครับ มันก็จะมองแค่ว่าเป็นสิ่งกีดขวางธรรมดาอันนึง ซึ่งจากความสูงของแถบแม่เหล็กระดับนี้ มันสามารถวิ่งผ่านได้สบายๆ อยู่แล้วครับ ฉะนั้นไม่มีประโยชน์ครับผม
ตัวแถบแม่เหล็ก (Boundary Marker) ตัวนี้ต้องใช้กับ Neato Botvac และ Neato XV Signature Pro เท่านั้นครับผม
ขอบคุณค่ะ เกือบตกไปครั้งนึงช่วงหันหลังกลับจากบันไดแต่ดันเดินถอยหลังไปตะแคงติดตรงจมูกบันได คงต้องหาอะไรมากั้นไม่ให้ผ่านได้แทน
สวัสดีค่ะ ถ้าเปรียบเทียบความทนทานของตัวเครื่องระหว่าง Neto Botvac กับ Sumsung VR9000 อันใหนทนกว่ากันคะ
ขอบคุณค่ะ
ในแง่ของความทนทาน คงทน ผมว่าพอๆ กันทั้งคู่นะครับ แต่ตัว Neato Botvac ดูจะคล่องตัวกว่า ด้วยขนาดของมันที่เล็กกว่า
Neato Botvac มีระบบกันตกบันไดมั้ยครับ
มีครับ ฉลาดมากๆ ด้วยเช่นกันครับ ระบบกันตกบันไดนี้ส่วนมากจะเป็นระบบพื้นฐานที่ตั้งแต่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นราคาถูกๆ รุ่นเล็กๆ มี ดังนั้นตัว Neato Botvac ตัวนี้ถือเป็นรุ่นใหญ่ มีแน่นอนครับผม หายห่วงได้เลย 🙂
ดิฉันกำลังหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นสักเครื่อง ที่บ้านเป็นพื้นปูกระเบื้องยาง จะขอคำแนะนำจากคุณนพ ว่าจะซื้อยี่ห้ออะไร และรุ่นไหนดี
เมื่อดูรีวิว botvac ดิฉันคงเปลี่ยนแปรงไม่เป็นแน่ค่ะมันยาก แต่อยากได้เครื่องที่มีกำลังแรงค่ะ
ตัว Neato Botvac นี้ความจริงแล้วเปลี่ยนแปรงไม่ยากนะครับ เพียงแค่ดึงเอาแปรงกวาดข้าง (Side Brush) ที่อยู่ด้านขวาขึ้นมา (ดึงแปรงข้างง่ายมาก ดึงมากเลย เพราะมันยึดด้วยแม่เหล็ก) แล้วกดที่ปลดล็อค ของฝาเปิด 2 ข้างพร้อมๆ กัน พอเปิดฝาขึ้นมาแล้ว หยิบแปรงออกมาจากเครื่องได้เลยครับ
แต่ถ้าเทียบกับตัว Neato XV Signature Pro (รุ่นรองท็อป) จะเป็นสายพานเชื่อมกับแปรงกวาด (เหมือนพวกโซ่จักรยาน มอเตอร์ไซค์) ซึ่งอันนี้จะเสียเวลาใส่สายพานมาก เพราะต้องใส่ให้ตรงร่องกับฟันเฟืองของแปรงด้วย มีอะไรสอบถามเพิ่มเติม ถามเข้ามาได้เลยนาครับ
กำลังลังเลเลยค่ะ ว่าเจ้าตัวนี้(Neato)กับ iClebo YCR-M05-20 ตัวไหนน่าจะคุ้มค่ากว่ากันค่ะ
ตัว iClebo YCR-M05-20 ผมไม่มีข้อมูลมันจริงๆ ครับ แต่บอกได้เลยว่า Neato Botvac นี่ผมว่าตอบโจทย์ผมมากที่สุดละคับ เพราะสาเหต
1. สามารถวิ่งกลับฐานได้เองอย่างแม่นยำ ทุกครั้ง ไม่ไปดับหรือแบตหมดที่อื่น
2. สามารถเอาตัวรอดจากอุปสรรคต่างๆ ได้ อาทิ พรมที่มีขนยาวๆ หรือสายไฟ พื้นที่ต่างระดับ
3. มีแรงดูดฝุ่นที่สูงมาก เหมือนเครื่องดูดฝุ่นเลย
4. ตั้งเวลาดูดฝุ่นให้มันออกมาดูดฝุ่นรายวันได้ครับ
เหตุผลของผมก็ประมาณนี้
ตัวนี้คือมันดูดจริงๆเลยใช่มั้ยครับ ไม่เหมือนตัวอื่นๆบางยี่ห้อที่แค่กวาดฝุ่นเข้ามา
พอดีใช้ของแอลจีอยู่เสียงไม่ดังแต่เหมือนไม่ดูดเลยครับ
มีของยี่ห้อไหนที่ดูดแรงๆแบบนี้อีกมั้ยครับ
ขอบคุณครับ
มันไม่ได้ดูดครับผม มันเป็นแปรงที่หมุนๆ แล้วดูดตักฝุ่นขึ้นไปในกล่องใส่ขยะ (Dirt Bin) ครับ แต่อันนี้มันหมุนแรงกว่าของ LG เยอะมากครับ จึงทำให้พลัง
ผมไปดูรีวิวของต่างประเทศแล้วเจอเค้าแกะ ออกมาหมดเลยครับมีใบพัดดูดเหมือนของในคอมพิวเตอร์ แต่ใหญ่กว่าอยู่ตรงด้านล้างตัว censor กลมๆอะครับ
ผมสนใจตัวนี้เหมือนกัน เห็นว่าฉลาด แต่ยังลังเล ระหว่าง neato กับ. Irobot
ช่วยแนะนำ หรือ เปรียบเทียบ ให้หน่อยได้มั้ยครับ
ส่วนตัวผมใช้ Neato และ iRobot มาแล้วทั้งคู่ ผมประทับใจ Neato มากกว่าครับ ฉลาดกว่ามากๆ
ปล. ย้ำว่านี่คือความคิดเห็นส่วนตัวของผม หลังจากที่เคยใช้มา เท่านั้นนะครับ ไม่ได้มีเรื่องเงิน หรือปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง
ดูในไทยแวร์ราคา 24,900 อยู่เลยคับ ทำยังไงถึงได้ราคา 24,400
อ้อขออภัยที่ไม่เคลียร์ครับ ก่อนที่จะทำรายการสั่งซื้อ ขอให้กรอกช่องคูปองส่วนลด ว่า “MEMBERTW500” แล้วจะได้รับส่วนลด 500 บาท ครับผม
ผมสนใจตัวนี้อยู่เหมือนกันคับ สงสัยว่าลมที่เป่าด้านหลังมันทำฝุ่นในส่วนที่ยังไม่ดูดฝุ้งแค่ไหน เพราะเห็นเป่าแรงมาก
และอีกเรื่องคือลูกปืนที่ว่ามีปัญหาผมเข้าไปพันแล้วจะเจ๊งอันนี้เจอบ้างมั้ย http://www.robotreviews.com/chat/viewtopic.php?f=20&t=17913
เห็นในลิ้งค์นี้เค้าแก้โดยหาลูกปืนแบบ sealed มาเปลี่ยนเอง
ลมที่เป่าออกด้านล่าง ถ้าสังเกตดีๆ มันจะเป่าออกระดับบนครับผม ไม่ได้เป่าลงพื้นครับ
ส่วนเรื่องปัญหาลูกปืน จากกระทู้ที่ถามมา ผมเดาว่าเขาน่าจะไม่ได้ทำความสะอาดตัวเครื่องทุกวัน เพราะดูจากรูปแล้วมีฝุ่นหมักหมม อยู่ในลูกปืนเยอะมากพอสมควร สำหรับผมดูและแกะออกมาทำความสะอาดทุกวันครับ เลยไม่เกิดปัญหา และอีกอย่างผมเพิ่งใช้งานมาแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้นครับผม อาจจะต้องดูยาวๆ กว่านี้อีกสักนิดครับผม
ผมตามไปอ่านในกระมู้นั้นเห็นว่า botvac รุ่นใหม่มาพร้อมลูกปืนแบบซีลแล้วนะฮะ
จริงเหรอครับ ลูกปืนแบบซีลนี่คือ ใช่ที่ป้องกันเส้นผมเข้าไปพันในลูกปืนใช่ไหมครับผม 🙂