เริ่มเปิดใช้งาน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato XV Signature Pro
บรรยายสรรพคุณของเครื่อง มาเสียยาวเหยียด คราวนี้ก็ได้เวลามาบรรยายการเริ่มใช้งานหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้กันอีกยาวเหยียดต่อ ซึ่งส่วนตัวแล้วก็เคยชินกับการใช้งาน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato แล้ว เพราะได้ทดลองใช้งาน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato รุ่น Botvac มาแล้ว
ติดตั้งแท่นชาร์จ (Charge Base Installation)
เริ่มแรกแน่นอนว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ทุกรุ่นทุกชนิด ก่อนจะเริ่มใช้งานครั้งแรก จะต้องทำการชาร์จไฟ ลงแบตเตอรี่เสียก่อน สำหรับตัว Neato XV Signature Pro นั้น มีแท่นชาร์จที่เป็นสีดำ พร้อมกับแถบโลหะ 2 แถบ ตรงด้านล่าง ที่เป็นหน้าสัมผัส เอาไว้ไปสัมผัสกับตัว เครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato เพื่อชาร์จแบตฯ ลงเครื่องนั่นเอง
ข้อควรระวัง
เป็นธรรมดาปกติของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ทุกยี่ห้อ ที่มีแท่นชาร์จ (Charge Base) เพื่อที่จะให้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น วิ่งกลับฐานเพื่อเข้ามาชาร์จเองได้อย่างไม่ติดปัญหาใดๆ นั้น ควรจะต้องวางห่างจากสิ่งกีดขวางเป็นระยะห่างทั้ง 3 ด้าน ด้านละ 1 เมตร (ประมาณ 3.2 ฟุต)
นอกจากนี้แล้ว ผมเพิ่งรู้ว่าเจ้าแท่นชาร์จนี่มันสามารถแกะเปิดฝาหลังออกมาได้ และ เมื่อลองแกะฝาหลังของแท่นชาร์จออกมาดูแล้วขอบอกว่า “ผมนี้ถึงกับอึ้งเลย” เพราะมันไม่มีอะไรเลยจริงๆ มีสายไฟวิ่งเข้าไป อะแดปเตอร์ เพื่อแปลงไฟไปจากภายนอก ไปใช้ภายกับเครื่องหุ่นยนต์ฝุ่น ลองดูรูปประกอบด้านล่างได้เลย
ทีนี้ลองมาดูเปรียบเทียบขนาดของแท่นชาร์จกันดูบ้าง ระหว่าง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato ซีรีย์ Botvac (สีดำ) และ Neato ซีรีย์ Botvac (สีขาว) ว่าอันไหนใหญ่กว่ากัน ถ้าเทียบกับไม้บรรทัดนะ
ปรากฏว่าขนาดของแท่นชาร์จ Neato ซีรีย์ XV ที่เป็นสีดำนั้น มีขนาดความกว้างที่กว้างกว่า ใหญ่กว่าอยู่พอสมควร แต่ว่าตรงแถบโลหะ ที่เป็นหน้าสัมผัสนั้น มีขนาดที่เท่ากันเลย
ข้อแตกต่างระหว่างรุ่นนี้ Neato XV กับรุ่นใหญ่ Neato Botvac
ด้านหลังของแท่นชาร์จ (Charge Base) จะมีสายไฟออกมาจากตัวแท่นชาร์จโดยตรง หากสังเกตุดูดีๆ ว่าด้านหลังของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะแบนเรียบ ไม่มีอะไรเลย ซึ่งต่างกับตัวแท่บชาร์จของรุ่น Botvac ตรงที่
- ด้านหลังของรุ่น Botvac มีร่องให้เก็บสายไฟ ไม่ให้แกะกะ ในกรณีที่แท่นชาร์จวางอยู่ใกล้ปลั๊กไฟ
- สายไฟของรุ่น Botvac สามารถถอดแยกออกมาจากแท่นชาร์จได้อย่างอิสระ แต่ Neato XV ตัวนี้สายไฟจะฝังติดกับแท่นชาร์จเลย
ติดตั้งตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น (Robot Vacuum Installation)
หลังจากที่เสียบปลั๊กที่แท่นชาร์จ รอเอาไว้แล้วนั้น คราวนี้ก็มาดูกันที่ในส่วนของตัวเครื่องกันบ้าง ว่าจะต้องทำอะไรกับมันมั้ย โดยหลักๆ ที่จะต้องทำเลยก็คือ เปิดสวิตซ์หลัก ของมันก่อน ซึ่งเจ้าสวิตซ์หลัก (Main Switch) นี้จะอยู่ด้านในของตัวเครื่อง โดยจะต้องยกกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (Dirt Bin) ออกมาจากเครื่องก่อน แล้วค่อยกดเปิด มีป้ายระบุเอาไว้ชัดเจนว่าอันไหนเปิดอันไหนปิด (เลื่อนสวิตซ์ขึ้นปิด เลื่อนสวิตซ์ลงเปิด) หลังจากนั้นก็ยกเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ไปวางไว้กับแท่นชาร์จ เพื่อชาร์จไฟต่อเลยนั่นเอง
หมายเหตุ
หากเป็นการชาร์จไฟครั้งแรกหลังจากแกะกล่อง จะต้องชาร์จทิ้งเอาไว้อย่างต่ำประมาณ 12 ชั่วโมง เพื่อให้แบตเตอรี่ มีการเก็บประจุไฟฟ้า เข้าไปได้อย่างเต็มที่ ถึงแม้ว่าเครื่องที่แกะกล่องออกมาแล้วจะมีไฟที่ถูกชาร์จมาจากโรงงาน อยู่เพียงน้อยนิดก็ตาม
การตั้งค่าครั้งแรก เครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato XV
มาถึงช่วงของการตั้งค่าครั้งแรก (Initial Setting) หลังการเปิดเครื่อง ก่อนการใช้งานกันดูบ้าง ซึ่งเจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้ แน่นอนว่าเน้นการใช้งานที่เรียบง่ายเป็นหลัก ดังนั้น จึงไม่ได้มีขั้นตอนอะไรที่ยุ่งยากเลย แต่ขอให้ชาร์จแบตเตอรี่ครบ 12 ชั่วโมง ก่อนนะ ถึงจะเปิดใช้งาน ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน แต่ทางผู้ผลิตเขาแนะนำมาว่าแบบนี้ ก็ทำตามดีกว่า เพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ และ ตัวเครื่องให้ยาวนานมากยิ่งขึ้นนั่นเอง (หวังว่าคงเป็นเช่นนั้น)
สังเกตุดูที่หน้าของจอ ด้านมุมขวาบนของหน้าจอ จะมีแถบแสดงสถานะของแบตเตอรี่ (Battery Status) ว่า เหลืออีกมากน้อยเพียงใด ใกล้จะหมดแล้วหรือยัง ส่วนอันนี้คือเปิดมาครั้งแรกเลยหลังแกะกล่อง มันก็เลยแสดงว่าแบตฯ ใกล้จะหมดเต็มที่แล้ว ต้องรีบไปชาร์จไฟด่วนๆ เลย
นอกจากนี้ตรงกลางคือเวลาของเครื่อง ซึ่งแน่นอนว่าครั้งแรก ยังไม่ได้ผ่านการตั้งค่าอะไรมาทั้งนั้น เวลาเลยถูกกำหนดเริ่มที่ 0:00 น. นั่นเอง แต่หากเราตั้งเวลาให้กับเครื่อง เป็นเรียบร้อยแล้ว เวลาก็จะเป็นเวลาปัจจุบันแล้วนั่นเอง หายห่วงเลย
หลังจากนั้นก็กดปุ่มเมนู (Menu) เพื่อเข้าไปดูกันเลยว่า มีเมนู หรือ ฟังก์ชั่น ลูกเล่นอะไร ที่ดูน่าสนใจกันบ้าง
- Spot Clean : เปิดโหมดทำความสะอาดเฉพาะจุด (Spot Cleaning Mode) มีประโยชน์ในกรณีที่เด็กๆ ทำเศษขนมอบกรอบตกพื้น เศษยางลบหล่น เฉพาะจุด ตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato XV Signature Pro ตัวนี้สามารถที่จะใช้โหมดนี้ทำงาน เพื่อดูดฝุ่นเฉพาะจุด ในรัศมีที่เครื่องมันเริ่มทำงานได้ ประโยชน์ของมันคือดูดเร็ว เฉพาะพื้นที่
- Schedule : ตั้งเวลาให้เครื่องทำงานตามเวลาที่กำหนดรายวัน (Set Daily Schedule) เหมาะสำหรับคนวัยทำงาน ที่ไม่มีเวลาทำความสะอาด หรือแม้แต่เวลามาตั้งเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ทำความสะอาด โหมดนี้เครื่องดูดฝุ่น จะออกมาดูดฝุ่น และ กลับแท่นชาร์จ โดยอัตโนมัติเมื่อดูดเสร็จสิ้น
- Set Clock : ตั้งเวลาให้กับเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ตั้งแค่ครั้งแรกเท่านั้น ถ้าไม่ตั้งเวลา ก็ไม่สามารถใช้งาน โหมด “Schedule” ในข้อ 2. ได้
- Laguage : ตั้งค่าภาษา ที่ใช้งานบนเครื่อง โดยมีภาษาให้เลือกใช้อยู่ 9 ภาษา (ไม่มีภาษาไทย)
- Support : หน้าจอแสดงผลการตั้งค่า ข้อมูลจำเพาะต่างๆ ที่มีอยู่ภายในเครื่อง
โหมดทำความสะอาดเฉพาะจุด (Spot Clean)
เมนูแรก ของ เมนูหลัก (Main Menu) ในเครื่องนี้มีชื่อว่า “Spot Clean” มันคือโหมด หรือ รูปแบบการทำความสะอาดแบบเฉพาะจุด นั่นหมายความว่าหากคุณเลือกเมนูนี้เมื่อไหร่แล้วกดปุ่ม “Select” ตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato XV Signature Pro นั้นจะเริ่มทำความสะอาด ในระยะใกล้ๆ และ วิ่งกลับแท่นชาร์จ ทันที ซึ่งกินพื้นที่สั้นๆ เพราะดูดแค่รอบๆ เครื่องเท่านั้น และ ระยะเวลาก็สั้นๆ อีกด้วยเช่นกัน (ประมาณ 5-10 นาที ไม่เกินนี้)
ประโยชน์ของมันคือ มันสามารถที่จะใช้ทำความสะอาดพวกเศษอาหาร เศษขนมอบกรอบ ขนมขบเคี้ยว หกหรือหล่นในกรอบแคบๆ เศษยางลบ หรือทำแป้งหก ที่หกหล่นเป็นจุดๆ ไม่ขยายบริเวณกว้าง เป็นต้น ใช้โหมดนี้จะดีมากๆ เพราะประหยัดเวลามาก ไม่ต้องให้เครื่องไปทำความสะอาดทั่วทั้งห้องนั่นเอง
ข้อแตกต่างระหว่างรุ่นนี้ Neato XV กับรุ่นใหญ่ Neato Botvac
สำหรับรุ่นพี่ของมันอย่างรุ่น Botvac จะมีปุ่มแยกออกมาต่างหาก แทนการใช้เป็นเมนู เหมือนกับรุ่น XV
โหมดตั้งเวลาทำความสะอาดรายวัน (Daily Cleaning Schedule)
เมนูนี้ ถือเป็นเมนูหลักอันที่สอง ที่มีความสำคัญมากๆ สำหรับหนุ่มสาวชาวออฟฟิศ หรือ นักศึกษา ทั้งหลายที่อยู่ตามคอนโดมิเนียม หรือ หอพัก ต่างๆ ที่สามารถตั้งเวลาให้เครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato XV Signature Pro ทำความสะอาด ก่อนคุณกลับถึงบ้านได้ ให้คุณกลับมาพบกับห้องที่สะอาดๆ พร้อมพักผ่อนต่อไป และเมื่อคุณกลับบ้าน หน้าที่ที่ต้องทำคือ เอาขยะจากกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (Dirt Bin) ไปทิ้งถังขยะ ก็เป็นอันเสร็จพิธี
เมื่อกดเข้าไปในส่วนของ “Schedule” ก็จะได้พบกับเมนูย่อยทั้งหมด 3 เมนูด้วยกันคือ
- Set of Change : ส่วนนี้เข้าไปตั้งค่าทำความสะอาดรายวันอย่างละเอียด หรือ เปลี่ยนแปลง
- Remove Day : ส่วนนี้ใช้เพื่อ ลบวันที่ทำความสะอาดทิ้ง หากไม่ต้องการให้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ทำความสะอาดในวันนั้นๆ แล้ว ลบทิ้งได้ที่นี่
- Turn Off : ปิดเครื่องเดี๋ยวนี้ แต่เป็นแค่การปิดแบบโหมดนอนหลับ “Sleep Mode” ไม่ใช่การปิดการจ่ายไฟจากแบตเตอรี่ เพราะถ้าจะปิดการจ่ายไฟ หรือ ปิดถาวรนั้น จะต้องไปกดที่ปุ่มสวิตซ์เปิดปิดเครื่องหลัก ซึ่งต้องแกะกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ออกมาก่อน ด้วยตัวเอง
เราสามารถที่จะกำหนดวันที่ต้องการจะทำความสะอาด หรือ ไม่ต้องทำความสะอาดในวันใดวันหนึ่งได้ โดยเลือกเลยว่าเช่นวันอาทิตย์ วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัสบดี วันศุกร์ วันเสาร์ ในแต่ละวันจะให้ทำกี่โมง ซึ่งในแต่ละวัน ก็สามารถกำหนดให้ทำความสะอาดคนละเวลากันได้ (เพราะมันตั้งค่าแยกอิสระต่อกัน) หรือ แม้แต่บางวัน ถ้าเกิดอยู่บ้านทั้งวัน ไม่อยากให้เครื่องออกมารบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของเรา ก็เลือก “None” หมายความว่า ไม่ต้องให้มันออกมาทำความสะอาดเฉพาะวันได้อีกด้วยนั่นเอง
เนื่องจาก หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato XV Signature Pro จะมีความยืดหยุ่นในการตั้งเวลาทำความสะอาดสูง จะสังเกตุเห็นว่า เราไม่จำเป็นจะต้องให้มันทำความสะอาดทุกวันก็ได้ จากตัวอย่างด้านบน ทำทุกวัน ยกเว้นวันพุธ ไม่ต้องทำค่าเลยเป็น “None” เป็นต้น
ตั้งเวลา (Set Clock)
เมนูถัดมา (เมนูที่ 3) เป็นเมนูที่เอาไว้ทำการตั้งเวลา (Time Setting) เพื่อบอกเวลาให้กับหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ให้มันรู้จักกับเวลากันก่อน ว่าตอนนี้กี่โมงกี่ยามกันแล้ว ซึ่งสาเหตุที่เราจะต้องตั้งเวลานั้น มันจะต้องไปสอดคล้องกับ โหมดตั้งเวลาทำความสะอาดรายวัน ที่ได้กล่าวในด้านบน นั่นเอง
และเมื่อกดเข้าไปด้านในเมนู “Set Clock” คำถามแรกที่คุณจะถูกถามเลยคือ ต้องการนาฬิกาบอกเวลาในโหมดไหน มีให้เลือก 2 แบบดังต่อไปนี้
- โหมด 12-Hour Clock : แบบนี้ก็คือเวลาที่แสดง ก็จะมีช่วงอยู่ระหว่าง 0 ถึง 11 และจะมีหน่วย am pm ต่อท้าย ด้วยว่านี่คือกลางวัน (am) หรือ กลางคืน (pm)
- โหมด 24-Hour Clock : แบบนั้นจะเป็นชั่วโมงตั้งแต่ 0 ถึง 23 และไม่มี am pm ให้เลือก ก็แล้วแต่ความชอบ ความถนัดของผู้ใช้งานเลย
หลังจากนั้นก็จะเป็นการตั้งชั่วโมง (Set Hour) และ เวลานาที (Set Minute) ของเครื่อง ก็ไม่มีอะไรมาก แค่กดเลื่อนขึ้นลง และปุ่ม “Enter” เพื่อไปในขั้นตอนต่อไป ซึ่งเครื่องนี้ไม่จำเป็นจะต้องตั้งค่าของเดือน หรือปี ค.ศ. อะไรเลย เพราะไม่รู้จะรู้ไปเพื่ออะไรถูกมั้ยฮะ มันต้องการรู้แค่ว่า วันนี้คือวันอะไรในสัปดาห์ (จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์) และ ชั่วโมงนาที เพื่อตั้งเวลาในการทำความสะอาดได้ก็เพียงพอแล้ว
ตั้งค่าภาษา (Language Setting)
เมนูต่อไปคือ เมนูของการตั้งค่าภาษา (Language Setting) ซึ่งในเครื่องนี้จะมีภาษาให้เลือกอยู่ทั้งหมด 9 ภาษา อาทิ อังกฤษ เช็ค เยอรมัน สเปน ฝรั่งเศส จีน และอื่นๆ (แต่ไม่มีภาษาไทย) ซึ่งผมก็ใช้ภาษาอังกฤษไป ไม่ต้องไปเปลี่ยนค่าอะไรมันมากมาย ข้ามไปเลย
ข้อแตกต่างระหว่างรุ่นนี้ Neato XV กับรุ่นใหญ่ Neato Botvac
สังเกตเห็นว่าในหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato ในตระกูล XV ซีรีย์ ทั้งหมดนั้นจะมีภาษาแค่ 9 ภาษา แต่ในตระกูล Botvac จะมีภาษาให้เลือกทั้งหมด 18 ภาษา (มากกว่า 2 เท่า) แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 รุ่น ก็ยังไม่มีภาษาไทย ให้เลือกใช้บริการอยู่ดี
ตั้งค่าและดูค่าทั่วไป (Support)
สำหรับใน เมนูส่วนซัพพอร์ต (Support) ตรงนี้ เอาไว้ใชดูค่าต่างๆ ที่ถูกตั้งเอาไว้โดยผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังมีส่วนของ ข้อมูลจำเพาะที่ถูกเซ็ตเอาไว้ในเครื่องตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ลองมาดูกันว่าใน Neato XV Signature Pro นั้นมีเมนูส่วนไหน กันบ้าง
- Show Revisions : แสดงหมายเลขเวอร์ชั่นของเฟิร์มแวร์ ซอฟต์แวร์ ที่อยู่ในเครื่อง
- Warranty Info : รายละเอียดการรับประกันเครื่อง
- ShutDown : ปิดเครื่องทันที ปิดเดี๋ยวนี้ แต่เป็นการปิดในโหมดกึ่งๆ โหมดนอนหลับ (Sleep Mode) ไม่ได้เป็นการปิดถาวร หากต้องการปิดถาวรต้องปิดที่สวิตซ์เปิดปิดเครื่องหลัก
- Set LEDs On : ตั้งค่าเปิดปิด หน้าจอ LEDs ของเครื่อง
- Bin Alert Off : โหมดการเปิดปิด การแจ้งเตือน กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (Dirt Bin) หากไม่ได้ใส่อยู่ในที่ ที่ควรจะอยู่
- New Battery : ปุ่มเอาไว้รีเซ็ตตัวนับ (Reset Counter) ของแบตเตอรี่ ในกรณีที่เราเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ เพราะมิเช่นนั้น มันจะนับไปเรื่อยๆ และจะแจ้งเตือน เมื่อถึงคราว (มีเฉพาะตระกูล XV แต่ตัว Botvac จะไม่มี)
- Adjust Contrast : เมนูของการปรับความสว่างของหน้าจอ ว่างต้องการให้มีแสงจ้า มากน้อยเพียงใด (มีเฉพาะตระกูล XV แต่ตัว Botvac จะไม่มี)
ข้อแตกต่าง ระหว่าง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato ซีรีย์ XV และ Neato ซีรีย์ Botvac
จากที่อ่านมาด้านบน จะเห็นว่าผมได้มีการสอดแทรก ข้อแตกต่างของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นระหว่าง 2 ซีรีย์ นั่นคือ Neato XV และ Neato Botvac เข้าไปอยู่แล้ว แต่หลายคนก็อาจจะยังงงๆ สงสัยอยู่ว่า สรุปมันมีข้อแตกต่างกันกี่จุดกันแน่ ผมขอสรุป มาให้เห็นชัดๆ ในรูปแบบของตารางเปรียบเทียบกันดูเลย จะได้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ และการตัดสินใจ ในการเลือกซื้อนั่นเอง
รายการ / รุ่น | Neato XV | Neato Botvac |
ราคาจำหน่ายในเมืองไทย (Price in THB) |
19,500.00 บาท | 24,900.00 บาท |
ความจุแบตเตอรี่ (Battery Capacity) |
3,200 mAh | 4,200 mAh |
แปรงข้าง (Side Brush) |
ไม่มี | มี (ด้านขวางด้านเดียว) |
ความกว้างของแปรง (Main Brush Width) |
24.0 เซนติเมตร 9.5 นิ้ว (Inches) |
27.5 เซติเมตร 10.8 นิ้ว (Inches) |
น้ำหนักเครื่อง (Weight) |
3.8 กิโลกรัม (Kg.) | 4.0 กิโลกรัม (Kg.) |
ความกว้างกล่องใส่ขยะ (Dirt Bin Width) |
12.5 เซนติเมตร 5.0 นิ้ว (Inches) |
21.5 เซนติเมตร 8.5 นิ้ว (Inches) |
พอร์ต USB เพื่อใช้ อัพเดทเฟิร์มแวร์ (USB Port for upgrading firmware) |
มี | มี |
ประเภทของระบบนำทาง (Navigation Systems) |
เลเซอร์ | เลเซอร์ |
โหมดตั้งเวลาทำความสะอาด (Cleaning Schedule) |
มี | มี |
โหมดทำความสะอาดเฉพาะจุด (Spot Cleaning) |
มี | มี |
วิ่งกลับแท่นชาร์จเอง (Auto Return to Charge Base) |
ได้ | ได้ |
ประเภทของแปรงกวาด (Brush Type) |
Blade Combo |
Blade Combo |
ความยากง่ายการเปลี่ยนแปลงกวาด* (Brush Changing Difficulty) |
ยาก (เป็นเฟืองใส่สายพาน) |
ง่าย (ใส่ลงล็อกได้เลย) |
เปรียบเทียบ Neato XV และ Neato Botvac ด้วยรูปภาพ
นอกจากนี้แล้ว ผมยังทำการเปรียบเทียบอุปกรณ์ต่างๆ ในลักษณะรูปแบบของรูปภาพด้วย เพื่อที่จะได้เห็นอะไรต่างๆ ได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งแน่นอนก็เป็นการเปรียบเทียบระหว่างรุ่น Neato ซีรีย์ XV กับ Neato ซีรีย์ Botvac นั่นเอง
ขนาดของแปรงกวาดหลัก (Main Brush Size)
โดยส่วนแรก ที่เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนคือ ผมได้นำเอา ขนาดของแผ่นกรอง (Filter) และ ขนาดของแปรงกวาดหลัก (Main Brush) ซึ่งแปรงกวาดหลักที่ผมนำมาเปรียบเทียบนั้น ใช้แปรงกวาดประเภทผสม หรือที่เรียกว่า “Combo Brush” นั่นเอง จะสังเกตเห็นว่า ขนาดของ Botvac จะใหญ่กว่า XV ทั้งหมด
นอกจากนี้แล้ว ลองมาดูขนาดของกล่องใส่ขยะฝุ่นละอองกันดูบ้าง ว่าต่างกันมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจากที่สังเกตด้วยตาเปล่าแล้วพบว่า ขนาดความกว้างนั้น ตัว Neato Botvac จะมีขนาดที่กว่ารุ่น Neato XV ถึง 2 เท่าเลย แต่ว่า ช่องที่ให้ฝุ่นเข้าไปเก็บนั้นมีขนาดเท่ากันเป๊ะๆ นั่นคือ 6 เซนติเมตร (ซม.) ซึ่งดูแล้ว ประสิทธิภาพการดูด เท่ากัน แต่ความใหญ่ของกล่องต่างกัน นั่นหมายความว่า รุ่น Neato Botvac อาจจะเก็บฝุ่นไว้ในกล่องได้หลายวันมากกว่า แล้วค่อยทำความสะอาด
ความคิดเห็นส่วนตัว
แต่จริงๆ แล้วไม่ว่าจะใช้รุ่นไหน ตระกูลใด ซีรีย์ใดก็ตาม ก็ควรที่จะทำความสะอาดทุกวันนะ เพื่อประสิทธิภาพการดูดฝุ่นที่ดีกว่า
ขนาดของกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (Dirt Bin Size)
น้ำหนักหุ่นยนต์ดูดฝุ่น (XV vs Botvac Weight)
ทีนี้ลองมาดูที่น้ำหนักกันดูบ้างว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งดูแล้ว ห่างกันอยู่ประมาณ 0.2 กิโลกรัม (ประมาณ 200 กรัม) เท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าแตกต่างกันมากนัก
11 คำถาม หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato XV ที่ทุกคนต้องอยากรู้
มาถึงการใช้งานหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ของ Neato ซีรีย์ XV ตัวนี้ ผมก็ได้จัดเตรียมคำถาม คำตอบ ที่ผมคิดเอง ถามเองตอบเอง (ไม่ได้บ้านะ อิอิ) มาให้ทั้งหมด 11 ข้อ เพราะเชื่อว่าทุกคนจะต้องอยากรู้ เหมือนที่ผมอยากรู้ตอนแรก อย่างแน่นอน
1. สามารถวิ่งข้ามห้องได้หรือไม่ ?
ได้ชัวร์ เพราะเรื่องวิ่งผ่านข้ามห้องนั้น ไม่ใช่ปัญหาของเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato XV อยู่แล้ว ความฉลาดต่างๆ ก็ไม่แพ้พี่มันอย่างรุ่น Botvac เป็นแน่ ผมทำการทดสอบห้องบนคอนโดมิเนียม ขนาดประมาณ 60 ตารางเมตร สามารถวิ่งผ่านได้อย่างสบายๆ
2. วิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับได้หรือไม่ ?
ตัว Neato XV นี้มันสามารถวิ่งผ่านได้สบายๆ เช่นเดียวกับรุ่นพี่ของมันอย่าง Botvac แต่ว่าอาจจะมีข้อแตกต่างกันตรงที่ปืนไม่ได้สูงเท่ากับรุ่น Botvac ถ้าถามผม ผมคิดว่ามันสามารถวิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับ ได้อยู่ประมาณ 1.0 เซนติเมตร
ยกตัวอย่างพื้นที่ฝั่งห้องโถงรับแขก (ฝั่งตรงข้ามกับลูกศร) เจ้า Neato XV ตัวนี้สามารถวิ่งผ่านเข้ามาในห้องครัว (ฝั่งที่มีลูกศรสีแดง) ได้ แต่ปรากฏว่า มันไม่สามารถวิ่งกลับออกจากห้องครัว เพื่อออกไปยังห้องโถงรับแขกได้ สาเหตเพราะว่าระดับความสูงฝั่งห้องครัวสูงกว่า ฝั่งห้องโถงรับแขกด้านนอก
ซึ่งมันก็จะวิ่งวนๆ อยู่อย่างนั้นแหละ สักพักเครื่องก็หยุด แล้วขึ้นข้อความบนหน้าจอว่า “Please Clear my Path” (แต่ถ้าเป็นรุ่น Botvac จะสามารถออกไปได้)
ส่วนสาเหตุที่มันวิ่งข้ามพื้นที่ต่างระดับได้สูงนั้น เราก็มีหนึ่งในสาเหตมาฝาก นั่นคือระยะความสูงของล้อ กับตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่มีระยะการให้ตัว ที่สูง ลองสังเกตุดูดีๆ ว่าระยะของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato ทั้ง 2 รุ่น มันจะสูงกว่ายี่ห้อ LG
3. วิ่งกลับฐานหรือแท่นชาร์จ (Charge Base) ได้เองหรือไม่ ?
ได้ สามารถวิ่งกลับแท่นชาร์จ (Charge Base) เมื่อมันทำความสะอาดครบทั่วทุกมุม ทั่งทั้งห้องเสร็จเป็นที่เรียบร้อย มันก็จะวิ่งกลับแท่นชาร์จโดยอัตโนมัติทันที แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเปิดแท่นชาร์จรอเอาไว้ด้วยนะ มันถึงจะวิ่งกลับได้ถูกต้อง
4. มีรูปแบบทำความสะอาดกี่โหมด (Cleaning Mode) ?
เครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato XV Signature Pro นั้นมีโหมดการทำความสะอาดอยู่หลักๆ 2 โหมด ด้วยกันคือ โหมดทำความสะอาดเฉพาะจุด (Spot Cleaning Mode) ใช้ทำความสะอาดเวลามีเศษขนม เศษขี้ยางลบ หกหล่นอยู่เฉพาะจุดใดจุดหนึ่ง โหมดนี้เหมาะมากๆ และ โหมดทำความสะอาดแบบปกติ (General Cleaning Mode) หรือการทำความสะอาดทั่วบริเวณ ที่มันสามารถวิ่งเข้าถึงได้ และก็กลับมายังแท่นชาร์จ
5. วิ่งชน เฟอร์นิเจอร์ หรือ ตกบันได หรือไม่ ?
มีชนบ้าง แต่เป็นการชนที่เบามากๆ เพราะเจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato ซีรีย์ XV ตัวนี้ใช้ระบบนำทาง พร้อม เซ็นเซอร์ ด้วยระบบแสงเลเซอร์ (Laser-Guided Systems) ทำให้การวิ่งทำความสะอาดในห้อง เป็นการวิ่งที่มีความแม่นยำสูงมากๆ เฟอร์นิเจอร์ไม่มีรอยเลย และตัวเครื่องก็มีรอยขูดขีดน้อยมากๆ เช่นกัน ประกอบกับตัวนี้ยังมีกันชน (Bumper) ที่ให้ความยืดหยุ่นสูง แถมยัง ช่วยซึมซับแรงกระแทก ในการเข้าชน เข้าประทะ กับวัตถุต่างๆ ภายในห้องอีกด้วย และ สำหรับเรื่องของการวิ่งตกบันได นั้นไม่มีแน่นอน หายห่วง
6. ขณะดูดฝุ่นมีเสียงดังหรือไม่ ?
แน่นอนว่าเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato XV Signature Pro นั้นมีพลังการดูดที่แรง และสูงมากๆ เพราะนอกจากจะใช้พลังของแปรงกวาดหลัก (Main Brush) ในการหมุนและตีฝุ่นเข้ามาเก็บเอาไว้บนเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่นแล้ว ยังมีพลังลมดูด ที่มหาศาลที่เพิ่มแรงอัดในการดูดฝุ่นให้เข้ามาในเครื่องมากขึ้นอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เสียงของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นขณะที่มันกำลังทำงานนั้นดัง ไปด้วยตามลำดับ โดยผมได้ใช้แอพ LINE Tools ซึ่งเป็นแอพฯ เครื่องมือสารพัดประโยชน์ ในการวัดระดับความดังของเสียง ก็ออกมาได้ประมาณ 73 เดซิเบล (dB) ซึ่งก็ถือว่าดังพอสมควร แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของ เครื่องดูดฝุ่นทั่วๆ ไป (Vacuum Cleaner)
7. การดูดฝุ่นในแต่ละครั้ง Neato XV นี้ใช้เวลานานแค่ไหน ?
ถ้าถามว่า การดูดฝุ่นแต่ละครั้ง ใช้เวลานานเท่าไหน ในแต่ละห้อง แต่ละพื้นที่ มันไม่สามารถบอกเป็นเวลาที่ตายตัวได้ เพราะมันมีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นขนาดของห้อง (กี่ตารางเมตร) หรือแม้แต่ ถ้าหากขนาดของห้องเท่ากัน แต่จำนวนของในห้อง เฟอร์นิเจอร์ หรือสิ่งที่อาจเป็นอุปสรรค ต่างๆ อาทิ ข้าวของเครื่องใช้ พัดลม โต๊ะ ตู้เตียง จำนวนซอกมุมต่างๆ ล้วนแต่มีผลกับเวลาในการดูดฝุ่นทั้งนั้น
สำหรับห้องที่คอนโดมิเนียมของผมนั้น จะมีห้องทั้งหมด 3 ห้อง แบ่งออกเป็น 1 ห้องโถงใหญ่ และ 2 ห้องนอนเล็ก โดยในแต่ละครั้ง Neato XV Signature Pro จะ ใช้เวลาประมาณ 40-45 นาที ในการทำความสะอาดทั้งหมด และวิ่งกลับมาชาร์จยังแท่นชาร์จโดยอัตโนมัติอีกครั้ง
8. หลังการใช้งานผ่านไป 1 ครั้ง เป็นอย่างไร ?
ภาพด้านล่างนี้เป็นรูปภาพที่ใช้ แผ่นกรองแบบคุณภาพสูง (High-Performance Filter) หรือที่บางคณอาจเรียกว่า แผ่นกรอง HEPA ก็ได้ ซึ่งเป็นสภาพหลังการใช้งานเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น กับห้องที่ทำความสะอาดด้วยหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ทุกวัน (ใช้ระยะเวลาดูดประมาณ 45 นาที) สภาพของ แผ่นกรอง ออกมาได้หน้าตาสภาพประมาณนี้
หากมีเวลาว่าง ควรทำความสะอาดแผ่นกรองทุกครั้ง หลังการใช้งาน เพื่อประสิทธิภาพการดูดฝุ่นที่ดีกว่า
9. วิ่งดูดครอบคลุมทุกบริเวณ ในห้องหรือไม่ ?
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้ มีหลักการดูดที่ค่อนข้างจะเป็นหลักการหน่อย จากที่สังเกตเห็นด้วยตาเปล่า จะเห็นว่าเมื่อเครื่องวิ่งออกจากแท่นชาร์จ มันจะทำการวิ่งเลาะขอบกำแพงทางด้านขวาของเครื่อง ไปเรื่อยๆ จนรอบ แล้วถึงจะมาเก็บพื้นที่ว่างตรงกลางห้องอีกที และ ถ้าหากมีสิ่งกีดขวาง ที่วางอยู่ตรงกลางห้องเช่น โต๊ะกลาง โต๊ะทานข้าว เก้าอี้ ต่างๆ มันจะวิ่งวน ทำความสะอาดให้ครบจนหมดเสียก่อน แล้วค่อยวิ่งไปดูดฝุ่น ยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไป
10. Boundary Marker คืออะไร ?
คำว่า “Boundary Marker” หากแปลเป็นภาษาไทยตรงๆ ก็คือ “ตัวสร้างกรอบ” ให้การเดินให้กับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นนั่นเอง ซึ่งอุปกรณ์ในลักษณะนี้จะมีใน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น รุ่นสูงๆ โดยบางยี่ห้อ หรือ บางรุ่น อาจจะเรียกว่า “Virtual Wall” หรือว่า “กำแพงจำลอง” นั่นเอง เปรียบเสมือน งูกับเชือกกล้วย ที่เมื่อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นไปเจอมันเมื่อไหร่ เป็นต้องวิ่งหนีกันเลยทีเดียว (พูดเว่อร์ไปมั้ย)
แต่ไม่ว่าจะเรียกด้วยชื่ออะไรก็ตาม มันมีหลักการทำงานที่คล้ายคลึงกัน นั่นคือ มันสามารถช่วยป้องกัน ไม่ให้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เดินเข้าไปในห้อง หรือเข้าไปในพื้นที่ ที่ไม่ต้องการให้เข้าไปได้นั่นเอง เช่นห้องน้ำ ที่อาจจะเปียกอยู่ตลอดเวลา เราไม่ต้องการให้หุ่นยนต์ราคาแพงของเราเข้าไปดูดน้ำถูกมั้ยครับ ? เพราะมันอาจจะเสียหรือพังได้ง่ายๆ หรือ แม้พื้นที่อย่าง แต่ห้องครัว ที่อาจจะมีคราบสกปรก คราบมันฝังอยู่ในพื้น ซึ่งจะทำให้เครื่องสึกหรอได้ง่ายและเร็วขึ้น
วิธีการง่ายๆ เราก็เพียงแค่เอาเจ้า Boundary Marker ที่เป็นลักษณะของ เทปแถบแม่เหล็ก ไปวางขวางทางเดินกั้นห้อง ที่เราไม่ต้องการให้มันวิ่งเข้าไปทำความสะอาด หรือ พื้นที่ ที่ไม่ต้องการให้วิ่งเข้าไปเอาไว้
11. ซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato XV Signature Pro ได้ที่ไหน ราคาเท่าไหร่ ?
ขณะนี้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato XV Signature Pro ได้ถูก หยุดผลิต หยุดจัดจำหน่าย ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กรุณาหา หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato รุ่นอื่น ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้ที่นี่
⇒ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato ในรุ่นอื่นๆ
ราคาอะไหล่ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato XV
มาดูกันที่อีกหัวข้อคือ ราคาอะไหล่ Neato XV กันดูบ้าง ว่าในซีรีย์นี้ มีค่าอะไหล่ที่แพงมากน้อยแค่ไหน ลองมาดูกันเลย อ้อ ลืมบอกไป สำหรับตัวแทนจำหน่ายของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato นั้น ในเมืองไทยนำเข้ามาโดย บริษัท โรบอท เมคเกอร์ จำกัด ออฟฟิศอยู่แถวๆ สามย่าน นั่นเอง ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าซื้อไปแล้วจะมีอะไหล่ขาย หรือ มีคนซ่อมเครื่องให้หรือเปล่า มีแน่นอนจ้า
อะไหล่ในหมวดแปรงกวาด (Brush Parts)
อะไหล่หมวดทั่วไป (General Parts)
บทสรุป หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato XV Signature Pro
และแล้วก็มาถึงช่วงสุดท้ายของรีวิวฉบับนี้ นั่นคือหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato XV Signature Pro และก็เป็นธรรมเนียมของรีวิวที่ Thanop.com ทุกครั้งก่อนจะจากกัน จะต้องมีบทสรุปข้อดี และ ข้อเสีย ของสินค้านั้นๆ เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นถึงผลลัพธ์ ของการใช้งานทั้งสองด้าน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาดูกันเลยดีกว่า
ข้อดี 🙂
- มีการดูดฝุ่นที่แรงมาก เพราะนอกจากจะใช้แปรงกวาด ปัดฝุ่นเข้ามาในเครื่องแล้ว ยังมีพลังของลมดูด ที่ช่วยเสริมพลังการดูดฝุ่นเข้ามาในเครื่องอีกด้วย แต่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นบางตัว มีแต่แปรงกวาดอย่างเดียว ไม่มีพลังลมดูด จึงทำให้ประสิทธิภาพการดูดต่ำ
- เวลาดูดฝุ่นทำความสะอาดเสร็จ มันสามารถวิ่งตรงดิ่งกลับเข้าแท่นชาร์จ ได้เลยทันที โดยไม่วิ่งวนไปวนมา (วิ่งมั่ว) เพราะมันจำเอาไว้หมดตั้งแต่แรกแล้วว่าแท่นชาร์จอยู่ที่ไหน
- มีกันชนรองรับ ดูดซับแรงกระแทก ทำให้สร้างความเสียหายกับเฟอร์นิเจอร์ ข้างของเครื่องใช้ต่างๆ น้อยมากๆ หรือแม้แต่ วิ่งชนขา ชนเท้าของเรา ก็ยังไม่รู้สึกเจ็บเลย หากเทียบกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวอื่นๆ
- สามารถปืนพื้นที่ต่างระดับได้อย่างสบายๆ ไม่ตะกุกตะกัก ไม่ติดขัดใดๆ
- มีพอร์ต USB แบบหัวเล็ก (Mini USB) เอาไว้ใช้อัพเดทซอฟต์แวร์ การทำงานของมัน ในกรณีที่อนาคตออกเวอร์ชั่นใหม่ ที่วิ่งทำงานได้อย่างฉลาดกว่าเดิม โดยไม่ต้องนำเข้าไปอัพเดทที่ศูนย์บริการ หรือ ซื้อเครื่องใหม่
- สามารถตั้งเวลาทำความสะอาดได้ โดยผมจะตั้งเวลาทำความสะอาดให้มันทำความสะอาดล่วงหน้า ก่อนจะกลับบ้าน ประมาณ 2 ชั่วโมง พอกลับมาถึงบ้านมันก็กลับมาจอดอยู่ที่แท่นชาร์จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หน้าที่เราก็เพียงแค่ เอาฝุ่นในกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ไปทิ้งถังขยะ
- มีฝุ่นตกค้าง หรือ เส้นผมตกค้าง อยู่ที่แปรงกวาดหลักน้อยมากๆ แทบจะไม่ต้องแกะแปรงกวาดออกมาทำความสะอาดเลย
ข้อเสีย 🙁
- เสียงดังพอสมควร (แต่เป็นเสียงที่นุ่มลึก ไพเราะดี 5555) เนื่องจากมันมีพลังการดูดที่สูงมาก จะให้มาทำตัวเหนียมอาย เงียบๆ คงจะเป็นเรื่องยาก มันทำเสียงดังสุดกว่า 73 เดซิเบล (dB) ซึ่งก็ถือว่าเป็นระดับปกติของเครื่องดูดฝุ่นทั่วๆ ไป
- ไม่มีแปรงข้าง (Side Brush) ที่ทำหน้าที่ปัดฝุ่นรอบๆ เครื่องเข้ามาในรัศมีทำการของการดูดฝุ่นเข้าไปเก็บในเครื่อง ดังนั้นจึงทำให้การดูดซอกซอนตามขอบมุมต่างๆ อาจจะทำได้ไม่ดี และ เต็มประสิทธิภาพ
- การถอดแปรงกวาดหลัก สามารถทำได้ยากพอสมควร เนื่องจากเป็นสายพาน และต้องนำไปขบกับเฟืองที่อยู่บนแปรงกวาดหลัก ทำให้ใช้เวลาพอสมควรในการใส่ (หรือว่าผมโง่เอง ก็ไม่รู้นะ 555) (ดูรูปประกอบด้านล่าง)
สุดท้ายนี้ ผมเองก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า รีวิวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ฉบับนี้ ก็จะเป็นประโยชน์ ให้ข้อมูลเชิงลึก สำหรับท่านไม่มากก็น้อย และทางผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเข้ามาอ่านรีวิวตัวอื่นๆ ของผมอีก สวัสดีครับ 🙂
ช่วยตอบ comment ข้างบนด้วยครับ ขอทราบรายละเอียดเรื่อง ไม่มีแปรงปัดด้านข้าง แล้วขอบผนังจะสะอาดมั้ยครับ
เห็นราคา ต่างกัน5000กับรุ่นใหญ่
ขอบคุณครับ
ขอถามหน่อยครับว่า ไม่มีแปรงด้านข้างแล้วสามารถ ทำความสะอาดตามขอบๆ มุมๆ ได้สะอาดมั้ยครับ และ สายพานที่เป็นยางตรงแปรงหลัก จะทนขนาดไหน จะขาดหรือหลุดได้มั้ยครับ เส้นผมจะเข้าไปพันสายพานที่ว่ามั้ย
ขอบคุณครับ