รีวิว Nissan Teana 2014 (นิสสันเทียน่า 2014)
จั่วหัวมากซะโดดเด่นขนาดนี้ว่าเป็น รีวิว Nissan Teana แต่ความจริงแล้ว รถยี่ห้อโปรดของผม ที่ชื่นชอบและคลั่งไคล้มาตั้งแต่สมัยเด็กๆ แล้วก็คือ รถยนต์ยี่ห้อ “H” จากประเทศญี่ปุ่น คงจะเดาไม่ยากเลย ใช่ไหม ไม่ต้องมาใบ้ก็ได้ จริงๆ มันคือ “Honda (ฮอนด้า)” นั่นเอง ผมชอบฮอนด้าเกือบทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นทั้ง Civic เอย CR-V เอย รวมไปถึงตระกูลตัวแรง Type-R ทั้งหลาย ไล่มาตั้งแต่ Civic Type-R Integra Type-R S2000 หรือแม้แต่รุ่นพี่ใหญ่อย่าง Honda NSX ก็ล้วนแต่อยู่ในอ้อมใจของผมด้วยกันทั้งสิ้น
แต่ไหง มาจับรถเก๋งระดับดีเซ็กเมนต์ (D-Segment) ที่เป็นยี่ห้อนิสสันมารีวิวได้ หลายคนอาจจะงงว่าเจ้าคลาสดีเซ็กเม้นต์ มันคือรถเก๋งในระดับไหน หากจะแปลเป็นภาษาไทยก็คือ รถยนต์นั่งขนาดกลาง นั่นเอง หากเปรียบเทียบคู่แข่งที่มีขายอยู่ในตลาดรถเก๋งบ้านเราก็จะมีอยู่ 3 ยี่ห้อหลักๆ ที่เมื่อเอ่ยชื่อ ทุกคนคงจะรู้จักกันเป็นอย่างดีคือ ฮอนด้าแอคคอร์ด (Honda Accord) โตโยต้าคัมรี่ (Toyota Camry) นิสสันเทียน่า (Nissan Teana) ตอนหลังนี้มีตัวสอดแทรก อย่างมาสด้า 6 (Mazda 6) ที่ยังไม่แน่ และมีกำหนดว่าจะเข้ามาทำตลาดในบ้านเราเมื่อไหร่
สาเหตุที่จับมาก็เพราะความนิ่ม ความสบายของเจ้ารถ ที่สามารถตอบโจทย์ของภรรยาผม (รถภรรยา) ได้อย่างลงตัว บวกกับออปชั่น อัตราการบริโภคเชื้อเพลิง (อัตราการกินน้ำมัน) ที่ค่อนข้างน่าพอใจ จึงอยากเอาสิ่งที่ตัวเองประสบพบเห็น มาบอกเล่าให้ทุกคนในที่นี้ได้อ่านกัน ซึ่งรีวิวนี้ตอนแรกกะจะเขียนสั้นๆ แต่ไปๆ มาๆ ยาวเหยียด ประมาณ 2,200 กว่าคำ จึงขอตัดแบ่งออกเป็นหลายๆ หน้า ซึ่งได้ลองแบ่งหมวดหมู่ออกมาแล้ว ตามเมนูด้านล่างนี้
- ประวัติ Nissan Teana
- รุ่น Nissan Teana L33
- ภายนอก Nissan Teana L33
- ภายใน Nissan Teana L33
- ระบบความปลอดภัย Nissan Teana L33
- ช่วงล่าง Nissan Teana L33
- บทสรุป Nissan Teana L33
- รีวิว Nissan Altima (Teana) L33 ในสหรัฐอเมริกา (ฉบับย่อ) (ล่าสุด !)
อ่านตรงนี้ก่อน : ก่อนจะเริ่มอ่านรีวิวชุดนี้ อันยาวเหยียด ขอบอกไว้นิดนึงว่า รีวิวนี้ เกิดจากความอยากที่จะเขียนจริงๆ ด้วยความรักจริงๆ อันที่จริงแล้ว ก็ไม่ใช่กูรู รอบรู้เรื่องรถอะไรเท่าไหร่ แต่ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบเล่นรถมานานแล้ว จึงเขียนจากประสบการณ์จริงๆ อาจมีถูกบ้างผิดบ้าง กราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ถ้าพบเห็นช่วยแจ้งมาด้วยนะ
คลิปรีวิว Nissan Teana L33 ของจริง
หากใครที่ต้องการดูคลิป เพื่อที่จะได้เห็นภาพรวมของ รถยนต์นิสสันเทียน่า L33 ก่อนที่จะอ่านรีวิวเพื่อลงลึกในรายละเอียด ก็สามารถกดปุ่มเพลย์ ที่คลิปวีดีโอด้านล่างนี้ได้เลย หากต้องการข้ามก็กดเข้าไปอ่านรายละเอียดด้านในได้เลย
ประวัติ Nissan Teana โดยคร่าวๆ
หากกล่าวถึงประวัติของเจ้ารถเก๋งรุ่นนี้นั้น ในรุ่นที่ผมจับมารีวิว ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่ 3 (3rd Generation) ของนิสสันเทียน่าแล้ว แต่ก่อนอื่น ขอท้าวความประวัติความเป็นมาของเจ้า Nissan Teana กันก่อนสักเล็กน้อย ซึ่งถือว่าเป็นรถเกรดเดียว หรือระดับเดียวกันกับ โตโยต้าคัมรี่ (Toyota Camry) และ ฮอนด้าแอคคอร์ด (Honda Accord) นั่นเอง แต่เรื่องชื่อชั้น เชื่อเสียงเรียงนามแล้ว มาถึงปัจจุบันทุกวันนี้ต้องยอมรับว่ายังเป็นรองสองค่ายนั้นอยู่ แต่ในปัจจุบัน ก็ไม่ได้ทิ้งห่างอะไรกันไปมากแล้วสำหรับรถทั้งสามค่ายนี้ โดยในส่วนตรงนี้ขอท้ายความกันตั้งแต่รุ่นก่อนเทียน่าเสียอีก นั่นก็ไม่ใช่รุ่นอื่นไกลที่ไหน มันคือเซฟิโร่ นั่นเอง ลองไปทำความรู้จักกับมันสักเล็กน้อยด้านล่างนี้เลย
นิสสันเซฟิโร่ (Nissan Cefiro)
แรกเริ่มเดิมที่ รถยนต์จากค่ายนิสสัน เขาได้ออกรถในระดับดีเซ็กเม้นต์ มาภายใต้ชื่อ นิสสันเซฟิโร่ ซึ่งเจ้ารุ่นที่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย มีอยู่ทั้งหมด 3 รุ่นหลักๆ ด้วยกันคือ นิสสันเซฟิโร่ A31 (ค.ศ. 1988 ถึง ค.ศ. 1996) เซฟิโร่ A32 (ค.ศ. 1996 ถึง ค.ศ. 1998) และสุดท้ายของตระกูลคือ เซฟิโร่ A33 (ค.ศ. 1999 ถึง ค.ศ. 2003)
โดยรุ่น A31 ซึ่งเป็นรุ่นแรกของนิสสันเซฟิโร่ ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ในประเทศไทย เนื่องจากเป็นรุ่นที่มีตัวถึงสวยงาม คลาสสิก เหมาะแก่การนำไปแต่งรถ นักเล่นรถส่วนใหญ่ทั้งเมืองไทยก็ดี หรือ ต่างประเทศก็ดี นิยมรถรุ่นนี้ นำไปแต่งทำหลังคาซันรูป (มูนรูฟ) เปลี่ยนล้อแม็กซ์ ขอบโตๆ หรือแม้แต่จะไป วางเครื่องข้ามสายพันธุ์อย่างเครื่องเทอร์โบ จากโตโยต้า ในรหัสเครื่อง 1JZ-GTE หรือแม้ต่ 2JZ-GTE ส่วนรุ่นอื่นๆ อย่าง A32 และ A33 ส่วนมากจะใช้กันตามปกติ ไม่ค่อยเห็นนำไปดัดแปลง หรือแต่รถกันมากเท่าไหร่นัก เท่าที่เห็นก็จะมีเอาไปแต่งรถสไตล์วีไอพี (VIP) โหลดเตี้ย ใส่ล้อแม็กซ์โตๆ วาวๆ ล้อแบะออกจากพื้น กันอยู่ให้เห็นบ้าง
นิสสันเทียน่า (Nissan Teana)
หลังจากที่เจ้าเซฟิโร่ได้คลอดออกมาแล้วสามรุ่น (รหัสตัวถึง A31 A32 และ A33) ที่กล่าวมาด้านบน ทางนิสสันประเทศไทย ก็หยุดที่จะใช้ชื่อนี้ต่อ แต่เปลี่ยนมาใช้ชื่อใหม่ซึ่งคือ นิสสันเทียน่า (Nissan Teana) แทนไปเลย ซึ่งรหัสตัวถังก็จะเริ่มต้นด้วยตัว J เป็น J31 J32 และล่าสุด L33 (บางที่ก็เรียก J33) เป็นต้น ซึ่งเจ้าเทียน่านี้ก็ยังคงเป็นตลาดรถเกรดเดียวกัน นั่นคือ ดีเซ็กเมนต์ ด้วยขนาดที่ใกล้เคียงกัน แต่บางประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา เรียกรถรุ่นนี้ว่า นิสสันอัลติม่า (Nissan Altima) ซึ่งบางทีรูปทรงเหมือนกัน ทุกอย่างเหมือนกันเป๊ะๆ แต่เรียกชื่อคนละชื่อกัน ในแต่ละประเทศ
โดยปกติแล้ว หากสังเกตุดูดีๆ นิสัยของรถยนต์จากค่ายนี้เขาจะไม่ค่อยชอบใช้ชื่อรถรุ่นเดียวกันไปในระยะเวลานานๆ เป็นสิบๆ ปี เขามักจะชอบเปลี่ยนชื่อรุ่นไปเลยเสมอ ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วอย่างรถระดับคอมแพคอย่างหรือ ซีเซ็กเม้นต์ (C-Segment) อย่าง นิสสันซันนี่ (Nissan Sunny) เปลี่ยนไปเป็น นิสสันทีด้า (Nissan Tiida) และ ล่าสุดคือ นิสสันซิลฟี่ (Nissan Slyphy) เป็นต้น ซึ่งแตกต่างกับพวกฮอนด้า หรือ โตโยต้า ที่ยังใช้ขื่อเดิมขานเรียกมาตลอดระยะเวลา อย่างเช่น ฮอนด้าซีวิค (Honda Civic) หรือแม้แต่ โตโยต้าโคโรล่า (Toyota Corolla) เป็นต้น
และด้วยความที่บ้านของภรรยาผม มีรถนิสสันเทียน่า ทุกยุค ทุกเจนเนอเรชั่น ดังนั้น ผมได้ลองขับมาหมดแล้ว ขอสรุป ประสบการณ์ของสองรุ่นแรก ให้ฟังสั้นๆ ดังต่อไปนี้
นิสสันเทียน่า J31 (Nissan Teana J31) (ค.ศ.2004 ถึง ค.ศ.2009)
รถรุ่นนี้เป็นรุ่นแรก ที่เปิดตัวมาในนามชื่อ นิสสันเทียน่า (Nissan Teana) ซึ่งได้รับผลตอบรับค่อนข้างดีพอสมควร พี่สาวของแฟนผมก็มีรุ่นนี้อยู่เช่นกัน ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2,300cc (2.3 ลิตร) แบบ 6 สูบ (รหัสเครื่องยนต์ VQ23DE) มีแรงม้าให้เล่นกว่า 173 ตัว
รุ่นนี้ถือได้ว่าเป็นรถที่ขับดี นั่งสบาย ภายในกว้างขวาง แต่มีจุดเสียที่โหดมากๆ คือเรื่องของการกินน้ำมัน ที่โหดมากๆ เพราะอัตราการบริโภคน้ำมันนั้น ต่ำกว่า 5 กิโลเมตร/ลิตร ในเมือง และยากที่จะถึง 10 กิโลเมตร/ลิตร ขณะขับนอกเมือง
นิสสันเทียน่า J32 (Nissan Teana J32) (ค.ศ.2009 ถึง ค.ศ.2013)
รุ่นนี้ ผมถือว่าเป็นรุ่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด สำหรับรถนิสสัน ตระกูลดีเซ็กเมนต์ หากนับรวมเซฟิโร่ และ เทียน่า ด้วยเรื่องของที่ รุ่นนี้การประหยัดน้ำมันดีขึ้นกว่าตัวก่อน (J31) และแถมเบาะนั่งที่นิ่มสบายโคตรๆ ทำให้กลายเป็นรุ่นที่สร้างชื่อเสียงให้กับนิสสัน ในระดับดีเซ็กเมนต์ มากที่สุด ตั้งแต่เคยมีมาเลยก็ว่าได้
ด้านเครื่องยนต์ที่เขาเสนอมาให้ เป็นสองทางเลือก สำหรับลูกค้า คือเครื่องยนต์ระดับ
- รหัสเครื่องยนต์ MR20DE ความจุ 2,000 cc (2.0 ลิตร 4 สูบ) (138 แรงม้า) อยู่ในรุ่น 200XL ซึ่งเครื่องยนต์รุ่นนี้ได้ใช้กับรถหลายๆ รุ่นของนิสสันมากๆ ไม่ว่าจะเป็น Nissan X-Trail หรือ Nissan Blubird Slyphy และอื่นๆ อีกมากมาย
- รหัสเครื่องยนต์ VQ25DE ความจุ 2,500 cc (2.5 ลิตร 6 สูบ) (186 แรงม้า) อยู่ในรุ่น 250XV
อัตราการกินน้ำมันสามารถทำได้ดีขึ้นกว่ารุ่น J31 ที่ผ่านมา อัตราการบริโภคหากขับในเมืองอยู่ที่ประมาณ 7-8 กิโลเมตร/ลิตร ต่างจังหวัดขับแบบปกติประมาณ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ก็อยู่ที่ประมาณ 10-12 กิโลเมตร/ลิตร ก็ถือว่าปกติสำหรับรถใหญ่ ขนาดนี้ โดยตัวที่ผมได้มาขับนั้น คือตัว 250XV แต่สำหรับ อัตราการบริโภคน้ำมันของ ตัว 200XL ผมจึงไม่ทราบ ต้องขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วย
นิสสันเทียน่า 2014 (Nissan Teana 2014) รุ่น L33 ความสปอร์ต สุนทรีย์ ที่ลงตัว
หลังจากที่จั่วหัวมาเสียยืดยาว ก็ได้มาเข้าเรื่องกันเสียที กับ รีวิวรถนิสสันเทียน่า (Nissan Teana) 2014 รุ่นรหัสตัวถังที่ขายในบ้านเราคือ L33 นั่นเอง (ซึ่งบางประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา หรือ ญี่ปุ่น จะเรียกรถรุ่นนี้ว่า นิสสันอัลติม่า – Nissan Altima) หน้าตารถระหว่าง 2 รุ่น (J32 กับ L33) ก็เหมือนกันจนแทบจะแยกไม่ออก หากคนที่ไม่ได้เป็นคนช่างสังเกตุ อย่างเช่นภรรยาผม ก็ยังมีแยกผิดให้เห็นอยู่เรื่อยๆ
โดยการเปิดตัวในครั้งนี้ ทางค่าย นิสสัน มอเตอร์ ไทยแลนด์ ก็นำเสนอรุ่นออกมา 2 รุ่นหลักๆ เช่นเดียวกับรุ่น J32 ที่ได้กล่าวมาด้านบน นั่นคือมีตัวเครื่อง 2,000 cc (2.0 ลิตร) และ 2,500 cc (2.5 ลิตร) เพื่อให้มาตอบสนองความต้องการของคนในหลายๆ กลุ่มหลายประเภท แต่ครั้งนี้ลดจำนวนสูบของเครื่อง 2.5 ลิตร มาเป็น 4 สูบให้เท่ากับเครื่อง 2.0 ลิตร
จากการตรวจสอบรหัสเครื่องยนต์ ที่มากับ คู่มือผู้ใช้รถ แล้วนั้นพบว่า เครื่องยนต์ ที่ติดตั้งมาให้กับรถรุ่นนี้ มี 2 รุ่นเช่นเคย โดยรายละเอียดดังต่อไปนี้
- รหัสเครื่องยนต์ MR20DE ความจุ 2,000 cc (2.0 ลิตร 4 สูบ) (136 แรงม้า) (เป็นเครื่องรุ่นเดียวกับรุ่นที่แล้ว J32)
- รหัสเครื่องยนต์ QR25DE ความจุ 2,500 cc (2.5 ลิตร 4 สูบ) (173 แรงม้า) อยู่ในรุ่น 2.5XV และ 2.5XV Navi (ตัวนี้ไม่เหมือนกันกับรุ่นที่แล้ว เพราะมีการลดจำนวน กระบอกสูบลงจาก 6 สูบ เหลือ 4 สูบ)
หลังจากที่ค่อนข้างเข็ดหลาบ กับอัตราการบริโภคน้ำมันที่ค่อนข้างสูงมากๆ แต่ก็ยังชอบรถ นิสสันเทียน่า อยู่ จึงได้มีความคิดที่จะซื้อคันใหม่มาใช้ ก็รอ ร๊อ รอ เมื่อไหร่มันจะออกมาสักที จนในที่สุด มันก็ออกตัว เมเจอร์เช้นจ์ (Major Change) หรือว่าการเปลี่ยนรุ่น รูปลักษณ์ใหม่ทั้งหมด มาจนได้ ในช่วงปลายเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2556 (ค.ศ. 2013)
หลังจากนั้นพอทราบข่าวว่าออกตัวใหม่ จึงได้รีบไปติดต่อเซลล์ หรือ ตัวแทนขายรถที่รู้จักกันโดยพลัน (เพื่อรักษาภาพของการรีวิวที่เป็นกลาง จึงขอสงวนชื่อตัวแทนขายรถเอาไว้) ซึ่งครั้งนี้ผมและภรรยาตัดสินใจเลือกตัว 2.0XL เพื่อเน้นความประหยัด เพราะว่าใช้งานต่อวันก็อยู่ที่ประมาณ ไป-กลับ ที่ทำงาน 40 กิโลเมตร และก็ไม่ได้ต้องการขับเร็ว หรือซิ่งอะไรมากมาย (แก่แล้ว ว่างั้น)
โดยก่อนที่เจ้ารุ่นนี้จะออกมาที่เมืองไทย ปกติแล้วทางนิสสัน เขามักจะเปิดตัวรถรุ่นนี้ในต่างประเทศมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเปิดตัวในประเทศใกล้ๆ เรา เพื่อนบ้านเราอย่าง จีน ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ อะไรแบบนี้เป็นต้น ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมประเทศไทย ต้องเป็นประเทศท้ายๆ ที่ได้รับการเปิดตัว ทั้งๆ ที่ประเทศเราก็เป็นฐานใหญ่ในการผลิต
รุ่น Nissan Teana L33 (ปี ค.ศ.2014 – 2016)
ในรถนิสสันเทียน่า รุ่น L33 นั้น มีปล่อยออกมาทำตลาด (ขาย) สู่ท้องตลาด ทั้งหมด 5 รุ่นหลักๆ ด้วยกัน ซึ่งก็ถือว่าปกติ และออปชั่นต่างๆ ที่ให้มาก็ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกๆ คน แต่ที่ประทับใจคือ ทางนิสสัน ได้ให้ออปชั่นเทพๆ มาตั้งแต่รุ่นรองสุดท้ายเลยทีเดียว ส่วนราคาที่ถือว่าเหมาะสม โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- 2.0XE (รุ่นล่างสุด ถูกสุด ตัดออปชั่น ลูกเล่นต่างๆ ออกไปเยอะ)
- 2.0XL <- รุ่นที่ใช้ทดสอบ ถ่ายรูป คือรุ่นนี้
- 2.0XL Navi (ออปชั่นทุกอย่างเหมือนกับ 2.0XL แต่มีระบบนำทางอัจฉริยะ GPS)
- 2.5XV
- 2.5XV Navi (ออปชั่นทุกอย่างเหมือนกับ 2.0XL แต่มีระบบนำทางอัจฉริยะ GPS)
Nissan Teana L33 หรือ J33 กันแน่ ?
ก่อนจะไปกันต่อ ขอเบรคเรื่อของความรู้เสริมนิดนึง เกี่ยวกับเรื่องของ รหัสตัวถังประจำรุ่นของรถ คิดว่าคงจะมีหลายคนที่สงสัยว่า เจ้ารถรุ่นนี้สรุปแล้วเรียกรหัสตัวถังว่าอะไรกันแน่ ระหว่าง J33 และ L33 สรุปแล้วคือ เราเรียกรุ่นนี้ที่ขายในประเทศไทยนี้ว่า Nissan Teana L33 (ย้ำว่าเป็น L33) ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วย ตัวถังเดียวกันเลย ตอนแรกก็หาข้อมูลอยู่นานว่าสรุปเรียกว่าอะไรกันแน่ เพราะเอาคีย์เวิร์ดคำว่า “Nissan Teana J33” ไปหาในกูเกิลดูก็พบ เอาคำว่า “Nissan Teana L33” ดูก็พบเช่นกัน
แต่สรุปสุดท้ายคือ ปริศนามาถูกไขกระจ่างจาก หนังสือคู่มือผู้ใช้รถ นั่นเอง ซึ่งหากใครที่ได้รับชมคลิปวีดีโอที่ผมอัดรีวิว ตัวผมเองยังอ่านเป็น J33 มาอยู่เลย ซึ่งต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยเช่นกัน
โฆษณา Nissan Teana 2014
โดยก่อนที่จะซื้อรถ ก็ได้มาการนั่งหาข้อมูลประกอบเกี่ยวกับรถรุ่นนี้ เพิ่มเติมอยู่พอสมควร (แต่เอาจริงๆ ใจมันเอนเอียงมาตัวนี้แล้วละ) ซึ่งก็ได้ข่าวแว่วๆ และก็หาข้อมูลประกอบถึงจุดเด่นของมันอยู่ได้ประมาณนี้
- รถใหม่นี้ ประหยัดน้ำมัน โคตรๆ หากขับดีๆ สามารถทำได้เกิน 15 กิโลเมตร/ลิตร
- จัดเซ็นเซอร์ ฟีเจอร์ ต่างๆ จัดเต็มมาให้เพียบ ถ้าเทียบกับรถคู่แข่งระดับเดียวกันที่จะมีในแต่เฉพาะตัวท็อป (หรือไม่มีเลย) ซึ่งนิสสัน ไม่ใช่แค่ให้มาในตัวท็อป แต่ตัวระดับรุ่นกลางๆ ก็ให้มาแล้ว ฟีเจอร์พวกนี้
- เบาะนั่ง ถูกออกแบบโดยใช้หลักการ สภาวะไร้น้ำหนักของมนุษย์อวกาศ ซึ่งเป็นสภาวะ ที่ร่างกายของคนเราจะอยู่ในท่าทาง หรืออิริยาบถ ที่ผ่อนคลายมากที่สุด รองรับแรงกระแทก กระดูกสันหลัง ลดการเมื่อยล้าย ในเวลาขับทางไกล ซึ่ง ผมและภรรยาประทับใจกับเบาะนั่งในรุ่นก่อนหน้านี้ (รุ่น J32) มาอยู่แล้ว จากที่กล่าวมาด้านบนว่านิ่ม และ นั่งสบายโคตรๆ มารุ่นนี้มันจะเทพขนาดไหน ชักอยากไปลองนั่งซะแล้ว
เดี๋ยวทั้งหมด นี้จะมาบอกตอนท้ายว่า แฮปปี้ อย่างที่เขาโฆษณาเอาไว้หรือเปล่า
เจ 32ผมใช้ยุคับ ในเมืองซดน้ำมันแหลก
ตจว.ดีกว่าคับ เบาะนิ่มดีขับทางไกลสบาย
สรุปใช้ขับระหว่างเมืองดีมาก ใช้ในเมืองขับลำบากครับเพราะรถบอดี้หญ่มาก.
ขอบคุณสำหรับ Comment นะครับ รุ่นนี้ผมก็เคยขับเหมือนกัน ความเห็นตรงกันครับ 🙂
เห็นพุดถึงความเงียบ ผมคนนึงครับ ที่ลืมดับรถในห้างมาแล้ว เงียบจริง ๆ ครับ
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยครับ
เบาะรุ่นปัจจุบัน แข็ง มีอะไรพาดใต้เบาะทำให้บริเวณขาท่อนบนนั่งเจ็บทรมานมากมาก และปลายเบาะโง้มและแข็งนั่งแล้วเจ็บ
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยครับผม เบาะรุ่นเก่านิ่มกว่ามาก
คุณเก่งมากๆเลยครับ
พอจะมีตัวอย่างหมายเลขตัวรถ Nissan L33 มัยครับ? และรายละเอียดแต่ละหลักแต่ละตัวเลข เหมือนพวก Honda หรือ Toyota นะครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ปัญหาส่วนมากที่เห็นผู้ใช้เจอกันคือเรื่อง ยางดังมาก ภายในไม่ได้เงียบอย่างที่พูดๆกัน ทำไมไม่เห็นมีคนรีวิวคนไหนพูดถึงเรื่องนี้กันนะ
รีวิว ดีมากครับ ดูตอนตัดสินใจซื้อรถ จองรถไปแล้วก็ยังมาดู ระหว่างรอรถก็ยังดู ตอนนี้ใกล้ได้รถมาลองมั้งแล้วครับ เสียดายที่ไฟหน้าไม่ใช่ซีน่อน ไม่มีไฟ daylight แต่ผมว่าจะไปติดอยู่แล้วหลังใช้ไปสักพัก
อีกอย่าง เสียดายจัง ไม่มีตัวอย่าง เสียงเพลง ของลำโพง L33
ได้ความรู้ทะลุปรุโปร่งเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่สละเวลานั่งคีย์ให้เป็นสาธารณะประโยชน์
ขอบคุณมากครับผม
ขอบคุณมากครับ อ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มเยอะเลยครับ
แต่ว่าผมจะติดตามอ่านต่อภาคสองได้ที่ไหนครับ
ขอบคุณมากๆ นะครับผม ตัวนี้มีภาคเดียวครับผม จบแล้วครับ แหะๆ ไม่ทราบว่าได้ตามอ่านไปยังหน้า 2 3 4 5 แล้วหรือยังครับผม
http://www.thanop.com/nissan-teana-2014-l33-review/2/
http://www.thanop.com/nissan-teana-2014-l33-review/3/
http://www.thanop.com/nissan-teana-2014-l33-review/4/
http://www.thanop.com/nissan-teana-2014-l33-review/5/
ขอบคุณมากครับ ดีมากครับ กำลังจะได้มาเหมือนกันรุ่นสีเดียวกันครับ
ไม่ทราบว่าซื้อที่หุ้มพวงมาลัยที่ไหนครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณคร้าบที่เข้ามาอ่านรีวิว ส่วนที่หุ้มพวงมาลัยผมซื้อมาจากโลตัส มั้งครับ ไม่ยากครับ ลองเดินหาดูตามห้างฯ พวกแผนกประดับยนต์ได้เลยครับผม
ขอบคุณครับ ที่ซื้อยี่ห้อนี้ รุ่นนี้ สีนี้ ส่วนนึงก็เพราะอ่านบทความนี้ครับ
ขอบคุณมากครับ
Thumbsup! Very good and in-depth review krub.
ขอบคุณมากๆ นะครับผม