ระบบความปลอดภัย Nissan Teana
หากพูดถึงระบบความปลอดภัยของรถรุ่นนี้แล้ว และแน่นอนว่าระดับนี้แล้วด้วย ปัจจัยและเงื่อนไขการผลิตและออกแบบรถ ทีมวิศวกรจะต้องคำนึงถึง คือเรื่องของ ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับต้นๆ และแน่นอนที่สุด รถรุ่นนี้พกระบบความปลอดภัยมาให้กว่า 14 รายการ ซึ่งในรายการทั้งหมดนี้ ก็มีไม่กี่รายการที่ถูกตัดออกกับรถรุ่นต่ำๆ บางรุ่น ในที่นี้แจกแจงรายละเอียดดังต่อไปนี้เลย
- ระบบช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Transport System – ITS) รถนิสสันเทียน่า นี้ให้ระบบ ITS มาตั้งแต่รุ่น 2.0XL (รองสุดท้าย) เลย ซึ่งระบบนี้จะทำงานควบคู่กับกล้องวงจรปิด 4 จุด ที่ติดตั้งอยู่รอบคัน (ดูรายละเอียดข้อ 2)
- ระบบเตือนให้รักษาตำแหน่งรถในช่องทาง (Lane Departure Warning) : ช่วยเตือนไม่ให้รถสาย เบี่ยงออกไปนอกเลน ที่ตัวเองวิ่งอยู่ ปัจจุบันนี้สำคัญมาก เพราะสมัยนี้ มีหลายคน (รวมถึงผมด้วย) ชอบขับรถไปเล่นสมาร์ทโฟน แชทไลน์ ไปด้วย ซึ่งอันตรายมากๆ ไม่แนะนำให้ทำ ระบบนี้ช่วยเตือนได้ ซึ่งมันจะเตือนด้วยเสียง และ ไฟกระพริบ
- ระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning) : รถทุกคัน จะมีจุดอับสายตา หากเวลาต้องการจะเปลี่ยนเลน หรือ เปลี่ยนช่องจราจร บางทีมีรถวิ่งมาขนาบข้าง ผู้ขับขี่อาจมองไม่เห็น เพราะอยู่ในจุดอับสายตา (จุดบอด) ระบบนี้ก็ช่วยได้เช่นกัน
- ระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวนอกรถ (Moving Object Detection) : แจ้งเตือนหากมีใครมาอยู่ใกล้ๆ คนเดินผ่าน มอเตอร์ไซค์ ฯลฯ
- กล้องมองรอบทิศทาง (Around View Monitor) รถรุ่นนี้ให้กล้อง ย้ำว่ากล้อง ไม่ใชเซนเซอร์ ซึ่งเป็นกล้องขนาดเล็ก มาให้รอบทิศทาง ซึ่งจะต้องหมั่นทำความสะอาดเช็ดเลนส์กล้องอยู่ด้วยบ่อยๆ เพื่อประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด มันถูกติดตั้งอยู่ทั้งหมด 4 จุดทั่วคัน ดังต่อไปนี้
- ถูกติดฝังอยู่ที่กระจังหน้ารถ ใต้โลโก้ของยี่ห้อรถ
- ใต้กระจกมองข้างฝั่งขวา
- ใต้กระจกมองข้างฝั่งซ้าย
- ท้ายรถ ตรงที่เปิดฝาห้องสัมภาระส่วนท้าย
- สัญญาณเตือนกะระยะหน้าและหลัง (Front and Rear Sensors) (เฉพาะรุ่น 2.5XV และ 2.5XV Navi) ถึงแม้ว่าจะมีติดตั้งมาเฉพาะรุ่น 2.5XV ขึ้นไป หากรุ่น 2.0 ต้องการติด ก็สามารถใช้บริการของจากซัพพลายเออร์ ข้างนอกได้เช่นเดียวกัน
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า (SRS Airbags)
- ถุงลมด้านข้าง (Side Airbags)
- ม่านถุงลมด้านข้าง (Curtain Airbags) ตรงนี้ถือว่าเป็นฟีเจอร์ ความสามารถใหม่ ที่รถน้อยคันจะให้มาด้วย เพราะว่า ส่วนมาก เท่าที่เห็นรถส่วนใหญ่ก็จะให้ถุงลมด้านข้างมา ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว แต่รุ่นนี้ให้ม่านถุงลมด้านข้างมาด้วย ซึ่งหลายคนอาจจะนึกไม่ออกว่ามันเป็นยังไง ทำงานยังไง ลองดูคลิปประกอบ ที่เป็นตัวการ์ตูนน่ารักๆ กันดูนะ แล้วจะทำให้เข้าใจง่ายขึ้น
- ระบบช่วยควบคุมทิศทางขณะเลี้ยว ATC (Active Trace Control) เป็นระบบที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการหลุดโค้ง ในเวลาที่เลี้ยวหรือเข้าโค้งด้วยความรวดเร็ว
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist) ระบบนี้ผมทดสอบดูแล้ว (ตอนแรกไม่รู้ว่ามันมี) คือลองปล่อยเบรคดูขณะติดบนทางลาดชัน ปรากฏว่ารถไม่ไหลลง ซึ่งช่วยป้องกันการไหลลงไปชนรถคันหลังได้มากๆ ถึงแม้จะเป็นเกียร์ออโต้ ก็ตาม ถ้าชันมากๆ ก็สามารถไหลได้เหมือนกัน
- ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ VDC (Vehicle Dynamic Control)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction Control System)
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS (Anti-Lock Braking System)
- ระบบกระจายแรงเบรค EBD (Electronic Breakforce Distribution) ให้สมดุลกันทุกล้อ ระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง
- ระบบเสริมแรงเบรค BA (Brake Assist)
- ระบบกุญแจอัจฉริยะ พร้อมระบบ Immobilizer กันขโมย
ความคิดเห็นส่วนตัว
ของเล่นเยอะมากๆ ซึ่งตอนแรกบอกตามตรงว่าไม่ชินกับระบบช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ ITS ยังใช้วิธีแบบเดิมๆ คือ มองกระจกข้าง เหมือนเดิม แต่พอใช้ไปสักระยะ คุ้นเคยกับมันละก็ ช่วยเราได้มากทีเดียว อีกระบบที่ประทับใจคือ HSA ป้องกันรถไหล ขณะออกตัวบนทางลาดชัน
Nissan Teana 2014 ช่วงล่าง
พูดถึงช่วงล่าง ของรถรุ่นนี้ก็เป็นแบบปีนกคู่ 4 ล้อ ซึ่งด้านหน้าของรถ เป็นช่วงล่างแบบ อิสระแม็กฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และข้างหลังเป็นแบบ อิสระมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง (ก๊อปมาจากแคตตาล็อก) ด้วยระบบเบครแบบดิสก์เบรค 4 ล้อ (อันนี้ก็ถือว่าปกติ)
แน่นอนว่ารถในระดับ ดีเซ็กเมนต์ เทียบกับเพื่อนบ้านอย่าง โตโยต้าคัมรี่ และ ฮอนด้าแอคคอร์ด เขาจะให้ช่วงล่างแบบปีกนกมาอยู่แล้วทั้ง 4 ล้อ (หน้าและหลัง) แทนการใช้บริการคานแข็ง แบบที่รถเก๋งเล็กๆ พวก คอมแพคคาร์ หรือ ซับคอมแพคคาร์ ชอบใช้กันในล้อหลัง เพื่อลดต้นทุนการผลิตลง
ส่วนเรื่องขนาดล้อแม็กซ์ ที่ทางโรงงานจัดให้มานั้น มีล้อขนาด 16 นิ้ว และ 17 นิ้ว มาให้ ถ้าเป็นรุ่น 2.0XE จะให้ล้อขนาด 16 นิ้วมาให้ นั่นคือขนาด 215/60/R16 (ซึ่งถือเป็นรุ่นเดียวแล้ว ที่ยังให้ขอบ 16 นิ้วมา)
แต่ถ้าสูงกว่านั้นอีก 4 รุ่นที่เหลือ อย่างรุ่น 2.0XL 2.0XL Navi 2.5XV และ 2.5 XV Navi ก็จะให้ขนาด 17 นิ้ว หรือสเปคยาง 215/55/R17 มาให้ใช้ นั่นหมายความว่ายางจะแก้มเตี้ยลง ข้อดีคือ สวยงาม แต้ข้อเสียก็จะ มีความแข็งกระด้างมากขึ้น (ความนิ่มนวลหายไป) แถมยังมีโอกาสขอบล้อแม็กซ์ไปครูดขับฟุตบาท หากเลี้ยวตีวงไม่พ้นได้ง่ายๆ อีกด้วยนะ จุดนี้ถ้ารักสวยรักงามให้กับรถ จะต้องระวังให้ดี
ยางรถรุ่นนี้ที่ให้มากับโรงงานขณะซื้อ (ตุลาคม พ.ศ. 2556) คือ มิชลินไพรมาซี่แอลซี (Michelin Primacy LC) ซึ่งถือเป็นยางเกรดดีของมิชลิน เค้า แต่ตั้งข้อสังเกตุคือ ในขณะที่ซื้อนั้น เจ้ายาง Michelin Primacy LC นี้ได้ตกรุ่น และไม่มีขายตามท้องตลาด หรือ ร้านยางทั่วๆ ไปแล้ว เพราะว่าทางมิชลินประเทศไทย เขาได้เปิดตัวยางรุ่นใหม่ ที่เป็นเกรดเดียวกันอย่าง มิชลินไพรมาซี่ 3 เอสที (Michelin Primacy 3ST) ไปแล้ว ตั้งแต่เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2556 แต่ตัวนี้ยังได้เป็นตัวเก่าอยู่
หลังจากนั้น จึงลองก้มไปสังเกตุดู ช่วงเวลาที่ผลิตยาง ที่ได้มาคือเลข “3913” นั่นหมายความว่า ผลิตในสัปดาห์ที่ 39 ของปี ค.ศ. 2013 นั่นคือ ผลิตยางช่วง ระหว่างวันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 2013 ถึง 29 กันยายน ค.ศ. 2013 ซึ่งตามท้องตลาด ไม่ได้ขายแล้วตั้งแต่ประมาณเดือน มิถุนายน พ.ศ. 2556 เลยเข้าใจว่า (มโนไปเอง) อาจเป็นการผลิตให้แบบ OEM หรือ ตามข้อตกลงที่ทำเอาไว้เฉพาะระหว่างมิชลิน กับ นิสสัน เท่านั้น
ส่วนด้านในฝากระโปรงนั้น เปิดออกมาแล้วจะพบกับเหล็กสตรัทบาร์ (Strut Bar) นั่นคือเหล็กค้ําโช๊ค ที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานติดตั้งมาให้กับรถเลย ไม่ต้องไปหาติดเพิ่ม เสริมเข้าไป ซึ่งค่อนข้างประทับใจ และก็ การค้ำยันฝากระโปรงขณะเปิดขึ้นมานั้นรถรุ่นนี้ใช้โช๊ค ค้ำยันฝากระโปรงขึ้นมาทั้ง 2 ข้าง สะดวกมากๆ ทีเดียว ไม่ต้องเอาเหล็กไปค้ำยันด้วยตัวเองอีกที
ความคิดเห็นส่วนตัว
ส่วนตัวรู้สึกว่า ทางนิสสัน จะปรับให้ช่วงล่างของ เทียน่ารุ่นใหม่ (L33) นี้ มาหนึบ แข็งมากกว่า รุ่นที่ผ่านมา (J32) ทำให้เวลาขับทางเร็ว ไม่รู้สึกเบาหวิว รวมถึงพวงมาลัยที่ไม่เบาด้วย บวกกับการเก็บเสียงที่ดีเยี่ยม ทำให้มั่นใจกว่ารุ่นที่ผ่านมา ที่ค่อนข้างจะเซ็ตช่วงล่างเอาไว้นุ่มนวลพอสมควร
แต่ถ้าใครรักความนุ่มนวล ความนิ่มของช่วงล่างเวลาลงหลุมบ่อ ต้องยกให้รุ่นก่อน (J32) เค้าละ
บทสรุป การใช้งาน Nissan Teana 2014
พูดถึงบทสรุปการใช้งานรถยนต์ นิสสันเทียน่า 2014 ภายใต้รหัสตัวถัง L33 หลังจากที่ออกรถมาแล้วกว่า 7 เดือน ก็ขอสรุปการใช้งานออกมาเป็นข้อดีข้อเสีย ตามความคิด และ ความรู้สึก ของผมเองล้วนๆ เมื่อเทียบกับรถนิสสันเทียน่า J32 ซึ่งเป็นรุ่นติดกันก่อนหน้านี้ มีดังต่อไปนี้
ข้อดี 🙂
- การออกแบบสวยงามโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม ขับแล้วไม่ดูแก่ แต่ผู้ใหญ่ก็ขับได้
- ให้อุปกรณ์อำนวยความสะดวก มากเยอะมากๆ แม้เป็นรุ่นต่ำๆ ก็ตาม
- ระบบความปลอดภัยเพียบ เช่นถุงลมด้านข้าง และ ม่านถุงลม
- อัตราเร่งดีมากๆ เหยียบแป้บเดียว ขึ้น 180 km/h ได้ แม้เป็นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร (แต่มีข้อแม้ว่าต้องปิดโหมด ECO ด้วยนะ)
- ประหยัดน้ำมันมากขึ้นจริงๆ แต่ต้องเปิดโหมด ECO ด้วยนะ ขับนอกเมือง จะได้เฉลี่ย 14-16 กิโลเมตร / ลิตร แต่ถ้าปิดโหมด ECO ขับนอกเมือง ก็ลดลงมาเหลือประมาณ 10-12 กิโลเมตร / ลิตร
- ด้วยความที่เป็นสาวกแปเปิล จึงประทับใจกับฟังก์ชั่นไอพอด (iPod) ฟังเพลง ที่ติดรถมาเป็นอย่างมาก
- ระบบเครื่องเสียงติดรถยนต์ ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนมากๆ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่ให้ เครื่องเสียงติดรถพานาโซนิคมา และ รุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ที่ให้เครื่องเสียงติดรถยนต์โบส (BOSE) มา (ถึงแม้ว่า ตัวเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร จะไม่เคยฟัง ด้วยตัวเอง แต่ด้วยชื่อขั้น คุณภาพ พร้อมจำนวนลำโพง 9 จุดก็ไม่ต้องพูดถึงละ)
- เกาะถนนดีเยี่ยมกว่ารุ่นที่ผ่านมา ช่วงล่างหนึบขึ้น ไมยวบยาบ เหมือนรุ่นที่แล้ว
ข้อเสีย 🙁
- ความนุ่มนวลหายไปส่วนนึง แต่ก็ไม่ได้ถึงกับมากมายอะไร เพื่อช่วงล่างที่หนึบ และ เกาะถนนมากขึ้น
- เบาะนั่ง ทุกตำแหน่ง ไม่นิ่มเหมือนรุ่นก่อน
- หากเปิดโหมด ECO เพื่อเน้นการประหยัด ทำให้การเร่งแซงรถคันหน้า จะทำให้หน่วงและช้า ซึ่งส่วนตัวรู้สึกอันตรายในบางสถานการณ์ ที่เมื่อกดคันเร่งสุด (Kick-Down) ยังตอบสนองช้าอยู่ แต่ก็ต้องแลกกันระหว่าง ความเร็วกับความประหยัด ซึ่งแปรผันสวนทางกันอยู่แล้ว
- อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ มากขึ้น โอกาสชำรุดเสียหาย และ เสียเงินซ่อม ก็มีมากขึ้นเช่นเดียวกัน
หวังว่าบทความรีวิวนี้จะช่วยให้คุณมีความรู้เรื่องรถยนต์ นิสสันเทียน่า 2014 (Nissan Teana 2014) ได้เพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย หากมีสิ่งใดที่เขียนผิดพลาดไป รูปไม่ชัด ฝุ่นเยอะ (ขี้เกียจล้าง) เพราะรีวิวจากการใช้งาน สิ่งที่เห็นจริงๆ ก็ต้องขออภัยทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วย
ดาวน์โหลดโบรชัวร์ นิสสันเทียน่า 2014 – 2017 (Nissan Teana L33 Brochure)
เจ 32ผมใช้ยุคับ ในเมืองซดน้ำมันแหลก
ตจว.ดีกว่าคับ เบาะนิ่มดีขับทางไกลสบาย
สรุปใช้ขับระหว่างเมืองดีมาก ใช้ในเมืองขับลำบากครับเพราะรถบอดี้หญ่มาก.
ขอบคุณสำหรับ Comment นะครับ รุ่นนี้ผมก็เคยขับเหมือนกัน ความเห็นตรงกันครับ 🙂
เห็นพุดถึงความเงียบ ผมคนนึงครับ ที่ลืมดับรถในห้างมาแล้ว เงียบจริง ๆ ครับ
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยครับ
เบาะรุ่นปัจจุบัน แข็ง มีอะไรพาดใต้เบาะทำให้บริเวณขาท่อนบนนั่งเจ็บทรมานมากมาก และปลายเบาะโง้มและแข็งนั่งแล้วเจ็บ
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยครับผม เบาะรุ่นเก่านิ่มกว่ามาก
คุณเก่งมากๆเลยครับ
พอจะมีตัวอย่างหมายเลขตัวรถ Nissan L33 มัยครับ? และรายละเอียดแต่ละหลักแต่ละตัวเลข เหมือนพวก Honda หรือ Toyota นะครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ปัญหาส่วนมากที่เห็นผู้ใช้เจอกันคือเรื่อง ยางดังมาก ภายในไม่ได้เงียบอย่างที่พูดๆกัน ทำไมไม่เห็นมีคนรีวิวคนไหนพูดถึงเรื่องนี้กันนะ
รีวิว ดีมากครับ ดูตอนตัดสินใจซื้อรถ จองรถไปแล้วก็ยังมาดู ระหว่างรอรถก็ยังดู ตอนนี้ใกล้ได้รถมาลองมั้งแล้วครับ เสียดายที่ไฟหน้าไม่ใช่ซีน่อน ไม่มีไฟ daylight แต่ผมว่าจะไปติดอยู่แล้วหลังใช้ไปสักพัก
อีกอย่าง เสียดายจัง ไม่มีตัวอย่าง เสียงเพลง ของลำโพง L33
ได้ความรู้ทะลุปรุโปร่งเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่สละเวลานั่งคีย์ให้เป็นสาธารณะประโยชน์
ขอบคุณมากครับผม
ขอบคุณมากครับ อ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มเยอะเลยครับ
แต่ว่าผมจะติดตามอ่านต่อภาคสองได้ที่ไหนครับ
ขอบคุณมากๆ นะครับผม ตัวนี้มีภาคเดียวครับผม จบแล้วครับ แหะๆ ไม่ทราบว่าได้ตามอ่านไปยังหน้า 2 3 4 5 แล้วหรือยังครับผม
http://www.thanop.com/nissan-teana-2014-l33-review/2/
http://www.thanop.com/nissan-teana-2014-l33-review/3/
http://www.thanop.com/nissan-teana-2014-l33-review/4/
http://www.thanop.com/nissan-teana-2014-l33-review/5/
ขอบคุณมากครับ ดีมากครับ กำลังจะได้มาเหมือนกันรุ่นสีเดียวกันครับ
ไม่ทราบว่าซื้อที่หุ้มพวงมาลัยที่ไหนครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณคร้าบที่เข้ามาอ่านรีวิว ส่วนที่หุ้มพวงมาลัยผมซื้อมาจากโลตัส มั้งครับ ไม่ยากครับ ลองเดินหาดูตามห้างฯ พวกแผนกประดับยนต์ได้เลยครับผม
ขอบคุณครับ ที่ซื้อยี่ห้อนี้ รุ่นนี้ สีนี้ ส่วนนึงก็เพราะอ่านบทความนี้ครับ
ขอบคุณมากครับ
Thumbsup! Very good and in-depth review krub.
ขอบคุณมากๆ นะครับผม