เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Roborock H6

Roborock H6 Share
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Roborock H6

รีวิวฉบับนี้เป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายอเนกประสงค์ (Multipurpose Cordless Vacuum Cleaner) จาก ค่าย Roborock บริษัทผู้ที่ทาง Xiaomi เข้ามาร่วมลงทุน และนำเข้าไปเป็นหนึ่งใน สมาชิกห่วงโซ่ในระบบนิเวศของเสี่ยวหมี่ (Xiaomi Ecological Chain) ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยตัวที่นำมารีวิวนี้ ชื่อเต็มๆ ของมันคือ Roborock H6 เครื่องดูดฝุ่นที่สามารถดูดได้บนหลากหลายวัตถุ ทั้งบนพื้นห้อง บนเฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่ บนที่สูงอย่างฝ้าเพดาน เป็นต้น

โดยความสามารถคร่าวๆ ของเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Roborock H6 นี้คือ มันมีแรงดูดสูงสุดได้ถึง 25,000 ปาสคาล (Pa) ! (ปกติ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ทั่วๆ ไปจะมีแรงดูดประมาณ 2,500 ปาสคาล เท่านั้น) มีแรงดูดที่คงที่ ใช้งานต่อเนื่องได้อย่างยาวนาน มี อุปกรณ์ที่ให้มาอย่างหลากหลาย ใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ และยังมาพร้อมกับแผ่นกรองอากาศที่กรองฝุ่นได้อย่างล้ำลึก แถมมีน้ำหนักเบาเพียง 1.4 กิโลกรัม เท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แม่บ้าน หรือผู้สูงอายุ ก็สามารถใช้เครื่องนี้ได้อย่างสบายๆ

ด้านล่างนี้เป็นเมนูลัด (Shortcut) ที่ให้คุณได้สามารถเข้าถึงรีวิว Roborock H6 เครื่องนี้ได้ง่ายๆ เนื่องจากรีวิวนี้มีเนื้อหาค่อนข้างละเอียด

ด้านล่างนี้เป็นคลิปวิดีโอรีวิวเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Roborock H6 ที่มีความยาวประมาณ 13 นาที ที่ละเอียดพอสมควร ใครที่ไม่อยากอ่านรีวิวยาวๆ ลองรับคลิปชมกันก่อนได้เลย

แกะกล่องผลิตภัณฑ์ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Roborock H6

ตัวกล่องผลิตภัณฑ์ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Roborock H6 มีขนาดมิติกล่องอยู่ที่ยาว (L) 285 x กว้าง (W) 195 x สูง (H) 785 มิลลิเมตร (วัดเองด้วยตลับเมตร) และน้ำหนักสุทธิของกล่องรวมผลิตภัณฑ์ (Net Weight) อยู่ที่ประมาณ 5.9 กิโลกรัม (ชั่งด้วยเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล)

โดยที่ตัวกล่องมาในธีมสีขาว, แดง, เทา และผสมผสานกับสีดำ ตามสไตล์ของ ผลิตภัณฑ์ Roborock นั่นเอง เราลองมาดูรายละเอียดในแต่ละด้านของกล่องผลิตภัณฑ์กันเลย

ด้านหน้ากล่อง : แสดงยี่ห้อ พร้อมรุ่นของตัวเครื่อง นั่นก็คือ Roborock H6 พร้อมโลโก้แสดงถึง รางวัลชนะเลิศรายการ reddot winner 2020 โดย reddot เป็นรางวัลการแข่งขันออกแบบสินค้าผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก ซึ่ง reddot นี้เป็นรางวัลการแข่งขันออกแบบสินค้าผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก จากประเทศเยอรมัน ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำในทุกๆ ปี (รายละเอียดรางวัล reddot ของ Roborock H6)

เขยิบลงมาด้านล่างจะเป็น คุณสมบัติ และ ความสามารถ ของตัวเครื่อง 4 ข้อ พร้อมรูปตัวเครื่อง Roborock H6 ที่วางเด่นเป็นสง่าอยู่ในแนวตั้ง

ด้านหลังกล่อง : เป็นส่วนของการอธิบายบอก คุณสมบัติ และ ความสามารถเด่นๆ ของตัวเครื่องทั้งหมด 8 ข้อ เป็นภาษาอังกฤษ พร้อมรูปประกอบสี่สีชัดแจ๋ว

ด้านซ้ายกล่อง : จะมีในส่วนของ “What’s Inside” หรือ อุปกรณ์ทั้งหมด ที่มาภายในกล่องผลิตภัณฑ์ มีอุปกรณ์ทั้งหมด 10 ชิ้น ด้วยกัน พร้อมรูปประกอบเป็นภาพกราฟิก และรูปประกอบจริงอีก 6 รูป อยู่ในส่วนล่าง

ด้านขวากล่อง : ด้านขวากล่องจริงๆ ไม่มีอะไรเลย เพราะเป็นส่วนของด้ามจับพลาสติก ในขณะพื้นหลังของส่วนนี้จะเป็นสีเทา พร้อม สัญลักษณ์ข้อควรระวังเกี่ยวกับการขนย้าย ขนส่ง กล่องผลิตภัณฑ์อีก 6 รายการ อาทิ หันด้านนี้ขึ้น (This Side Up) ห้ามเปียกน้ำ (Keep Dry) ระวังแตก (Fragile) ห้ามเหยียบ (Do not Step) เป็นต้น

อุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่องผลิตภัณฑ์ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Roborock H6

Roborock H6 Box Unpacked
เปิดกล่องผลิตภัณฑ์ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Roborock H6

เมื่อเปิดกล่องผลิตภัณฑ์ออกมา เราจะเห็นแผ่นกระดาษสีขาวพิมพ์ 4 สีอย่างดี บอกถึงรายละเอียดของ อุปกรณ์ทั้งหมดที่ให้มาภายในกล่องผลิตภัณฑ์ ซึ่งก็มีอยู่ทั้งหมด 11 ชิ้น ซึ่งเขาได้แบ่งการเก็บอุปกรณ์ในกล่องออกเป็น 2 ชั้น โดยมีรายละเอียดมีดังต่อไปนี้

Top Layer Components (อุปกรณ์ชั้นบน)

  1. User Manual (หนังสือคู่มือการใช้งาน x 1 ชุด) : ถูกเก็บในกล่องกระดาษสีขาว ภายในมีหนังสือคู่มือ 2 ภาษาคือ ภาษาฮีบรู กับ ภาษาอังกฤษ แต่เปิดมาก็แอบตกใจตรงที่ดันเอา ภาษาฮีบรู ขึ้นมาก่อนภาษาอังกฤษ โดยเนื้อหาภายในค่อนข้างละเอียดมาก มีรูปประกอบพร้อมคำบรรยายอย่างชัดเจน
  2. Motorized Mini-Brush (หัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็ก x 1 หัว) : หัวดูดฝุ่นแบบมีมอเตอร์ที่จะหมุนแปรงขนแบบเกลียว ความกว้าง 12.5 เซนติเมตร ที่จะช่วยดูดฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ ตัวไรฝุ่น (Dust Mite) ที่อยู่บนพื้นผิวของวัตถุต่างๆ ให้หลุดออกมาเข้าเครื่องให้ง่ายมากขึ้น เหมาะกับการใช้ดูด ที่นอน ผ้าห่ม โซฟา เป็นต้น
    (ดูรายละเอียดหัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็กเพิ่มเติม)
  1. Baton (ท่อต่อหัวดูด x 1 ท่อ) : ทางผู้ผลิตใช้คำว่า “Baton” ถ้าแปลตรงๆ จะแปลว่า “กระบอง” ซึ่งจริงๆ แล้วมันคือ ท่ออลูมิเนียมสีแดง ที่มีความยาว 0.75 เมตร เอาใช้สำหรับต่อหัวดูดฝุ่นชนิดต่างๆ ให้สามารถดูดบนที่สูง หรือดูดบนพื้นได้ โดยที่ไม่ต้องปีนบันได เขย่ง หรือก้มตัวลงให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ และเสียเวลา
  2. Flex Tube (ท่อย่นยืดหดได้ x 1 ท่อ) : ท่อย่น หรือท่ออ่อนพลาสติก มีขนาดเล็กที่สามารถยืดหดได้ มีความยาวก่อนยืดอยู่ที่ 0.3 เมตร และ ความยาวขณะยืดสุดอยู่ที่ 0.9 เมตร สามารถนำไปดูดในซอกเล็กๆ ได้อย่างยืดหยุ่น เหมาะมากๆ ที่จะนำไปดูดในรถยนต์ บนชั้นวางของต่างๆ หรือที่แคบต่างๆ (ต้องต่อกับหัวดูดด้วยนะ)
  1. Accessory Rack (ที่เก็บอุปกรณ์เสริม x 1 ชุด) : แผ่นพลาสติกที่จะต้องนำมายึดติดกับผนังบ้าน (มีพุกและนอตมาให้) มีความยาว 29 เซนติเมตร เป็นที่เอาไว้สำหรับเก็บหัวดูดชนิดต่างๆ พร้อมกับที่แขวนตัวเครื่องดูดฝุ่น
  2. Dusting Brush (หัวดูดฝุ่นทั่วไป x 1 หัว) : แปรงแบบขน ปากกว้างประมาณ 6 เซนติเมตร เอาไว้ใช้สำหรับดูดฝุ่นที่อยู่บนข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านต่างๆ เช่นฝุ่นบนเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ อย่างบนโต๊ะ, บนเก้าอี้, บนชั้นวางของ, บนฝ้าเพดาน (ต้องใช้ท่อต่อหัวดูดช่วย) หรือจะนำไปดูดในรถยนต์ ก็ได้อีกด้วยเช่นกัน
  3. Crevice Tool (หัวดูดซอก ร่อง x 1 หัว) : แปรงพลาสติกปลายเฉียง ความยาว 25 เซนติเมตร และปากกว้าง 3 เซนติเมตร สำหรับดูดฝุ่นในพื้นที่คับแคบ เช่น ขอบมุมห้อง, ขอบบัว, ซอกเตียง, ซอกของเบาะรถยนต์ เป็นต้น

Bottom Layer Components (อุปกรณ์ชั้นล่าง)

  1. Cordless Vacuum Cleaner Main Body (ตัวเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย x 1 เครื่อง) : เป็นหัวใจสำคัญของผลิตภัณฑ์ มีน้ำหนักเครื่องเบาเพียง 1.4 กิโลกรัม (รวมแบตเตอรี่แบบลิเธียมโพลิเมอร์ และ ถังเก็บฝุ่นแล้ว) (ดูรายละเอียดตัวเครื่องหลักเพิ่มเติม)
  2. Floor Brush (หัวดูดพื้น x 1 ชุด) : หัวดูดแบบมีมอเตอร์ มาพร้อมกับแปรงหมุน มีขนาดหน้ากว้าง 25 เซนติเมตรเป็นแปรงชนิดแปรงขนแบบนุ่ม (Soft Brush) ที่สามารถนำไปต่อกับท่อต่อ เพื่อใช้ดูดพื้นต่างๆ ได้หลากหลายอาทิ พื้นไม้ปาร์เก้ (Parquet) พื้นกระเบื้อง (Tile) และพื้นเนื้อแข็ง (Hard Floor) ชนิดอื่นๆ
    (ดูรายละเอียดหัวดูดพื้นเพิ่มเติม)
  1. Docking Station (แท่นชาร์จ x 1 ชุด) : ใช้ในกรณีที่ต้องการเก็บตัวเครื่องแบบพิงผนังบ้าน หรือติดตั้งกับ ชุดขาตั้งพื้น (Floor Stand Set) เพื่อประหยัดพื้นที่ภายในบ้าน โดยสายไฟจากชุดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ จะเข้ามาเสียบอยู่ที่นี่ (ในกรณีที่ต้องการชาร์จผ่านแท่นชาร์จ)
  2. Adapter Set (ชุดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ x 1 ชุด) : หรือตัวชาร์จไฟ (Charger) ให้สายไฟความยาวประมาณ 1.6 เมตร และปลั๊กหัวกลม 2 ขา (Plug Type E) ใช้แปลงไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Power) ไปเป็นไฟฟ้ากระแสตรง (DC Power) รองรับรับแรงดันไฟฟ้าเข้าระหว่าง 100-240 โวลต์ (ใช้ได้ทุกประเทศทั่วโลก)

ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิคของ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Roborock H6

Roborock H6 Featured Image
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Roborock H5
รายละเอียด
(Specification)
ขนาดมิติ
(Dimension)
284 x 111 x 221 มิลลิเมตร
น้ำหนักของตัวเครื่อง
(Net Weight)
1.4 กิโลกรัม
อัตราการกินไฟขณะกำลังชาร์จ
(Power Consumption when Charging)
23 วัตต์
(วัดจากเครื่องทดสอบอัตราการกินไฟดิจิตอล)
พลังการดูด
(Suction Power)
150 แอร์วัตต์ (Airwatt)
ไฟเข้า
(Input)
AC 100-240V 50/60 Hz (0.60A)
ไฟออก
(Output)
DC 25.6V (0.80A) (20.5W)
พื้นผิวที่รองรับ
(Supported Surface)
พื้นเนื้อแข็ง / พรมขนสั้น
(Hard Floor / Short Pile Rug)
ระดับเสียง
(Noise Level)
72 dB. (เดซิเบล)
(จากสเปคที่ทางผู้ผลิตระบุเอาไว้)
ความยาวของสายไฟรวมทั้งหมด
(Total Cable Length)
1.6 เมตร โดยประมาณ
ความจุถังเก็บฝุ่น
(Dust Tank Capacity)
0.4 ลิตร (Litre)

คุณสมบัติ และ ความสามารถ ของ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Roborock H6

1. Extreme Suction Strength but Low Noise (แรงดูดสูง แต่เสียงเงียบ)

Roborock H6 Feature Extreme Suction Strength
แรงดูดสูง 150 แอร์วัตต์ (150 Airwatts Extreme Suction Strength)

เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Roborock H6 เครื่องนี้จับเคลื่อนแรงดูดฝุ่นจากมอเตอร์ไร้แปรงถ่าน (Brushless Motor) ขนาด 420 วัตต์ (Watts) ที่ให้แรงดูดสูงสุดถึง 150 แอร์วัตต์ (Airwatts) ที่จะเข้ามาช่วยดูดฝุ่น, เชื้อโรคต่างๆ หรือ อนุภาคขนาดเล็ก ที่เกาะอยู่บนพื้นผิวของวัตถุต่างๆ อาทิ บนเตียงนอน เบาะรถยนต์ พรม หรือแม้แต่ ฝุ่นหรือเส้นผมที่ตกอยู่ในร่องของปุ่มบนแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ (Keyboard) แบบลงลึกชนิดที่เรียกว่า “ถอนรากถอนโคน” กันเลยทีเดียว

และด้วยความที่เครื่องนี้ใช้มอเตอร์ไร้แปรงถ่าน ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องของอายุการใช้งานที่ยาวนาน แรงดูดสูง และมีรอบการใช้งานที่คงที่อย่างต่อเนื่อง ด้วยพลังจากแบตเตอรี่แบบลิเธียมพอลิเมอร์ (Lithium-Polymer Battery) ความจุ 3,610 มิลลิแอมป์ (mAh) ที่มีจุดเด่นในเรื่องของความเบา โดยมันสามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 90 นาที (1.30 ชั่วโมง) (ในโหมดประหยัด) และ 10 นาที (ในโหมดสูงสุด)

Roborock H6 Battery
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบพอลิเมอร์ (Lithium Polymer Battery) ขนาดความจุ 3,610 มิลลิแอมป์ (mAh)

และอีกหนึ่งอย่างที่น่าประทับใจคือ เครื่องนี้มีเสียงในขณะที่กำลังทำงานที่ค่อนข้างเงียบมากๆ ทั้งที่มาจากตัวมอเตอร์ฯ เอง และผนวกกับวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ภายในก็ อย่างตัวเครื่อง และแผ่นกรองอากาศ ก็ได้ถูกออกแบบมาให้ช่วยลดเสียงอีกด้วยเช่นกัน

โดยเครื่องดูดฝุ่นไร้สายเครื่องนี้ สามารถปรับระดับความแรงของพัดลมดูดฝุ่น (Vacuum Fan Level) ได้ทั้งหมด 3 โหมดหลักๆ ด้วยกัน ได้แก่

  1. ECO Mode (โหมดประหยัด – ดูดเบา)
  2. Standard Mode (โหมดธรรมดา – ดูดปกติ)
  3. MAX Mode (โหมดสูงสุด – ดูดแรง)

2. Soft Brush for Hard Floor (แปรงหนาหนุ่ม สำหรับพื้นเนื้อแข็ง)

Roborock H6 Feature Soft Brush for Hard Floor
แปรงหนาหนุ่ม สำหรับพื้นเนื้อแข็ง (Soft Brush for Hard Floor)

เครื่องนี้มาพร้อมกับแปรงหมุนชนิดหนานุ่ม (Soft Brush) เป็นแปรงหมุนแบบมอเตอร์ ที่อยู่ที่ส่วนล่างสุดของตัวเครื่องหมุนด้วยกำลัง 50 วัตต์ (Watts) ด้วยความเร็ว 1,100 รอบต่อนาที (RPM) เพื่อให้เศษฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือใหญ่ ที่ติดอยู่บนพรม สามารถหลุด และถูกดูดเข้าไปเก็บภายในถังเก็บฝุ่นได้ง่ายขึ้น

โดยตัวแปรงหมุนชนิดหนานุ่ม เป็นแปรงทำมาจากวัสดุที่มีคุณสมบัติป้องกันการเกิดไฟฟ้าสถิตย์ (Anti-Static Material) ช่วยให้เศษฝุ่นละออง เส้นผม ขนสัตว์ ต่างๆ ที่ติดอยู่บนพื้นหลุดออกมา และเข้าไปเก็บภายในถังเก็บฝุ่นได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และนอกจากนี้แล้วยังถูกออกแบบให้มีคุณสมบัติป้องกันกันพัน หรือติดขัด (Anti-Tangle Design) ที่เกิดจากเส้นผม หรือขนสัตว์ อีกด้วยเช่นกัน

3. Lightweight and Maneuverable (น้ำหนักเบา ใช้งานคล่องแคล่วสะดวก)

Roborock H6 Feature Lightweight
น้ำหนักเบา (Lightweight)

อีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจของ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Roborock H6 เครื่องนี้คือ มันถูกออกแบบมาให้มีน้ำหนักที่เบามากๆ เพียง 1.4 กิโลกรัม (หรือประมาณ 3 ปอนด์) เท่านั้น (น้ำหนักรวมแบตเตอรี่แล้ว) อารมณ์เหมือนถือขวดน้ำพลาสติก ที่มีน้ำเต็มขวด เอามากๆ ทำให้สามารถใช้งานได้ในทุกเพศทุกวัย ผู้หญิงใช้ได้ ผู้ชายใช้ดี คนสูงอายุก็ยังใช้ได้สบายๆ อีกต่างหาก

โดยผู้ใช้งานสามารถนำไปดูดฝุ่น บนพื้นห้อง บนเฟอร์นิเจอร์ อย่าง บนตู้ บนโต๊ะทำงาน บนโซฟา หรือจะนำไปดูด บนฝ้าเพดาน หรือจะถือออกจากตัวบ้านไปดูดฝุ่นภายในรถเรา ได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องเกร็งข้อมือ ไม่ต้องปวดกล้ามเนื้ออีกด้วย

4. Eliminate Pollutants and Allergens (ลดมลพิษ และสารก่อให้เกิดภูมิแพ้)

Roborock H6 Feature Eliminate Pollutants and Allergens
ลดมลพิษ และสารก่อให้เกิดภูมิแพ้ (Eliminate Pollutants and Allergens)

เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Roborock H6 มีระบบการกรองอากาศ ด้วยตัวกรองฝุ่น (Filter) ที่มีมาให้มากถึง 5 ชั้น จะกรองอากาศที่ถูกดูดเข้ามาพร้อมกับฝุ่นละอองต่างๆ ก่อนปล่อยกลับออกไปสู่ข้างนอกอย่างดีเยี่ยม มันสามารถกรองฝุ่น และอนุภาคขนาดเล็กต่างๆ ได้มากถึง 99.97% หรืออนุภาคขนาด 0.3 ไมครอน หรือ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3)

โดยอนุภาคที่สามารถกรองได้ในระดับ 0.3 ไมครอนนี้ รวมไปถึง ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (ฝุ่น PM 2.5 ก็สามารถกรองได้สบายๆ) ขนสัตว์เลี้ยง ละอองเกสรดอกไม้ เชื้อรา ตัวไรฝุ่น ที่ลอยอยู่ในอากาศ เมื่อสิ่งเหล่านี้ถูกดูดเข้ามาภายในเครื่อง

5. Easy to Use (ใช้งานง่าย)

Roborock H6 Feature Easy to Use
ใช้งานง่าย (Easy to Use)

ในส่วนของการใช้งานเครื่องนี้ ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่กดปุ่มเปิดปิดเครื่อง ที่ติดตั้งอยู่ที่ส่วนของด้ามจับ และก็มีปุ่มล็อกการดูดฝุ่น เพื่อให้ผู้ใช้งานไม่ต้องออกแรงกดปุ่มเปิดปิดเครื่องในขณะที่ใช้งานอยู่ตลอดเวลาให้เมื่อยมือ

นอกจากนี้แล้วยังมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบโอเลต หรือ “OLED (Organic Light-Emitting Diode)” ที่ให้ความสว่าง และมีความคมชัดสูง โดย หน้าจอแสดงผลแบบ OLED ก็ถือเป็นเทคโนโลยีการแสดงผลที่นิยมใช้กันใน อุปกรณ์พกพาต่างๆ อย่างเช่น สมาร์ทวอทช์ คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป เป็นต้น

โดยหน้าจอแสดงผลแบบ OLED นี้เป็นหน้าจอที่จะบอกค่าสถานะต่างๆ ของ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ของเราว่ามีสถานะเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็น สถานะคงเหลือของแบตเตอรี่ (Remaining Power), โหมดการทำงานปัจจุบัน (Current Mode) รวมไปถึงการแจ้งเตือน (Alert) ต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย

6. Easy Maintenance (บำรุงรักษาง่าย)

Roborock H6 Feature Easy Maintenance
บำรุงรักษาง่าย (Easy Maintenance)

การบำรุงรักษาหลักๆ ของเครื่องนี้คือ การคอยหมั่นนำเอาถังเก็บฝุ่นไปเทฝุ่นที่อยู่ข้างในทิ้งถังขยะ เพื่อให้เครื่องคงแรงดูดที่สูงที่สุดเอาไว้อยู่ตลอดเวลา (เพราะถ้ายิ่งมีฝุ่นในถังเก็บฝุ่นมากเท่าไหร่ ประสิทธิภาพการดูดฝุ่น ก็จะลดน้อยลงตามลำดับไปด้วยเช่นกัน)

และนอกจากนี้แล้วอุปกรณ์ทั้งหมดที่อยู่ภายใน ถังเก็บฝุ่น (Dustbin) ทุกชิ้น อย่างเช่น ตัวกรองฝุ่น ต่างๆ ก็สามารถถอดนำไปล้างน้ำสะอาดได้สบายๆ

อ่านต่อหน้า 2 (Next Page) →

1
2
ทบทวนภาพรวม
ความสะอาดในการดูดฝุ่น
10
ความหลากหลายของอุปกรณ์เสริม
10
ความหลากหลายในการใช้งาน
10
การดูแลรักษา ทำความสะอาด
10
ความสะดวก และ ง่ายต่อการใช้งาน
9
ความคุ้มค่าเทียบกับราคา
8
ความพึงพอใจโดยรวม
10
บทความก่อนหน้านี้รีวิวเก้าอี้นวดไฟฟ้า MAKOTO A156 และ A157 ที่เป็นทั้งเก้าอี้นวด และโซฟาเดี่ยวในตัว
บทความถัดไปAtmosphere MINI เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็ก แต่ทรงพลัง กรองเหนือกว่ามาตรฐาน HEPA ทั่วไปถึง 125 เท่า !
Thanop Somprasong
Thanop.com Founder + Thaiware.com Co-Founder + Business Director, Cloud Business Co.,Ltd. + Committee Thai Webmaster Association
roborock-h6-cordless-vacuum-cleaner-review<p><strong>ความสะอาดในการดูดฝุ่น (10/10)</strong> : เครื่องนี้ให้เต็ม 10 เพราะมีระดับการดูดฝุ่นมากถึง 3 ระดับ แค่โหมดประหยัด (ECO Mode) ก็แรงแล้ว แต่ถ้าเปิดในโหมดสูงสุด (MAX Mode) ก็แรงสุดสมชื่อ เพราะแรงดูดให้มามากสูงสุดถึง 150 แอร์วัตต์ (Airwatts) ก็ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ของ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ที่เคยพบเห็น (ส่วนมากแรงดูดจะอยู่ระหว่าง 100-200 แอร์วัตต์)</p> <p><strong>ความหลากหลายของอุปกรณ์เสริม (10/10)</strong> : อุปกรณ์เสริมที่ให้มาถือว่าเยอะมากๆ และที่ชอบมากที่สุดคือ ท่อย่นยืดหดได้ นอกจากนี้ยังรวมไปถึง ท่อต่อหัวดูด ที่ให้ช่วยลดความเสี่ยงของอันตรายในการดูดฝุ่นบนที่สูง หรือก้มดูดฝุ่นที่อยู่บนพื้น หรือในระดับที่ต่ำกว่าตัวเรา</p> <p><strong>ความหลากหลายในการใช้งาน (10/10)</strong> : ขึ้นชื่อว่าเป็น เครื่องดูดฝุ่นไร้สายอเนกประสงค์ อยู่แล้ว ดังนั้นการใช้งานกับวัตถุต่างๆ อย่าง ฝ้าเพดาน กำแพง พื้น โซฟา เตียงนอน หรือแม้แต่บนรถ สามารถทำได้อย่างง่ายดาย แต่ทั้งนี้ทั้ง มีข้อแม้ว่าเราจะต้องนำเอาท่อต่อ และหัวดูดต่างๆ มาประยุกต์ใช้อย่างถูกวิธีแล้วหรือยัง และที่สำคัญด้วยความที่มันเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้าไร้สาย จึงตัดข้อจำกัดเรื่องของสายไฟ และปลั๊กไฟ ออกไปได้เลย พูดง่ายๆ คือถือไปใช้ได้ทุกที่</p> <p><strong>การดูแลรักษา ทำความสะอาด (10/10)</strong> : สามารถทำได้ง่าย และสะดวก เพราะการเปิดฝาถังเก็บฝุ่น เราสามารถกดสลักลงเพื่อเปิด แล้วฝุ่นจะตกลงสู่ถังขยะ ได้ตามแรงโน้มถ่วงของโลกเลย โดยเราไม่ต้องเอามือไปสัมภาษณ์กับฝุ่นโดยตรง ได้ในเรื่องของสุขลักษณะไปเต็มๆ และนอกจากนี้ พวกตัวกรองฝุ่นต่างๆ ก็ยังสามารถนำไปล้างน้ำได้อีกด้วย ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์สิ้นเปลืองต่างๆ ออกไปได้อีก</p> <p><strong>ความสะดวก และ ง่ายต่อการใช้งาน (8/10)</strong> : มีแค่ 3 ปุ่มเท่านั้น ลองกดดูแป๊บเดียว (ไม่ถึงครึ่งนาที) ก็เป็นแล้ว ไม่ต้องเปิดคู่มือเลย</p> <p>แต่ที่หัก 1 คะแนนเพราะตอนแรกก็ทำให้งงเรื่องของการเปลี่ยนภาษาเหมือนกัน เนื่องจากตอนแรก เพราะเปิดมาก็เจอเมนูที่เป็นภาษจีนเลย ระบบไม่ได้ตั้งค่าตั้งต้นเป็นภาษาอังกฤษมาให้ (ไม่รู้เครื่องอื่นจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า)</p> <p><strong>ความคุ้มค่าเทียบกับราคา (9/10)</strong> : ราคาเครื่องอยู่ที่ประมาณหมื่นกลางๆ เทียบกับอุปกรณ์เสริม ความอเนกประสงค์ที่ได้รับ รวมไปถึง พลังดูด 150 แอร์วัตต์ ก็จัดว่าคุ้มสุดๆ (แต่ถ้ารอดูช่วง Flash Sale ก็อาจจะมีเซอร์ไพรส์)</p>

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็น
กรุณาใส่ชื่อของคุณตรงนี้