เครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir
รีวิวฉบับนี้เป็นรีวิว เครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir (อ่านออกเสียงภาษาไทยว่า “ซาเลียร์“) เป็นแบรนด์เครื่องฟอกอากาศจากประเทศญี่ปุ่น (Japan) แบบชนิดที่เรียกได้ว่า 100% เพราะว่า ทั้งตัวเจ้าของเองก็เป็นชาวญี่ปุ่น ชื่อ นายทาเคชิโร โยชิมัตซึ (Takeshiro Yoshimatsu) ซึ่งแกทั้งเป็นคนที่คิดค้น วิจัย พัฒนา ทดสอบ รวมไปถึงผลิตเครื่องในประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด แถมตัวเครื่องนี้ยังถูกนำไปใช้ในสถานที่สำคัญต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่นหลายแห่งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สถานีรถไฟฟ้า JR, อาคารสํานักงานใหญ่โตโยต้า, สถานพยาบาล รวมไปถึงสถานที่อื่นๆ อีกมากมาย
โดยเครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir เครื่องนี้มีจุดเด่นตรงที่ มันไม่มีพัดลมดูดอากาศ ที่เป็นใบพัด หรือมอเตอร์ไฟฟ้าอะไรใดๆ เลย ส่งผลให้ มันไม่จำเป็นต้องมี แผ่นกรองอากาศ (Filterless) มีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำ (Low Maintenance Cost) แถมยังกินไฟน้อย (Low Power Consumption) มาเป็นเงาตามตัวอีกด้วย
ในขณะที่ประสิทธิภาพของการฟอกอากาศนั้น เครื่องนี้จะใช้หลักการการปล่อยประจุลบ (Negative Ion) ที่มีความเข้มข้นสูง ผ่านทางเข็มปล่อยประจุ ที่ถูกติดตั้งอยู่ภายในตัวเครื่อง และประจุลบจำนวนมากมายเหล่านี้ จะเข้าไปจับ สิ่งปนเปื้อนที่ลอยอยู่ในอากาศ อย่าง ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5, เชื้อโรคต่างๆ อาทิ เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย รวมไปถึง สารเคมี ควัน และกลิ่นต่างๆ ก่อนที่มันจะสิ้นสภาพ และตกลงสู่พื้น ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของเราอีกต่อไป สำหรับรายละเอียดอื่นๆ ดูจากเมนูลัดด้านล่างนี้ได้เลย
- รู้จักกับ เครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir กันก่อน
- คุณสมบัติ และ ความสามารถ
- แกะกล่องผลิตภัณฑ์
- อุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่องผลิตภัณฑ์
- ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค
- การติดตั้ง และ ใช้งานเครื่อง
- การดูแลรักษาเครื่อง
- ทดสอบอัตราการกินไฟของตัวเครื่อง
- คำถามที่คุณต้องอยากรู้ (FAQs)
- การสั่งซื้อ และ การรับประกัน
- บทสรุปการใช้งาน ข้อดี ข้อเสีย
- ผลการทดสอบประสิทธิภาพของตัวเครื่อง (Performance Test Results)
ด้านล่างนี้คือคลิปวิดีโอรีวิวเครื่องฟอกอากาศ Salir ความยาวเกือบๆ 16 นาทีครึ่ง มีทั้งการแนะนำหลักการการทำงานประจุลบ รวมไปถึงประโยชน์ของการได้รับประจุลบ ส่วนประกอบของตัวเครื่อง วิธีการใช้งาน และการทดสอบต่างๆ อย่างละเอียด ใครพอมีเวลา ลองรับชมคลิปนี้ก่อนอ่านรีวิวได้เลยครับ
รู้จักกับ เครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir กันก่อน
หากพูดถึง เครื่องฟอกอากาศประจุลบ (Negative Ion Air Purifier) นั้น ในสมัยก่อนอาจจะดูเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ สำหรับใครหลายๆ คนอยู่พอสมควร (รวมถึงตัวผมเองด้วย) แต่ในปัจจุบันนี้ มีแบรนด์ผู้ผลิต เครื่องฟอกอากาศ หลายแบรนด์ ได้นำเอาเทคโนโลยีนี้เข้ามาใช้กันเป็นอย่างมาก มีทั้งแบบ
- เครื่องฟอกอากาศที่ ปล่อยประจุลบออกมาเพียงอย่างเดียว (เหมือน Salir ที่คุณกำลังอ่านรีวิวอยู่)
- เครื่องฟอกอากาศที่ มีการปล่อยประจุลบด้วย และ มีพัดลมพร้อมกับใช้แผ่นกรองอากาศทั่วๆ ไปด้วย (ใช้ร่วมกัน)
ซึ่งเทคโนโลยีการปล่อยประจุลบนี้ อันที่จริงแล้วมันก็คือการใช้ ไฟฟ้าแรงดันสูง มารวมกันอยู่ที่ปลายเข็มแหลมๆ ที่เรียกว่า “เข็มปล่อยประจุลบ (Negative Ion Needles)” บางแบรนด์เรียกว่า “เข็มโคโรนา (Corona Needles)” ซึ่งถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านบนของตัวเครื่องบ้าง หรือด้านหน้าของเครื่องบ้าง แล้วแต่การดีไซน์ของทางผู้ผลิต
ส่วนที่ว่าจะใช้แรงดันไฟฟ้า / กำลังไฟฟ้า / กระแสไฟฟ้า ให้กับเข็มปล่อยประจุลบเท่าไหร่ ? วัสดุที่ใช้ในการผลิตเข็มเป็นอย่างไร ? และมีกี่เข็ม ? เหล่านี้คือ “สูตรลับ” ของแต่ละแบรนด์ จะให้พูดง่ายๆ ก็คือ เรารู้หลักการการทำงานของมันก็จริง แต่เราไม่มีทางรู้รายละเอียดในเชิงลึกของได้เลย (เหมือนกับสูตรน้ำจิ้มสุกี้ของร้านสุกี้ชื่อดัง อะไรทำนองนั้นเลย) เพราะฉะนั้นหลักการการทำงานเหมือนกันก็จริง แต่ประสิทธิภาพ ในการฟอกอากาศนั้น แตกต่างกันอย่างแน่นอน
Salir คือเครื่องฟอกอากาศประจุลบ จากประเทศญี่ปุ่น 100%
เครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir เป็นเครื่องฟอกอากาศแบรนด์ญี่ปุ่น แบบชนิดที่เรียกว่า 100% เพราะตั้งแต่ ผู้ที่คิดค้นเทคโนโลยี (สูตรลับที่ว่า) คือนายทาเคชิโร โยชิมัตซึ (Takeshiro Yoshimatsu) รวมไปถึงการผลิตเครื่องต่างๆ ล้วนแต่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นทั้งนั้น ดังนั้นเรื่องของประสิทธิภาพการทำงาน และคุณภาพเครื่องต่างๆ ไว้วางใจได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้แล้ว เครื่องฟอกอากาศประจุลบ ยังได้ถูกนำไปใช้ในสถานที่สาธารณะสำคัญต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น มากมายหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น
- Tokyo International Airport (Haneda) – สนามบินนานาชาติโตเกียว (ฮาเนดะ)
- Tokyo National Hospital – โรงพยาบาลแห่งชาติโตเกียว
- Tokyo International Forum – ศูนย์การประชุมนานาชาติโตเกียว
- Toyota Motor Corporation – โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน
- Kentucky Fried Chicken Tokyo Store – ร้าน KFC ในกรุงโตเกียว
- AOKI Ginza Main Store – ร้านหลักโอกิกินซ่า
- Ota Komodori Kindergarten – โรงเรียนอนุบาลโอตะคุโมโดริ
- JR Sightseeing Bus – บนรถโดยสารนำเที่ยว JR
- JR Hokkaido and Kyushu – รถไฟเจอาร์ฮอกไกโด และ คิวชู
- And more in many public areas – และสถานที่สาธารณะอื่นๆ อีกมากมาย
Salir คือเครื่องสร้างวิตามินในอากาศ
นักวิทยาศาสตร์หลายคน ได้มีการเรียกขนานนาม ประจุลบ ว่ามันคือ “วิตามินในอากาศ (Air Vitamin)” กันเลยทีเดียว ด้วยความที่มันสามารถที่จะสร้าง ประโยชน์ทั้งในด้านของร่างกาย และจิตใจ ให้กับมนุษย์อย่างเราๆ
หากพูดถึงประโยชน์ในด้านร่างกายคือ มันสามารถในการทำให้อากาศภายในห้องสะอาด และยังช่วยกำจัดเชื้อโรค รวมไปถึงกลิ่นต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ด้วยหลักการของมันคือ ประจุลบจะถูกปล่อยออกจากเข็มปล่อยประจุลบ และลอยเข้าไปยึดจับกับสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ (Air Contaminant) ก่อนที่จะทำปฏิกริยา ให้มันลอยตกลงสู่พื้น และสิ้นสภาพต่อไป
ในขณะที่ประโยชน์ด้านจิตใจคือ การที่เราได้รับประจุลบเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ กลางป่าที่ชุ่มชื้น หรือหุบเขา ที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสมบูรณ์ อย่าง ต้นไม้ ใบหญ้า ลำธาร น้ำตก หรือแม้แต่ชายฝั่งของทะเล เพราะอันที่จริงแล้ว ประจุลบ มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้น และอยู่ในธรรมชาติอยู่แล้ว ทำให้เรารู้สึกปลอดโปร่ง สบาย แจ่มใส สดชื่น และผ่อนคลาย รวมไปถึงการสร้างความสมดุลให้กับร่างกายของเรา นอนหลับง่าย คลายเครียด ได้อีกด้วย
ในขณะที่วิถีชิวิตของคนที่พักอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ ที่ปราศจากธรรมชาติ หรือพื้นที่สีเขียว นั้น ก็ยังมีโอกาสที่จะได้รับประจุลบได้อยู่ 3 วิธีหลักๆ ก็คือ
- ช่วงเวลาหลังฝนตกใหม่ๆ ก็เป็นช่วงที่เราได้รับเช่นกัน ถ้าสังเกตดูดีๆ หลังฝนตกจะมีกลิ่นอ่อนๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของประจุลบ
- การอาบน้ำ คือเมื่อน้ำตกกระทบลงสู่พื้นแล้ว โมเลกุลของน้ำก็จะเกิดการแตกตัวออกมา ซึ่งเกิดประจุลบได้เช่นกัน
- เครื่องฟอกอากาศประจุลบ
คุณสมบัติ และ ความสามารถ ของ เครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir
1. Remove Ultra-Fine Dust and Germs (สามารถกำจัดฝุ่นละเอียด และ เชื้อโรค)
ด้วยความเข้มข้นของประจุลบ ที่มีความเข้มข้นกว่า 2.4 ล้านประจุ / ตารางเซนติเมตร (ในรุ่น 6 เข็ม) และ 3.2 ล้านประจุ / ตารางเซนติเมตร (ในรุ่น 8 เข็ม) จึงทำให้มันสามารถลอยอยู่ในอากาศ และเข้าไปกำจัดสิ่งปนเปื้อนขนาดเล็ก ที่ลอยอยู่ในอากาศ ได้เล็กสูงสุดถึง 0.001 ไมครอน (µ) ด้วยการทำให้สิ่งเหล่านั้นมีน้ำหนักเกินกว่าที่จะลอยอยู่ในอากาศ และตกลงสู่พื้น ก่อนที่จะสิ้นสภาพลงในที่สุด (เมื่อตกสู่พื้นแล้ว เราสามารถใช้ เครื่องดูดฝุ่น หรือ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ทำความสะอาดพื้นต่อได้เลย)
รายการสิ่งปนเปื้อนในอากาศที่สามารถกำจัดได้
- Fine Dust PM 2.5 (ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5)
- Virus (เชื้อไวรัส)
- Bacteria (เชื้อแบคทีเรีย)
- Allergen (สารก่อภูมิแพ้)
- Mold Spore (สปอร์ของเชื้อรา)
- Pet Dander (สะเก็บผิวหนังของสัตว์เลี้ยง)
- Cigarette Smoke (กลิ่นควันบุหรี่)
- Odor (กลิ่นต่างๆ)
- And More (และอื่นๆ อีกมากมาย)
2. Ionic Wind with no Electric Fan (มีการปล่อยลมไอออนิก ที่ไม่มีพัดลมไฟฟ้า)
อย่างที่ได้เกริ่นนำไปด้านบนว่า เครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir เครื่องนี้ไม่มีใบพัด หรือมอเตอร์ไฟฟ้าอะไรใดๆ เลย แต่จากการที่ทดลองใช้งานจริง พบว่าตรงช่องอากาศออก (Air Outlet) ของตัวเครื่องทั้ง 6 ช่อง (สำหรับรุ่น 6 เข็ม) และ 8 ช่อง (สำหรับรุ่น 8 เข็ม) นั้นมีลมอ่อนๆ ออกมาจากช่องนั้นจริงๆ
ซึ่งลมที่ออกมาจากเข็มปล่อยประจุลบ (Negative Ion Needles) นั้นมันถูกเรียกว่า “ลมไอออนิก (Ionic Wind)” แต่จริงๆ ก็มีชื่อเรียกอีกหลายๆ ชื่ออย่าง “ลมไอออน (Ion Wind)” หรือแม้แต่ “ลมไฟฟ้า (Electric Wind)” เป็นต้น (ข้อมูลจาก Wikipedia) ซึ่งแรงลมที่ว่านี้ เกิดจาก การที่มีแรงดันไฟฟ้า ไปรวมกันอยู่ที่ส่วนของปลายเข็มปล่อยประจุลบ จึงทำให้เกิดการแตกตัวเป็นไอออน (Ionization) ของโมเลกุลอากาศที่อยู่รอบๆ เข็มแต่ละเข็ม ที่เป็นประจุบวก จึงทำให้เกิดการกระโดดของประจุ ส่งผลให้มีแรงขับ หรือผลักดันลมอ่อนๆ ออกมาแบบ “ไร้ทิศทาง”
แต่ทว่า เครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir มีแผ่นไทเทนียม ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะ พร้อมกับช่องอากาศออกทรงกลม (Circle Shaped Air Outlet) ที่ได้ถูกติดตั้งอยู่ที่ด้านหน้าของเข็ม โดยมันมีจำนวนเท่ากับจำนวนเข็ม ทำหน้าที่เป็นเหมือนอุโมงค์ลม ที่สามารถกำหนดทิศทางของลมให้ออกไปยังด้านหน้าของตัวเครื่องได้
3. Filterless – No Filter is Needed (ไม่ต้องใช้แผ่นกรองอากาศใดๆ)
เนื่องจากหลักการการทำงานของเครื่องนี้ จะเป็นการปล่อยประจุลบจากเข็มปล่อยประจุลบ ที่อยู่ในตัวเครื่อง เพื่อให้ลอยเข้าไปในอากาศ และด้วยเหตุนี้เอง เครื่องนี้ จึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ แผ่นกรองอากาศ (Air Filter) ในชั้นต่างๆ เหมือนกับ เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) ทั่วๆ ไปที่ขายอยู่ในท้องตลาด ที่ใช้ แผ่นกรองอากาศ HEPA ซึ่งจะต้องมีรอบการเปลี่ยน เพื่อรักษาประสิทธิภาพของการกรองอากาศให้ดีอยู่ตลอดเวลา (ส่วนมากไม่เกิน 1 ปี ก็ต้องเปลี่ยนแผ่นกรองฯ ละ) ซึ่งถือว่าช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะเลยทีเดียว
4. Save Cost and Low Decibels (ประหยัดค่าใช้จ่าย และ เสียงเงียบจนแทบจะไม่ได้ยิน)
เครื่องนี้ถือว่ามีการประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มาก ไม่ว่าจะเป็น ค่าแผ่นกรองอากาศ (Air Filter Cost) ที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่เรื่อยๆ (เพราะไม่ได้ใช้) รวมไปถึงค่าไฟฟ้า (Electricity Cost) ที่ช่วยประหยัดไปได้มาก เนื่องจากไม่ต้องมีการใช้มอเตอร์พัดลมดูดอากาศพลังสูงใดๆ ที่เป็นตัวกินไฟ เข้ามาใช้ร่วมกับตัวเครื่องเลย ดังนั้นมันจึงกินไฟไม่ถึง 5 วัตต์ (Watts) ส่งผลให้ ในกรณีที่ ค่าไฟต่อเดือน ไม่ถึง 20 บาท เท่านั้นเอง (การทดสอบอัตราการกินไฟของ เครื่องฟอกอากาศ Salir)
และด้วยความที่มันไม่ได้ใช้พัดลมดูดอากาศพลังสูงนี่แหละ จึงเป็นเหตุให้ มันไม่มีเสียงใดๆ ในขณะทำงานเลย จะมีเสียงวี๊ด หรือ เสียงจี่ ที่เบามากๆ อยู่เล็กน้อย แต่ถ้าเป็นในกรณีที่เข็มปล่อยประจุลบสกปรก (หรือมีอะไรไปเกาะอยู่ตรงปลายเข็ม) เสียงวี๊ด หรือ เสียงจี่ นี้จะดึงขึ้นมาอีกนิดหน่อย
5. Ozone Level Under EPA Rules (ระดับการปล่อยโอโซนอยู่ในมาตรฐาน EPA)
เครื่องนี้มีระดับความเข้มข้นของการปล่อยโอโซน (Ozone Concentration) อยู่ในระดับที่ปลอดภัย ตามมาตรฐานที่ระบุเอาไว้ในเว็บไซต์ สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (Environmental Protection Agency – EPA) ของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ระบุเอาไว้ว่า อุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical Device) หรือ เครื่องฟอกอากาศ ต่างๆ จะต้องมี ระดับความเข้มข้นของโอโซน ปล่อยออกมาไม่เกิน 0.05 ppm (อัตราส่วนในล้านส่วน หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า “Parts per Million”) (รายละเอียดผลกระทบและมาตรฐานของโอโซนต่อสุขภาพ – Ozone Heath Effects and Standards)
และในกรณีถ้าหาก คนงานที่จะต้องทำงานที่มีการสัมผัส หรือได้รับก๊าซโอโซน อย่างต่อเนื่อง เขาเหล่านั้น จะต้องได้รับความเข้มข้น ที่ไม่เกิน 0.100 ppm เป็นเวลา 8 ชั่วโมงติดต่อกัน
ในส่วนของ เครื่องฟอกอากาศ Salir นั้น มีระดับความเข้มข้นของการปล่อยโอโซน อยู่ที่ 0.018 ppm (ในรุ่น 6 เข็ม) และ 0.024 ppm (ในรุ่น 8 เข็ม) เท่านั้นเอง ถือว่าน้อยกว่า มาตรฐานที่เขาระบุเอาไว้กว่า 2 เท่า กันเลยทีเดียว ซึ่งปลอดภัยอย่างแน่นอน
อุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่องผลิตภัณฑ์ เครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir
ภายในกล่องผลิตภัณฑ์ของเครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir ก็ไม่ได้มีอุปกรณ์อะไรที่ดูซับซ้อนมากมาย มาดูกัน ว่ามีอะไรบ้าง
- Salir Ionizer (เครื่องฟอกอากาศประจุลบ x 1 เครื่อง) : ตัวเครื่องรูปทรงสี่เหลี่ยม มีความสูงประมาณ 21 เซนติเมตร เท่านั้น มีน้ำหนักเบาเพียง 1.45 กิโลกรัม พกพาไปไหนมาไหนสะดวก
- Adapter Set (ชุดอะแดปเตอร์แปลงไฟ x 1 ชุด) : รองรับแรงดันไฟฟ้า ระหว่าง 100-240 โวลต์ (V) เป็นหัวปลั๊กแบบแบน 2 ขา (Type A) สามารถใช้ได้กับทุกประเทศทั่วโลก ที่มาพร้อมกับ สายไฟความยาว 1.5 เมตร
- Cleaning Brush (แปรงทำความสะอาดเครื่อง x 1 แปรง) : ลักษณะเหมือนแปรงทำความสะอาดขวดนมเด็ก ที่จะมีขนแปรงอยู่รอบๆ ข้าง เพื่อใช้ทำความสะอาด แผ่นไทเทเนียม (Titanium Plate)
ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค ของ เครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir
คุณลักษณะ (Characteristic) |
KO-206 (รุ่น 6 เข็ม) | KO-208 (รุ่น 8 เข็ม) |
1. ลักษณะทางกายภาพ และ ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค (Physical Attributes and Technical Specs) | ||
รูปทรงของตัวเครื่อง (Machine Shape) |
เหลี่ยม | |
ขนาดมิติ กว้าง x สูง x ลึก (มม.) (Dimension – W x H x D) (mm) |
100 x 210 x 120 | |
น้ำหนักเครื่อง (กก.) (Net Weight) (kg) |
1.45 | |
ไฟเข้า (Input) |
AC 100-240V 50/60 Hz (2.0A) | |
ความยาวสายไฟ (เมตร) (Power Cord Length) (m.) |
1.5 | |
อัตราการกินไฟ (วัตต์) (Power Consumption) (Watts) |
ระหว่าง 4-5 | |
ระดับเสียง (เดซิเบล) (Noise Level) (dB) |
เกือบเงียบ (Almost Silent) | |
ความเข้มข้นของโอโซน (ppm) (Ozone Concentration) (ppm) |
0.018 | 0.024 |
2. ความสามารถด้านการฟอกอากาศ (Purification Features) | ||
พื้นที่รองรับ (ตารางเมตร) (Area Coverage) (m2) |
42 | 64 |
จำนวนเข็มปล่อยไฟฟ้าประจุลบ (No of Corona Needles) |
6 | 8 |
จำนวนประจุไฟฟ้าลบ/ตารางเซนติเมตร Negative Ion Effects (Ion/cm3) |
2,400,000 | 3,200,000 |
ขนาดอนุภาคเล็กสุดที่กำจัดได้ (ไมครอน) (Removable Smallest Particle Sizes) (µ) |
0.001 | |
3. โหมดการทำงานหลัก (Operating Modes) | ||
ไม่มี* (Not Available) |
||
4. คุณสมบัติ และความสามารถเสริม (Additional Features) | ||
ไม่มี* (Not Available) |
หมายเหตุ* : เนื่องจากเครื่องนี้มีแค่เปิดเครื่อง กับปิดเครื่อง จึงไม่มีโหมดการทำงานหลัก และ ความสามารถเสริมใดๆ เลย เพราะมันเป็นแค่การปล่อยประจุลบออกไปในอากาศ ถือว่าช่วยลดความซับซ้อนไปได้เยอะเลยทีเดียว
การติดตั้ง และ ใช้งาน เครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir
การติดตั้ง และ ใช้งานเครื่อง ก็ไม่มีอะไรซับซ้อนอีกเช่นกัน เพียงนำอะแดปเตอร์แปลงไฟ ไปมาเสียบกับตัวเครื่องที่ช่องเสียบด้านหลัง และไปเสียบปลั๊กให้เรียบร้อย พร้อมกับหาตำแหน่งที่ตั้งของเครื่องให้เหมาะสม โดยแนะนำให้วางเครื่องนี้ ห่างจากกำแพงสักเล็กน้อย ประมาณ 20 เซนติเมตร เพราะเครื่องนี้อากาศจะเข้าทางด้านหลังของตัวเครื่อง และ ออกทางด้านหน้า
สภาพหลังการใช้งาน และ การดูแลรักษา เครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir
การที่เครื่องนี้ไม่มีแผ่นกรองอากาศ ก็ถือว่าเป็นข้อดีมากๆ ของเครื่องนี้ไปแล้ว แต่ว่า มันก็ยังต้องมี การดูแลรักษา อยู่บ้าง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากอะไรนัก เพราะนั่นก็คือ การเช็ดทำความสะอาด ที่ตัวเครื่องแค่นั้นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวแผ่นไทเทเนียม ที่อยู่ด้านหน้าของตัวเครื่อง เพราะตรงช่องอากาศออก ของมัน หากใช้ไปนานๆ สัก 2 อาทิตย์ จะค่อนข้างสกปรกมากๆ (เรียกได้ว่า “เขรอะ” เลยก็ว่าได้)
ทดสอบอัตราการกินไฟของ เครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir
สถานการณ์ / รุ่น (Situation / Model) |
KO-206 (รุ่น 6 เข็ม) | KO-208 (รุ่น 8 เข็ม) |
ปิดเครื่องแต่เสียบปลั๊กทิ้งไว้ (Plugged , But Turned Off) |
0.0 วัตต์ |
0.0 วัตต์ |
เปิดเครื่อง (Turn On) |
3.9 วัตต์ | 4.8 วัตต์ |
ค่าไฟ / เดือน* (Electricity Cost / Month) |
14.04 บาท | 17.28 บาท |
หมายเหตุ* : คุณสามารถเปลี่ยน ค่าไฟต่อยูนิต (ในตัวอย่างนี้คิด 5 บาทต่อยูนิต – ถือว่าอยู่ในอัตราที่สูง) ให้เป็นไปตามที่จ่ายจริง เพราะที่พักอาศัยในแต่ละที่อาจจะคิดไม่เท่ากัน
คำถามที่คุณต้องอยากรู้ (FAQs) ของ เครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir
1. สามารถใช้ เครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir ควบคู่ไปกับ เครื่องฟอกอากาศทั่วๆ ไปได้หรือไม่ ?
“ได้” ยิ่งเป็นสิ่งที่ดีเลย เพราะมันจะช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน ช่วยให้อากาศภายในห้องสะอาด เพิ่มคุณภาพอากาศให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เพราะเครื่องนี้จะเน้นในเรื่องของการฆ่าเชื้อโรคอย่าง เชื้อไวรัส เชื้อรา และ เชื้อแบคทีเรีย ที่ลอยอยู่ในอากาศเป็นหลัก รวมไปถึงฝุ่นละอองขนาดเล็ก และช่วยให้ร่างกายเราผ่อนคลาย ได้กลิ่นที่สดชื่น เหมือนอยู่กลางธรรมชาติ
ในขณะที่สารเคมี หรือสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ต่างๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศนั้น เครื่องฟอกอากาศทั่วๆ ไป ที่แผ่นกรองอากาศมีการกรองชั้นคาร์บอน (Carbon Filter Layer) จะสามารถดูดซับสิ่งเหล่านี้ได้ดีกว่านั่นเอง
2. ควรเปิดเครื่องใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง หรือไม่ ?
“ควร” เพื่อรักษาคุณภาพอากาศภายในห้องให้ดีอยู่ตลอดเวลา เพราะฝุ่นละออง หรือเชื้อโรคต่างๆ สามารถเล็ดลอด เข้ามาในห้องเราได้ตลอดเวลา จึงควรเปิดเอาไว้ตลอด 24 ชั่วโมง และทางผู้ผลิตเขาเคลมว่า สามารถเปิดได้ต่อเนื่องยาวนานสูงสุด 20-25 ปี
การสั่งซื้อ และ การรับประกัน เครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir
คุณสามารถสั่งซื้อ เครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir โดยเขามีจำหน่าย อยู่ 2 รุ่นหลักๆ ด้วยกันคือ รุ่น KO-206 (6 เข็ม) (เครื่องสีน้ำตาล หรือสีไม้) และ รุ่น KO-208 (8 เข็ม) (เครื่องสีดำ) ได้ผ่านทางช่องทางหลายช่องทาง โดยคุณสามารถติดต่อสอบถามก่อนได้ ที่รายละเอียด ในแต่ละช่องทางที่ด้านล่างนี้เลย
- Website (เว็บไซต์) : https://www.salirthailand.com/
- Telephone No (เบอร์โทรศัพท์) : 08-1642-1454
- Email : (อีเมล) : salirthailand@gmail.com
- LINE Official Account (บัญชีไลน์ธุรกิจ) : @salirthailand
- Facebook Page (เพจเฟสบุ๊ค) : salirthailand (ซาเลียร์ไทยแลนด์)
บทสรุปการใช้งาน ข้อดี ข้อเสีย ของ เครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir
ความรู้สึกหลังการใช้งาน
- มีกลิ่นของประจุลบออกมาจริงๆ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในธรรชาติ (ไม่ใช่กลิ่นหอม หรือกลิ่นเหม็น)
- มีลมออกมาจากด้านหน้าของตัวเครื่องจริงๆ (สามารถวัดค่าได้จากเครื่องความเร็วของลม) ทำให้สามารถควบคุมทิศทางของประจุลบที่ปล่อยออกมาได้
ข้อดี 🙂
- เครื่องมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สามารถพกพาไปไหนมาไหนสะดวก
- ไม่ต้องใช้แผ่นกรองอากาศ (Filterless) หรือ อะไหล่สิ้นเปลือง (Consumable Part) ใดๆ ซึ่งสรุปได้ว่า ไม่มีค่าบำรุงรักษาใดๆ
- มีการทดสอบจากห้องปฏิบัติการ (ห้องแล็บ) จริงๆ ว่าสามารถ ลดปริมาณสิ่งปนเปื้อนในอากาศ ที่ได้ผลจริงๆ (ผลการทดสอบประสิทธิภาพของตัวเครื่อง)
- กินไฟต่ำมากๆ ได้ทั้งประโยชน์ที่หลากหลาย ค่าไฟไม่เกิน 20 บาทต่อเดือน
- สามารถเปิดเครื่องได้ยาวนานต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง
- อายุการใช้งานเครื่องอยู่ระหว่าง 20-25 ปี
- มีการรับประกัน 5 ปีเต็ม (5-Year Warranty)
ข้อเสีย 🙁
- ราคาแพงพอสมควร
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของตัวเครื่อง (Performance Test Results)
เครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir ได้มีการนำเครื่องไปทดสอบ ในมุมต่างๆ ที่หลากหลายมุมอยู่พอสมควร เพื่อทดสอบว่ามันสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงๆ ในชีวิตประจำวัน อาทิ
1. Dust Density Reduction Test (การทดสอบการลดปริมาณความหนาแน่นอนของฝุ่นละอองที่ลอยอยู่ในอากาศ)
สามารถลดปริมาณของฝุ่นละออง (เส้นกราฟสีส้ม) ที่ลอยอยู่ในอาอากาศได้ตั้งแต่ 20 นาทีแรก ในทันทีที่เปิดเครื่อง โดยมีความเข้มข้นของฝุ่นละอองอยู่ที่ 2.0 มิลลิกรัมต่อตารางเมตร (mg/m2) และหลังจากเปิดเครื่องไปได้ 3 ชั่วโมง (180 นาที) สามารถลดลงไปได้ถึงประมาณ 0.55 มิลลิกรัมต่อตารางเมตร (หรือ 72.5%) กันเลยทีเดียว
และถ้านำไปเปรียบกับการลดแบบธรรมชาติ (เส้นกราฟสีเขียวอ่อน) จะลดลงไปได้เหลือแค่ประมาณ 1.45 มิลลิกรัมต่อตารางเมตร (หรือ 27.5%) เท่านั้นเอง
2. Pollen Reduction Test (การลดปริมาณละอองเกสรดอกไม้)
สามารถลดปริมาณละอองเกสรดอกไม้ ที่ลอยอยู่ในอากาศ ได้กว่า 60% (ลดจาก 100% เหลือ 40%) หลังจาก 10 นาทีแรก ที่เปิดเครื่อง และยังค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่องอีก จะเหลือไม่ถึง 10% เมื่อเปิดเครื่องใช้งานไปแล้ว 60 นาที (หรือ 1 ชั่วโมงเต็ม)
3. Escherichia Coli Removal Test (การทดสอบการกำจัดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล)
เป็นการทดสอบการกำจัดเชื้อแบคทีเรียชนิด “อีโคไล (Escherichia Coli หรือ E. coli)” โดย มหาวิทยาลัยการแพทย์และทันตกรรมโตเกียว (Tokyo Medical and Dental University – TMDU) โดยชนิดของเชื้อแบคทีเรียที่นำมาทดสอบ มีอยู่ 2 ชนิดคือ
- Escherichia Coli O157:H7 (เส้นกราฟสีฟ้าเข้ม) (ก่อให้เกิดโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร)
- Escherichia Coli ATCC95922 (เส้นกราฟสีเขียว)
ผลการทดสอบคือ สามารถลดจำนวนของเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ได้มากกว่า 60% ภายในระยะเวลาประมาณ 5 ชั่วโมง และกว่า 85% ในระยะเวลาประมาณ 12 ชั่วโมง (หรือครึ่งวัน)
4. Formaldehyde Reduction Test (การทดสอบการลดสารฟอร์มาลดีไฮด์)
เป็นการทดสอบการกำจัดสารฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) หรือ สารฟอร์มาลีน (Formalin) ซึ่งเป็นสารเคมีอันตราย สามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ เป็นสารที่นิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม
ผลการทดสอบคือ จากเดิมที่มีความเข้มข้นอยู่ที่ประมาณ 0.16 ppm และเมื่อเปิดเครื่อง (Power ON) ปริมาณความเข้มข้นตกลงเหลือเพียง 0.02 ppm กว่าๆ ภายในเวลาไม่ถึง 5 นาทีเท่านั้น เท่ากับว่าลดไปได้เกือบๆ 90% กันเลยทีเดียว และถ้าสังเกตดูดีๆ กราฟจะค่อยๆ เชิดหัวขึ้นอีกครั้ง เมื่อปิด (Power OFF) เครื่องฟอกอากาศประจุลบ Salir
อ่านแล้วน่าใช้มากครับ ราคาเท่าไหร่ครับ