Samsung POWERbot VR9300 Review
มาพบกับรีวิว หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung จากแดนโสมขาว ประเทศเกาหลีใต้ กันอีกครั้ง หลังจากที่หายหน้าหายตากันไปเกือบๆ 2 ปี (จาก กันยายน ค.ศ. 2014 ถึง กันยายน ค.ศ. 2016) จากที่ครั้งก่อนได้รีวิวตัว Samsung POWERbot VR9000 กันมาแล้ว และก็ได้รับการสอบถามเข้ามาในหลายช่องทางอยู่พอสมควร กับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung ตัวนี้ มาวันนี้ทาง Samsung เองก็ได้ออก หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่อยู่ในตระกูล POWERbot ออกมาอีกรุ่น จากเดิมคือรุ่น VR9000 ที่ได้กล่าวไปข้างต้น คราวนี้มาเป็น Samsung POWERbot VR9300 หรือรหัสโมเดล “VR20K9350WK”
แน่นอนว่า ระยะเวลาผ่านไป 2 ปี ถ้าจะให้ทาง Samsung ก็ออกรุ่นใหม่ มาแล้วมีความสามารถเหมือนเดิมเป๊ะ คงไม่ใช่แน่ๆ และแน่นอน Samsung POWERbot VR9300 นั้นมีการเปลี่ยนแปลง อะไรหลายต่อหลายหลายมากมาย ในทางที่ดีขึ้น ฉลาดขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
นอกจากนี้แล้ว Samsung POWERbot VR9300 ตัวนี้ยังถูกนำไปแสดงที่ งานแสดงเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ (CES2016 – Consumer Electronics Show) ที่เมืองลาสเวกัส มลรัฐเนวาด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา อีกด้วย เรียกได้ว่าสินค้าตัวไหนที่มีโอกาสไปถูกแสดงในงานนี้ได้ย่อม “ไม่ธรรมดา” อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งเว็บไซต์ในต่างประเทศหลายสำนัก ยังมีการนำรุ่นนี้ ไปเปรียบเทียบกับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวท็อปของโลก อย่าง Dyson 360 และ iRobot Roomba 980 อีกด้วยเช่นกัน
ข้างล่างนี้ เป็นเมนูลัด ที่ทำให้คุณได้สามารถ เข้าถึงข้อมูลในส่วนที่ต้องการ ของรีวิวฉบับนี้ ได้อย่างสะดวก มากยิ่งขึ้น
- รู้จักกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung กันก่อน
- แกะกล่องผลิตภัณฑ์ Samsung POWERbot VR9300
- อุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่องผลิตภัณฑ์
- ข้อมูลจำเพาะ ข้อมูลทางเทคนิค ของเครื่อง
- คุณสมบัติ และ ความสามารถของตัวเครื่อง
- สำรวจรอบๆ ตัวเครื่อง
- เปิดใช้งานเครื่อง
- คุณสมบัติ ของตัวแอพพลิเคชั่น Samsung Smart Home กับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น
- คำถามที่คุณต้องอยากรู้ (FAQs) เกี่ยวกับการใช้งาน
- เทียบความสามารถ ระหว่าง Samsung POWERbot VR9000 กับ VR9300
- บทสรุปหลังการใช้งาน
และด้านล่างนี้เป็น คลิปวีดีโอรีวิว Samsung POWERbot VR9300 ให้ดูกันยาวๆ แบบจุใจ ครบทุกซอกทุกมุม หลังจากดูจบแล้ว สามารถเป็นข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจในการซื้อหรือไม่ ได้ไม่ยากเลย
รู้จักกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung กันก่อน
คุณสามารถทำความรู้จักกับ ที่มาที่ไปของ หุ่นยนต์ทำความสะอาด Samsung ให้มากกว่านี้ พร้อมรายละเอียดติดต่อสั่งซื้อ รวมไปถึง ศูนย์บริการ ฯลฯ ได้ที่ลิงค์เชื่อมต่อไปยังหน้ารายละเอียดด้านล่างนี้เลย
⇒ ทำความรู้จักกับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung
แกะกล่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300
ช่วงแกะกล่องผลิตภัณฑ์ นั้นบรรยากาศภายนอก ก็เหมือนสินค้าของ Samsung ทั่วๆ ไป คือเน้นโทนสีน้ำเงิน และ สีขาว สีประจำชาติ เอ้ย ประจำยี่ห้อของ Samsung เขานั่นเอง
ด้านนอกกล่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300
ด้านหน้ากล่อง : มีพระเอกของงานหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300 เครื่องสีดำ วางเด่นเป็นสง่า และ หากเขยิบไปด้านขวา มีรูปมือถือ Samsung พร้อมโลโก้ iOS App Store และ Google Play Store เพื่อคอนเฟิร์มว่า เครื่องนี้สามารถสั่งงาน เชื่อต่อแอพพลิเคชั่น ทั้ง iOS และ Android ผ่านเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi ได้อีกด้วยเช่นกัน
ด้านหลังกล่อง : มีโลโก้ Samsung เช่นเคย อยู่ตำแหน่งเดียวกับด้านหน้า พร้อมบอกสรรพคุณจุดเด่นของมัน 4 ข้อ (รายละเอียด คุณสมบัติ และ ความสามารถ เพิ่มเติมกดเลย) ให้ทราบกัน ได้แก่
- The World’s Most Powerful Suction
- Select & Go™
- FullView Sensor™ 2.0
- CycloneForce
อุปกรณ์ภายในกล่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300
อุปกรณ์ที่ทาง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR93000 ได้ให้มาภายในกล่อง มีอยู่มากมายพอสมควร โดยหลักๆ แล้ว ถือว่าครบถ้วนตามมาตรฐาน ของสิ่งที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั่วๆ ไปควรจะมี และเมื่อเปรียบเทียบดูกับรุ่นที่แล้ว (รุ่น VR9000) นั้น อุปกรณ์ที่ให้มาเหมือนกันทุกอย่าง ยังกับฝาแฝดกันเลยทีเดียว (เว้นเสียแต่ความสามารถที่แตกต่างกัน)
1. Samsung POWERbot VR9300 (เครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น x 1 เครื่อง)
ตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300 สีดำ ขนาดมิติ 378 x 362 x 135 มม. น้ำหนัก 4.9 กิโลกรัม ถือว่าเป็น หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่มีขนาดใหญ่ และ น้ำหนักมากที่สุด ตั้งแต่เคยเห็น และ รีวิวมา
2. Power Cord (สายไฟต่อพ่วง x 1 เส้น)
สายไฟต่อพ่วง เอาไว้เชื่อมต่อกับ ชุดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ ความยาวประมาณ 70 เซนติเมตร โดยต่อเข้าไปยังด้านหลังของแท่นชาร์จ สามารถถอดออกจาก ชุดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ ได้อย่างอิสระ
3. Charger หรือ Adapter Set (ชุดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ x 1 ชุด)
ชุดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ หรือ “Adapter Set” ลักษณะจะเหมือนกับ อะแดปเตอร์โน๊ตบุ๊ค จุดประสงค์ของมันคือ ใช้แปลงไฟจากไฟบ้านกระแสสลับ (AC Power) ให้เป็น ไฟฟ้ากระแสตรง (DC Power) ข้อดีคือหากเสียก็เปลี่ยนแค่ตัวอะแดปเตอร์ตัวนี้ตัวเดียว บางตัวอะแดปเตอร์ฝังในแท่นชาร์จเลย เสียก็คงเรื่องใหญ่ แต่ข้อเสียคือไม่มีที่เก็บอะแดปเตอร์ ต้องหาพื้นที่จัดเก็บดีๆ อย่าให้มาวางเกะกะ รบกวนการทำงานตัวเครื่องได้ โดยสายไฟของอะแดปเตอร์ รวมความยาวของตัวอะแดปเตอร์เอง มีความยาวประมาณ 70 เซนติเมตร เช่นกัน
4. Docking Station (แท่นชาร์จ x 1 ชุด)
ยี่ห้อ Samsung นี้ เขาเรียก แท่นชาร์จ เป็นภาษาอังกฤษว่า “Docking Station” (ส่วนใหญ่ ยี่ห้ออื่นเรียกว่า “Charge Base”) เปรียบเสมือนบ้านของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่เวลามันทำงานเสร็จเมื่อไหร่ จะต้องวิ่งกลับมาอยู่ที่บ้านของมันโดยอัตโนมัติ เพื่อชาร์จไฟลงแบตเตอรี่ให้เต็มความจุ และพร้อมสำหรับการใช้งานในครั้งต่อไป
5. Spare Filter (แผ่นกรองอากาศสำรอง x 1 แผ่น)
แผ่นกรองอากาศสำรอง มีหน้าที่เอาไว้ในการกรองอากาศที่ถูกดูดเข้ามาในเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมเศษฝุ่นละออง เศษผม เศษขน ต่างๆ แล้วจะถูกปล่อยพ่นกลับออกมาข้างนอกเครื่อง โดยก่อนที่อากาศจะถูกปล่อยออกมาในบรรยากาศอีกครั้งนั้น จำเป็นที่จะต้องมีการกรองอากาศให้สะอาดก่อน มิเช่นนั้น ถ้าไม่มีตัวกรองนี้ ฝุ่นก็จะฟุ้ง คลุ้ง อยู่ในห้องอยู่อย่างนั้น ซึ่งคงไม่ดีแก่ผู้อยู่อาศัยแน่ๆ
6. Virtual Guard (อุปกรณ์สร้างกำแพงจำลอง x 1 กล่อง)
อุปกรณ์สร้างกำแพงจำลอง หรือ “Virtual Guard” ลักษณะคล้ายกระติกน้ำทหาร ใช้วางหน้าพื้นที่ ที่ไม่ต้องการให้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300 เข้าไปดูดฝุ่นทำความสะอาด (Restrict POWERbot’s Entrance) ด้านบนมี ปุ่มปิดเปิด (Power Button) ของอุปกรณ์ ใส่ถ่านแบตเตอรี่ขนาด D (ไม่ได้ให้ถ่านมาให้ ราคามันแพง)
7. Cleaning Brush (แปรงทำความสะอาดอเนกประสงค์ x 1 แปรง)
แปรงทำความสะอาดอเนกประสงค์ เป็นแปรงที่เอาไว้ใช้ทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ ตามซอกมุม ของอุปกรณ์ต่างๆ ของตัวเครื่อง โดยด้านนึงจะเป็นแปรงซี่พลาสติก (เหมือนไม้เกาหลัง ขนาดเล็ก) ส่วนอีกด้านจะเป็นแปรงขน ไว้ปัดฝุ่นละออง ต่างๆ ที่อยู่ภายในเครื่องตามความเหมาะสม
สมัยก่อนอาจหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่แถมแปรงแบบนี้มาให้ยาก แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน ที่จำเป็นของทุกเครื่อง ที่ต้องติดมาให้ไปแล้ว
8. Remote Control and AAA Battery (รีโมทคอนโทรล x 1 ชุด และ ถ่านแบตเตอรี่ขนาด AAA x 2 ก้อน)
อุปกรณ์ควบคุมเครื่องระยะไกล หรือ รีโมทคอนโทรล ทรงเม็ดก๋วยจี๊ ตัวนี้ใช้ ถ่านแบตเตอรี่ขนาด AAA จำนวน 2 ก้อน (ให้แถมมาในกล่องผลิตภัณฑ์ด้วย) เป็นอุปกรณ์ที่ ให้คุณได้สั่งงานเครื่องให้เริ่ม หยุด หรือ หยุดชั่วคราว พร้อมตั้งค่าต่างๆ รวมไปถึงเปิดปิดเสียงแจ้งเตือนต่างๆ ของตัวเครื่องได้ตามต้องการ
9. User Manual (คู่มือการใช้งาน x 1 เล่ม)
และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือ คู่มือการใช้งาน แบบ 3 ภาษาในเล่มเดียว มีทั้ง ภาษาอังกฤษ (English) ภาษาไทย (Thai) และ ภาษาเวียดนาม (Vietnamese) ภายในมีการ แนะนำชิ้นส่วนต่างๆ ของอุปกรณ์ วิธีการใช้งาน ติดตั้ง เชื่อมต่อ Wi-Fi กับตัวเครื่อง และ สมาร์ทโฟน รวมไปถึงวิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นของตัวเครื่อง อย่างละเอียด
ข้อมูลจำเพาะ ของ Samsung POWERbot VR9300
มาดูข้อมูลในส่วนของ ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค (Technical Specifications) ของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300 ตัวที่กำลังรีวิวอยู่นี้ กันดู แต่ถ้าใครต้องการดูการ เปรียบเทียบระหว่างรุ่น VR9000 และ VR9300 กดที่ลิงค์ ไปดูที่ด้านล่างของบทความรีวิวนี้ได้เลย (มีอีกตารางนึง เปรียบเทียบให้ชม)
รายละเอียด (Specification) |
|
ขนาดมิติ (Dimension) |
378 x 362 x 135 มม. |
น้ำหนัก (Weight) |
4.9 กิโลกรัม |
ไฟเข้า (Input) |
AC 100-240V 50/60 Hz |
ไฟออก (Output) |
DC 21.6V 2.0A (กินไฟ 250W) |
ประเภทของแบตเตอรี่ (Battery Type) |
Li-Ion |
ปริมาณความจุแบตเตอรี่ (Battery Capacity) |
4,500 mAh |
ระดับเสียง (Noise Level) |
74 dB. (โหมด MAX) 69 dB. (โหมด NORMAL) 64 dB. (โหมด QUIET) (วัดจากที่ระยะห่าง 1 เมตร ขึ้นอยู่กับโหมด) |
ขนาดกล่องใส่ขยะ (ลิตร) Dustbin or Dirt Bin Capacity (Litre) |
0.70 ลิตร (700 mL) |
คุณสมบัติ และ ความสามารถ ของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300
จากที่ด้านบนได้เกริ่นถึงสรรพคุณ จุดเด่น จุดแข็งของตัวนี้มามากมายแล้ว หลายคนอาจจะงงว่า “สรุปมันมีความสามารถอะไร และ ทำอะไรได้บ้างกันแน่ ?” ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่อธิบายสรุปให้เห็นกันชัดๆ ไปเลยว่า ความสามารถที่แท้จริงของมันคืออะไร เริ่มกันเลย
1. World’s Most Powerful Suction
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300 เป็น หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีพลังดูดฝุ่นสูงที่มีพลังในการดูดฝุ่นสูงที่สุด เรียกได้ว่า สูงที่สุดในโลก 40 วัตต์ (Watts) ขณะที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นยี่ห้ออื่นๆ มีกำลังอยู่ไม่ถึง 10 วัตต์เท่านั้น
2. CycloneForce Technology
เทคโนโลยี “CycloneForce” ผสมผสานพลังดูดฝุ่นด้วย พัดลมดูดฝุ่น (Vacuum Fan) พลังสูง หมุนแรง ช่วยอัดอากาศ ดูดฝุ่นขนาดเล็กมากๆ ที่อยู่บนพื้นห้อง เข้ามาเก็บไว้ในกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (หลักการคล้ายๆ กับ เครื่องดูดฝุ่น ทั่วไป) ก่อนปล่อยอากาศกลับไปยังบรรยากาศของห้องอีกครั้งผ่านแผ่นกรองอากาศ (Filter)
นอกจากนี้แล้วมัน ยังทำงานร่วมกับ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-Ion) ที่จ่ายไฟแรง และคงที่ แม้ว่าแบตเตอรี่จะใกล้หมด แต่ก็ยังจ่ายไฟให้ตัวเครื่องได้สามารถดูดฝุ่นได้แรง อยู่ตลอดเวลา
3. FullView Sensor™ 2.0 และ Visionary Mapping+™
ระบบเซ็นเซอร์การนำทาง และ ระบบการสร้างแผนที่จำลอง ใช้ในการตรวจจับสิ่งกีดขวาง ทั้งขนาดเล็ก และ ขนาดใหญ่ ได้เป็นอย่างดี โดยหลักการของมันคือ มันใช้กล้องคุณภาพสูง ถ่ายภาพแบบอินฟราเรด ขึ้นเพดาน (ทำงานได้ทั้งในขณะห้องสว่าง และ ห้องมืด) การอ่านรูปทรงของเพดาน (Ceiling Shape Recognition) ภายในห้องของเรานั่นเอง ทำให้มันสามารถจำพื้นที่ในห้องเราได้แม่นยำ ว่าตรงไหนทำแล้ว หรือยังไม่ได้ทำ
4. The Widest Pet Brush (Main Brush)
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung ตระกูล POWERbot สร้างชื่อในเรื่องของ แปรงกวาดหลัก “Pet Brush” ที่ยาวที่สุดในโลกมาแล้ว ตั้งแต่รุ่นแรก (VR9000) และในรุ่นนี้ก็เช่นเดียวกัน ที่ยังคงความยาวของแปรงมากกว่า 1 ฟุต หรือ 31.1 เซนติเมตร (311 มิลลิเมตร) ให้ดูดฝุ่นบนพื้นได้แบบหมดจด และสะอาดจริงๆ
5. Easy Pass™ 2.0
ระบบ “Easy Pass™” (ไม่ใช่บัตรผ่านอัตโนมัติทางด่วนนะ) จะช่วยให้การวิ่งทำความสะอาดภายในห้องเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น แม้ว่าตัวเครื่องของมันเองจะมีขนาดที่ใหญ่ก็ตาม ด้วยซีพียู หรือ หน่วยประมวลผลกลางที่สุดฉลาดของมัน ทำให้มันสามารถตัดสินใจในการวิ่งผ่านอุปสรรค ต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่ทำความสะอาด อาทิ สิ่งกีดขวาง (Obstacle) ธรณีประตู (Doorsill) ได้แบบไม่ยาก และนอกจากนี้ มันยังสามารถวิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับ ได้มากสูงสุดถึง 2.0 เซนติเมตร (20 มิลลิเมตร) ได้สบายๆ
6. Wi-Fi Control
มันมีความสามารถให้คุณได้สั่งงาน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300 ผ่าน แอพพลิคชั่น Samsung Smart Home แอพพลิเคชั่น ที่เอาไว้ใช้ติดต่อสื่อสารกันระหว่าง สมาร์ทโฟนของคุณกับ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของ Samsung อาทิ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ เตาอบ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น และอุปกรณ์อื่นๆ ของ Samsung อีกมากมาย
คราวนี้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน อยู่ส่วนใดในโลก ก็สามารถเชื่อมต่อกลับมายัง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น สุดเลิฟ ของคุณที่บ้านได้ตลอดเวลา
7. Point Cleaning™
ระบบชี้จุดทำความสะอาด หรือ “Point Cleaning™” เป็น ความสามารถเอกลักษณ์และสิทธิบัตรเฉพาะหนึ่งเดียว จาก หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung ตระกูล POWERbot เท่านั้น มันเป็นระบบที่ให้คุณ ได้สั่งงานด้วยรีโมทคอนโทรล แล้วชี้จุดไปยังพื้นที่ ที่ต้องการให้มันไป หลังจากนั้น หุ่นยนต์ดูดฝุ่น จะวิ่งตามไปดูดตรงพื้นที่นั้นๆ ทันที แบบนี้แหละ ที่เรียกว่า “ชี้นิ้วสั่ง” ซ้ายหัน ขวาหัน ได้เลยทันที
8. Select & Go™
ฟังก์ชั่น “Select & Go ™- เลือกแล้วไป” ฟังก์ชั่นใหม่ล่าสุดจาก หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung ตระกูล POWERbot ที่ถูกยัดใส่เอาไว้ในรุ่น POWERbot VR9300 โดยที่ให้คุณได้สามารถเลือกพื้นที่ห้อง ในการทำความสะอาดได้เอง ผ่านแอพพลิเคชั่น Samsung Smart Home
นอกจากนี้แล้วมันยังบอกความคืบหน้าในแต่ละพื้นที่ด้วยว่าขณะนี้ตัว หุ่นยนต์ดูดฝุ่นของเรา กำลังทำความสะอาดอยู่ในพื้นที่ใด ห้องใด (Progressing) และพื้นที่ต้องไหนเสร็จแล้ว (Completed) ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่ทาง Samsung นำมาฝากตรงถึงบ้านคุณเลยทีเดียว (ดูรายละเอียด ฟังก์ชั่น SELECT & GO เพิ่มเติม)
9. Virtual Guard
อุปกรณ์สร้างกำแพงจำลอง หรือ “Virtual Guard” หรือบางยี่ห้อ เรียกว่า “Virtual Wall” เป็นออปชั่นเสริม ที่ทางผู้ใช้งานเลือกที่จะใช้ก็ได้ หรือไม่ใช้ก็ได้ มีหน้าเอาไว้วางป้องกันหน้าพื้นที่ ที่ไม่ต้องการให้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น วิ่งเข้าไปทำความสะอาด ในระยะความกว้าง 2.5 เมตร ทำงานในลักษณะปล่อยแสงอินฟราเรด ออกมาจากกล่อง ให้ไปกระทบยังวัตถุปลายทางเช่นกำแพง หรือ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ
คุณอาจจะมีเหตุการณ์ประมาณว่า ต้องการป้องกัน พื้นที่ที่วางเก็บของเล่นเด็ก พื้นที่วางอาหารเม็ดสัตว์เลี้ยง หรือ พื้นที่ที่มีสายไฟวางกองพื้นอยู่เยอะๆ ก็สามารถวางกล่องนี้ไว้หน้าพื้นที่ ที่ไม่ต้องการให้มันเข้าไปได้เช่นกัน
10. Intelligent Power Control
สามารถปรับระดับความแรงของการดูดฝุ่นได้ทั้งหมด 3 ระดับ ขึ้นอยู่กับความสกปรก ปริมาณฝุ่นที่อยู่ในบ้านของคุณ ได้แก่
- Max Mode (โหมดดูดแรง – ระยะเวลา 30 นาที) : หากว่าคุณไม่อยู่บ้าน ไปต่างจังหวัด ต่างประเทศ เป็นเวลานานๆ และระหว่างนั้นไม่มีใครทำความสะอาดเลย เมื่อกลับมาอาจจะต้องใช้โหมดนี้ในการดูด
- Normal Mode (โหมดดูดปกติ – ระยะเวลา 60 นาที) : การทำงานปกติ ใช้เวลาดูดประมาณ 1 ชั่วโมงเต็ม
- Quiet Mode (โหมดดูดเบา – ระยะเวลา 90 นาที) : หากที่บ้านคุณทำความสะอาดทุกวัน เป็นประจำ ไม่จำเป็นต้องดูดแรงมากก็ได้ ให้ใช้โหมดนี้เลย
นอกจากนี้แล้วหาก หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300 ตรวจพบ มุมห้อง หรือพื้นพรม เครื่องจะเพิ่มแรงดูด เข้าไปอีก 10% โดยอัตโนมัติอีกด้วย ซึ่งประโยชน์ของมันคือ จะช่วยให้เราประหยัดไฟเพราะเราไม่ต้องเปิด โหมดดูดแรง (Max Mode) ค้างไว้ และไม่ต้องมาคอยควบคุมเองแบบ “Manual Control” ให้วุ่นวาย
11. Digital Inverter Motor
มอเตอร์ของพัดลมดูดฝุ่นเป็น ระบบดิจิตอลอินเวอร์เตอร์ (Digital Inverter Motor) เป็น มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงแบบไร้แปรงถ่าน หรือ “Brushless DC Motor” (ตัวย่อคือ “BLDC”) คุณสมบัติคือ มีระดับความแรงในการหมุนดูดฝุ่นที่สม่ำเสมอ ไม่กินไฟ เสียงเงียบ และ อายุการใช้งานที่ยาวนาน แถมอะไหล่ ชิ้นส่วนต่างๆ ในตัวเครื่องยังน้อยกว่ามอเตอร์แบบรุ่นเก่า อีกด้วย มอเตอร์พัดลมดูดฝุ่น รับประกัน 10 ปี
สำรวจรอบๆ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300
มาถึงการสำรวจส่วนประกอบของตัวเครื่อง ในแต่ละมุมมอง ทั้งด้านบน ด้านล่าง ด้านข้าง กันดูบ้าง ว่ามีจุดไหน ที่น่าสนใจอย่างไรกันบ้าง เริ่มกันเลย
ด้านบนของตัวเครื่อง (Top View)
ด้านบนมีส่วนประกอบหลักๆ ที่สำคัญคือ กล้องสร้างแผนที่จำลอง และ เซ็นเซอร์ต่างๆ เพื่อใช้ในการนำทาง ให้ไปยังทิศทาง และ พื้นที่ ที่ต้องการ
ในส่วนของรูปทรงของตัวเครื่องนั้น ถือว่ายังคงเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปในรีวิวรุ่นที่แล้ว (VR9000) ที่เคยบอกว่า จะกลมดิ๊กก็ไม่ใช่ จะเหลี่ยมก็ไม่เชิง แถมยังมีส่วนเว้าตรงกลางเครื่องอีกด้วย มารุ่นนี้ก็ยังเหมือนเดิม หากมองผ่านๆ ยังพบว่า ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรใดๆ
- Front Bumper (กันชนหน้า) : เห็นตัวเครื่องมีขนาดที่ใหญ่ อึด ถึก ทน แบบนี้ แท้จริงแล้ว มันยังแฝงไปด้วยความอ่อนโยน อยู่เหมือนกัน นั่นก็คืออุปกรณ์ดูดซับแรงกระแทก หรือ กันชนหน้า ที่มีความยืดหยุ่น ให้ตัวได้อยู่พอสมควร ตลอดแนวด้านหน้าของตัวเครื่อง ลดโอกาสเกิดความเสียหายระหว่างตัวเครื่อง กับ ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน
- Virtual Guard Sensor (เซ็นเซอร์ตรวจจับกำแพงจำลอง) : เซ็นเซอร์ ตรวจจับกำแพงจำลอง (Virtual Guard) ว่ามีอยู่ในบริเวณที่มันกำลังทำความสะอาดอยู่หรือไม่ เพราะถ้ามีกล่องกำแพงจำลอง อยู่ในบริเวณที่มันกำลังจะวิ่งเข้าไป เครื่องจะถูกสั่งไม่ให้วิ่งเข้าไป ในบริเวณหลังกำแพงจำลองโดยทันที
- Visionary Mapping Plus Camera (กล้องสร้างแผนที่จำลอง) : ใช้สร้างแผนที่จำลอง (Simulated Map) ด้วยเทคโนโลยี Visionary Mapping™ Plus System ที่ยิงกล้องไปถ่ายภาพบนเพดานของห้อง ได้อย่างละเอียด เพื่อจดจำพื้นที่ที่วิ่งเข้าไปแล้ว หรือ ยังไม่ได้เข้าไป ให้การทำงานเป็นไปด้วยความแม่นยำ ไม่วิ่งมั่วไปมา ให้เสียเวลา และ เปลืองแบตเตอรี่
- Dustbin Handle (ที่ดึงที่กล่องใส่ขยะฝุ่นละอองออกจากเครื่อง) : จุดนี้จะสังเกตเห็นง่ายๆ ที่จะมีคำกำกับคือคำว่า “PULL” มันเป็นจุดที่ให้คุณได้สามารถ ดึงกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ออกมาจากตัวเครื่อง เพื่อเอาเศษขยะ เศษฝุ่น ที่อยู่ในกล่องไปทิ้งถังขยะ และ นำไปทำความสะอาด ได้ทันที โดยที่ไม่ต้องยกตัวเครื่อง พลิกตัวเครื่องแต่อย่างใด
- Dustbin Holder (ที่ยึดกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง) : เป็นตัวล็อคของกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (Dustbin) ไม่ให้หลุดออกจากเครื่อง ขณะกำลังทำงาน เพียงแค่ตบลงมาเท่านั้นเอง
- Dustbin (กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง) : ทรงกระบอก เอาไว้เก็บเศษฝุ่นขนาดเล็กๆ เส้นผม ขน เศษขนมขบเคี้ยว ต่างๆ เมื่อดูดแล้วก็จะถูกนำเข้ามาเก็บอยู่ในกล่องขนาด 0.7 ลิตร ตัวนี้ เพื่อรอคุณนำไปทำความสะอาด เป็นลำดับต่อไป
- Vacuum Fan (พัดลมดูดฝุ่น) : ที่เห็นเป็น ทรงกระบอกสีเทาส่วนนี้ ด้านในเป็นพัดลมดูดอากาศขนาดใหญ่ (เมื่อเทียบกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นยี่ห้ออื่นๆ) ที่เป็นหนึ่งในขุมกำลังสำคัญของเทคโนโลยี CycloneForce ที่จะช่วยเพิ่มพลังดูดการดูดฝุ่นจากพื้นห้อง เข้ามาเก็บเอาไว้ในกล่องใส่ขยะฝุ่นละอองให้มีพลังสูงมากยิ่งขึ้น (หลักเดียวกับ เครื่องดูดฝุ่น ทั่วๆ ไป) เพราะนอกจากที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นนี้จะมีแปรงกวาดหลัก (Pet Brush) ขนาดใหญ่แล้ว ยังมีพลังลมดูดเสริมช่วยดูดฝุ่น ให้พื้นห้องของคุณสะอาดหมดจด มากยิ่งขึ้นไปอีก ฝุ่นอนุภาคเล็กๆ จะถูกดูดเข้ามาในเครื่องได้อย่างหมดจดเลยทีเดียว
- Display & Control Panel (แผงจอแสดงผล และ แผงควบคุมการทำงาน) : แผงแสดงผลสถานะ ค่าต่างๆ ของตัวเครื่อง Samsung POWERbot VR9300 ตัวนี้ โดยด้านล่าง ก็จะเป็นแผงควบคุมการทำงานของเครื่อง ที่มีปุ่มอยู่เพียงแค่ 3 ปุ่มด้วยกัน (เรียงจากซ้ายไปขวา) ได้แก่
- Spot Mode Button : ปุ่มเปิดโหมดการทำความสะอาดเฉพาะจุด ในรัศมี 1.5 เมตร
- Start and Stop Button : ปุ่มสั่งให้เครื่องเริ่มทำงาน หรือ หยุดทำงาน
- Recharging Button : ปุ่มสั่งให้เครื่องวิ่งกลับไปยังแท่นชาร์จ
รูปภาพส่วนประกอบด้านบน (Top Components)
ด้านล่างของตัวเครื่อง (Bottom or Underside View)
ถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของตัวเครื่อง เพราะไฮไลท์ของมันอยู่ที่นี่ตรงนี้ นั่นก็คือการ ขับเคลื่อนหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ให้ไปในทิศทางที่ต้องการ รวมไปถึงการดูดฝุ่น เข้าไปเก็บในตัวเครื่อง ก็อยู่ตรงนี้เช่นกัน
- Roller หรือ Caster Wheel (ล้อเลื่อนรับน้ำหนัก) : จากรูปสังเกตเห็นว่า มันจะมีหมายเลข 1 กำกับ อยู่ทั้งหมด 4 ตำแหน่ง รอบๆ ตัวเครื่อง ซึ่งประกอบไปด้วย
- ล้อที่หมุนรอบตัวได้ 360 องศา x 2 ล้อ : ตรงกลางเครื่อง และ ข้างหลังเครื่อง
- ล้อที่หมุนรอบตัวไม่ได้อีก x 2 ล้อ : อยู่ข้างหน้าเครื่อง 2 ล้อ ซ้าย-ขวา
ทั้งหมดนี้คือล้อเลื่อน ทำหน้าที่เป็นล้อรับน้ำหนักของตัวเครื่อง เป็นที่น่าสังเกตอีกเรื่องนึงคือ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ตัวนี้มีล้อเลื่อนรับน้ำหนักเครื่องมากถึง 4 ตำแหน่ง ซึ่งมากที่สุด ตั้งแต่เคยรีวิวมา ส่วนนึงอาจจะเป็นเพราะตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่ และ น้ำหนักมาก จึงต้องมีล้อเลื่อนรับน้ำหนัก อยู่เป็นจำนวนมาก รอบๆ ตัวของมัน นั่นเอง
- Charge Pins (จุดสัมผัสแท่นชาร์จ) : จุดที่ถ่ายทอดพลังงานไฟฟ้า จากแท่นชาร์จ ลงไปเก็บในแบตเตอรี่ที่อยู่ในตัวเครื่อง ลักษณะจะเป็นแผ่นโลหะสี่เหลี่ยม 2 แผ่น อยู่ใต้เครื่องด้านหน้า
- Pet Brush & Cover (แปรงกวาดหลัก พร้อม ฝาครอบแปรงกวาดหลัก) : ส่วนของแปรงกวาดหลัก (บางยี่ห้อเรียกว่า “Main Brush“) ที่เอาไว้ดูดฝุ่นเข้าไปเก็บในตัวเครื่อง โดยจุดเด่นของ Samsung POWERbot ทุกรุ่นคือ มันมีแปรงกวาดหลัก ที่กว้างมากๆ ถึง 31.1 เซนติเมตร (311 มิลลิเมตร) โดยรุ่นนี้เขามีชื่อเรียกแปรงกวาดหลักว่า “Pet Brush” (แต่รุ่นเก่า VR9000 เรียกว่า “Power Brush”)
- Pet Brush Cover Button (ปุ่มเปิดฝาครอบแปรงกวาดหลัก) : ลักษณะจะเป็นสลัก 2 ตัวซ้ายขวา กดเลื่อนพร้อมกันเพื่อเปิดฝาครอบแปรงกวาดออกมา เพื่อ นำแปรงกวาดหลัก ออกมาทำความสะอาด
- Cliff Sensor (เซ็นเซอร์ป้องกันการตกบันได) : บางยี่ห้อเรียกว่า “Floor Sensor” ป้องกันเครื่องวิ่งตกจากที่สูง หรือตกบันได มีทั้งหมด 3 ตำแหน่ง ข้างใต้ตัวเครื่องได้แก่
- ด้านหน้าสุดของตัวเครื่อง x 1 ชุด
- ด้านซ้าย และ ด้านขวา ของ หน้าล้อขับเคลื่อนหลัก x ฝั่งละ 1 ชุด (ซ้าย-ขวา)
- Drive Wheel (ล้อขับเคลื่อนหลัก) : หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ทุกตัวจะต้องมีสิ่งที่เรียกว่า ล้อขับเคลื่อนหลัก ซึ่งทุกรุ่น ทุกยี่ห้อในขณะที่รีวิวอยู่ในปัจจุบันนั้น ถือมีว่าหลักการเดียวกันหมด คือ จะมีล้อขับเคลื่อนหลัก อยู่ทั้งหมด 2 ล้อหลักๆ (ล้อซ้าย และ ล้อขวา) การทำงานของมันคือ หากต้องการเดินหน้าหรือถอยหลัง 2 ล้อนี้จะหมุนเดินหน้า ถอยหลัง ไปพร้อมๆ กัน แต่ถ้าหากต้องการจะเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ก็จะมีล้อใดล้อหนึ่งที่หยุดอยู่กับที่ และอีกล้อหมุน เพื่อปรับเปลี่ยนทิศทางการวิ่งนั่นเอง โดยขนาดหน้ากว้างของล้อขับเคลื่อนหลัก นี้จะมีหน้าสัมผ้สพื้นที่ไม่มาก เพื่อลดแรงเสียดทานระหว่างตัวเครื่องกับพื้นห้อง (ช่วยประหยัดแบตเตอรี่) และทำมาจากวัสดุยาง ซึ่งมีความเหนียว ยึดเกาะกับพื้นห้อง ทุกประเภท ได้เป็นอย่างดีเยี่ยม
- Battery Cover (ฝาครอบแบตเตอรี่) : ฝาครอบพลาสติก ที่สามารถใช้ไขควงไขน๊อตเปิดออกมาได้เลย โดยข้างในเป็นแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน ความจุ 4,500 มิลลิแอมป์ (mAh.)
- On/Off Switch (สวิตซ์เปิด/ปิด) : สวิตซ์ที่เอาไว้เชื่อมวงจร หรือ ตัดวงจรไฟฟ้า ระหว่างตัวเครื่อง กับ แบตเตอรี่ แหล่งเก็บไฟ ซึ่งหากคุณจะต้องไม่ใช่บริการ ใช้งานหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้เป็นระยะเวลานานๆ ก็ควรจะ ปิดสวิตซ์ ตรงจุดนี้ไว้ด้วย เพื่อเป็นการยืดอายุและถนอมแบตเตอรี่ ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น
รูปภาพส่วนประกอบด้านล่าง (Underside Components)
รู้จักกับแท่นชาร์จ (Docking Station)
แท่นชาร์จ อุปกรณ์ชิ้นใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากตัวเครื่อง Samsung POWERbot VR9300 มีความสามารถในการชาร์จไฟจากไฟบ้าน (AC Power) ไปเก็บไว้แบตเตอรี่ที่อยู่ในตัวเครื่อง ด้านล่างจะเป็นขั้วโลหะสีเงิน 2 ขั้ว ไว้สัมผัสกับ จุดสัมผัสแท่นชาร์จ (Charge Pins) ที่ติดอยู่ที่ตัวเครื่องพอดีเป๊ะ ขณะที่ด้านบนเป็นไฟแสดงสถานะ ของแท่นชาร์จ
การต่อสายไฟเข้าแท่นชาร์จจะเป็นการต่อจาก ปลั๊กไฟบ้าน เข้าชุดอะแดปเตอร์แปลงไฟล์ และ เข้ามายังตัวแท่นชาร์จอีกทีหนึ่ง (เหมือนการต่อไฟกับโน๊ตบุ๊ค ยังไงยังงั้น) โดยด้านหลังแท่นชาร์จก็มีที่จัดสายไฟ หนีบสายไฟให้เดินออกจากตัวแท่นชาร์จให้เรียบร้อย อยู่ซ้าย-ขวา ของด้านล่าง ส่วนหลังของแท่นชาร์จ แล้วแต่จะสะดวกออกทางไหน
ความคิดเห็นส่วนตัว
รูปร่างหน้าตาทั่วไป เหมือนแท่นชาร์จปกติธรรมดา ดีตรงที่มีที่จัดสายไฟด้านหลัง ขณะที่อะแดปเตอร์ ยังต้องวางเกะกะอยู่ด้านนอก ซึ่งอาจส่งผลกระทบ ต่อการทำงานของตัวเครื่องได้ หากสะดุดสายอะแดปเตอร์เสียเอง
รู้จักกับรีโมทคอนโทรล (Remote Control)
รีโมทคอนโทรล ทรงวงรี หรือ ทรงเม็ดก๋วยจี๊ จับง่ายถนัดมือ ให้คุณได้สามารถควบคุมเครื่องผ่านอุปกรณ์ตัวนี้ได้เลย ง่ายๆ การใช้งานก็ไม่ซับซ้อนอะไรมากมาย เพียงแค่ใส่ถ่านแบตเตอรี่ขนาด AAA จำนวน 2 ก้อน เข้าไปก็พร้อมใช้งานได้เลยทันที มาดูส่วนประกอบปุ่มต่างๆ กันเลย
- Main Control Button (ปุ่มควบคุมเครื่องหลัก)
- Power Button (ปุ่มเปิดปิดเครื่อง)
- Recharging Button (ปุ่มสั่งเครื่องให้กลับเข้าแท่นชาร์จ – ปุ่มรูปบ้าน)
- Start / Stop Button (ปุ่มสั่งเครื่องเริ่มดูดฝุ่น และ หยุดดูดฝุ่น)
- Suction Power Button (ปุ่มปรับระดับความแรงการดูดฝุ่น 3 ระดับ)
- Max Mode (โหมดดูดแรง : เสียงดัง) (ปุ่มขวาสุด)
- Normal Mode (โหมดดูดปกติ) (ปุ่มกลาง)
- Quiet Mode (โหมดดูดเบา : เสียงเงียบ) (ปุ่มซ้ายสุด)
- Additional Function (ความสามารถเสริม)
- Sound (ปุ่มเปิดปิด เสียงแจ้งเตือนต่างๆ)
- Smart Control (ปุ่มเปิดปิดระบบสมาร์ทคอนโทรล) (กดปุ่ม Sound ค้างเอาไว้ 3 วินาที)
- Manual Clean & Direction Control (ปุ่มสั่งงานดูดฝุ่น โหมดทำความสะอาดด้วยตนเอง)
- Move Forward (เดินหน้า)
- Turn Left (เลี้ยวซ้าย)
- Turn Right (เลี้ยวขวา)
*หากต้องการให้เลี้ยวกลับ ให้ใช้การกดปุ่มเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เอง เพื่อหมุนเครื่องไปในทิศทางที่ต้องการ
- Point Cleaning (ปุ่มชี้จุดทำความสะอาด ของระบบ PointCleaner™) : ชี้รีโมทคอนโทรลไปยังพื้นที่ที่ต้องการ ในรัศมี 1 เมตร)
ความคิดเห็นส่วนตัว
การที่ Samsung ให้ รีโมทคอนโทรลมาด้วย เป็นทางเลือก ขณะที่เครื่องสามารถสั่งงานผ่าน แอพพลิเคชั่น ได้อยู่แล้วนั้น ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ให้มาควบคู่กันเลย เพราะเชื่อว่ายังมีคนจำนวนไม่น้อย ที่ยังใช้สมาร์ทโฟนไม่เป็น
แต่ถ้าควบคุมผ่านแอพ Samsung Smart Home ความสามารถจะมีมากขึ้นกว่านี้อีก
เปิดใช้งานจริง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300
เมื่อเปิดใช้งานจริง สิ่งที่จะต้องเตรียมเป็นอันดับแรกเลยก็คือ การเตรียมแท่นชาร์จ ชาร์จไฟลงเครื่อง และ การติดตั้งเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น กับตัวเครื่อง
1. ติดตั้งแท่นชาร์จ เตรียมพื้นที่รอบๆ ให้เรียบร้อย และ ชาร์จไฟให้เต็ม
นำแท่นชาร์จออกมาวางในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยจะต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ในระยะ 1 เมตร ด้านหน้า และ ขณะที่ด้าน ฝั่งซ้าย และ ฝั่งขวา ต้องการพื้นที่แค่ด้านละ 0.5 เมตร เท่านั้น ถือว่าใช้พื้นที่ค่อนข้างน้อยมาก แม้ตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะมีขนาดที่ใหญ่ ก็ตาม
หลังจากนั้นกด “On/Off Switch (สวิตซ์เปิด/ปิด)” อยู่ข้างใต้ตัวเครื่อง เพื่อให้เครื่องมีแบตเตอรี่เต็มพร้อมทำงาน โดยระยะเวลาการชาร์จไฟให้เต็ม อยู่ที่ประมาณ 4 ชั่วโมง (240 นาที) และเมื่อเต็มแล้ว ก็ไม่ต้องปิดสวิตซ์
2. การติดตั้ง เชื่อมต่อเครื่องกับ แอพพลิเคชั่น Samsung Smart Home
การเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นนี้ เป็นออปชั่นเสริม จะเลือกใช้ก็ได้หรือไม่ใช้ก็ได้ (แต่ถ้าใครที่มีสมาร์ทโฟนอยู่ ก็แนะนำให้ใช้ เพราะคุ้มค่าจริงๆ คุ้มกับเงินที่เสียไป) เพราะตัวเครื่องนั้นยังผลิตมาให้รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi โดยสั่งงานผ่าน แอพพลิเคชั่น โดยแรกเริ่มจะต้องไป ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า “Samsung Smart Home” เสียก่อนที่
- ดาวน์โหลดแอพ Samsung Smart Home สำหรับ iOS ผ่าน App Store
- ดาวน์โหลดแอพ Samsung Smart Home สำหรับ Android ผ่าน Play Store
แต่ก่อนที่จะไป ในส่วนของ วิธีการเชื่อมต่อ ต้องขอบอกข้อจำกัดการใช้งาน แอพพลิเคชั่น ตัวนี้กันดูก่อน ว่ามีอะไรบ้าง
⇒ ข้อจำกัดการใช้งาน แอพพลิเคชั่น Samsung Smart Home
⇒ การเชื่อมต่อ แอพ Samsung Smart Home กับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300
คุณสมบัติ และ ความสามารถ ของแอพพลิเคชั่น Samsung Smart Home กับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300
เนื่องจากแอพพลิเคชั่น Samsung Smart Home เป็นแอพพลิเคชั่น ที่สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่รองรับ การเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ทั้งหมด (All-in-One Application) ทั้ง ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เตาอบ และอื่นๆ แต่ในส่วนนี้จะกล่าวถึงเฉพาะของ การเชื่อมต่อกับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300 เท่านั้น
- สามารถสั่งเปิดปิดเครื่อง (Power On/Off) ได้ผ่านแอพฯ ได้เลย
- สามารถควบคุมเครื่องได้ผ่านเมนูตัวควบคุม (CONTROLLER)
- สามารถสั่งเครื่องเริ่มต้นทำงาน (Start) หยุด (Stop) และ ทำงานต่อ (Resume) ในโหมดอัตโนมัติได้
- สามารถควบคุมทิศทางเครื่องได้เอง ใน โหมดทำความสะอาดด้วยตนเอง (Manual Mode) 😆
- เดินหน้า (Forward)
- เลี้ยวซ้าย (Left Turn)
- เลี้ยวขวา (Right Turn)
- สามารถสั่งงานให้เครื่องทำงานในโหมดทำความสะอาดเฉพาะจุด ดูดในรัศมี 1.5 เมตรได้ (Spot Cleaning)
- สามารถสั่งให้เครื่องวิ่งกลับแท่นชาร์จได้ทันที (Recharging)
- สามารถใช้ “ฟังก์ชั่น SELECT & GO” เพื่อเลือกพื้นที่ทำความสะอาดได้เอง ว่าจะไปทำห้องไหน แต่ต้องให้เครื่อง สร้างผังการทำความสะอาด (Create Floorplan) ในครั้งแรกเสียก่อน (ดูรายละเอียด ฟังก์ชั่น SELECT & GO)
- สามารถดูสถานะของตัวเครื่อง (Current Status) ได้ว่าทำอะไรอยู่ เช่น
- กำลังทำความสะอาดในโหมดอัตโนมัติ (Auto Cleaning)
- กำลังทำความสะอาดในโหมดทำความสะอาดด้วยตนเอง (Manual Cleaning)
- กำลังชาร์จไฟ (Charging)
- กำลังสร้างผังการทำความสะอาด (Creating Floorplan)
- กำลังกลับเข้าสู่แท่นชาร์จ (Returning for Charging)
- กำลังคอยการตอบสนองจากหุ่นยนต์ดูดฝุ่น (Waiting)
- และอื่นๆ
- สามารถดูสถานะแบตเตอรี่ (Battery Status) (แถบขีดพลังงานไฟ 3 ระดับ)
- สามารถปรับพลังการดูด (Suction Power) ได้ 3 ระดับ (Quiet / Normal / Max)
- สามารถตั้งเวลาทำความสะอาดรายวัน (Robot Schedule) ได้แบบอิสระในแต่ละวัน ตามต้องการ เช่นวันนี้ทำความสะอาด พรุ่งนี้ไม่ทำ หรือ วันนี้ทำเวลานี้ พรุ่งนี้ทำอีกเวลานึง ก็ได้เช่นกัน
- สามารถดูประวัติการทำความสะอาด (Cleaning History) ได้อย่างละเอียด ทั้งเวลาเริ่มต้น เวลาสิ้นสุด รวมถึงประเภท และ โหมดของการทำงาน
- สามารถปรับตั้งค่าต่างๆ ได้ตามต้องการ อาทิ
- ปรับเสียงแจ้งเตือน (Voice Guide) ในรูปแบบต่างๆ ได้ 4 รูปแบบ 😆
- เสียงผู้หญิง (Female Voice)
- เสียงผู้ชาย (Male Voice)
- เสียงเอฟเฟคแจ้งเตือน (Sound Effect)
- Mute (ปิดเสียง)
- ดูปริมาณการใช้พลังงานของเครื่องได้ (Energy Monitor) หน่อยเป็น kWh (กิโลวัตต์-ชั่วโมง) 😆
- ปรับเสียงแจ้งเตือน (Voice Guide) ในรูปแบบต่างๆ ได้ 4 รูปแบบ 😆
- ดูเวอร์ชั่นของซอฟต์แวร์บนเครื่องได้
- มีระบบแจ้งเตือนแบบ “Push Notification” แจ้งเตือนบนหน้าจอ ขณะที่คุณกำลังใช้แอพฯ อื่น หรือ ปิดหน้าจอมือถืออยู่
- มี “ฟังก์ชั่น Chat Control” พูดคุยแชทกับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ได้ สั่งงานเหมือน แชท LINE กับเพื่อนเลย (ดูรายละเอียด Chat Control)
หมายเหตุ : ข้อที่มีสัญลักษณ์รูป 😆 คือ จุดที่รู้สึกประทับใจมากๆ
รูปประกอบความสามารถของ การใช้ Samsung POWERbot VR9300 ผ่านแอพ Samsung Smart Home
ข้อเสียของการใช้แอพพลิเคชั่น Samsung Smart Home 🙁
- การใช้ โหมดทำความสะอาดด้วยตนเอง (Manual Mode) เช่น การสั่งให้เครื่องเดินหน้า เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ผ่านแอพพลิเคชั่น ต้องกดต่อเนื่องถึงจะตอบสนองเร็วทันที แต่ถ้ากดแล้วปล่อยเครื่องจะตอบสนองช้า กว่าการสั่งผ่านรีโมทคอนโทรล
- หากเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นได้แล้วแล้ว ถ้ากด “ปุ่ม Home” เพื่อออกจากแอพฯ ไปใช้แอพฯ ตัวอื่นสักระยะนึง หรือ ปิดหน้าจอไป หากกลับเข้ามาใหม่จะขึ้นข้อความว่า “Connection Failure” และต้องรอประมาณ 5 วินาที เพื่อเชื่อมต่ออีกครั้ง และต้องเข้าไปใหม่จากเมนูแรก
คำถามที่คุณต้องอยากรู้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300
ผมได้รวบรวม 10 คำถาม ที่เชื่อว่าหลายคนต้องอยากรู้ มาฝากกัน เริ่มกันเลย
1. ข้อแตกต่างระหว่าง Samsung POWERbot VR9000 และ Samsung POWERbot VR9300 มีอะไรบ้าง ?
หลายคนคงมีคำถามนี้อยู่ในใจว่า Samsung POWERbot VR9000 ซึ่งเป็นรุ่นที่จำหน่ายในเมืองไทยมาตั้งแต่ประมาณปลายๆ ปี ค.ศ. 2014 จนเวลาผ่านมาได้ 2 ปีก็ได้ออกรุ่น VR9300 (รุ่นที่รีวิวนี้) ออกมา สรุปว่า มันมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง สามารถกดลิงค์ด้านล่างเข้าไปดูรายละเอียดได้เลย
⇒ ตารางเปรียบเทียบ ความสามารถ ของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung
2. การวิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับ สามารถทำได้ดีแค่ไหน ?
การวิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับ อย่าง ธรณีประตู (Doorsill) สามารถวิ่งผ่านได้สบายๆ ด้วยพลังขับเคลื่อนจากมอเตอร์ของ ล้อขับเคลื่อนหลัก 2 ล้อ ที่มีมากมาย บวกกับล้อเลื่อนรับน้ำหนัก อีก 4 ล้อ ที่มีอยู่รอบตัว (รวมทั้งหมด 6 ล้อ) ทำให้มันสามารถวิ่งผ่านธรณีประตูได้สบายๆ
3. ฝุ่นที่ถูกดูดเข้ามา มีลักษณะเป็นอย่างไร มีปริมาณต่อวันมากน้อยแค่ไหน ?
จากที่เห็นในกล่องใส่ขยะฝุ่นละอองคือ มีจำนวนฝุ่นมากมายทั้งฝุ่นขนาดเล็ก-ใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นผม ทั้งผมยาว ก็ถูกดูดเข้ามาเก็บภายในกล่องใส่ขยะฝุ่นละอองทั้งหมดโดยไปพันกับแปรงกวาดหลักเลย
นอกจากนี้ ฝุ่นขนาดใหญ่ ยังถูกอัดรวมกันเป็นก้อน พร้อมนำไปทิ้งได้สบายๆ ขณะที่ ฝุ่นเล็กๆ ก็จะนอนกองอยู่ใน กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง
4. สามารถวิ่งได้ทั่วบริเวณห้อง และ กลับมายังแท่นชาร์จได้เองทุกครั้ง หรือไม่ ?
สามารถวิ่งได้ทั่วทั้งบริเวณห้องเกือบครบ และ กลับแท่นชาร์จได้เกือบๆ 100% ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับการจัดวางของภายในห้องด้วย ว่าเอื้ออำนวยให้กับ การทำงานของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น มากน้อยเพียงใด
หมายเหตุ : ในความเป็นจริงแล้ว มีข้อกำหนดต่างๆ มากมาย เกี่ยวกับการวางตำแหน่งเครื่อง และ จัดข้าวของเครื่องใช้ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม กับการทำงานของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในคู่มือการใช้งาน
5. สามารถใช้รีโมทคอนโทรลควบคู่ไปกับ แอพพลิเคชั่นพร้อมกันได้หรือไม่ ?
คุณสามารถใช้ร่วมกัน พร้อมกันได้สบายๆ ถ้าไม่งงเองเสียก่อน
6. ระดับเสียงในการดูดฝุ่นเป็นอย่างไร ?
เนื่องจากเครื่องนี้มีโหมดการดูดฝุ่นทั้งหมด 3 โหมดหลักๆ ด้วยกัน ได้แก่ โหมดดูดแรง (Max Mode) โหมดดูดปกติ (Normal Mode) โหมดดูดเบา (Quiet Mode) ผมจึงทำการทดสอบ มาทั้ง 3 โหมด ด้วย แอพ LINE Tools ในฟังก์ชั่น “Sound Level Meter” โดยวัดให้ห่างจากตัวเครื่องประมาณ 1 เมตร ขณะทำงาน ลองมาดูกันว่า ระดับเสียงจะเป็นอย่างไร
จากค่าที่ได้ทำการทดสอบพบว่า ระดับเสียงแต่ละโหมดจะต่างกันประมาณ 5 เดซิเบล (dB) โดยประมาณ โดยในโหมด MAX
7. ฟังก์ชั่น “SELECT & GO” ในแอพ Samsung Smart Home คืออะไร ?
“SELECT & GO – เลือกแล้วไป” เป็นฟังก์ชั่นที่ให้เราสามารถ เลือกพื้นที่ทำความสะอาดเฉพาะ ได้เช่น ให้ทำความสะอาด ห้องนอน 1 และ ห้องโถงรับแขก แต่ไม่ทำ ห้องนอน 2 อะไรแบบนี้ก็ได้เช่นกัน
แต่การที่จะใช้ ฟังก์ชั่น SELECT & GO นี้ได้จะต้องมีการ สร้างผังการทำความสะอาด (Create Floorplan) ก่อนการใช้งานในโหมดนี้ในครั้งแรกเสียก่อน เข้าไปแล้ว แอพ Samsung Smart Home จะบังคับให้เราสร้างเอง (สร้างแค่ครั้งแรกครั้งเดียวเท่านั้น)
ในกระบวนการ สร้างผังการทำความสะอาด นั้น Samsung POWERbot VR9300 ก็จะออกมาจากแท่นชาร์จ แล้วออกมาวิ่งดูดฝุ่น (เหมือนปกติ) ให้ครบทั่วทั้งบริเวณ เวลาจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ในห้องของเรา ระหว่างการสร้างควรจะต้องเปิดประตูห้องทุกห้อง ให้มันสามารถวิ่งเข้าไปได้อย่างทั่วถึง
และ เสร็จแล้ว ก็จะได้เป็นแผนที่ออกมา พร้อมให้เราเลือกห้อง ที่จะไปทำความสะอาดได้เลย (รูปประกอบด้านบนขวา สังเกตว่า จะมีรูปบ้านอยู่ที่ “Living Room” นั่นคือ ตำแหน่งที่เครื่องเราจอดอยู่นั่นเอง)
8. ฟังก์ชั่น “Chat Control” ในแอพ Samsung Smart Home คืออะไร ?
ฟังก์ชั่น “Chat Control” เป็นฟังก์ชั่นที่ให้คุณได้พูดคุย กับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ของ Samsung เพื่อสั่งงาน หรือ ดูสถานะการใช้งานปัจจุบัน สามารถกดที่ลิงค์เชื่อมต่อด้านล่างได้เลย
⇒ รายละเอียดฟังก์ชั่น Chat Control ในแอพ Samsung Smart Home
9. มีระยะเวลาการรับประกันกี่ปี ?
ในส่วนของ การรับประกัน ตัวมอเตอร์พัดลมดูดฝุ่น หรือ มอเตอร์ Digital Inverter รับประกัน ยาวนาน 10 ปี และในส่วนของการ รับประกันตัวเครื่อง 2 ปี
10. อะไรไหล่ราคาแพงหรือไม่ ?
แต่ละชิ้นส่วนมีราคาต่างกันออกไป ลูกค้าสามารถโทรศัพท์ติดต่อศูนย์บริการ (Call Center) 02-689-3232 เพื่อขอทราบราคาประเมิณการซ่อมคร่าวๆ ได้ก่อน แต่อย่างไรก็ตามตัวเครื่องเองมีการรับประกัน 2 ปี สามารถส่งซ่อมได้ที่ทุกศูนย์บริการของ Samsung ได้ทั่วประเทศไทย
11. สั่งซื้อ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300 ได้ที่ไหน ?
คุณสามารถซื้อ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR93000 นี้ได้ผ่านหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น ห้างโฮมโปร ห้างเดอะมอลล์ ห้างเซ็นทรัล หรือ เว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ ชั้นนำของประเทศไทย อย่างไรก็ตาม คุณติดต่อสอบถามก่อนได้ทางรายละเอียดติดต่อด้านล่างนี้เลย
- Telephone No (เบอร์โทรศัพท์) : 0-2689-3232
- Website (เว็บไซต์) : http://www.samsung.com/th/
- Facebook Page (เพจเฟสบุ๊ค) : samsungthailand (ซัมซุงไทยแลนด์) ตามกรอบด้านล่าง
บทสรุปการใช้งาน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung POWERbot VR9300
หลังจากที่ได้ใช้งาน และ ทำความคุ้นเคยกับมันมาเกือบๆ 1 เดือน ก็พบข้อดีต่างๆ มากมาย แถมยังเป็นข้อดีที่เกินคาดเอาไว้อีกด้วยต่างหาก
ข้อดี 🙂
- มีพลังการดูดฝุ่น ที่สูงมากๆ หากเทียบเท่ากับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้ออื่นๆ รุ่นอื่นๆ ทั่วไป ที่วางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด
- เทคโนโลยี และ ระบบต่างๆ ภายในตัวเครื่องถูกอัพเกรด ให้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ (VR9000) เกือบทั้งหมด ทุกระบบ ขณะที่ข้อดีจากรุ่นที่แล้ว ก็ยังคงเอาไว้ ไม่ถูกตัดออก
- แปรงกวาดมีขนาดกว้าง 311 มิลลิเมตร (31.1 เซนติเมตร) กว้างที่สุด ในบรรดาหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่เคยผ่านการรีวิวมา
- แม้เครื่องจะมีขนาดใหญ่ น้ำหนักเยอะ แต่สามารถวิ่งทำความสะอาดไปยังจุดต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว พูดง่ายๆ คือ คล่องแคล่ว ว่องไวมากๆ
- กล่องใส่ขยะฝุ่นละออง มีขนาดความจุมากถึง 0.7 ลิตร ถือว่า มากที่สุด เช่นกัน (มี หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato ในบางรุ่น ที่มีขนาดเทียบเท่า)
- อุปกรณ์ต่างๆ สามารถดูแลรักษา และ ทำความสะอาดได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากซับซ้อน เหมือนบางรุ่น
- มีอุปกรณ์สร้างกำแพงจำลอง ที่มีรัศมี 2.5 เมตร เพื่อใช้ปกป้อง พื้นที่ ที่ไม่ต้องการให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเข้าไปทำความสะอาด (น่าเสียดายที่ไม่มีถ่านแบตเตอรี่ ขนาด D -LR20 แถมมาให้)
- มีรีโมทคอนโทรลพร้อมถ่านแบตเตอรี่ เพื่อใช้สั่งงานระยะไกล ขณะกำลังนั่งเล่นเอกเขนก อยู่บนโซฟา มาให้ด้วย ทั้งๆ ที่สามารถสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่น ก็ได้ด้วยเช่นกัน (เผื่อในกรณี สำหรับคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน)
- ปุ่มบนรีโมทคอนโทรล ถูกปรับลดลงจากรุ่น VR9000 ให้น้อยลง ให้ใช้งานง่ายขึ้น และ ไม่ซับซ้อน
- รัศมีทำการของแท่นชาร์จ ค่อนข้างน้อย พื้นที่ซ้าย-ขวา ต้องการพื้นที่โล่งเพียงแค่ 0.5 เมตร ในขณะที่ รัศมีทำการแท่นชาร์จ ของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นยี่ห้ออื่น จะต้องเคลียร์พื้นที่ซ้าย-ขวา ของแท่นชาร์จให้โล่งอย่างน้อย 1.0 เมตร
- สั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่น ที่เชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ง่ายๆ
ข้อเสีย 🙁
- ขนาดตัวเครื่องค่อนข้างใหญ่ และ น้ำหนักตัวก็มาก ทำให้การวิ่งลอดโซฟา หรือใต้เฟอร์นิเจอร์ ต่างๆ อาจเป็นไปด้วยความลำบาก แต่ด้วยความที่มันมีขนาดใหญ่ จึงทำให้มีข้อดีต่างๆ เพิ่มเข้ามามากมาย เรียกได้ว่าต้องแลกกัน
- ไม่มีแปรงกวาดข้าง (Side Brush) มาให้ แต่การทำความสะอาดขอบมุมต่างๆ (Corner Cleaning) ก็ทำหน้าที่ได้ดีพอสมควร เนื่องจาก แปรงกวาดหลัก มีขนาดกว้างมาก
- ไม่มีฟังก์ชั่นในการถูพื้นด้วยผ้าม็อบ หรือ ถังน้ำ ใดๆ มาให้
สั่งซื้อAir Filter รุ่น VR 9350
รุ่นนี้ดีมากครับ หลังจากเห็นรีวิว ผมก็ตัดสินใจซื้อเลย ผลจากการใช้งานจริง
1. เรื่องแรงดูด แรงมากเหมือนเครื่องดูดฝุ่นด้ามจับเลย เสียงดัง เพราะแรงดูดมาก (เสียงดังแต่สะอาดมาก) รับได้ครับ
2. ฝุ่นที่ได้มีลักษณะเป็นก้อน เยอะมากจนตกใจว่านี่บ้านเราเหรอ (ก่อนจะใช้ตัวนี้ ใช้ตัวมีหนวดราคาหมื่นกว่าบาท ทำความสะอาดทุกวันอยู่แล้ว ก็คิดว่ามันดีระดับนึง แต่ฝุ่นไม่น่าจะเยอะเท่านี้ คาดว่ารุ่นพวกราคากลาง ๆ แรงดูดบนพรม อาจจะไม่ดีเท่าที่ควร)
3. เรื่องพื้นต่างระดับ เช่น พื้นปาเก้กับพรม สบายมาก รวมถึงรางของประตูเลื่อนแบบกระจก ที่ขวางตรงพื้น ข้ามได้สบายมาก
4. ตั้งแต่ใช้มาประมาณต้นเดือนเมษายน ถึงปัจจุบัน กลางเดือนพฤษภาคม เรื่องกลับฐานชาร์ต ยังไม่เคยกลับผิดเลยซักครั้ง แม่นมาก ไม่เดินมั่ว เอาแท่นชาร์ต วางไว้ตรงไหน กลับถูก แบบไม่ ถู หาฐานชาร์ต เหมือนรุ่นกลาง มันเดินราวกับมีสมอง เลี้ยวเป๊ะ ๆ เลย
5. ความสะอาด ทั้งพื้นไม้ปาร์เก้ พื้นหินอ่อน พรมขนสั้น ดีมาก ถึงมากที่สุด ปาร์เก้ กับ หินอ่อน เดินแล้วไม่รู้สึกว่ามีทราย หรือฝุ่นเหลือเลย เนียนเท้ามาก เวลาเดิน รวมถึงพรมขนสั้น ความสะอาดเหมือนกับใช้เครื่องดูดฝุ่นด้ามจับเลย แต่เราไม่เหนื่อย ชอบมาก
6. แทบไม่ต้องถูบ้าน เพราะแปรงกวาดหลักของเครื่องรุ่นนี้ VR9300 ขนมันออกจะแข็งเล็กน้อย ซึ่งช่วยในเรื่องการปัดฝุ่น และขัดพื้นผิวไปในตัวด้วย สะอาดจริง ๆ สังเกตได้จากเวลา บอท เดินบนปาร์เก้ หรือหินอ่อน แล้วมีการเบรค การถอย การเลี้ยว จะมีเสียงล้อ ดัง
เอี๊ยด ๆ ให้ได้ยินเลย แสดงว่าพื้นสะอาดจริง ๆ
7. เรื่องระยะเวลาในการดูด ขึ้นกับ การปรับระดับความแรง
แรงสูงสุด แรงปานกลาง แรงเบาที่สุด ระยะเวลาที่ใช้งานได้อยู่ที่ 30 นาที 60 นาที และ 90 นาที ตามลำดับ
อาจจะดูเหมือนน้อย แต่เชื่อเถอะครับ บ้านผม 50 ตารางวา 2 ชั้น ให้ทำชั้นล่าง เปิดห้องไว้ 2 ห้อง+ห้องโถงใหญ่อีก 1 ห้อง
ปรับแรงดูดแรงสูงสุด ใช้เวลาในการทำความสะอาด 26 นาที
อึ้งเลยครับ ตัวใหญ่ เดินเร็ว เดินฉลาด ไม่มั่ว ทำความสะอาดทั่วถึง ทุกห้องด้วย ทำเสร็จกลับไปชาร์จเอง ผมกล้าบอกได้เลยว่า ของดี
ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานในการทำความสะอาด ถ้าเน้นแบตมาก ให้ได้เวลานาน ๆ แสดงว่าการออกแบบหุ่นยนต์ตัวนั้น ยังไม่ฉลาดพอ
8. ตอนซื้อแม่บ้านด่าครับ ว่าแพงเกิน แต่ตอนนี้แม่บ้านกวาดบ้านไม่เป็นแล้ว ปล่อย บอท อย่างเดียวเลย ตรงไหนเปื้อน คว้ารีโมท ชี้จุดให้ทำความสะอาดเลย
9. การแจ้งเตือนสถานะของเครื่องดูดฝุ่น มายังมือถือ ถือว่าโอเคนะครับ บอกให้รู้ว่าตอนนี้ทำอะไรยังไง ยกตัวอย่างเช่น
มีการยกขึ้น (แจ้งเตือนเมื่อเครื่องถูกยกออกจากแท่นชาร์จ)
หุ่นยนต์ทำความสะอาดเริ่มทำความสะอาดตามกำหนดเวลา (แจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาที่กำหนดไว้ในการทำความสะอาดแต่ละวัน)
Auto Cleaning Completed (แจ้งเตือนเมื่อทำความสะอาดเสร็จและกำลังเดินกลับแท่นชาร์จ)
และการควบคุมผ่านมือถือ ก็สามารถทำงานได้จริง ผมอยู่ที่ทำงาน ก็สามารถสั่งการให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำงานได้จริง
เรื่องข้อเสีย ไม่ใช่ไม่มีนะครับ ข้อเสียหลักที่เจอ คือ
1. เรื่องการทำความสะอาดบริเวณมุม ยังทำได้ไม่ดี รวมถึงตามขอบกำแพง มันจะมีระยะห่างประมาณ 2 มิล เนื่องจากหากชิดกำแพงเกินไป
ล้อมันจะชนจนวิ่งไม่ออก คาดว่าน่าจะแก้ไขด้วยการให้มันวิ่งห่างกำแพงประมาณ 2 มิล พอมันไม่มีหนวดปัดฝุ่น มันก็เลยมีฝุ่นเหลือตามแนวขอบกำแพง กับตามมุมห้อง แค่นี้ก็ทำเองสิครับ ไม่เห็นยากเลย
2. ตัวเครื่องใหญ่ เข้า ใต้ตู้ ใต้เตียง หรือเฟอร์นิเจอร์ ที่ต่ำ ๆ ไม่ได้ แต่ก็คาดว่าเป็นเพราะขนาดของมอเตอร์ดูดแรงสูงที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงถังเก็บฝุ่นขนาดใหญ่ จึงทำให้ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ตาม
โอ้วแม่เจ้า ขอบคุณ คุณวีรพงษ์มากๆ เลยครับที่ติดตาม และทำมินิรีวิวความรู้สึกหลังใช้งานจริงให้ด้วยครับ
ผมเห็นด้วยมากๆ ครับที่รุ่นนี้มีความเพอเฟคทุกอย่าง ยกเว้นตัวเครื่องที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่ก็แลกมาด้วยการดูดฝุ่นที่แรงมากครับ
อยากให้รีวิว Samsung POWERbot VR20M7070WS ที่เพิ่งออกตอนปี 2017 อีกตัวหนึ่งครับ
ดูคลิปวีดีโอแล้วมันออกแบบเพิ่ม เวลาเครื่องดูดฝุ่นแตะโดนผนัง จะมีแผ่นกั้นเลื่อนลงอัตโนมัติ อย่างกับไม้กวาดเลยครับ
มีแน่นอนครับ เดือนหน้าพบกันครับ ตอนนี้ผมได้สินค้ามาแล้วนะครับ