เครื่องฟอกอากาศ Sharp KC-A60TA-W

บทความนี้ นี้เป็นรีวิว เครื่องฟอกอากาศ Sharp KC-A60TA-W ที่ได้ซื้อมาใช้บนคอนโดมิเนียม เพื่อเอาไว้ป้องกันฝุ่นละอองต่างๆ เป็นระยะเวลาปีกว่าๆ แล้ว นับตั้งแต่ซื้อเครื่องมาจนถึงวันที่เขียนรีวิวฉบับนี้ ดังนั้นจึงไม่ใช่รีวิวที่แกะกล่องใหม่ (เพราะกล่องทิ้งไปนานแล้ว) ถือว่า เป็นการมาแชร์ประสบการณ์ หลังการใช้งานมาปีกว่าๆ ละกันว่ามันยังใช้งานได้ดีเป็นปกติอยู่หรือไม่

ทำไมถึงหันมาใช้ เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) ?

ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาสนใจซื้อเจ้า เครื่องฟอกอากาศ อะไรพวกนี้อยู่แล้ว แต่ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่คอนโดมิเนียม ที่อยู่ติดริมถนนใหญ่ที่มีรถติดขึ้นชื่อเป็นอันดับต้นๆ ในเขตกรุงเทพฯ นั้น ปริมาณฝุ่นที่มีอยู่ ทั้งฝุ่นละอองที่เกาะอยู่บนวัสดุ บนพื้น บนภาชนะ ต่างๆ ในแต่ละวันบนคอนโด แทบจะทิ้งห่าง การพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ที่อยู่ห่างจากถนนใหญ่สัก 600-700 เมตร ไปแบบเทียบกันไม่ติดเลยทีเดียว เรียกได้ว่า หากอยู่บนคอนโดฯ ติดริมถนนใหญ่ ไม่ทำความสะอาดแค่วันเดียว มีค่าเท่ากับอยู่บ้านเดี่ยวในหมู่บ้าน ที่ไม่ทำความสะอาดมาประมาณ 7 วัน (หรือ 1 สัปดาห์) กันเลยทีเดียว ดังนั้นขนาดเอามือลูบมาแล้วยังได้ฝุ่นมากขนาดนี้ แล้วร่างกายเราละ ในระบบทางเดินหายใจทั้งจมูก หลอดลม รวมไปถึง ปอด มันจะทำงานหนักขนาดไหนกันนี่

ซึ่งเจ้าฝุ่นที่ลูบได้นี่ มันไม่ใช่ฝุ่นละออง ที่เกิดจากเกสรดอกไม้ พืช แต่มันเป็นฝุ่นที่เกิดจากควันรถ ที่ลอยขึ้นจากที่ต่ำ ขึ้นไปยังที่สูง ซึ่งเห็นแล้วอันตรายมากๆ จึงรีบนั่งหาข้อมูลเครื่องฟอกอากาศ บนอินเตอร์เน็ตทันที ว่ายี่ห้อไหนดี ที่เหมาะสมกับห้องขนาด ประมาณ 70 ตารางเมตร ได้บ้าง

แล้ว ทำไมต้อง เครื่องฟอกอากาศ Sharp ?

ความจริงแล้ว เครื่องฟอกอากาศ มีอยู่มากมายในตลาด แต่ที่เลือก เครื่องฟอกอากาศ Sharp (ชาร์ป) เพราะว่าเคยได้ยินโฆษณาเรื่องของเทคโนโลยีของ พลาสม่าคลัสเตอร์ (Plasmacluster) ที่มันพูดว่า “พลาสม่าคลัสเตอร์ มีเฉพาะในชาร์ป” สิทธิบัตรของชาร์ป เค้าละ มันวิ่งวนเวียนอยู่ในหัวตลอดเวลา ซึ่งเจ้าเทคโนโลยีตัวนี้ มันไม่ได้มีแค่เฉพาะในเครื่องฟอกอากาศ อย่างเดียว แต่มันยังรวมไปถึง เครื่องปรับอากาศ (Air Condition) ตามบ้าน รวมไปถึง ในรถโตโยต้าแคมรี่ (Toyota Camry) ที่เขาเป็นพันธมิตรกัน ในรูปแบบของ OEM โดยนำเอาเทคโนโลยีตรงนี้ไปใช้ฝังกับรถเลยทีเดียว

จากโฆษณาทางทีวี แสดงว่าการตลาดด้านการโฆษณาของมันทำได้สำเร็จแล้วละ อย่างน้อย ผมก็คนนึงที่จำชื่อนี้ได้ ไม่เชื่อลองดู VTR โฆษณาด้านล่างนี้ดู และลองฟังประโยคสุดท้ายก่อนจบโฆษณา

ประกอบกับเข้าไปอ่านกระทู้ตามเว็บไซต์ต่างๆ อย่าง Pantip ก็ดี หรือเว็บอื่นๆ ก็ดี เขาก็เชียร์เจ้า Sharp กัน แถมยังมีคนเปรียบเทียบกับ เครื่องฟอกอากาศของแบรนด์ขายตรงชื่อดังอีก ก็เห็นยังเชียร์กันอยู่ ว่าราคาถูกกว่า อย่างโน้นอย่างนี้ โดยลองไปใช้คีย์เวิร์ด หรือคำค้นเพื่อ ค้นหาในกูเกิล ก็คือคำว่า “เครื่องฟอกอากาศ Sharp” เลยทันที ซึ่งใครอยากหารายละเอียด เพิ่มเติมก็มี รายละเอียดตาม ที่อยู่เว็บไซต์ ด้านล่าง นี้เลย

ปัจจัยเสี่ยงของ เครื่องฟอกอากาศ Sharp

แต่เมื่อระหว่างค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตไปเรื่อยๆ ทดลองเปลี่ยนคำค้นไปเรื่อยๆ จนเมื่ออยากหาข้อมูลเชิงลึกของเทคโนโลยีของชาร์ป จึงได้ใส่คำว่า “พลาสม่าคลัสเตอร์” ลงไปในช่องค้นหา ก็มาสะดุดตากับกระทู้ กระทู้กลุ่มนึง ที่กล่าวถึงเทคโนโลยี พลาสม่าคลัสเตอร์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการกรองอากาศ นวัตกรรม นี้ถูกพัฒนาและคิดค้นโดยชาร์ป เท่านั้น

ซึ่งผลการค้นหาก็ได้มีกระทู้บางส่วน ที่ได้กล่าวถึงว่า มันใช้งานดีจริงหรือเปล่า มันไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือ ? บางคนก็ยกกรณีว่า ขนาดมันฆ่าเชื้อโรคที่ลอยอยู่ในอากาศ ด้วยวิธีการทำให้ไอน้ำที่ลอยอยู่ในอากาศ แตกตัวออกไปทำลายผนังเซลล์ของเชื้อโรคได้ ทำให้เชื้อโรคสลายตายไปโดยทันที ยกตัวอย่างจากกระทู้ด้านล่าง

กระทู้แรกที่กล่าวถึงเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์

กระทู้ที่สองที่กล่าวถึงพลาสม่าคลัสเตอร์

หลังจากนั้น ถัดมาอีก 3 ปี จากปี พ.ศ.2546 ถึงปี พ.ศ.2549 ก็มีคนเปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมาอีกรอบ เรื่องเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ ซึ่งหนนี้ ได้ขึ้นเป็นกระทู้ TopStock ของ Pantip.com อีกด้วย

http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2006/04/R4283214/R4283214.html

ซึ่งก็มีการแย้งกันไปแย้งกันมา ในเรื่องของความคิดเห็น ซึ่งตรงจุดนี้ผมมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ของการแสดงออกทางความคิดเห็น ก็เลยไม่ได้ติดประเด็นอะไรมาก

เว็บไซต์ของทางชาร์ปประเทศไทยเอง ก็มีการรับรอง

ในส่วนของเว็บไซต์ประเทศไทย ที่เป็นภาษาไทย ก็มีข้อมูลแจ้งระบุภายใน ว่ามีสถานบันโน่นนี่นั่นรับรอง ผ่านงานวิจัยโน่นนี่นั่นมาแล้วมากมาย ส่วนตัวไม่รู้จักหรอกว่างานวิจัยพวกนี้ มีชื่อเสียง มีจริง มากน้อยเพียงใด แต่เขามีเอกสารรับรอง มีไฟล์ PDF ให้ดูรายละเอียดของงานวิจัยเป็นรายตัวไปเลย และอีกอย่างก็คิดว่าทางชาร์ปเองก็คงไม่แอบเอาสถาบันเหล่านี้มาอ้างเล่นๆ แน่ๆ เพราะมีหวังโดนฟ้องกลับหัวบานกันแน่นอน ลองกดเข้าไปดูตัวอย่างด้านล่างดูนะ

http://www.sharp-pci.com/th/certified/index.html

สรุปเทคโนโลยี Plasmacluster คืออะไรกันแน่ ?

คุณสามารถทำความรู้จักกับ เทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ไออน (Plasmacluster Ion Technology) ให้มากกว่านี้ ในส่วนของ หลักการการทำงาน ได้โดยกดที่ลิงค์เชื่อมต่อด้านล่างนี้ได้เลย

⇒ พลาสม่าคลัสเตอร์ (Plasmacluster Ion Technology) คืออะไร ?

สุดท้ายก็ซื้อจนได้ เครื่องฟอกอากาศ Sharp

สรุปก็คือ ข้อมูลที่ใช้ในการประกอบการตัดสินใจซื้อเจ้าเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ ยี่ห้อนี้ เกิดจากการ “มโน” เอาล้วนๆ ไม่มีเพื่อน ญาติพี่น้อง หรือ คนรู้จักคนไหนเคยใช้มาก่อน จากสาเหตุด้านลบด้านบน ก็ฟังหูไว้หู เพราะจากประสบการณ์ที่เล่นอินเตอร์เน็ตมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว ก็เห็นว่า ข้อมูลบนเน็ตก็อย่าไปเชื่ออะไรกับมันมาก เพราะจากรูปภาพ แม้แต่คลิปวีดีโอ คลิปเสียง ต่างๆ ก็ล้วนแต่สามารถตัดต่อกันได้ หรือแม้แต่ ความคิดเห็น จากการตั้งกระทู้ ตอบกระทู้ บนเว็บไซต์ต่างๆ สิ่งเหล่านี้ สามารถมีคนมาเชียร์สินค้า หรือ หน้าม้ามาเชียร์ ได้ด้วยเช่นกัน

เอาเป็นว่าเราควรใช้วิจารณญาณ จากการตัดสินใจจากความคิดเห็นของคนที่มีแสดงความเห็นเกี่ยวกับสินค้านั้นๆ ในการประกอบการตัดสินใจซื้อ และอีกส่วนนึงก็มาจากแบรนด์หรือภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ ของสินค้านั้นๆ เป็นต้น สุดท้ายคือ การเดา วัดดวง กันไป จนทำให้มาถอยเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อนี้ และ รุ่นนี้จนได้

รายละเอียดเครื่องฟอกอากาศ Sharp KC-A60TA

สำหรับเครื่องฟอกอากาศ Sharp ในรุ่นที่ซื้อมานั้น มันคือรุ่น KC-A60TA ซึ่งเป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับห้องขนาดสูงสุดไม่เกิน 48 ตารางเมตร เพราะอย่างที่บอกไว้ด้านบนว่า ห้องคอนโดฯ มีขนาดประมาณ 70 ตารางเมตร จึงตัดสินใจที่จะเลือกเอารุ่นที่ใหญ่ที่สุดไว้ก่อน แต่มันได้เท่านี้จริงๆ ไม่มีใหญ่ไปกว่านี้อีกแล้ว

นั่นหมายความว่า มันจะทำงานได้ดีที่สุด สำหรับขนาดห้องไม่เกินนี้ เพราะเกินกว่านี้จะทำความสะอาดได้อย่างไม่ทั่วถึง โดยตระกูลนี้ หน้าคู่มือเขาเขียนเอาไว้ว่าเป็น “เครื่องฟอกอากาศพร้อมไอน้ำ” นั่นหมายความว่าจะต้องมีถังเอาไว้ใส่น้ำด้วยอย่างแน่นอน โดยสำหรับ ตระกูล KC นี้ จะมีขนาดของเครื่องให้เลือก 3 ขนาดด้วยกันคือ

โดยความสามารถทุกอย่างจะเหมือนกันหมด เช่นวิธีการใช้งาน หลักการ คุณสมบัติต่างๆ เพียงแต่ต่างกันที่ขนาด มิติ น้ำหนัก ของเครื่อง เท่านั้นเอง

สำหรับคุณสมบัติของเครื่องฟอกอากาศตัวนี้ ทางบริษัทผู้ผลิตอย่างชาร์ป เขาเคลมว่ามันสามารถที่จะสามารถดักจับฝุ่นละอองได้ (เมื่ออากาศถูกดูดเข้าไปในแผ่นกรอง) กำจัดกลิ่น และ กำจัดละอองเกสรดอกไม้ และ เชื้อรา ได้ด้วยการประสานเอาเทคโนโลยีของการฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยระบบ 3 แผ่นกรอง + พลาสม่าคลัสเตอร์ + ไอน้ำ เข้าไว้ด้วยกัน

การกรองอากาศ ของ เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น KC-A60TA KC A50TA KC-A40TA

ภายในเครื่องฟอกอากาศตัวนี้ มีแผ่นกรองหลักๆ ทั้งหมด 3 แผ่นด้วยกัน ซึ่งจะทำให้อากาศที่ผ่านเครื่องนี้ออกมาสะอาดบริสุทธิ์จริงๆ ซึ่งเขาบอกว่าเจ้าระบบ พลาสม่าคลัสเตอร์ สามารถที่จะฟอกอากาศในลักษณะเดียวกับการฟอกอากาศโดยธรรมชาติ ด้วยการปล่อยอนุภาคไฟฟ้าบวก และ ลบ ออกมาในระดับที่สมดุลกัน โดยขอเริ่มจากรายละเอียดด้านล่างนี้เลย

1. แผ่นกรองชั้นแรก : ในส่วนแรกจะใช้เพื่อสำหรับ ดักจับฝุ่นละออง (จากภาพ ด้านบนอยู่ ซ้ายสุด) ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ หากถูกดูดเข้าไป ฝุ่นที่มีขนาดใหญ่ (ที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า) จะสามารถถูกดักจับ เอาไว้ตรงที่หน้าเครื่องนี้ได้ ไม่ให้ผ่านเข้าไปด้านในเครื่อง ซึ่งแผ่นกรองชิ้นนี้ จะสามารถถอดล้างด้วยน้ำเปล่าได้ และก็ถอดเข้า ถอดออกได้ง่ายๆ อีกด้วยเช่นกัน
2. แผ่นกรองกลิ่น : ถัดจากแผ่นกรองฝุ่นชั้นแรกเข้าไปแล้วจะเป็น แผ่นกรองกลิ่นเพื่อใช้ กรองกลิ่นไม่พึงประสงค์ (จากภาพด้านบนอยู่ ขวาสุด) เป็นชนิดถอดล้างได้เช่นกัน มันมีหน้าที่เอาไว้ในการดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ที่มาจากครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นอับ กลิ่นกับข้าว หรือแม้แต่ กลิ่นตด นั่นเอง :)ทางผู้ผลิตเค้าบอกว่า เครื่องฟอกอากาศนี้ได้รับการออกแบบมาให้เพื่อกรองฝุ่นละออง และ กลิ่นไม่พึงประสงค์ เท่านั้น แต่มันไม่สามารถที่จะกรองก๊าซพิษต่างๆ อย่างเช่น ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ที่มาจากบุหรี่ได้ หากยังมีกลิ่นเหล่านี้อยู่ในห้อง เครื่องฟอกอากาศชุดนี้จะไม่สามารถกำจัดกลิ่นเหล่านี้ให้หายไปจดหมด ในเวลาอันรวดเร็วได้

3. แผ่นกรอง HEPA : ใช้เพื่อ กำจัดละอองเกสรดอกไม้ และ เชื้อรา ต่างๆ (จากภาพด้านบนอยู่ ตรงกลาง) ซึ่งแผ่นกรอง HEPA (ย่อมาจากคำว่า High Efficiency Particulate Air Filter) ซึ่งทางชาร์ป ได้บอกว่า เจ้าแผ่นกรอง HEPA ตัวนี้มันสามารถที่จะกำจัดฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กสุด ขนาด 0.3 ไมครอน ได้สูงสุดถึง 99.97% เลยทีเดียว

4. แผ่นกรองไอน้ำ : ส่วนนี้เป็นส่วนเสริมมาจาก เครื่องฟอกอากาศ ซึ่งบางรุ่นจะมี บางรุ่นจะไม่มี โดยเป็นตัวที่เพิ่มความชื้นในอากาศให้มากขึ้น ซึ่งแผ่นกรองไอน้ำตัวนี้จะมีลักษณะเป็นทรงกลม จะอยู่ด้านในสุด ซึ่งจะต้องดึงถาดทำไอน้ำออกมาให้เรียบร้อยเสียก่อน พร้อมฝาครอบถาดทำไอน้ำ (หากสังเกตุดูดีๆ ที่วงกลมตรงกลาง มีคราบสิ่งสงปรก ฝังตัวอยู่ เนื่องจากใช้มาแล้วปีกว่าๆ)

เครื่องฟอกอากาศ Sharp มีโหมดฟอกอากาศอะไร ในรูปแบบใดบ้าง ?

ภายในเครื่องฟอกอากาศ ตัวนี้มีโหมดการทำงานให้เลือกใช้งานกันได้ถึง 3 รูปแบบหลักๆ ซึ่งปุ่มการใช้งาน 3 โหมด นี้จะปรากฏอยู่ตรงกลางของเครื่องเลย ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับความต้องการ การใช้งานของแต่ละคน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ปุ่มกดหลัก เครื่องฟอกอากาศ Sharp KC-60TA

1. โหมดกรองอากาศอย่างเดียว (Clean Air) : เป็นระบบที่ใช้เพื่อการกรองอากาศให้สะอาดบริสุทธิ์ อย่างเดียว ไม่เกี่ยวกับ น้ำ หรือ กระบวนการเพิ่มความชื้นในห้อง
2. โหมดกรองอากาศและรักษาระดับความชื้น (Clean Air & Humidify) : โหมดฟอกอากาศ และ ช่วยทำไอน้ำ รักษาระดับความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ โหมดนี้เคยใช้ในกรณีที่ทำอาหารเสร็จ มีกลิ่นอาหารเข้ามา หรือแม้แต่หากไม่ได้อยู่บ้าน หรือไม่ได้ทำความสะอาดเป็นเวลานาน เมื่อเข้ามาถึงห้องแล้วควรจะเป็นโหมดนี้ก่อนเลย เพื่อฟอกอากาศ ปรับระดับความชื้น (Humidity) ในห้อง
3. โหมดปล่อยไอออน (Clean ION Shower) : โหมดนี้จะเป็นการปล่อย พลาสม่าคลัสเตอร์ไอออน (Plasmacluster IONs) ที่มีความเข้มข้นสูงสุด และ มีลมแรงออกมาประมาณ 60 นาที (1 ชั่วโมง) และหลังจากนั้นก็จะกลับไปเงียบ เดินเบา แบบแทบจะไม่ได้ยินเสียงการทำงานของเครื่องเลยแม้แต่น้อย ตัวนี้ผมจะใช้โหมดนี้ทุกคืนก่อนนอน โดยจะเปิดเครื่องทิ้งเอาไว้ก่อนนอนสัก 1 ชั่วโมง เพื่อเป็นการทำความสะอาด ฟอกอากาศ ในห้องให้สะอาดก่อนนอน หรือ เอาไว้ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ได้เช่นกัน

ปุ่มกดเสริม เครื่องฟอกอากาศ Sharp KC-60TA

ส่วนปุ่มอื่นๆ อีก 6 ปุ่ม เป็นออปชั่นเสริม ที่ผู้ใช้งาน สามารถเอาไว้ให้เลือกใช้งานได้ ในกรณีต่างๆ ก็มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. ปุ่มรูปหลอดไฟ (Light Control Button) : ใช้ปรับระดับความสว่าง ของแผงควบคุม ไฟต่างๆ บนเครื่อง ซึ่งมีทั้งหมด 3 ระดับคือ สว่างที่สุด สว่างปานกลาง และ มืดซึ่งแบบหลังเหลือแต่ไฟแจ้งสถานะ
2. ปุ่มรีเซ็ต (Filter Reset – Press 3 Sec.) : ปุ่มนี้ใช้เพื่อทำการรีเซ็ตแผ่นกรอง หากกรณีเกิดไฟสัญญาณแสดงเป็นสีแดงขึ้นมาบนแผงควบคุม
3. ปุ่มเปิด-ปิด พลาสม่าคลัสเตอร์ไอออน (Plasmacluster ION) : ปุ่มนี้ใช้เปิดปิดระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ ระบบสร้างอากาศไอบริสุทธิ์ของ สิทธิบัตรเฉพาะสำหรับ เครื่องฟอกอากาศ Sharp เท่านั้น
4. ปุ่มป้องกันเด็ก (Child Lock) : สามารถล็อคการทำงาน ทุกฟังก์ชั่นของเครื่องฟอกอากาศนี้ให้เป็นค่าเดิมได้ตลอดเวลา โดยการกดปุ่ม “CHILD LOCK” ค้างเอาไว้ประมาณ 3 วินาที เพื่อป้องกันเด็กเล็กมากดปุ่มเล่น
5. ปุ่มปรับความเร็วพัดลม (Fan Speed) : สามารถเลือกปรับระดับความเร็วของพัดลม เครื่องฟอกอากาศ ที่ต้องการได้ทั้งหมด 5 รูปแบบ (3 ระดับ) เรียงตามลำดับคือ
   1. อัตโนมัติ (ขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ของกาศ ที่ตัวเซ็นเซอร์)
   2. ละอองเกสร (พัดลมจะหมดที่ความเร็วสูง ตอนแรก 10 นาที จากนั้นจะทำงานสลับกันระหว่าง ระดับปานกลาง กับ ความเร็วสูงไปเรื่อยๆ ครั้งละ 20 นาที)
   3. ความเร็วสูงสุด
   4. ความเร็วปานกลาง
   5. ความเร็วต่ำ
6. สวิตซ์ปิดเครื่อง (Switch Off Button) : หลังการกดปุ่มปิดเครื่องตัวนี้จะมีเสียง ตี๊ด ดังค้างอยู่ประมาณ 1 วินาที พร้อมระบบการทำงานต่างๆ ของเครื่องจะหยุด และดับลง

อีกคำถามที่ผู้ใช้งานคงอยากจะทราบว่า แล้วเปิดเครื่องยังไงละ ? คำตอบคือ สามารถเปิดเครื่องโดยกดที่ปุ่มโหมดการทำงาน 3 โหมดหลักๆ ที่กล่าวเอาไว้ด้านบน ของมันได้เลย เพื่อเป็นการเปิดการทำงานของเครื่อง

แผ่นกรองอากาศ หรือ ไว้กรอง เครื่องฟอกอากาศ มีอายุนานเท่าใด ?

ก่อนหน้านี้ เมื่อใช้มาได้ระยะเวลาสัก 1 ปี เคยโทรไปหาศูนย์บริการของชาร์ป ถามว่า เครื่องฟอกอากาศ Sharp ตัวนี้ แผ่นกรองอากาศ มีความจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแล้วหรือยัง มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ อย่างไร ซื้อได้ที่ไหน ทางศูนย์บริการบอกมาว่า มันมีอายุได้เป็น 10 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพ และ สถานที่ ในการใช้งาน ก็เลยวางสายไป และไม่ได้สนใจอะไรต่อ

พอมารีวิวเครื่องนี้ เปิดดูข้อมูล ก็พบว่า ทั้งแผ่นกรอง HEPA แผ่นกรองกลิ่น และ แผ่นกรองไอน้า มีอายุการใช้งานสูงสุดถึง 10 ปี ซึ่งในส่วนของแผ่นกรองกลิ่น สามารถมาล้างน้ำสะอาดด้วยน้ำสะอาด เพื่อใช้งานซ้ำได้ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดตรงนี้ ได้อ้างอิงมาจากคู่มือการใช้งาน ที่ติดมากับเครื่องฟอกอากาศ

แต่มีข้อจำกัดอยู่นิดนึงว่า แผ่นกรองอากาศ HEPA ไม่สามารถล้างด้วยน้ำได้ ควรใช้ลมเป่า ทำความสะอาด มือเคาะๆ ตามความเหมาะสม ในขณะที่แผ่นกรองกลิ่น ควรล้างน้ำด้วยมือ หรือ เครื่องดูดฝุ่นเท่านั้น ห้ามนำเข้าเครื่องอบผ้า เสร็จแล้วนำแผ่นกรองอากาศไปตากแดด

จากภาพด้านบนเป็นคราบสิ่งสกปรก ที่ใช้คอตตอนบัด ล้วงเข้าไปทำความสะอาด ออกมาได้ ซึ่งมันคือ สิ่งสกปรกในน้ำปนกับคราบสกปรกในอากาศ มารวมกัน

ประสบการณ์ใช้งาน เครื่องฟอกอากาศ Sharp จริงๆ

ในส่วนของประสบการณ์การใช้งานตรงนี้ เป็นประสบการณ์ที่นับตั้งแต่ใช้งานมาตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2556 จนมาถึงวันที่เขียนรีวิวฉบับนี้คือเมื่อ เมษายน พ.ศ.2557 สนน ระยะเวลาทั้งสิ้น ประมาณ 1 ปี 2 เดือน โดยจะขอเขียนรายการแยกออกมาเป็นข้อๆ พร้อมจำแนก ข้อดี ข้อเสีย เลยดีกว่า เพื่อความชัดเจน และ ง่ายต่อการอ่านทำความเข้าใจ ของผู้อ่าน

ข้อดี เครื่องฟอกอากาศ Sharp KC-A60TA  🙂

• อากาศในห้องรู้สึกสดชื่นขึ้น ปกติจากเดิมที่ตื่นนอนขึ้นมาจะต้องมีคัดจมูก ไอ จาม หลังจากใช้งานเครื่องฟอกอากาศตัวนี้ อาการดังกล่าวน้อยลง ไปเยอะ (ยังมีอยู่บ้าง ไม่ได้หายขาด)
• สามารถกรองกลิ่นได้จริงๆ หากมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ไฟของระบบตรวจจับกลิ่นจะเปลี่ยนจากสีเขียว ไปเป็นสีแดง ซึ่งสามารถตรวจจับได้จริงๆ เวลาเอาของเหม็นๆ มีกลิ่น ใส่เครื่อง สีของไฟระบบตรวจจับกลิ่น จะเปลี่ยนไปทันที
• พัดลมของ เครื่องจะทำงานเร็วขึ้น แรงขึ้นอัตโนมัติ เมื่อมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา เพื่อกำจัดกลิ่นให้หมดไปโดยเร็วที่สุด
• ระบบตรวจจับฝุ่นละออง ก็สามารถใช้งานได้จริงๆ เช่น ลองเอาพรมเช็ดเท้า หรือผ้าที่มีฝุ่นละออง ต่างๆ มาลองสะบัดใกล้ๆ สีของระบบตรวจจับฝุ่นละออง ก็จะเปลี่ยนไปเป็นสีแดง ทันที
• ค่าแสดงความชื้นสัมพัทธ์ (Humidity) ในอากาศ แสดงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตรงนี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพราะบ้านเรา เป็นอากาศแบบร้อนชื้นอยู่แล้ว แต่ที่สังเกตุเห็นได้ชัดคือ หากในช่วงเวลาฝนตกค่าความชื้นสัมพัทธ์ จะขึ้นสูง เกิน 70 แต่หากหน้าร้อน อย่างช่วงที่รีวิวอยู่นี้ ค่าจะต่ำมาก
• หากมีความชื้นสัมพัทธ์ ที่ต่ำ สังเกตุเห็นว่าน้ำในถังเก็บน้ำจะลดลง หรือหมดไปภายในเวลาอันรวดเร็ว ยกตัวอย่างหน้าร้อน ช่วงเดือน มีนาคม ถึง เมษายน พ.ศ. 2557 น้ำหมดถังได้ในเวลา ประมาณ 3-5 วัน นั่นหมายความว่า มันใช้น้ำในถัง เพื่อเพิ่ม ความชื้นสัมพัทธ์ ให้กับห้องของเรา
• สามารถปรับความสว่างของแสงไฟบนเครื่องได้ 3 ระดับ เพราะหากเปิดตอนกลางคืน ในขณะที่ปิดไฟห้องหมด ไฟเครื่องจะสว่างมากๆ
• หากเป็นช่วงที่หน้าหนาว ตั้งแต่เดือน ธันวาคม พ.ศ.2556 ถึง มกราคม พ.ศ.2557 อากาศหนาว มีความชื้นสัมพัทธ์ น้ำในอากาศ ค่อนข้างมาก เวลาผ่านไป 2 อาทิตย์ น้ำในถังแทบจะยังไม่พร่องเลย
• แผ่นกรองอากาศมีอายุ นานมาก ได้สูงสุด 10 ปี จึงทำให้ค่าบำรุงรักษาเครื่องนี้ค่อนข้างต่ำ

ข้อเสีย เครื่องฟอกอากาศ Sharp KC-A60TA 🙁

• ไม่สามารถใช้กรองกลิ่นอาหารได้ เช่น ซื้อกับข้าว มามีแล้ว กลิ่นกระเทียม กลิ่นเครื่องเทศ ต่างๆ แต่เปิดเครื่องนี้ช่วย ก็ไม่สามารถช่วยได้ สุดท้ายก็ต้องเปิดประตู หน้าต่าง เพื่อช่วยระบายกลิ่นอยู่ดี
• ฝาปิดถังเก็บน้ำ ขนาด 4 ลิตร หากหมุนแน่นๆ ไม่ได้ มันจะไม่ได้ล็อคทันที แต่กลับกลายเป็นเกลียวหวาน ไปซะอย่างนั้น และต้องมาเริ่มหมุนใหม่ (ต้องรู้จังหวะดีๆ)
• ขอบยางกันน้ำบนฝาปิดถังเก็บน้ำ ชอบมีน้ำรั่ว เวลาคว่ำถึง เพื่อที่จะทำการติดตั้งใส่ลงในเครื่องฟอกอากาศ ดังนั้นจึงต้องเตรียมผ้าเช็ดน้ำ บนพื้นตลอดเวลา ตอนแรกๆ ไม่เป็น แต่ใช้ไปเรื่อยๆ เพิ่งจะมาเป็น
• หากใครใช้เครื่องฟอกอากาศนี้วางบนห้องที่เป็นพรม ระวังน้ำรั่ว ควรมีแผ่นไม้กระดาน หรือ กระเบื้อง มารองเครื่อง เพื่อป้องกันน้ำหกใส่พรม ในห้อง
• สีของวัสดุบางชิ้น ใช้ไปนานๆ สีเปลี่ยนจากสีขาว เป็นสีขาวเหลือง อาจจะเพราะด้วยความร้อน และ ความเก่าของวัสดุ
• ตัวเครื่องมีล้อเลื่อน 4 ล้อ แต่สามารถ เลื่อนได้เฉพาะแนวขวาง ไม่สามารถเคลื่อนได้แบบรอบทิศทาง และควรมีที่ล็อคล้อด้วย ที่ไม่ใช่แค่ฝาครอบล้อ (มีมาให้กับเครื่อง) เพราะหากต้องการล็อคล้อ จะต้องยกเครื่องขึ้นอีก

ข้อมูลจำเพาะ เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น KC-A60TA

ในส่วนตรงนี้ เป็นข้อมูลจำเพาะของ เครื่องฟอกอากาศ รุ่นนี้ ที่ได้คัดลอก หรือพูดตามภาษาชาวบ้านว่าก๊อปปี้ นำมาจากเว็บไซต์ของ sharpthai.co.th

สุดท้ายนี้ ก็หวังว่าบทความรีวิวฉบับนี้ คงจะเป็นประโยชน์ สำหรับผู้อ่านที่กำลังจะตัดสินใจซื้อเครื่องฟอกอากศดีๆ สักตัว ไม่มากก็น้อย เนื่องจากผมเองก็ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของชาร์ป เป็นแค่ลูกค้าคนหนึ่ง หากมีสิ่งใดผิดพลาดประการใด ในรีวิวฉบับนี้ ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ติชมได้เลย ตรงคอมเม้นต์ ด้านล่างนี้เลยครับผม 🙂