เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น Sharp
สวัสดีครับ กลับมา พบกับ รีวิวเครื่องใช้ไฟฟ้า คุณภาพ จากเว็บไซต์ Thanop.com อีกเช่นเคย โดยรีวิวนี้เป็น “เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น” หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า “Mattress Vacuum Cleaner” โดยอันที่ผมหยิบยกมารีวิวนี้เป็น เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น Sharp รุ่น EC-HX100 นั่นเอง ถือเป็นการบุกตลาดเครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น ตัวแรกของแบรนด์ชาร์ปนี้เลยก็ว่าได้ครับ
โดยยี่ห้อ Sharp นี้ขึ้นชื่อเรื่องของเทคโนโลยีสิทธิบัตรเฉพาะของทางเขาอยู่แล้ว ที่ชื่อว่า พลาสม่าคลัสเตอร์ (Plasmacluster) ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็เคยรีวิว เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น KC60 TA มาแล้ว เมื่อปีก่อน มาครั้งนี้มารีวิว เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น กันดูบ้าง ว่าเจ๋งอย่างไร มีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเจ้าเครื่องนี้ก็ยังพกเอาเทคโนโลยี Plasmacluster ให้มากับเครื่องนี้เช่นเคย
อันที่จริงแล้ว ก่อนหน้านี้ผมเองก็ไม่ค่อยรู้จักกับ เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น อะไรนี่สักเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าจะมีบริษัทขายเครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น พยายามติดต่อเข้ามาขอมาสาธิต ทดลอง ดูดกำจัดไรฝุ่นบนที่นอน กับอยู่บ้างเหมือนกัน (ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนๆ กันก็แนะนำต่อๆ กันมาอีกที) แต่ก็ปฏิเสธไปหมด เพราะไม่ได้สนใจ ให้ความสำคัญ และ ตระหนักถึงปัญหาของตัวไรฝุ่น หรือ ฝุ่นบนที่นอน นี่สักเท่าไหร่นัก แต่หารู้ไม่ว่า นี่คือต้นเหตุของโรคหลายๆ โรคที่เกี่ยวกับตัวเราเลยทีเดียว
หลังจากที่ได้ลองมาคิดทบทวนดูว่า ทุกวันนี้ ที่บ้านผมมี หุ่นยนต์ดูดฝุ่น คอยดูดฝุ่นบนพื้นทุกวัน แถมยังมี หุ่นยนต์ถูพื้น อีกด้วย แต่ว่าที่บนนอน สิ่งที่อยู่ใกล้ชิดติดกับตัวเรา ร่างกายเรา มากที่สุดตอนนอน (อย่างน้อยก็วันละ 6-8 ชั่วโมง) กลับไม่ได้รับการใส่ใจ ทำความสะอาดอะไรใดๆ เลย (เผลอๆ พื้นบ้านยังสะอาดกว่าที่นอนเสียอีก)
โดยในรีวิวนี้ได้ถูกแบ่งหัวข้อการรีวิวต่างๆ ตามเมนูด้านล่างนี้ เพื่อการเข้าถึงข้อมูลที่สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ลองเลยชมกันได้เลย
- ทำความรู้จักกับตัวไรฝุ่น (Mite) กันก่อน
- เทคโนโลยี Plasmacluster คืออะไร ?
- เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น Sharp ทางออก ของปัญหาไรฝุ่น บนที่นอน
- เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น Sharp ทำความสะอาดอะไรได้บ้าง ?
- แกะกล่องผลิตภัณฑ์
- ข้อมูลจำเพาะ ของผลิตภัณฑ์
- คุณสมบัติ และ ความสามารถของ เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น Sharp EC-HX100
- สำรวจส่วนประกอบของตัวเครื่อง
- เริ่มใช้งานเครื่องจริง
- บทสรุปการใช้งาน
ก่อนที่จะไปอ่านรีวิวแบบละเอียดยิบ ลองเสียเวลาเปิดคลิปสัก 10 นาที ดูคลิปที่ผมทำเอง อัดเองด้านล่างนี้ได้เลย
ทำความรู้จักกับตัวไรฝุ่น (Mite) กันก่อน
คุณสามารถทำความรู้จักกับ ตัวไรฝุ่น (Dust Mite) ให้มากกว่านี้ ว่ารูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ชอบสิงสถิต อยู่ที่ไหน และ อันตรายจากอยู่ใกล้ชิดตัวมันมากๆ ได้โดยการกดที่ลิงค์เชื่อมต่อด้านล่างนี้ได้เลย
⇒ ตัวไรฝุ่น (Dust Mite) คืออะไร ?
เทคโนโลยี Plasmacluster คืออะไร ?
คุณสามารถทำความรู้จักกับ เทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ไออน (Plasmacluster Ion Technology) ให้มากกว่านี้ ในส่วนของ หลักการการทำงาน ได้โดยกดที่ลิงค์เชื่อมต่อด้านล่างนี้ได้เลย
⇒ พลาสม่าคลัสเตอร์ (Plasmacluster Ion Technology) คืออะไร ?
เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น Sharp ทางออก ของปัญหาไรฝุ่น บนที่นอน
ที่จริงแล้ว “เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น” นั้นก็ไม่ได้ถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน (Home Applicances) ที่สุดแปลก หรือ พิเศษอะไรมากมายนัก ที่จริงนั้น มันมีจำหน่ายในบ้านเรากันมานานแล้ว หลายยี่ห้ออยู่เหมือนกัน แต่เท่าที่หาข้อมูลดูก็จะเป็นแบรนด์สินค้าจากแถบยุโรปเสียมากกว่า บ้างก็มีการใช้น้ำบ้าง ใช้ความร้อนบ้าง ใช้การสั่นสะเทือนบ้าง เพื่อใช้ในการให้ตัวไรฝุ่น เข้ามาติดอยู่ในเครื่องทำความสะอาด และ ราคาบางตัวเกินเอื้อมจริงๆ เฉียดๆ หลักแสนเลยก็ยังมี
ส่วนของทาง Sharp เอง นี่ถือเป็น เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น รุ่นแรกเลยที่ปล่อยออกมาสู่ตลาด ในราคาที่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ (หมื่นต้นๆ) อันที่จริงแล้ว ผมเองก็รู้จักสินค้าแบรนด์ Sharp ดีอยู่แล้ว เพราะมันมีผลงานโดดเด่นในส่วนของ เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) อยู่แล้ว และผมก็เป็นลูกค้าที่จงรักภักดีกับ Sharp คนนึง เลยก็ว่าได้
และผมก็เชื่อว่าหลายคนหากนึกถึงเครื่องฟอกอากาศ ก็จะนึกถึง เครื่องฟอกอากาศ Sharp นี่แหละ นอกจากนี้ยังมี เทคโนโลยีสิทธิบัตร Plasmacluster ที่ช่วยทำให้การทำความสะอาดที่นอน เตียงนอนของคุณนั้นสะอาดมากขึ้น ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมไปถึง ความอับชื้น ที่ฝังตัวอยู่บนที่นอนของคุณจางหายไปจากที่นอน
เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น Sharp ทำความสะอาดอะไรได้บ้าง ?
ตัว เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น ของ Sharp ตัวนี้นั้น จริงๆ แล้วไม่ได้สามารถทำความสามารถได้แค่เฉพาะเตียงนอนอย่างเดียว แต่มันสามารถทำความสะอาด เฟอร์นิเจอร์ทุกชนิด ที่เป็นขน มีรูเล็กๆ อย่างหมอน ผ้าห่ม เครื่องนอนต่างๆ ทุกชนิด รวมไปถึง ที่นั่ง เบาะผ้าในรถ โซฟาผ้า และอื่นๆ อีกมากมาย
แกะกล่อง เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น Sharp
ส่วนนี้เป็นส่วนของการ แกะกล่อง และ แสดงอุปกรณ์ภายในกล่องที่ให้ แต่ก่อนอื่นขอพามาดูกล่องผลิตภัณฑ์กันก่อนว่าทั้ง 4 ทิศ นั้นเขามีข้อมูลอะไรที่โดดเด่น น่าสนใจ มาให้ความรู้กับเราข้างกล่อง กันบ้างนะ
ด้านนอกกล่อง
ขอเริ่มกันที่ ด้านนอกของกล่องกันก่อน มาดูกันที่ด้านหน้าและด้านหลังของกล่องผลิตภัณฑ์ ก็จะสังเกตเห็นมีรูปตัวเครื่องจริงๆ ที่มีรูปทรงแปลกๆ (คนอื่นอาจจะว่าไม่แปลก แต่ผมว่าแปลกนะ) ป่องๆ กลมๆ มีด้ามจับอยู่ข้างหลัง เหมือนตัวอะไรสักอย่าง
ด้านบนเป็นโลโก้ยี่ห้อผลิตภัณฑ์ พร้อม ชื่อรุ่นอย่างเป็นทางการคือ รุ่น EC-HX100T-S เขียนชื่อภาษาอังกฤษว่า “Mattress Vacuum Cleaner” ซึ่งหากแปลเป็นภาษาไทยก็คือ “เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น” นั่นเอง
ในส่วนของมุมด้านขวาบน เป็นโลโก้ ไอออนพลาสม่าคลัสเตอร์ (ion Plasmacluster) ลักษณะคล้ายรูปพวงองุ่นนี่แหละ สิทธิบัตรเฉพาะของชาร์ป (ให้ดูรูปโลโก้กันเต็มๆ ตา)
และด้านมุมซ้ายล่าง ก็มีรูป ตัวไรฝุ่น (Mite) หน้าตาน่ารัก ฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้ง (ซึ่งตัวจริงของมันก็ไม่ได้น่ารักแบบนี้) มาให้ดูกันอีกด้วย พร้อมเขียนว่า Mite Catcher หรือตัวดักจับตัวไรฝุ่นนี่เอง
สรุปข้อมูล ด้านหน้ากล่อง กัน ด้านหลังกล่อง ข้อมูลจะเหมือนกัน ทุกอย่าง ต่างกันที่สีพื้นหลัง ขาว กับ ดำเท่านั้นเอง
คราวนี้ลองมาดูด้านซ้ายและขวากันดูบ้าง ข้อมูลที่ได้มาก็จะแตกต่างกันออกไปละนะ ลองมาดูทางด้านซ้ายกันก่อนเลย
องค์ประกอบด้านซ้ายของกล่องนั้น ก็ยังคล้ายๆ ด้านหน้ากับด้านหลัง เหมือนเดิม เพียงแต่มุมมองรูปนั้น ที่เห็นแปลกตาออกไปอีกก็คือ มันถ่ายรูปแบบหน้าตรง (เหมือนรูปติดบัตรคนเรา) ในขณะที่ตัวเครื่องกำลังถูกว่าอยู่บนขาตั้ง (Stand) ของเครื่องนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมี ข้อมูลเสริมด้านซ้ายมือว่า สามารถรองรับไฟ ได้ที่ 220-240V เท่านั้น นั่นหมายความว่าคุณไม่สามารถเอาเจ้าเครื่องนี้แบกไปใช้ต่างประเทศ ที่เขาใช้ไฟ 110V ได้นะ ระวังจะเสียหายเอา ถ้าเกิดว่าแบกไปใช้ต่างประเทศ ต้องศึกษาดีๆ ก่อนนำไปใช้ต่างประเทศนะ (รายชื่อประเทศทั่วโลก ที่ใช้กำลังไฟ ในระดับต่างๆ จาก Wikipedia.com)
ด้านล่างของกล่องเป็นแถบบาร์โค้ด (Barcode) อะไรไม่ทราบ พร้อมเขียนข้างล่างว่า Sharp Corporation, Japan และ Made in China ทำให้ผมทราบทันทีเลยว่า เครื่องนี้ผลิตจากประเทศจีน (China) นั่นเอง แต่ก็ไม่ต้องหวั่นใจอะไรครับ เพราะจะทำที่ไหน ทาง Sharp เองเขามีนโยบายการควบคุมคุณภาพสินค้า (Product Quality Control) ที่ดีและเป็นเลิศอยู่แล้ว ผลิตที่ไหนคุณภาพดีเหมือนกันแน่นอน
ในส่วนของด้านขวากล่องนั้น ลักษณะเหมือนด้านซ้าย แต่เพิ่มข้อมูลความสามารถแบบจัดเต็ม ชนิดที่เรียกว่า ไม่ต้องดูรูปสัญลักษณ์ประกอบ แล้วมโนเอาเอง ซึ่งคำอธิบายมาให้พอสมควรเหมือนกัน
และเมื่อแกะเปิดฝากล่องด้านบนออกมาแล้ว หน้าตาก่อนจะดึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีอยู่ในกล่องออกมานั้น ก็มีหน้าประมาณนี้เลย
จะเห็นว่าเมื่อเปิดฝากล่องออกมาแล้ว จะพบกับสายไฟม้วนยาวๆ อยู่ ซึ่งเขาจัดเต็มมาให้ถึง 5 เมตรเลยทีเดียว (ดูไม่ผิดหรอกครับ 5 เมตร !!) พอสำหรับให้คุณได้สามารถเดินวนรอบๆ เตียงได้เลยทีเดียว และที่สำคัญคือสายไฟนี้จะถูกติดกับตัวเครื่องเลย ไม่ต้องมีอะแดปเตอร์ คอยแปลงไฟให้น้อยลง เพราะมันกินไฟเยอะนั่นเอง
อุปกรณ์ภายในกล่อง
ลองมาดูส่วนประกอบ อุปกรณ์สำคัญ ทั้งหมด 4 อย่าง ที่ทาง Sharp เขาใส่เข้ามาให้คุณในกล่องผลิตภัณฑ์ มาดูกันเลย
- Machine Stand (ขาตั้งเครื่อง) : รูปทรงแปลกๆ ลักษณะเหมือนฐานปล่อยจรวดอะไรสักอย่าง เล่นเอาผมงงอยู่แป๊บนึง แล้วก็หายงง อ๋อ มันคือขาตั้งเครื่องนี่เอง เอาไว้ใช้วางเครื่องหลังการใช้งาน นอกจากนี้ด้านหลังของขาตั้ง ยังสามารถเก็บสายไฟขนาด 5 เมตร ที่ติดมากับตัวเครื่องให้เป็นระเบียบเรียบร้อยได้อีกด้วยนะ
- Sharp EC-HX100 (ตัวเครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น) : พระเอกของงาน ตัวเครื่อง เป็นเครื่องที่มีน้ำหนักเบา เพียง 2.7 กิโลกรัม เท่านั้น แต่ถ้าใครที่คิดว่ายังหนักอยู่ ก็ไม่ต้องห่วง เพราะขณะใช้งาน แค่เลื่อนไปเลื่อนมาเท่านั้น แถมยังมีล้อเลื่อนด้านล่าง ช่วยทุ่นแรงอีกด้วย
- User Manual (คู่มือการใช้งาน) : คู่มือการใช้งานจำนวน 12 หน้า ถือว่าอธิบายการใช้งานต่างๆ ได้อย่างละเอียดยิบเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นส่วนของการ
- ให้คำแนะนำเพื่อความปลอดภัย
- ชื่อเรียกส่วนต่างๆ ของตัวเครื่อง
- วิธีการใช้งาน
- วิธีการเทฝุ่นออกจากตัวเครื่อง
- วิธีการดูแลรักษา
- วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น
- Warranty Card (บัตรรับประกันเครื่อง) : ใบรับประกันเครื่อง ที่สามารถใช้ได้เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น ของ บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด เป็นระยะเวลา 1 ปี พร้อมบอกหมายเลขเฉพาะของเครื่อง (Serial Number) รวมไปถึงชื่อรุ่นอย่างเป็นทางการ นั่นก็คือ รุ่น EX-HX100T-S นั่นเอง
ข้อมูลจำเพาะ เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น Sharp EC-HX100
ก่อนที่จะไปใกล้ชิดกับตัว เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น Sharp ตัวนี้นั้นผมขอพามาดูตัวข้อมูลจำเพาะ (Specifications) กันก่อนนะครับ
รายละเอียด (Specification) |
|
ขนาดมิติ (Dimension) |
304 (กว้าง) x 405 (ยาว) x 254 (สูง) มิลลิเมตร (mm.) |
น้ำหนัก (Weight) |
2.7 กิโลกรัม (KG.) |
ไฟเข้า (Input) |
AC 220-240V 50/60 Hz |
ไฟออก (Output) |
N/A (ไม่มีอะแดปเตอร์แปลงไฟ) |
อัตราการกินไฟ (Power Consumption) |
720 วัตต์ (Watts) |
ความยาวสายไฟ (Power Cable Length) |
5.0 เมตร (Meters) |
ระดับเสียง (Noise Level) |
76 เดซิเบล (dB.) (วัดระยะใกล้ชิดตัวเครื่อง เพราะเวลาเครื่องทำงาน ผู้ใช้ต้องขยับเครื่องไปด้วย) |
ขนาดถังดักฝุ่น (Dustbin Capacity) |
0.6 ลิตร (600 mL) |
คุณสมบัติ และ ความสามารถของ Sharp EC-HX100
ส่วนนี้จะกล่าวถึง คุณสมบัติ และ ความสามารถหลัก ของมันโดย ผมขอเอาข้อมูลประกอบที่อยู่ด้านข้างกล่อง มาเขียนบรรยายเป็นภาษาไทย เพื่อให้ทุกท่านเข้าใจง่ายๆ กันตรงนี้เลยนะ
- Heat Cyclone (พลังดูดสูงมาก) : ใช้ระบบดูดฝุ่นแรงดันสูง แบบไซโคลน ลมหมุนติ้ว ทำให้ตัวไรฝุ่น หรือ ฝุ่นที่มีขนาดอนุภาคเล็กๆ (Small Particles) นั้นสามารถถูกดูดขึ้นมาเก็บบนตัวเครื่องได้ง่ายๆ และสะอาดหมดจดจริงๆ
- Powerful Vibrating Brush (ใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น) : ใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น ทรงเกลียว ข้างในมีแปรง 2 ชนิดแบบคอมโบ้ คือแปรงขน และ แปรงพลาสติก ทำจากโลหะ แข็งแรง ไม่ต้องกลัวหัก ไม่ว่าจะฝุ่นเล็กใหญ่หน้าไหนก็ตาม เสร็จใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น ตัวนี้หมดแน่นอน และ ว่ากันว่า ขณะมันทำงานนั้น ใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น ตัวนี้จะทำงานด้วยความเร็วสูงสุดถึง 6,000 รอบ/นาที เลยทีเดียว(ปกติเวลาทำงาน ความเร็วรอบใบพัด จะอยู่ระหว่าง 4,000 – 6,000 รอบ / นาที)
- Heated Air-Stream and Plasmacluster ions (ผสมผสาน ลมร้อน และ เทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์) : ปล่อยลมร้อน ที่ถูกผลิตจากตัวเครื่องเอง เพื่อใช้ในการฆ่าเชื้อโรค และ ยังช่วยในการขจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ (Unpleasant Odour) บนเตียง และเครื่องนอนต่างๆ อาทิ ที่นอน หมอนหนุน หนอมข้าง ผ้าห่ม ตุ๊กตาบนเตียง และอื่นๆ อีกมากมาย โดยมันจะปล่อยลมร้อนจากใต้เครื่องที่ อุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียสไปที่ตัวไรฝุ่นบนที่นอนเพื่อให้ตัวไรฝุ่นปล่อยขาที่ยึดเกาะออกจากที่นอน หรือ พื้นผิว ต่างๆ
- Easy Cleaning (ทำความสะอาดง่าย) : ชุดถังดักฝุ่น สามารถถอดไปล้างทำความสะอาดได้ง่าย ทั้งตัวถังดักฝุ่นเอง และ ไส้กรองฟิลเตอร์ แต่อาจจะมีหลายชิ้นที่ต้องถอดประกอบ
- Lightweight (น้ำหนักเบา) : ตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียม ทำให้มีน้ำหนักเบา เพียงแค่ 2.7 กิโลกรัม (KG.) ซึ่งเป็นน้ำหนักที่รวมสายไฟความยาว 5 เมตร แล้วด้วย พร้อมล้อเลื่อน เล็กๆ 3 ตำแหน่ง ใต้เครื่อง ทำให้วางมันไว้บนเตียง แล้วเลื่อนไปเลื่อนมาได้เลยตามใจชอบ ไม่ต้องยกแล้ววางหลายๆ ทีให้เมื่อย และ เสียเวลา
สำรวจเครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น Sharp EC-HX100
หลังจากที่เราได้เห็นอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีมาให้ในกล่องผลิตภัณฑ์ ในหัวข้อก่อนหน้านี้กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลองมาสำรวจดูที่ตัวไฮไลท์ ที่ถือว่าเป็นพระเอกสำคัญกันดีกว่า นั่นคือตัวเครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น นั่นเอง
ด้านบน เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น Sharp
ด้านบนเป็นภาพหน้าตาหล่อๆ ของเครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น Sharp สังเกตดูว่าถังดักฝุ่นจะถูกเก็บอยู่ด้านหน้าใสๆ เลย ให้ดูกันสดๆ ว่ามีฝุ่นเข้ามาในเครื่องจริงหรือเปล่า ดูจริงเห็นฝุ่นจริง ไม่ได้โม้
ด้านล่างนี้ลองมาให้ดูมุมมองของตัวเครื่องหลายๆ ด้านบ้าง ข้างหลังก็คือด้ามจับ ให้คุณได้สามารถเลื่อนไปเลื่อนมาได้ แถมด้านใต้เครื่องยังมีล้อรับน้ำหนัก 3 ตำแหน่ง เพื่อลดการเสียดสี ระหว่างตัวเครื่องกับที่นอน เฟอร์นิเจอร์ แถมยังไม่ต้องออกแรงเยอะอีกด้วย เรียกได้ว่า “คนแก่ใช้ดี สตรีมีครรภ์ใช้ได้” อีกด้วยละ
และในส่วนของด้านหลัง ของตัวเครื่อง ก็จะมีปุ่ม ควบคุมการใช้งานอยู่ 2 ปุ่ม ได้แก่ “ปุ่ม AUTO UP/DOWN” เพื่อสั่งเปิดเครื่อง ให้เครื่องเริ่มทำงาน และ “ปุ่ม OFF” เพื่อปิดหรือหยุดการทำงานของเครื่อง
หากลองสังเกตดูดีๆ จะพบว่า ด้านบนของปุ่มเปิดเครื่อง (ปุ่ม AUTO UP/DOWN) นั้นจะยังมีไฟที่เขียนว่า “FILTER CARE” แสดงปรากฏอยู่ หากไฟสีแดงนี้กระพริบเร็วๆ รัวๆ แล้วละก็สามารถตีความได้ 3 สาเหตุด้วยกันได้แก่
- เมื่อตัวเครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น เกิดความร้อนสูง
- เมื่อใช้เครื่องในการดูดผงฝุ่นที่ละเอียดมากๆ
- เมื่อต้องทำความสะอาดถังดักฝุ่น และ ไส้กรองฟิลเตอร์
หมายเหตุ : หากยังฝืนทำงานต่อไปโดยไม่ทำความสะอาด หรือ กดปุ่มหยุด เพื่อความปลอดภัยนั้น ตัวเครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น ตัวนี้จะหยุดการทำงานโดยอัตโนมัติ ดังนั้นจึงแนะนำให้ควรทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ
ด้านล่าง เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น Sharp
มาดูที่ส่วนประกอบของ เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น Sharp ด้านล่างกันดูบ้าง ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
ด้านล่าง หากดูด้วยมุมนี้ ส่วนประกอบของมัน เรียกได้ว่า หากไม่พลิกตัวเครื่องกลับมาด้านบนนี่ ผมจะเข้าใจว่ามันคือ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น โดยทันที (เหมือนมากๆ) และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราลองมาไล่ดูตามหมายเลขกันเลยดีกว่าจ้า
- Main Brush (ใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น) : ส่วนประกอบสำคัญที่สุดของตัวเครื่อง เพราะหน้าที่ของมันคือ ทำหน้าที่นำพาฝุ่นที่อยู่บนพื้นผิวของที่นอน หรือ เฟอร์นิเจอร์ ต่างๆ เข้าไปเก็บอยู่ในถังดักฝุ่นด้านบนนั่นเอง
- Optical Sensor (เซ็นเซอร์ออปติคอล) : เอาไว้ตรวจจับว่าตัวเครื่องสัมผัสกับพื้นผิวของที่นอน หรือ เฟอร์นิเจอร์ ต่างๆ อยู่หรือไม่ เพราะว่าถ้าหากยกตัวเครื่องให้ลอยขึ้นมาเหนือพื้นผิว ตัวใบพัดแผ่นยางตีฝุ่นจะหยุดการทำงานลงทันที เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ เช่นการเอานิ้วแหย่ เข้าไปด้านในตัว ใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น ซึ่งตัวแกนของมันเป็นโลหะแข็ง หากไม่หยุดการทำงานจะค่อนข้างอันตรายมากๆ เลยทีเดียว
- Wheel (ชุดล้อเลื่อน) : ล้อเลื่อนพลาสติกขนาดเล็ก 3 ชุด ได้แก่ข้างหน้า 1 ชุด และ ข้างหลังอีก 2 ชุด (นึกถึงการจัดวางตำแหน่งอย่าง รถ 3 ล้อ อย่างตุ๊กตุ๊ก)
- Main Brush Cover Unlocker (ที่ล็อคฝาครอบใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น) : มี 2 ตำแหน่งซ้ายขวา เมื่อดันขึ้น ฝาครอบของ ใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น (Main Brush) ก็จะสามารถเปิดออกมา ดึงขึ้น และถอด ใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น ไปทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาด ได้โดยทันที
- Heated-Air Flow (ช่องระบายลมร้อน) : ช่องระบายลมร้อน ออกจากตัวเครื่องลงมาบนพื้นผิว สาเหตุที่ต้องใช้ลมร้อนช่วยก็เพราะว่า จะช่วยให้ ตัวไรฝุ่นปล่อยขาที่ยึดเกาะออกจากที่นอน หรือพื้นผิว และให้ตัวใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น ดูดเข้าไปอีกทีหนึ่งและถ้าหากมองทะลุผ่านช่องระบายลมร้อนนี้เข้าไปแล้ว ก็จะพบกับฟิลเตอร์สีน้ำเงินที่อยู่ด้านในอีกทีหนึ่ง ซึ่งทาง Sharp เขาบอกว่า ฟิลเตอร์นี้ไม่ต้องการการดูแลรักษา ดังนั้นจึงไม่สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดอะไรใดๆ ได้
รุ่นใหม่แกะกล่องจริงๆ เพราะเครื่องนี้ผลิตในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 2015 ตามตัวเลขที่ระบุเอาไว้คือ 10/15 นั่นเอง
ถังดักฝุ่น เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น Sharp
อีกส่วนประกอบที่สำคัญมากๆ ของตัวเครื่องคือ ถังดักฝุ่น หรือ Dustbin ขนาดความจุ 0.1 ลิตร ก็ไม่ถือว่าเยอะมาก แต่ก็เพียงพอต่อความต้องการสำหรับใช้แค่เฉพาะบนที่นอน หรือ เฟอร์นิเจอร์ ต่างๆ แล้ว
สำหรับ ถังดูดฝุ่น ของ เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น Sharp EC-HX100 นี้ ผมถือว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่ผมคิดว่ามันซับซ้อนอยู่พอสมควร ในการถอดประกอบ และ เอามันออกมาทำความสะอาด เพราะในกล่องนี้มีหลายชิ้นมากๆ (ประมาณ 5 ชิ้น) ที่สามารถดึงออกมาทำความสะอาดได้ เห็นทรงกลมเล็กๆ แบบนี้นี่ซับซ้อนเอาการอยู่เหมือนกัน
แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ คู่มือการใช้งาน (User Manual) มีบอกวิธีเอาไว้แล้วอย่างละเอียด ลองฝึกทำครั้งสองครั้งก็ชินแล้ว ทีนี้เราลองมาดู ถังดักฝุ่นในมุมอื่นๆ กันดูบ้างนะ
ความคิดเห็นส่วนตัว
ข้อดีของรุ่นนี้คือมีฉลากแปะที่อุปกรณ์ เพื่อให้คำแนะนำวิธีการใช้งาน คำเตือนต่างๆ อย่างชัดเจน เป็นภาษาไทย ยกตัวอย่างเช่น ถังดักฝุ่นด้านบน เป็นต้น
ใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น
สำหรับอุปกรณ์อีกชนิดที่เรียกว่า ใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น ทรงเกลียว จากรูปถ่ายด้านล่างคือ มันมีความยาวประมาณ 15 เซนติเมตร (cm.) หากสังเกตดูดีๆ จะเป็นแปรงที่มีทั้งขน และ พลาสติก ทำให้การดูดนั้นหลากหลายมากยิ่งขึ้น ผสมผสานกับความเร็วรอบต่อนาที rpm ย่อมาจากคำว่า “Revolution per Minute” ของมันที่อยู่ระหว่าง 4,000 – 6,000 รอบ ด้วยแล้ว ทำให้การดูดฝุ่น ดูดตัวไรฝุ่น นั้นสามารถทำได้อย่าง หมดจดอย่างแน่นอน
นอกจากนี้แล้ว ตรงแกนกลางของใบพัดนั้น ผลิตทำจากโลหะ ซึ่งแข็งแรงมากๆ ทำให้ รอบรับแรงหมุนมหาศาล หลายพันรอบต่อนาที ได้เป็นอย่างดี ทนทานมากๆ ไม่ต้องกลัวหักงอ เลยทีเดียว
ด้านการติดตั้ง ใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น ก็ต้องแกะที่ล็อคฝาครอบ ใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น ออกมาเสียก่อน เมื่อถอดฝาครอบออกมา ก็จะพบกับตรงใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น ติดอยู่กับสายพานขนาดเล็ก ที่เป็นตัวส่งกำลังให้ใบพัดหมุนทำงาน
จากภาพใต้เครื่องด้านบน สังเกตว่าผมได้เอา ใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น ออกไปจากตัวเครื่อง พร้อมระบุหมายเลข
- สายพานส่งกำลัง จากมอเตอร์กำลังสูง ส่งเข้ามาที่ใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น
- ช่องฝุ่นเข้า จากใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น เข้าไปเก็บในถังดักฝุ่น ด้านบน
ขาตั้งเครื่อง
ขาตั้งเครื่อง (Stand) จัดเป็นออปชั่นเสริม ที่ทางบริษัทผู้ผลิต อย่าง Sharp เขาให้ติดไม้ติดมือมาในกล่องด้วย เพื่อเอาไว้เก็บตัวเครื่องให้เป็นที่เป็นทาง ประหยัดพื้นที่ใช้สอยในห้องคุณไปได้อีกเยอะ และ แถมยังช่วยเก็บสายไฟ ความยาว 5 เมตร ให้เป็นระเบียบ ไม่วางเกะกะ วางกองอยู่บนพื้น ลองมาดูกันชัดๆ อีกมุมนึงนะ
และเมื่อใช้งานเสร็จ เวลาเราเอาตัวเครื่องเข้ามาวางเก็บบนขาตั้งนั้น ก็จะออกมาเป็นรูปแบบลักษณะนี้ สายไฟก็จะเก็บอยู่ด้านหลังตรงช่องเก็บสายไฟ ถือว่าเป็นการดีไซน์ออกแบบออกมาเยี่ยมมากๆ เลยทีเดียว ขอชื่นชม ตรงจุดนี้
เริ่มใช้งานจริง เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น Sharp EC-HX100
คราวนี้ก็มาถึงเวลาเปิดใช้งานตัว เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น Sharp EC-HX100 กันแล้วนะครับว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง
เริ่มแรกเสียบเครื่อง เข้ากับเต้าเสียบปลั๊กไฟกับไฟบ้าน (เครื่องนี้ไม่มีอะแดปเตอร์แปลงไฟนะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปหามันว่ามีหรือเปล่า เขาลืมให้มาหรือเปล่า)
หลังจากนั้นก็กดปุ่มเปิดเครื่อง โดยกดที่ “ปุ่ม AUTO UP/DOWN” ตัวเครื่องก็จะเปิดดังขึ้นมา แต่ทีนี้มันจะต้องมีการวอร์มเครื่อง หรือ อุ่นเครื่องเสียก่อน เพื่อให้ได้ลมร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุด ในการดูดกำจัดตัวไรฝุ่น ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นั่นเอง
ดังนั้น เพื่อให้งานเครื่องนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณต้องรอให้ไฟที่แสดงบนตัวเครื่อง จาก ไฟสีส้มกระพริบช้าๆ ให้กลายเป็น ไฟสีส้มสว่างนิ่ง กันเสียก่อน ถึงควรจะเริ่มทำการดูดไรฝุ่นบนเตียง บนที่นอน ได้
และเมื่อเปิดอุ่นเครื่องไปได้สักพัก ไฟสีส้มที่กระพริบช้าๆ จะกลายเป็น ไฟสีส้มสว่างนิ่ง นั่นหมายความว่า ตัวเครื่องพร้อมใช้งานอย่างเต็มรูปแบบแล้ว เพราะมันสามารถผลิตลมร้อน ในระดับที่สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ออกมา เตรียมพร้อมกำจัดตัวไรฝุ่น บนเตียงนอนของคุณแล้ว
โดยปกติแล้ว เครื่องนี้จะ สามารถปรับระดับความแรงของใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น แบบอัตโนมัติอยู่แล้ว เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นผิวที่กำลังทำความสะอาดอยู่ ดังนั้นไม่ต้องไปสนใจ ว่าเดี๋ยวทำไมเสียงค่อยลง หรือ เสียงเครื่องดังขั้น
หมายเหตุ : แต่ถ้า ไฟสีส้มกระพริบเร็วๆ ละก็หมายความว่าเครื่องอาจจะทำงานหนักจนเกินไป มีอุณหภูมิสูง หรือ เกิดการอุดตันของไส้กรอง ควรจะรีบหยุดเครื่อง และพักเครื่องทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาที จึงจะสามารถเปิดเริ่มต้นทำงานใหม่ได้
สำหรับระดับเสียงขณะใช้งานนั้น ผมเอามือถือไอโฟน 6 ที่ติดตั้ง แอพ LINE Tools เลือกเมนู “Sound Level Meter” ซึ่งเป็นเมนูที่เอาไว้ใช้ในการวัดระดับเสียง เข้าไปจ่อที่ตัวเครื่องขณะกำลังทำงานให้ใกล้ที่สุด เท่าที่จะทำได้ ก็พบว่ามีระดับเสียงอยู่ที่ประมาณ 75 dB. โดยเฉลี่ย (อาจจะมีสูงกว่า หรือต่ำกว่านิดหน่อย) ขึ้นอยู่กับระบบอัตโนมัติของมัน ที่ปรับระดับความแรงของลม และ ใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นผิวที่สัมผัสอยู่ นั่นเอง
หลังการใช้งาน
ผมใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง !! (ประมาณ 30 นาที) ในการดูดฝุ่นบนที่นอน และ เครื่องนอนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น หมอนทุกใบ ตุ๊กตาทุกตัว หมอนข้าง ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน แผ่นรองใต้ผ้าปูที่นอน และตัวที่นอน ในการดูด ผลลัพธ์ออกมาได้เป็นแบบนี้เลย
ทีนี้ลองมาดูหลังจากที่ใช้ไป 3 ครั้ง โดยไม่ได้เอาฝุ่นที่อยู่ในถังดักฝุ่น ไปทำความสะอาด กันบ้าง (แต่เป็นการดูด 3 ครั้ง ที่เป็นแบบ วันเว้นวันนะ รวมเป็น 6 วัน ไม่ได้ดูดทุกวันติดกัน) มาดูกันเลยว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ตามรูปข้างล่างนี้เลย
วิธีการทำความสะอาดถังดักฝุ่นนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องยาก หากลองถอดประกอบหลายๆ ครั้งนะ แต่ถ้าใช้ครั้งแรกๆ อาจจะงงๆ อยู่บ้าง เพราะมีหลายชิ้นเหลือเกิน (แต่อย่างไรก็ตาม ในคู่มือการใช้งาน มีบอกวิธี พร้อมรูปอธิบายประกอบชัดเจนอยู่แล้ว) และถ้าหากถอดชิ้นส่วนในกล่องจริงๆ นั้นจะมีส่วนประกอบย่อยอยู่ทั้งหมด 5 ชิ้นด้วยกัน
จากรูปประกอบด้านบน ชิ้นส่วน 4 ชิ้นด้านขวามือ สามารถล้างด้วยน้ำเปล่า น้ำสะอาด ได้ พร้อมเป่าหรือเช็ดให้แห้ง
แต่ถ้าเป็นตัวไส้กรองฟิลเตอร์ในถังดักฝุ่น ตัวกลมๆ สีน้ำเงิน ด้านซ้ายมือ โปรดอ่านคำแนะนำในการทำความสะอาดอุปกรณ์ชิ้นนี้ด้านล่างเลยครับ
ภาพด้านบนคือ รูปหลังผ่านการใช้งานมาแล้วหลายครั้งมากๆ ซึ่งการทำความสะอาดไส้กรองในถังดักฝุ่นตรงนี้ สามารถล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าได้ แต่ต้องพึ่งลมธรรมชาติให้แห้ง ประมาณ 12 ชั่วโมง (ต่างกันตามสภาพแวดล้อม และ ฤดูกาล) หรือ ใช้ไดร์เป่าผมแบบลมเย็นก็ได้ แต่ ไม่ควรใช้ลมร้อน และ ไม่ควรใช้แปรงขัดถูแรงๆ
เพราะว่าถ้าทำแบบนี้บ่อยๆ ไส้กรองจะเสียรูปทรง เปื่อย จนเป็นขุ่ยๆ และ นานเข้าก็จะฉีกขาด สุดท้าย ประสิทธิภาพการกรองอากาศลดน้อยลง ส่งผลให้อายุการใช้งานสั้นลง นั่นเอง
หมายเหตุเพิ่มเติม
หากมีกลิ่นไม่พึงประสงค์รุนแรง หรือ มีสิ่งสกปรกประเภทสารปนเปื้อนต่างๆ ให้นำไส้กรองอากาศ ไปแช่ในน้ำสะอาด 1 ลิตร ที่ผสมกับน้ำยาซักผ้าขาว 10 มล. ทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำเปล่าที่สะอาด
บทสรุปการใช้งาน เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น Sharp EC-HX100
หลังจากที่ใช้งานมาพักใหญ่ๆ ก็เกิดอาการหลงรักเจ้าเครื่องนี้ครับ เพราะว่าต่อให้ ผมลองทำความสะอาดถี่บ่อยแค่ไหน โดยผมทดลอง ทำความสะอาดเตียงนอน ที่นอน ทุกวัน นั้นมันก็ต้องมีฝุ่นมาให้เชยชมกันทุกครั้ง ไม่เว้นแต่ละวัน
ตอนแรกภรรยาผมบอกว่า เครื่องนี้ไม่เห็นจำเป็นเลย จริงๆ เอาเครื่องดูดฝุ่นธรรมดา ที่มีอยู่นั้นมาดูดบนเตียงแทนก็ได้ ผมก็พยายามอธิบายว่า เครื่องดูดฝุ่นก็เอาไว้ดูพื้น ดูดกำแพง ไม่ได้ถูกพัฒนามาเพื่อดูดไรฝุ่นบนที่นอนโดยเฉพาะ มันดูดได้ก็จริง แต่อาจจะไม่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เท่าที่ควร เหมือนคุณเอารถเก๋งธรรมดา มาบรรทุกของหนัก จริงอยู่ มันก็ใช้ได้จริง แต่ไม่เหมาะสม ถูกมั้ยครับ ?
พอหลังจากใช้งานไปสัก 2-3 ครั้ง เขาก็ชอบเหมือนกัน เพราะมันสามารถรับรู้ได้ถึงความ สะอาดจริงๆ มันมีลมร้อนออกมา กลิ่นอับชื้นบนที่นอนหายไป จริงๆ ผมคอนเฟิร์ม
และในแต่ละวันนั้น ปริมาณฝุ่นที่ดูดได้จะน้อยกว่าครั้งแรกตอนได้เครื่องมา (ก็แหงละ เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยดูด ไม่เคยสนใจเลย) คราวนี้ก่อนจากกัน ขอมาสรุป ข้อดี ข้อเสีย ให้ดูกันก่อนว่ามีอะไรที่ผมประทับใจกันบ้าง
ข้อดี 🙂
- ถังดักฝุ่น เป็นรูปทรงกระบอกใส ระหว่างดูด คุณก็จะเห็นผลลัพธ์แบบเรียลไทม์ทันที ว่ามีฝุ่นเข้ามาจริงๆ ทำให้มีกำลังใจในการดูดมากขึ้น (ใครไม่เป็นแต่ผมเป็น 55)
- มีเซ็นเซอร์ตรวจจับการสัมผัสพื้น เมื่อยกเครื่องขึ้น เหนือพื้นผิวสัมผัส ชุดใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น ก็จะหยุดทำงานทันที เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกันเด็กๆ ตัวเอง เพราะตัวใบพัดแผ่นยางตีฝุ่น เป็นโลหะค่อนข้างแข็งแรง หากเอานิ้วไปแหย่เต็มๆ ก็คงดูไม่จืดละ
- สามารถลดกลิ่นอับชื้นบนที่นอน ได้จริงๆ
- มีล้อเล็กๆ ช่วยพยุงเครื่อง 3 ตำแหน่ง โดยไม่ต้องเอาตัวเครื่องถูไปโดยตรงกับที่นอนลดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับที่นอน หรือ เฟอร์นิเจอร์ อันมีค่าของคุณ
- ไม่ต้องใช้น้ำ มาช่วยในการกำจัดไรฝุ่น ใช้เพียงแค่ และ ลมร้อน
- มีขาตั้ง (Stand) พร้อมที่เก็บสายไฟความยาว 5 เมตร ด้านหลัง ทำให้ไม่รกรุงรัง ระเกะระกะ ขณะเก็บรักษา
- สายไฟยาว 5 เมตร ทำให้การใช้งานทั่วถึง ทั้งเตียง แถมยังเหลือๆ อีกด้วย ไม่ต้องใช้สายไฟพ่วง ป้องกันการเกิดไฟฟ้าช็อตได้อีกต่างหาก
ข้อเสีย 🙁
- การถอดถังดักฝุ่นมาทำความสะอาด มีหลายชิ้น และ มีซอกมุม ต่างๆ มากเกินไป ทำให้ต้องอาศัยความชำนาญในการถอดประกอบ (ผมเองยังงงเต๊ก ไปอยู่หลายนาที) แต่หากนานเข้าก็คงจะชำนาญไปเอง
- ไม่มีแบตเตอรี่ ไม่สามารถพกพาไปดูในที่ที่มีไฟได้
- เสียงเครื่องค่อนข้างดัง ในระดับที่ดังเกิน 70 เดซิเบล (db.) หากอยู่ที่พักอาศัยรวม อาทิ คอนโดมิเนียม หอพัก ไม่ควรใช้เวลากลางคืน เพราะจะรบกวน เพื่อนบ้าน ข้างๆ ห้องได้
หวังว่ารีวิวฉบับนี้ก็คงจะมีประโยชน์ให้กับผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อยเลยนะครับ หากสนใจจะซื้อก็สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป
สำหรับราคาตัวเครื่องนั้น ก็เห็นเขาว่าก็หมื่นต้นๆ ครับ ไม่แพงมากเป็นหลักแสน เหมือนสมัยก่อนแล้วนะ เพราะเดี๋ยวนี้การแข่งขันต่างๆ มันสูง สุดท้ายผลประโยชน์ก็มาตกอยู่อย่างเราๆ ท่านๆ ผู้บริโภคนี่แหละครับ ไว้พบกันใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ 🙂
แผ่นยางตีฝุ่นตีแล้วทำให้ฝุ่นฟุ้งในห้องไหมครับ?
ไม่นะครับผม เพราะตัวเครื่องมันมีพัดลมดูดแรงอยู่ครับ ฝุ่นจะถูกดูดเข้าเครื่องไปเลยครับ
ขอบคุณมาก ๆ ครับสำหรับรีวิวที่ละเอียดมาก ๆ ^^
ราคา
ราคาอยู่ประมาณ 10k-11k ครับ ไม่เกินหรือต่ำไปกว่านี้ครับผม หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปเลยครับ PowerMall PowerBuy ประมาณนี้ครับ