โปรแกรมแชท LINE PC
หายหน้าหายตากันไปนาน วันนี้กลับมาเขียนบทความเรื่อง เทรนด์แนวโน้มของ โปรแกรมแชท จากอดีตถึงปัจจุบัน มีเรื่องราวที่น่าสนใจมากๆ ในแต่ละยุคสมัยครับ
ผมเปิดเว็บ Thaiware.com มาแล้วกว่า 14 ปี (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1999) เห็นแนวโน้ม หรือเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของ โปรแกรมในหมวดหมู่ต่างๆ มานักต่อนัก สำหรับเทรนด์การ ดาวน์โหลดโปรแกรม หากโฟกัสลงไปที่ ประเภทของโปรแกรม (Program Category) ที่มาแรงสูงสุด และอยู่คู่กับคนไทยมาตลอดการเลยคือ โปรแกรมแชท (โปรแกรมพูดคุย) หรือที่ฝรั่งเรียกว่า IM (Instant Messaging Software) นั่นเอง สาเหตุอาจจะเป็นเพราะคนไทยชอบที่จะมีสังคม เพื่อนฝูงออนไลน์ ก็เป็นได้ครับ และเทรนด์ที่กำลังมาแรงที่สุดในช่วงปี ค.ศ. 2013 นี้คงจะหนีไม่พ้น LINE PC โปรแกรมแชทที่พวกเรารู้จักกันดีอย่าง LINE แต่คราวนี้มาในรูปแบบที่ใช้งาน เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (Desktop Computer) นั่นเอง (เค้าถึงเรียกว่า LINE PC) บทความนี้ผมจะมาอธิบายถึง แนวโน้ม ที่มาที่ไปของกระแส ความนิยมของโปรแกรมแชท ในยุคต่างๆ ให้อ่านกัน
พูดถึงแนวโน้ม โปรแกรมแชท บนเครื่อง PC (คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ) ไม่รวมมือถือ ตลอด 14 ปีที่ผ่านมา สามารถสรุปความฮิต ความแรง ความนิยม กว่าจะมาฮิตเป็น โปรแกรม LINE PC ได้มีที่มาที่ไปยังไง มาอ่านกันเลย
ค.ศ. 1999 – ค.ศ. 2002 (ยุคบุกเบิก โปรแกรมแชท ICQ โปรแกรมแชท ตราดอกไม้เขียว)
ปี ค.ศ. 1999 – ค.ศ. 2002 ณ ช่วงเวลานั้นต้องยกให้เค้าเลย โปรแกรม ICQ ที่มีที่มาจากคำว่า “I seek you” โปรแกรมพูดคุย ตราดอกไม้สีเขียว พร้อมกับ เสียงสัญลักษณ์เรียกเข้าที่ดัง “โอ๊ะโอ” ที่มีชื่อเสียง และ โด่งดัง ที่สุด ในสมัยนั้น ซึ่งในปี ค.ศ. 2001 มีผู้ใช้ลงทะเบียนเล่นทั่วโลกมากถึง 100 ล้านคน จากทั่วโลก (คิดดูว่า หากเทียบกับ จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในสมัยนั้น สูงมากๆ)
โปรแกรม ICQ ถูกพัฒนาแรกเริ่มมาจากชาวยิว (ประเทศอิสราเอล) โดยบริษัทชื่อ Mirabilis และจากนั้นถูกเข้าซื้อกิจการต่อโดยบริษัท America Online (AOL) ของประเทศสหรัฐอเมริกา และอีกไม่นาน ปี ค.ศ. 2010 ก็ถูกเข้าซื้อกิจการโดย Mail.ru Group. บริษัท ไอทียักษ์ใหญ่ของรัฐเซีย เรียกได้ว่า โปรแกรม ICQ ผ่านเจ้าของมา 3 บริษัท จาก 3 ประเทศ เท่ห์ไม่เบาเลยครับ และหากใครที่รู้จักโปรแกรมนี้คงจะปฏิเสธไม่ได้ ว่าคุณแก่แล้ว เอ๊ย มีประสบการณ์การใช้งานอินเทอร์เน็ต มาสูงพอสมควรแล้ว สาเหตุที่โปรแกรมนี้ห่างหายไปเพราะถูกเพราะโดนกระแสของ MSN เข้ามาแทนที่นี่เอง
ปี ค.ศ. 2003 – ค.ศ. 2009 (โปรแกรม MSN จากค่ายไมโครซอฟท์)
ปี ค.ศ. 2003 – ค.ศ. 2009 ยุคนี้ถือเป็นยุคทองของ โปรแกรม MSN Messenger โดยคำว่า MSN มาจากคำว่า Microsoft Network พัฒนาโดยบริษัท Microsoft จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 แต่ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ แต่สาเหตุ ที่โปรแกรมนี้แจ้งเกิดหนักๆ เพราะมาจาก ช่วงนั้นทาง Microsoft ที่ออกระบบปฏิบัติการใหม่ ชื่อ Windows XP ซึ่งได้แนบพ่วงเอาเจ้า โปรแกรม Windows Messenger เข้ามาด้วย แต่ความสามารถยังไม่เต็ม หากต้องการความสามารถเต็มๆ ผู้ใช้จึงต้องไป ดาวน์โหลด MSN Messenger จากเว็บไซต์ของ Microsoft มาประดับเครื่องด้วย เรียกได้ว่าคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง หากลงฟอแมต Windows ใหม่ จะต้องมี MSN Messenger ตามติดลงเครื่องมาด้วยเสมอ ในยุคนั้น ถือเป็นโปรแกรมที่รักษาแชมป์ โปรแกรม IM ได้นานที่สุด
หลังจากนั้นทาง Microsoft ก็เปลี่ยนชื่อ โปรแกรม MSN ไปเป็นชื่อ โปรแกรม Windows Live Messenger แต่ความสามารถก็ยังมีคล้ายๆ กันอยู่ และในภายหลังก็ได้ ถูกลดกระแสความนิยมเนื่องจาก มีโปรแกรมแชท อื่นๆ เข้ามาตีตลาดมากมาย ทั้งบนเครื่อง PC หรือ บนโทรศัพท์มือถือ หลังจากกระแสการใช้โทรศัพท์สมาร์โฟน และอิทธิพลจาก โปรแกรม IM ที่ผุดกระหน่ำขึ้นมาราวดอกเห็ดมากขึ้น ทาง Microsoft จึง ตัดสินใจปิดบริการ Windows Live Messenger (MSN เก่า) ไปในที่สุด โดยนำเอาชื่อบัญชีผู้ใช้ไปรวมกับ โปรแกรม Skype ในช่วงเดือนตุลาคมปี ค.ศ. 2012
แต่คำว่า MSN ก็สามารถสร้างวลีติดปากคำนึง สำหรับคนไทย นั่นคือคำว่า “ออนเอ็ม” แทนคำว่า เล่น หรือเปิดโปรแกรม MSN นั่นเอง
ปี ค.ศ. 2010 – ค.ศ. 2012 (รักน้อยๆ แต่รักนานๆ ของ โปรแกรม Skype)
ปี ค.ศ. 2010 – ค.ศ. 2012 พูดถึงช่วงหลัง ยุคนี้เริ่มมีโปรแกรม IM หรือ โปรแกรมแชท พัฒนาออกมามากมาย ทั้งบนเครื่อง PC และ บนโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน หรือแม้แต่บนแท็บเล็ต หากพูดถึงโปรแกรมแชท ที่เป็นที่นิยมทั้ง บนเครื่อง PC และ มือถือ หากไม่นับพวกแอพพลิเคชั่น ที่ใช้งานบน โทรศัพท์มือถืออย่างเดียวเช่น WhatApps Viber ฯลฯ เลยคงจะหนีไม่พ้น โปรแกรม Skype ที่พัฒนาโดยสามหนุ่มชาวเอสโตเนีย ทีมเดียวกับผู้พัฒนา โปรแกรม Kazaa โปรแกรมโหลดเพลงอันโด่งดังของโลก
โปรแกรม Skype มีผู้ใช้มากกว่า 600 ล้านคนทั่วโลก ด้วยสาเหตุ โปรแกรมเป็นทั้ง โปรแกรมแชท IM โปรแกรมโทรศัพท์ผ่านเน็ต โปรแกรมวีดีโอ และอื่นๆ เรียกได้ว่าครบเครื่องมากๆ โดยแรกเริ่ม Skype เริ่มจากการพัฒนา โปรแกรมบน PC ก่อน แต่ภายหลังที่มีกระแสสมาร์ทโฟน พร้อม แท็บเล็ต เข้ามาก็ได้ออกเวอร์ชั่นที่สามารถใช้งานได้บนมือถือทุก OS อีกด้วย
ภายหลัง โปรแกรม Skype ถูกเทคโอเวอร์ ซื้อกิจการโดยบริษัท Microsoft ในปี ค.ศ. 2011 ซึ่งสาเหตุน่าจะเกิดจากที่จำนวนผู้ใช้งาน Windows Live Messenger มีแนวโน้มว่ากระแสจะตกต่ำลงเรื่อยๆ คนหัน ไปใช้ โปรแกรมแชท บนโทรศัพท์มือถือมากขึ้น ซึ่งภายหลังจากการซื้อกิจการ ก็ได้มีการนำเอาชื่อบัญชีผู้ใช้ของ Windows Live Messenger ไปรวมเข้ากับ Skype ไปในที่สุด ดังนั้นไม่ต้องตกใจว่าทำไมเค้าถึงนำ บัญชีผู้ใช้ไปรวมกัน เพราะมีการซื้อกิจการนั่นเอง
ค.ศ. 2013 – ปัจจุบัน (LINE PC หากไม่มีแผ่นดินไหว คงไม่มี โปรแกรมแชท ตัวนี้)
ปี ค.ศ. 2013 – ปัจจุบัน : ปีนี้ถือเป็นปีทองของ โปรแกรม LINE โปรแกรมแชทยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น ที่มีแรงบันดาลใจในการพัฒนามาจาก เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เมืองมิยะงิ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2011 ที่อยากให้คนญี่ปุ่น ติดต่อสื่อสารกันได้อย่างคล่องแคล่ว ว่องไว รวดเร็ว ในบนทุกแพลตฟอร์ม ทุกเครื่องอย่างบนเครื่อง PC และบนโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน โดยโปรแกรม LINE เริ่มพัฒนามาจากแอพพลิเคชั่น ใช้งานบน โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ก่อนทีจะออก โปรแกรม LINE ที่ใช้งานบนเครื่อง PC ในเวลาต่อมาไม่นาน จึงทำให้ โปรแกรม LINE PC มียอดดาวน์โหลดที่สูงสุดถึงกว่าเดือนละ 100,000 คนในเวลารวดเร็ว
บทสรุปโปรแกรมแชท
หากพูดถึแนวโน้มของโปรแกรมแชท IM บนเครื่อง PC ในอนาคต สำหรับคนไทย ผมคงไม่สามารถตอบได้ เพราะปัจจุบันนี้ ไม่ใช่แค่ โปรแกรมแชท ที่มีความสามารถดี ความสามารถสูง อย่างเดียว แต่ทั้งหมดทั้งมวลต้องเกิดจากกระแสขของสังคมออนไลน์ และ ความฮิตบอกปากต่อปาก ด้วย เพราะทั้งหมด แต่หากให้สรุปฟีเจอร์ หรือ ความสามารถ ของโปรแกรมแชท ที่ทุกคน ไม่ใช่เฉพาะแค่คนไทยชอบคือ
- ใช้งานบนทุกแพลตฟอร์ม (ได้ทั้งบนเครื่อง PC และ โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน)
- ลงทะเบียนง่าย ไม่ต้องกรอกข้อมูลเยอะ ขอแค่เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ รหัสผ่าน ก็เพียงพอแล้ว
- แบ่งปัน (แชร์ข้อมูล) ได้ทุกอย่าง
- ขนาดเล็ก ดาวน์โหลดเร็ว ติดตั้งสะดวก
- ปรับแต่งง่าย ลบข้อมูลง่าย บางคนมีกิ๊กเยอะ อยากลบข้อความที่คุยกับคนอื่น (หรืออยากลบเฉพาะข้อความ) ก็สามารถทำได้ง่าย และ รวดเร็ว
โปรแกรม LINE PC vs โปรแกรม Skype
กลับมาที่เรื่องของ แนวโน้มของ โปรแกรม Skype และ โปรแกรม LINE PC กันบ้าง พูดถึง โปรแกรม Skype ดูแนวโน้มอนาคตต่อไป ก็ไม่ได้มีแนวโน้มที่จะลดลง การเติบโตผู้ใช้งานของโปรแกรม Skype ยังสามารถโตต่อไปได้อีกเรื่อยๆ แต่อาจจะไม่รวดเร็วเหมือนช่วงที่ผ่านมา สาเหตุเพราะ โปรแกรม Skype ยังคงรักษาจุดเด่นในเรื่องของการพูดคุยผ่านวีดีโอ (Video Conference) การประชุม การติดต่องานทางธุรกิจ การสัมภาษณ์งานข้ามประเทศ ยกตัวอย่างเพื่อนผม ที่ได้ไปทำงานที่อเมริกา ก็สัมภาษณ์งานจากที่เมืองไทย ในหลายๆ บริษัท ส่วนมาก ก็ใช้งานผ่านโปรแกรมนี้เช่นกัน
ในขณะที่ โปรแกรม LINE PC จุดเด่นจริงๆ แค่เป็น โปรแกรมแชท พูดคุยธรรมดา แถมพ่วงด้วยการส่ง Sticker ไปมาหากันระหว่างผู้ใช้ การใช้งานถือว่าง่ายมาก ดังนั้น บทสรุปของโปรแกรมทั้งสองสูสี เพราะต่างคนต่างมีจุดเด่นที่แตกแต่างกันออกไป ทางใครทางมัน แต่ในอนาคตหากมีโปรแกรมแชทอื่นๆ ที่ทำแนวนี้ออกมาอีก ก็ไม่แน่ …
ข้อมูลและประกอบบางส่วนจาก : Wikipedia
