Xiaomi Roborock S6 MaxV
รีวิวฉบับนี้เป็น รีวิวเครื่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Xiaomi Roborock S6 MaxV ซึ่งจัดเป็น หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ตัวแรกจากแบรนด์ Xiaomi ที่ทาง Thanop.com ได้มีโอกาสนำมารีวิวให้ชมกัน โดยสินค้าจากแบรนด์ Xiaomi นั้นผมเองก็เคยได้ยินชื่อดังกระฉ่อนมาในโลกออนไลน์อยู่พักใหญ่ๆ แล้ว ด้วยความที่มันเป็นแบรนด์สินค้าที่มักจะมีเทคโนโลยีแปลกใหม่ล้ำๆ ออกมาให้ชมกันเสมอ มีดีไซน์สวยงาม และใช้ประโยชน์ได้จริงๆ ในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ จึงไม่แปลกใจเลย ที่สินค้าจากแบรนด์นี้จึงเป็นที่ต้องตาของผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) หรือแม้แต่ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น (Robot Vacuum Cleaner) และสินค้าอื่นๆ อีกเพียบ
โดย Xiaomi Roborock S6 MaxV จัดเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น ตัวท็อปสุด (ในขณะที่เขียนรีวิว) ที่มีจุดเด่นที่เพิ่งเคยเห็นคือ การผนวกเอาระบบการนำทางทั้ง 2 ระบบเข้าไว้ด้วยกันคือ ระบบการนำทางด้วยเลเซอร์ และ ระบบการนำทางด้วยกล้อง ซึ่งโดยปกติแล้ว หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั่วๆ ไป ก็จะมีอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น แต่ว่าตัวนี้มีทั้ง 2 ระบบเลย ทั้งหมดนี้มีการควบคุมการทำงานชิปประมวลผลจาก Qualcomm© และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ใช้ในการเรียนรู้พื้นที่ และสิ่งกีดขวาง พร้อมกับสร้างแผนที่จำลองไปพร้อมๆ กัน ส่วนอื่นๆ ก็มาเพียบด้วยระบบถูพื้นอัจฉริยะ พลังดูดฝุ่นที่สูง รองรับพื้นที่ได้กว้างขวาง และอื่นๆ อีกมากมาย
ด้านล่างนี้เป็นเมนูลัด (Shortcut) ที่จะช่วยให้คุณได้สามารถเข้าถึงเนื้อหาต่างๆ ของบทความรีวิวฉบับนี้ ได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
- รู้จักผลิตภัณฑ์ Xiaomi Roborock
- แกะกล่องผลิตภัณฑ์
- อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องผลิตภัณฑ์
- ข้อมูลจำเพาะ ข้อมูลทางเทคนิค ของเครื่อง
- คุณสมบัติ และ ความสามารถของตัวเครื่อง
- สำรวจรอบๆ ตัวเครื่อง
- เตรียมเครื่อง และเปิดใช้งานจริง
- คุณสมบัติ และ ความสามารถของตัวแอปพลิเคชัน Roborock
- การติดต่อสั่งซื้อ และ การรับประกัน
- คำถามที่คุณต้องอยากรู้ (FAQs) เกี่ยวกับการใช้งาน
- บทสรุปหลังการใช้งาน ข้อดี ข้อเสีย
ด้านล่างนี้เป็นคลิปวิดีโอรีวิวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi Roborock S6 MaxV ที่มีความยาวประมาณ 21 นาทีกว่าๆ ที่ละเอียดมากๆ ใครที่ไม่อยากอ่านรีวิวยาวๆ ลองรับคลิปชมกันก่อนได้เลย
แกะกล่องผลิตภัณฑ์ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Xiaomi Roborock S6 MaxV
กล่องผลิตภัณฑ์ของ Xiaomi Roborock S6 MaxV มีขนาดมิติอยู่ที่ ยาว (L) 400 x กว้าง (W) 145 x สูง (H) 470 มิลลิเมตร ในขณะที่น้ำหนักสินค้ารวมกล่อง (Gross Weight) อยู่ที่ประมาณ 5.8 กิโลกรัม โดยที่ตัวกล่องมาในธีมสีขาว และเทา ผสมผสานกับสีดำ ที่เป็นสีของตัวเครื่อง และสีแดง ที่เป็นสีของโลโก้ Roborock นั่นเอง เราลองมาดูรายละเอียดในแต่ละด้านของกล่องผลิตภัณฑ์กันเลย
ด้านหน้ากล่อง : มุมขวาบนเป็นชื่อยี่ห้อ พร้อมรุ่น (Roborock S6 MaxV) ในขณะที่มุมซ้ายบนเป็น คุณสมบัติ และความสามารถเด่น คร่าวๆ 4 อย่าง ถัดลงมาตรงกลางคือรูปตัวเครื่องสีดำที่วางอยู่เด่นเป็นสง่า
ด้านหลังกล่อง : รูปกราฟิกอธิบายถึง คุณสมบัติ และความสามารถ ของระบบการนำทาง ที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ในการจดจำชนิด หรือประเภทของวัตถุที่อยู่ด้านหน้าของตัวเครื่อง
ด้านซ้ายกล่อง : บอกข้อมูล อุปกรณ์ทั้งหมดที่ให้มาภายในกล่องผลิตภัณฑ์ ทั้งหมด 9 ชิ้น ที่นำเสนอในรูปแบบของภาพเวกเตอร์ พร้อมภาษาอังกฤษกำกับอย่างชัดเจน ในขณะที่ด้านล่างสุดคือโลโก้ของแบรนด์ Roborock นั่นเอง
ด้านขวากล่อง : ข้อมูลบอก คุณสมบัติ และความสามารถเด่น ทั้ง 4 ข้อ (เหมือนกับด้านหน้ากล่อง) และมีคำว่า “Rediscover Clean” หมายความว่า “ให้คุณพบกับความสะอาดอีกครั้ง”
ด้านบนกล่อง : ชื่อยี่ห้อ และชื่อรุ่น เหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือ สัญลักษณ์ข้อควรระวังเกี่ยวกับการขนย้าย ขนส่ง เช่น วางด้านนี้ขึ้น (This Side Up) ระวังแตก ห้ามเปียกน้ำ อย่าเอาเท้าเหยียบ เป็นต้น
ด้านล่างกล่อง : สัญลักษณ์ข้อควรระวังเกี่ยวกับการขนย้าย ขนส่ง และ สติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดของตัวเครื่องเช่น ชื่อยี่ห้อ ชื่อรุ่น สี น้ำหนัก ชื่อ และที่อยู่ของบริษัทผู้ผลิต ฯลฯ
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องผลิตภัณฑ์ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Xiaomi Roborock S6 MaxV
1. Xiaomi Roborock S6 MaxV (หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น x 1 เครื่อง)
ตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Xiaomi Roborock S6 MaxV เป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทรงเกือบจะกลม มีความสูงอยู่ที่ 9.65 เซนติเมตร ในขณะที่น้ำหนักเครื่องเปล่า (ยังไม่รวมการติดตั้งถังน้ำ) ก็อยู่ที่ประมาณ 3.7 กิโลกรัม
ในส่วนของ ลักษณะทางกายภาพ หรือรูปทรงภายนอก ก็ไม่ได้มีความแตกต่าง หรือโดดเด่นจากหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น ทั่วๆ ไปในท้องตลาดมากนัก ตัวเครื่องเป็นสีดำล้วน มีโดมกลมๆ สูงขึ้นมา ซึ่งข้างใต้เป็นเซนเซอร์ LiDAR ตามแบบฉบับของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่นำทางด้วยเลเซอร์ ในขณะที่ตรงกันชนด้านหน้าจะมีสติ๊กเกอร์ปิดทับกล้องหน้าคู่ เอาไว้อยู่ ถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็คงไม่รู้ (ส่วนประกอบด้านบน และด้านข้างของตัวเครื่อง)
2. Charge Base (แท่นชาร์จ x 1 ชุด)
แท่นชาร์จ ภาษาอังกฤษคือ “Charge Base” หรืออีกที่ทาง Roborock เรียกคือ “Dock Charger” จัดว่าเป็นแท่นชาร์จที่มีขนาดเล็ก มีความสูงอยู่ที่ 9.80 เซนติเมตร และ น้ำหนักเบาเพียงแค่ 0.315 กิโลกรัม เท่านั้นภายในมีการแปลงไฟฟ้ากระแสสลับ เป็น ไฟฟ้ากระแสตรง
ที่ด้านล่างมีแถบยางกันลื่นอยู่ทั้งหมด 4 แถบ (ซ้าย-ขวา-หน้า-หลัง) พร้อมแถบเทปกาวเพิ่มมาให้อีก 1 แถบ (รวมทั้งหมด 5 แถบ) โดยที่แถบเทปกาวนี้จะแผ่นกระดาษปิดทับอยู่ด้านนอก (จะลอกออกก็ได้ หรือไม่ลอกออกก็ได้) เพื่อเสริมพลังยึดเกาะกับพื้น ไม่ให้ขยับไปมาได้ เพื่อความแม่นยำในการทำงาน และวิ่งกลับแท่นชาร์จ ด้านบนมีขั้วชาร์จไฟ พร้อมไฟแสดงสถานะของแท่นชาร์จ
3. Power Cord (สายไฟ x 1 เส้น)
สายไฟความยาว 90 เซนติเมตร (0.9 เมตร) ถูกบรรจุอยู่ในซองพลาสติกใสอย่างดี โดยที่ไม่มีชุดอะแดปเตอร์แปลงไฟมาให้ เนื่องจากกระบวนการแปลงไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Power) หรือไฟบ้าน ไปเป็นไฟฟ้ากระแสตรง (DC Power) หรือไฟที่ใช้ภายในตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่นนั้นอยู่ภายในแท่นชาร์จ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งสายไฟทาง Roborock เขาใช้ของยี่ห้อ SUCOFINDO แบรนด์ดังจากประเทศอินโดนิเซีย (Indonesia) ซึ่งเป็นสายไฟที่ผ่านมาตรฐานสากลอย่าง KEMA-KEUR โดยตัวสายไฟถูกพับ และรัดด้วยสายรัดตีนตุ๊กแก พร้อมพิมพ์ชื่อว่า “Roborock” และใช้หัวปลั๊กกลม 2 ขา (Plug Type E)
4. Moisture-Proof Mat (แผ่นรองกันความชื้น x 1 แผ่น)
แผ่นรองกันความชื้น (Moisture-Proof Mat) ออปชั่นเสริม (ใช้ก็ได้ หรือไม่ใช้ก็ได้) มีลักษณะเป็นแผ่นพลาสติกชนิดขุ่น ที่เอาไว้ติดตั้งกับแท่นชาร์จ โดยด้านล่างมีแถบเทปสติ๊กเกอร์สีเขียวน้ำทะเล ที่สามารถลอกออกได้อยู่ทั้งหมด 5 จุดเอาไว้วางแนบบนพื้น เพื่อเพิ่มแรงเสียดทาน
สืบเนื่องจากหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเครื่องนี้มีความสามารถของการ ถูพื้นแบบเปียก (Wet Mopping Feature) ด้วย ดังนั้นเวลาที่ตัวเครื่องเข้าจอดเทียบที่แท่นชาร์จ เพื่อชาร์จไฟ และพักเครื่อง อาจจะมีความชื้นที่เกิดจากการถูพื้นแบบเปียกติดผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์มาด้วย ซึ่งถ้าไม่มีแผ่นกรองกันความชื้นมาให้ อาจจะทำให้พื้นบ้านอย่างเช่น พื้นไม้ต่างๆ เกิดความเสียหายได้ แต่ถ้าพื้นห้องเป็นกระเบื้อง ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้
5. Microfiber Cloth and Pad (ผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ และ แผ่นติด x 1 แผ่น)
ผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ ที่มีความยาวสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 30 เซนติเมตร (1 ฟุต) ที่ตัวเนื้อผ้าก็คล้ายๆ กับของผ้าม็อบถูพื้นฯ ของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นแบรนด์อื่นๆ ในขณะที่ตรงขอบของส่วนโค้ง มีการเย็บตะเข็บหนาถึง 3 ชั้น เพื่อป้องกันผ้าปริ โดยตัวผ้าม็อบถูพื้นฯ ถูกยึดกับแผ่นติดด้วยแถบตีนตุ๊กแกยาวจำนวน 2 ชุด ในขณะที่ด้านหน้าของผ้า จะใช้เป็นการใส่เข้าไปเกี่ยวในร่องราง เพื่อป้องกันการเผยอในขณะที่เครื่องกำลังทำงาน (ถือว่าเป็นตัวแรกที่พบแบบนี้)
ในขณะที่อีกชิ้นนึงที่มาคู่กันคือ แผ่นติดผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ (Microfiber Cloth Pad หรือ Mop Cloth Bracket) แผ่นพลาสติกตัวกลางที่เอาไว้ยึดติด ผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ กับ ตัวเครื่อง เป็นแผ่นพลาสติกใส ตรงกลางมีรูวงกลม 2 รู เพื่อให้น้ำซึมที่ถูกปล่อยออกมาจากถังน้ำ ลงสู่ผ้าม็อบถูพื้นฯ ก่อนที่จะซึมผ่านลงสู่พื้นเป็นลำดับต่อไป โดยด้านข้างทั้ง 2 มีสลักที่เอาไว้ใช้บีบเข้าหากัน เพื่อปลดล็อกตัวแผ่นติดฯ ให้ออกจากตัวเครื่อง
6. Spare HEPA Filter (แผ่นกรองอากาศ HEPA ชุดสำรอง x 1 แผ่น)
แผ่นกรองอากาศ HEPA ชุดสำรอง แถมให้มาอีก 1 ชุด (ชุดจริงติดอยู่ภายในกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง ภายในเครื่องแล้ว) โดยมันมีขนาดเฉพาะตรงส่วนของแผ่นกรองฯ (ไม่รวมกรอบพลาสติกด้านนอก) ยาว (L) 135 x กว้าง (W) 40 มิลลิเมตร เป็นแผ่นกรองอากาศ HEPA เกรด E11* ที่มีคุณสมบัติในการดักกรองฝุ่นขนาดเล็ก หรือใหญ่ ไม่ให้หลุดลอดกลับออกไปข้างนอกได้ มากถึง 95%
นอกจากนี้แล้ว คุณยังสามารถนำ แผ่นกรองอากาศ HEPA ไปล้างน้ำ รอให้แห้ง และนำกลับมาใช้ซ้ำได้ใหม่อีกในหลายๆ ครั้งด้วยเช่นกัน
หมายเหตุ : ผลิต และทดสอบโดยบริษัทอิสระ (ไม่ได้เปิดเผยชื่อ) ภายใต้มาตรฐานคุณภาพของแผ่นกรองอากาศ EN 1822-1:2009
7. Machine Documents (เอกสารประกอบเครื่อง x 1 ชุด)
- User Manual (หนังสือคู่มือการใช้งาน x 1 เล่ม) : หนังสือคู่มือการใช้งานพิมพ์ขาวดำ พร้อมรูปประกอบเล่มหนาเตอะประมาณเกือบ 2 ร้อยหน้า (หนาที่สุดตั้งแต่เคยรีวิวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นมาทั้งหมด) แต่ไม่ต้องตกใจ มันไม่ได้มีอะไรมากมาย ซับซ้อนขนาดนั้น เพราะจริงแล้วๆ มันมี 5 ภาษาอยู่ในเล่มเดียวกัน ได้แก่ ภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน และสเปน
- Roborock App Quick Start Guide (คู่มือเริ่มต้นการใช้งานแอป Roborock x 1 เล่ม) : หนังสือแนะนำการเชื่อมต่อตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น กับแอปพลิเคชัน Roborock บนสมาร์ทโฟน มีทั้งหมด 25 หน้า (มี 5 ภาษาเช่นเดียวกัน)
ข้อมูลจำเพาะ ข้อมูลทางเทคนิค ของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Xiaomi Roborock S6 MaxV
| รายละเอียด (Specification) |
|
| ขนาดมิติ (Dimension) |
350 x 350 x 96.5 มิลลิเมตร |
| น้ำหนัก (Weight) |
3.7 กิโลกรัม (ข้อมูลจากสเปก และชั่งเอง เท่ากัน) |
| ไฟเข้า (Input) |
AC 100-240V 50/60 Hz |
| ไฟออก (Input) |
DC 20V 50/60 Hz (1.2A) |
| ประเภทของแบตเตอรี่ (Battery Type) |
Li-Ion |
| ปริมาณความจุแบตเตอรี่ (Battery Capacity) |
5,200 mAh |
| ระดับเสียง (Noise Level) |
ประมาณ 67 dB. (เดซิเบล) (ข้อมูลจากสเปกของผลิตภัณฑ์) |
| ขนาดความจุกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง (ลิตร) (Dustbin Capacity – Litre) |
|
| ขนาดความจุของถังน้ำ (ลิตร) (Water Tank Capacity – Litre) |
|
คุณสมบัติ และ ความสามารถของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Xiaomi Roborock S6 MaxV
1. LiDAR Navigation System with Twin Camera (ระบบการนำทางด้วยเลเซอร์แบบ LiDAR พร้อมกล้องหน้าคู่)
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ได้รวบรวมเอาสุดยอดเทคโนโลยีการนำทางทั้ง 2 ชนิด นั่นคือ การนำทางด้วยเลเซอร์ และ กล้องสร้างแผนที่จำลอง เข้าไว้ด้วยกันภายในเครื่องเดียว เป็นการฉีกกฏที่ว่า “เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้” ไปได้อย่างสิ้นเชิง
โดยมันใช้ระบบการนำทาง PreciSense™ LiDAR (ย่อมาจากคำว่า “Light Detection and Ranging”) เครื่องหมายการค้าจากทาง Roborock เป็นเทคโนโลยีที่ยิงแสงเลเซอร์ออกไปจากโดมกลมๆ ที่อยู่ด้านบนสุดของตัวเครื่อง ในการสแกนหาพื้นที่รอบๆ ตัว พร้อมกับหาระยะห่าง ระหว่างตัวเครื่อง กับวัตถุที่อยู่รอบๆ ตัวมันได้อย่างแม่นยำ พร้อมคำนวณเส้นทางในการวิ่ง
ในขณะที่เครื่องนี้ยังมีกล้องสร้างแผนที่จำลองแบบคู่ (Twin Camera) ที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้าของตัวเครื่อง เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการมองเห็น รับรู้ และสร้างมุมมองแบบ 3 มิติ ทำให้รู้ทั้งความยาว (L) ความกว้าง (W) และความลึก (D) พร้อมระบุตำแหน่ง และคำนวณทางการวิ่งให้สอดคล้อง กับวัตถุที่กีดขวางอยู่ด้านหน้า นอกจากนี้ยังเสริมด้วยระบบอินฟราเรด ที่ทำให้สามารถทำงานในขณะที่ห้องมืดสนิทได้อีกด้วยเช่นกัน
2. Intelligent Processor and ReactiveAI™ Technology (ชิปประมวลผลอัจฉริยะ และ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์แบบรีแอคทีฟ)
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเครื่องนี้ ใช้ชิปประมวลผล จากค่ายควอลคอมม์ Qualcomm® รุ่น APQ8053 ที่ทาง Qualcomm ได้ออกแบบ และพัฒนาขึ้นมา เพื่อมีวัตถุประสงค์หลักในการใช้ร่วมกับอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (หรืออุปกรณ์ IoT) โดยเฉพาะ ซึ่งมันมีคุณสมบัติที่โดดเด่นคือฉลาด และประหยัดพลังงาน รองรับการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) การประมวลผลที่ขอบเครือข่าย (Edge Computing) การประมวลผลเซนเซอร์ (Sensor Processing) เป็นต้น
และนอกจากนี้แล้ว ทาง Roborock ก็ได้นำชิปประมวลผลตัวนี้ไปใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์แบบรีแอคทีฟ (ReactiveAI™ Technology) เทคโนโลยีสิทธิบัตรเฉพาะจากทางแบรนด์ Roborock ที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องของการประมวลผลว่าวัตถุที่อยู่ด้านหน้าของตัวเครื่อง คือวัตถุชนิดใด เช่น ลูกบอล รองเท้า ปลั๊กไฟ หรือแม้แต่ อุจจาระของสัตว์เลี้ยง อย่างน้องหมา ก็สามารถจำแนกแยกประเภทได้อีกด้วยเช่นกัน
โดยวัตถุต่างๆ เหล่านี้ ทางวิศวกรของ Roborock จะมีการอัปเดตข้อมูลวัตถุใหม่ๆ ที่สามารถจำแนกแยกประเภทได้อยู่เรื่อยๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ภายใต้คอนเซป “การเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด (Never-Ending Learning)” นั่นเอง
3. Intelligent Wet Mopping System (ระบบถูพื้นแบบเปียกอัจฉริยะ)
ระบบถูพื้นแบบเปียกอัจฉริยะ SnapMop™ ที่มาพร้อมกับถังน้ำแบบไฟฟ้า (Electric Water Tank) ความจุ 0.297 ลิตร (หรือประมาณ 0.3 ลิตร) สามารถรองรับพื้นที่ในการถูพื้นแบบเปียกได้มากสูงสุดถึง 200 ตารางเมตร ที่ควบคุมการปล่อยน้ำด้วยระบบไฟฟ้า ทำให้เราน้ำจะไม่เจิ่งนอง หรือหกอยู่บนพื้น ในขณะที่ตัวเครื่องจอดอยู่ที่แท่นชาร์จอีกด้วย แถมยังมีแผ่นรองกันความชื้น ที่แถมให้มา ภายในกล่องผลิตภัณฑ์ อีกด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้แล้วเราก็ยังสามารถเลือกระดับในการปล่อยน้ำออกมาจากเครื่องได้อีกด้วยว่า ต้องการที่จะปล่อยมากน้อยแค่ไหน และยิ่งไปกว่านั้นคือ เราสามารถเลือกระดับน้ำที่จะปล่อยให้ต่างกันในการทำความสะอาดแต่ละห้อง หรือกำหนดไม่ให้มันถูในบางพื้นที่ (No-Mop Zone) ก็ได้อีกด้วยเช่นกัน ในกรณีที่ห้องนั้นอาจเป็นพื้นพรม ซึ่งถือเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น ตัวแรก ที่มีความสามารถนี้
4. Multi-Level Mapping (จดจำแผนที่การทำความสะอาด ได้หลายระดับ)
อีกหนึ่งความสามารถที่น่าสนใจของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น Xiaomi Roborock S6 MaxV เครื่องนี้คือ มันสามารถจดจำพื้นที่ในการทำความสะอาดได้มากสูงสุด 4 พื้นที่ด้วยกัน เช่นถ้าบ้านเรามี 2 ชั้น เราก็สามารถที่จะให้มันเก็บข้อมูลของพื้นที่ (แผนที่การทำความสะอาด) ชั้นที่ 1 ได้ในตอนแรก และหลังจากนั้น เราก็สามารถย้ายตัวเครื่องขึ้นไปทำความสะอาดชั้น 2 และเก็บข้อมูลของพื้นที่ชั้น 2 ได้อีก โดยที่ข้อมูลของพื้นที่ชั้น 1 ไม่ได้หายไปไหน (ถ้าเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวที่ไม่ความสามารถตรงนี้ เมื่อย้ายเครื่องไปยังพื้นที่ใหม่ ข้อมูลแผนที่ของพื้นที่เก่าจะถูกลบโดยทันที)
ซึ่งข้อดีของความสามารถนี้คือ เมื่อเราย้ายเครื่องข้ามชั้นไปมา เราไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลาให้เครื่องสร้างแผนที่จำลองของชั้นที่เคยทำความสะอาดไปแล้วใหม่อีกครั้ง สามารถทำงานต่อได้เลย ข้อมูลการแบ่งขอบเขต แบ่งพื้นที่ห้องต่างๆ ยังคงอยู่อย่างครบถ้วนไม่หายไปไหน
5. High Suction and Battery Power (พลังดูดฝุ่น และพลังแบตเตอรี่สูง)
เครื่องนี้นอกจากที่จะมีแปรงกวาดหลัก และ แปรงกวาดข้าง ที่ใช้ในการตีฝุ่นเข้ามาภายในเครื่องแล้ว ก็ยังมีพลังลมช่วยเสริมในการดูดฝุ่นอีกด้วย ภายในตัวเครื่องมีมอเตอร์ของพัดลมดูดฝุ่นพลังสูง ที่ให้พลังดูดฝุ่นที่มีแรงดันลมมากสูงสุดถึง 2,500 ปาสคาล (Pa)* หรือ 0.025 บาร์ (Bar)* ซึ่งถือว่ามากกว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถูพื้น รุ่นก่อนหน้านี้อย่าง Roborock S6 อยู่กว่า 25% กันเลยทีเดียว
นอกจากนี้ก็ยังมาพร้อมกับ แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน (Lithium-Ion Battery) ขนาดความจุ 5,200 มิลลิแอมป์ (mAh) ที่ทำให้เครื่องได้สามารถทำงานได้สูงสุด 180 นาที (3 ชั่วโมง) ในขณะที่พื้นที่สูงสุดอยู่ที่ 240 ตารางเมตร (m2)*
หมายเหตุ* : ข้อมูลจากเว็บไซต์ของผู้พัฒนา (Roborock.com) ทดสอบในกรณีใช้งานใน โหมดดูดเงียบ (Quiet Mode) (ดูดเบาที่สุด) แบตเตอรี่เต็มความจุ และ ไม่ได้ใช้งานระบบถูพื้น
6. Smartphone Control (ควบคุม และสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟน)
ในปัจจุบันนั้น การควบคุม และสั่งงานหุ่นยนต์ดูดฝุ่นผ่านสมาร์ทโฟน จะกลายเป็นความสามารถพื้นฐาน กันไปเกือบทุกรุ่นกันไปแล้ว แต่ตัวนี้ก็ยังมีข้อแตกต่างจากตัวอื่นๆ คือ มันช่วยให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับการสำรวจข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านของคุณว่ามีอะไรที่วางกีดขวางอยู่บนพื้นบ้าง รกแค่ไหน ชนิดที่เรียกว่าบอกกันเป็นประเภทของวัตถุแบบ 3 มิติกันเลยทีเดียว
นอกจากนี้แล้วด้วยความสามารถของกล้องหน้าคู่ มันจึงทำให้คุณสามารถที่จะมองเห็นสภาพแวดล้อมภายในห้องที่บ้าน หรือคอนโดมิเนียม ของคุณได้แบบสดๆ ภายใต้ความสามารถของการดูกล้องส่องบรรยากาศห้องจากระยะไกล (Remote Viewing) เพื่อที่จะได้ดูว่า คุณลืมปิดประตู หรือปิดไฟหรือไม่ ? และยิ่งไปกว่านั้น มันยังสามารถส่งข้อความเสียง (Voice Message) ไปบอกคนในบ้าน หรือทักทายสัตว์เลี้ยง ของคุณได้อีกด้วยเช่นกัน
ในขณะที่ความสามารถพื้นฐานอื่นๆ ของแอปพลิเคชัน คือ มันสามารถสั่งงานได้ทั้งใน โหมดทำความสะอาดอัตโนมัติ และ โหมดควบคุมทิศทางเครื่องด้วยตัวเอง พร้อมทั้งดูประวัติการทำความสะอาดย้อนหลังได้ และอื่นๆ อีกมากมาย
